รวมแกลเลอรีและหอศิลป์ในกรุงเทพฯ

บนถนนเจริญกรุงเวลานี้คงไม่มีอะไรจะฮอตเกินกว่า Charoen 43 Art and Eatery พื้นที่สร้างสรรค์แห่งใหม่ตั้งบนถนนเจริญกรุง ปากซอย 43 เยื้องๆ อาคารไปรษณีย์กลาง ที่นี่อาจจะไม่ใช่หอศิลป์หรือแกลเลอรี่เสียทีเดียว แต่เป็นศูนย์รวมร้านกิน ดื่ม ช้อปที่พ่วงความคิดสร้างสรรค์ เข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ หลายร้านในนี้ นอกจากจะขายของแล้วยังมีพื้นจัดแสดงนิทรรศการศิลปะให้เราแวะเข้าดูได้ด้วย

จากแกลเลอรี่ที่ก่อตั้งในปี 2017 ที่เมืองแปดริ้ว (ฉะเชิงเทรา) โดยกลุ่มอาจารย์ นักศึกษา ศิลปินและคนรักงานศิลปะ เข้ามาเปิดสาขากรุงเทพฯ ที่ซอยอารีย์ 3 โดยอยู่บนชั้น 2 ของบ้านหลังสีขาวหลังเดียวกับร้าน 2/1 (Two Slash One) จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยหลายรูปแบบและยังเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดด้านสังคม ท้องถิ่นและศิลปะวัฒนธรรม

อาร์ตแกลเลอรี่และพื้นที่สร้างสรรค์แห่งใหม่ย่านนานา ที่เตรียม grand opening วันที่ 18 มีนาคมนี้ ด้วยนิทรรศการ COEXISTENCE โดย เจมส์-พิสุทธิ์ ศรีสุวรรณ ซึ่งเป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของศิลปิน เนื้อหาว่าด้วยเรื่องเพศ เซ็กซ์และรูปร่าง เพื่อแสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับความต้องการขั้นพื้นฐานทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในแต่ละคนและ ไม่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติ เพศ หรือรูปร่าง เผยให้เห็นความงดงามของมนุษย์ที่มีค่า

พื้นที่ศิลปะแห่งใหม่ที่เราคุ้นเคยดี จากที่เคยอยู่ในเรือนไทยจิมทอมป์สัน ตอนนี้ย้ายมาอยู่บนพื้นที่ใหม่ที่หน้าตาดูทันสมัยขึ้นและใหญ่ขึ้นด้วยพื้นที่ใช้สอยรวม 3,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 4 ชั้น นอกจากแกลเลอรี่แสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยแล้ว ยังมีทั้งคาเฟ่ ห้องสมุดวิลเลียม วอร์เรนโฉมใหม่ ร้าน JTAC Museum Shop ห้องประชุมอเนกประสงค์ และดาดฟ้าสำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ หรือจะขึ้นไปถ่ายรูปกับท้องฟ้าใสๆ ของกรุงเทพฯ ก็สวยดี

Bangkok CityCity Gallery เป็นพื้นที่แสนมินิมอลและโมเดิร์น ที่ใช้จัดแสดงศิลปะหลากหลายแบบ เช่น ศิลปะจัดวาง รูปปั้น ภาพวาด การแสดงโชว์และภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟตั้งอยู่ด้านข้าง ถ้าไปก็อย่าลืมแวะเวียนไปได้

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครตั้งอยู่บริเวณสี่แยกปทุมวัน ที่นี่เรียกง่ายๆได้ว่า หอศิลป์กรุงเทพฯ มี 11 ชั้นและ 3 ชั้นบนสุดเป็นส่วนแสดงงานศิลปะที่หมุนเวียนไปเรื่อย นอกจากภาพวาดแล้ว ที่นี่ยังจัดแสดงรูปปั้น วิดีโอ ภาพถ่าย ศิลปะจัดวางและการแสดง ซึ่งในบางครั้งก็เกิดพร้อมๆกัน นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟร้านดังอย่าง แกลอรี่ กาแฟ ดริป (Gallery Coffee Drip) ตั้งอยู่ภายในหอศิลป์อีกด้วย

