We didn’t land on the moon since 1987

  • Bars
  • เยาวราช
  1. We didn’t land on the moon since 1987
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  2. We didn’t land on the moon since 1987
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  3. We didn’t land on the moon since 1987
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  4. We didn’t land on the moon since 1987
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  5. We didn’t land on the moon since 1987
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  6. We didn’t land on the moon since 1987
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  7. We didn’t land on the moon since 1987
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
การโฆษณา

Time Out พูดว่า

ไม่ได้จะมาพูดเรื่องอวกาศแต่อย่างใด แต่ we didn’t land on the moon since 1987 – ต่อไปจะย่อว่า WDLOTM คือชื่อไดฟ์บาร์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่มีทั้งความเปรี้ยว อบอุ่น และชิลเหมือนนั่งดื่มที่บ้านเพื่อน และยิ่งได้คุยกับ รัน-ปิลัน เจ้าของร้านก็ยิ่งจอยขึ้นไปอีก

WDLOTM แจ้งเกิดที่เชียงใหม่เมื่อ 9 ปีที่แล้ว จากการเปิดขำๆ เพราะเจ้าของร้านชอบปาร์ตี้ที่ห้องจนเพื่อนบอกว่า “มึงเปิดร้านเถอะ” และด้วยความที่พอมีประสบการณ์บาร์เทนเดอร์อยู่บ้างทั้งที่เชียงใหม่และเคปทาวน์ การเริ่มต้นทำบาร์เล็กๆ ของตัวเองเลยไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ชื่อร้านมาจากชื่อเพลง we didn’t land on the moon ของวง Itchy Band ซึ่งเป็นวงของเพื่อนรัน (ตอนนี้ยุบวงแล้ว) เพราะถึงแม้จะยาวเป็นประโยคแต่ก็ฟังดูน่ารักและจำง่ายทั้งสำหรับคนไทยและฝรั่ง ส่วน since 1987 นั้นคือปีเกิดเจ้าของร้านเอง

รัน เล่าให้ฟังว่าตอนอยู่เชียงใหม่ WDLOTM เคยย้ายโลเคชั่น 3 รอบ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งย้ายลงมาหาความท้าทายที่กรุงเทพฯ และคิดว่านี่จะเป็นร้านสุดท้าย คงไม่ย้ายอีกแล้ว จึงเป็นร้านที่ตั้งใจทำและใส่เต็มที่สุด ทำเองหมดทุกอย่างตั้งแต่ตกแต่งร้านจนถึงเป็นบาร์เทนเดอร์เพราะตั้งใจทำให้เป็น love letter ของตัวเอง

อย่างที่บอกว่าบรรยากาศร้านนี้มีทั้งความเปรี้ยว อบอุ่น และชิล ซึ่งตรงตามคาแร็กเตอร์เจ้าของร้านแบบเป๊ะๆ ข้างในตกแต่งด้วยของที่เจ้าของชอบหรือมีความทรงจำดีๆ บางอย่าง เช่น รูปที่วาดเอง รูปที่น้องถ่ายให้ รูปคุณแม่ จดหมายเพื่อนสนิท จดหมายแฟนเก่า ตั๋วเครื่องบิน แว่นตาคุณพ่อ ชี้นิ้วถามชิ้นไหนก็มีเรื่องเล่าไปหมดทุกชิ้น ส่วนค็อกเทลที่นี่จะมีเฉพาะคลาสสิก เช่น old fashion, gin & tonic, screwdriver, mojito, long island ราคาเริ่มต้น 150 บาทและไม่เกิน 250 บาท เน้นเข้าถึงง่าย สบายๆ


ในอนาคตที่นี่จะจัดอีเวนต์หลากหลายรูปแบบทั้งดีเจ ดนตรีสด ปาร์ตี้ นิทรรศการ และทุกๆ อีเวนต์จะมีร้านกุยช่ายเจ้าอร่อยประจำเยาวราชที่ขายมาสามสิบกว่าปีมา pop up ด้วย บอกเลยว่าอร่อยจนอยากเหมาะกลับบ้าน และพอร้านเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้ ตอนกลางวันรันบอกว่าจะเปลี่ยนบาร์เป็นร้านอาหารชื่อ God save the pan (มาจากชื่อเพลง God save the Queen ของวง Sex Pistols) เป็นฮอตดอกบาร์สไตล์พังก์ๆ ที่จะขายช่วงบ่ายโมงถึงทุ่มนึง และแน่นอนร้านนี้เขาก็จะเป็นคนดูแลเองทุกอย่างอย่างกับคุณรุจน์ พี่รุจน์ จ่ารุจน์ และป้ารุจี


WDLOTM อยู่ในช่วง soft opening และคาดว่าจะเปิดเต็มที่ช่วงกลางเดือนนี้ ร้านอยู่ในซอยคลองถมปทุมคงคา ถนนทรงวาด แวะไปเยี่ยมเยือนได้ทุกวันพุธ-เสาร์ เวลา 13.00 - 00.00 น.

Suriyan Panomai
เขียนโดย
Suriyan Panomai

รายละเอียด

ที่อยู่
2/7
ถนน ทรงวาด แขวง สัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์
กรุงเทพมหานคร
10100
ข้อมูลติดต่อ
0854996245
เปิดบริการ
วันพุธ-เสาร์ เวลา 13:00 - 00:00 น.
การโฆษณา
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