[title]
เดนิส วิลเนิฟ (Denis Villeneuve) ผู้กำกับเจ้าของผลงาน Sicario กลับมาอีกครั้งกับหนังไซไฟ/ดราม่า Arrival ที่เหมือนเอาหนังเอเลี่ยนอินดี้ Under the Skin ของโจนาธาน เกลเซอร์ (Jonathan Glazer) มายำเสียใหม่พร้อมใส่ปมขัดแย้งระหว่างชาติ ฉากโรแมนติก และกองทัพเข้าไปเผื่อเอาใจคนคอหนัง ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะมีไอเดียที่น่าสนใจ และภาพวิช่วลที่ดูสวยงามท่ามกลางเรื่องราวที่น่าขบขันของเอเลี่ยนบุกโลก ที่ได้แรงบันดาลมาจากนิยายเรื่องสั้นชอง เท็ด เชียง (Ted Chiang) ก็ตาม
หนังเรื่องนี้เปิดตัวด้วย ดร หลุยส์ แบงส์ นำแสดงโดย เอมี อดัมส์ (Amy Adams) ในบ้านริมทะเลสาบผู้ยึดติดอยู่กับความหลังที่เธอได้เสียลูกสาวไป ทันใดนั้นเอง ... หนังเรื่องนี้ก็กลายร่างเป็นหนังไซไฟที่มาพร้อมกับยานเอเลี่ยนลอยอยู่เหนือหลายเมืองสำคัญรอบโลก รัฐบาลสหรัฐจึงได้ติดต่อ ดร หลุยส์ นักภาษาศาสตร์ระดับแนวหน้า และนักวิทยาศาสตร์ นำแสดงโดย เจเรมี่ เรนเนอร์ (Jeremy Renner) มาช่วย โดยทั้งคู่มีภารกิจเข้าไปในยานและหาว่าพวกเอเลี่ยนต้องการอะไรจากชาวโลกกันแน่
คุณอาจถึงกลับกรอกตาตอนที่ ฟอร์เรสต์ วิทเธเกอร์ (Forest Whitaker) นายพลแห่งกองทัพสหรัฐอธิบายว่าพวกเขาเลือก ดร หลุยส์ เพราะเธอเคยแปลภาษาฟาร์ซี ราวกับว่าภาษาเอเลี่ยนกับภาษาในแถบตะวันออกกลางมาจากรากศัพท์เดียวกัน แต่ถ้าไม่นับเรื่องนี้ ฉากที่เธอเดินเข้าไปยานนั้นทั้งน่ากลัว แต่ก็ดูทรงพลังด้วยฉากที่ได้รับการทำขึ้นอย่างสวยงาม เสริมสร้างความมั่นใจว่าผู้กำกับคนนี้จะทำ Blade Runner 2049 ที่จะเข้าฉายในปีนี้ได้ดูสวยสมใจแฟนๆ แน่นอน
ในขณะที่ ดร หลุยส์ พยายามแปลภาษาของ “เพื่อน” คนใหม่จากนอกโลก หนังเรื่องนี้ยังได้สอดแทรกมุมมองใหม่ๆ ของโลกที่หนังไซไฟที่ดีควรทำ ถึงแม้ผู้กำกับคนนี้จะมีเซอร์ไพรซ์ให้เราช่วงท้ายเรื่อง แต่การที่หนังยังเน้นไปที่เรื่องธรรมดาทั่วไปอย่างการวางระเบิดหรือการแตกตื่นของผู้คน ทำให้หนังเรื่องนี้ติดอยู่ระหว่างหนังฟอร์มใหญ่ไร้สาระกับหนังอินดี้ที่ลึกซึ้งไปโดยปริยาย