แกลเลอรี่แสดงงานศิลปะเต็มรูปแบบหนึ่งเดียว ณ ซอยนานา จึงมักปิดในช่วงที่ไม่มีงานแสดง ทางที่ดีควรไลค์เพจเพื่อเป็นช่องทางในการอัพเดตข้อมูล

พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยเป็นอาคาร 5 ชั้นที่รวบรวมงานศิลปะไว้มากกว่า 800 ชิ้น มีทั้งภาพวาดและรูปปั้นจากศิลปินไทยและต่างชาติกว่า 200 ท่าน โดยชั้นแรกเป็นสถานที่จัดแสดงงานที่จะหมุนเวียนกันไปเรื่อย ส่วนชั้น 2 ถึงชั้น 5 ก็จะเป็นงานแสดงถาวรที่รวมไปถึงไฮไลต์อย่างภาพวาดของนักแสดงชื่อดัง คุณตั๊ก บงกช คงมาลัย ที่วาดโดยคุณบุญชัย เบญจรงคกุล ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยแห่งนี้

นำทอง แกลเลอรีตั้งอยู่ในย่านอารีย์ และที่แห่งนี้เป็นที่จัดแสดงงานผลงานของศิลปินชั้นนำของไทยอย่าง นที อุตฤทธิ์ นิติ วัตุยา ชาติชาย ปุยเปีย คามิน เลิศชัยประเสริฐและมณเฑียร บุญมา ซึ่งการันตีได้เลยว่าที่แห่งนี้ไม่ธรรมดาเลย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลปะแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งพระตำหนักของเจ้านายฝ่ายวังหน้า ซึ่งในปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะหลายประเภท รวมไปถึงภาพวาดอิมเพรสชั่นนิสของเฟื้อ หริพิทักษ์ รูปปั้นจากมีเซียม ยิบอินซอย รูปแนวพอร์เทรตจากจำรัส เกียรติก้องและภาพวาดสีน้ำของสวัสดิ์ ตันติสุข

หอศิลป์ตาดูแห่งนี้มีประวัติยาวนาน โดยถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2539 โดยคุณวิทิต ลีนุตพงษ์ ประธานบริษัทนำเข้ารถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่างบริษัทไทยยานยนตร์ ที่ตั้งใจจะช่วยให้ศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินไทยและต่างชาติเป็นที่รู้จัก เริ่มจากการเปลี่ยนโชว์รูมรถยนต์ให้กลายเป็นห้องจัดแสดงศิลปะหลากหลายแบบ ที่จริงแล้ว ตาดูเป็นมากว่าหอศิลป์ เพราะที่นี่จัดแสดงศิลปะทุกชนิดตั้งแต่ดนตรีสด เวิร์คช็อป จนถึงละคร

Tang Contemporary Art มีอีก 2 ที่คือที่ฮ่องกงและปักกิ่ง ซึ่งที่นี่ก็คงคอนเซ็ปเดียวกับทั้ง 2 ที่คือจัดแสดงผลงานของศฺลปินชาวจีนและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้เป็นหลัก แกลเลอลีศิลปะร่วมสมัยอายุ 19 ปีนี้เพิ่งย้ายไปอยู่สถานที่ใหม่ คือชั้น 3 ของห้างโกลเด้น เพลส พลาซ่า

หนึ่งในศูนย์ความรู้ด้านการออกแบบที่ดีที่สุดในโลกคือที่นี่ Thailand Creative & Design Centre (ศูนย์ความรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์) ซึ่งจัดแสดงผลงานการออกแบบของทั้งศิลปินไทยและต่างประเทศผ่านนิทรรศการและการทอร์ค การมาที่นี่ก็ไม่ยาก แค่เข้ามาทางโรงหนังของห้างเอ็มโพเรียม ก็จะเจอกับร้านค้า ร้านอาหาร ห้องสมุดขนาดใหญ่และสิ่งน่าสนใจทางด้านการออกแบบมากมาย

รู้หรือไม่ว่ามหาลัยที่เก่าแก่อย่างมหาวิทยาลัยศิลปากรมีหอศิลป์ขนาดไม่ใหญ่มากที่วิทยาเขตท่าพระและรูปปั้นเพื่ออุทิศให้แก่ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยอย่าง ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี หรือ คอร์ราโด เฟโรชี (Corrado Feroci) ชาวอิตาเลียน ผู้เป็นบิดาแห่งวงการศิลปะของไทย ที่นี่จัดแสดงผลงานของทั้งนักศึกษา อาจารย์และศิลปินต่างชาติ ซึ่งสาขาวิชาต่างๆของที่นี่ต่างก็มีแกลเลอรีจัดแสดงงานของสาขาอีกด้วย

แกลเลอรีชื่อเก๋ Speedy Grandma มีที่มาจากผีคุณยายสปีด ตำนานเรื่องลี้ลับที่ส่งตรงจากจังหวัดสงขลา ที่มาของชื่อว่าเปรี้ยวแล้วแต่โลเคชั่นเปรี้ยวยิ่งกว่า เพราะเป็นอาคารพาณิชย์อยู่ใจกลางย่านเจริญกรุง หากมีเพื่อนชาวต่างชาติที่ต้องการเห็นบรรยากาศแบบชาวบ้านขนานแท้ขอเชิญให้มาที่นี่ นอกจากจะได้ดื่มเบียร์ชมงานศิลปะภายในแกลเลอรี ขอเชื้อเชิญรับชม Arts of Living เจ้าถิ่นล้อมวงเล่นไพ่เย้ยฟ้าท้าดินปักหมุดอยู่ที่หน้าปากซอย

ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ Toot Yung Art Center ทำให้เรามีความรู้สึกว่า หรือแกลเลอรีเจ๋งๆ ต้องมาพร้อมกับชื่อที่ฟังแล้วชวนสะดุดหู (ปนสงสัย) เนื่องจากเจ้าของเคยเปิดแกลเลอรีที่หนึ่งแต่มีขนาดเล็กมากจนต้องนำเปรียบเทียบกับขนาดของบั้นท้ายยุง! ขอแสดงความยินดีกับผู้เสพงานศิลป์ทั้งหลาย เพราะนอกจากพื้นที่แสดงงานศิลปะ ยังมีร้านขายหนังสือ ของที่ระลึก บาร์เอาต์ดอร์พร้อมที่นั่งหย่อนใจ เรียกว่าชวนเพื่อนมานั่งชิลล์ๆ นับจำนวนได้หลายสิบคนเลยล่ะ

จากความรักศิลปะและต้องการสนับสนุนกลุ่มคนที่มีความรักในศิลปะมาตั้งแต่ยังทำงานเป็น Freelance Art Project Manager ที่มักขาดความสนับสนุนจากรัฐบาล จึงทำให้ คุณส้ม-สมรัก ศิลา ตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองรักโดยเปิด WTF Gallery and Caféé เองเลย ดังนั้นหากคุณกำลังหาแรงบันดาลใจ ใหม่ๆให้กับการทำงาน ก็เชื่อว่านิทรรศการหมุนเวียนที่ชั้น 2 และ 3 จะจุดประกายวิธีคิดใหม่ๆ ได้อย่างไม่รู้ตัว แต่สำหรับคนที่กำลังมองหาที่นั่งหย่อนใจพร้อมรับประทานอาหารทาปาสตามแบบฉบับเม็กซิกันและคิวบาก็ขอเชิญที่ชั้น 1 ในบรรยากาศการตกแต่งร้านที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลายเชิญชวนให้ผู้ที่อยากแลกเปลี่ยนมุมมองทางศิลปะนั่งสนทนาได้อย่างรื่นหู (ปราศจากดนตรีคึกโครม) พร้อมกันนี้ยังมีค็อกเทลรสเข้มสูตรเฉพาะตัว หรือจะชิมเบียร์ฉลากสวยยี่ห้อแปลกตาแกล้มของขบเคี้ยวที่เสิร์ฟมาควบคู่กันก็ทำได้อย่างเพลิดเพลิน

บาร์และแกลเลอรี่สุดฮิปที่จัดแสดงงานศิลปะอยู่รอบๆ ชั้น 1 และ 2 (สำหรับผลงานศิลเปรอะที่อยู่ในห้องน้ำดูไปก็เข้าข่ายศิลปะร่วมสมัยอยู่เหมือนกัน) ดูงานจนอิ่มใจแล้ว ต้องลองเครื่องดื่มซิกเนเจอร์หนึ่งเดียวของร้านในตอนนี้ได้แก่ Mojito ถึงแม้จะเป็นเครื่องดื่มที่ทุกคนคุ้นเคยแต่ของที่นี่เข้มข้นเอาเรื่อง