ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะ เฟค: เล่นใหญ่มากแม่ แต่จะถึงอรรถรสไหมนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง

Suriyan Panomai
เขียนโดย
Suriyan Panomai
การโฆษณา

"มึงรีบขนาดนี้ มึงไม่มาตั้งแต่เมื่อวานล่ะไอ้เ-ี้ย!"

ประโยคทรงพลังจากตัวอย่างหนัง ‘ตุ๊ดซี่ แอนด์ เดอะ เฟค’ ที่ออกมาจากปาก ‘แม่ชม’ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ผู้รับบท ‘เจ๊น้ำ’ แม่ค้าผัดผงกะหรี่ฝีปากไฟแล่บ แค่นี้ก็กระตุ้นต่อมอยากของคนดูได้ครึ่งประเทศแล้ว ยังไม่นับรวมว่าหนังมีฐานคนดูที่เป็นแฟนซีรีส์ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ทั้ง 2 ซีซั่นอีกมหาศาล จึงไม่ยากเลยที่ ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะ เฟค จะกลายเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องจาก GDH ที่เข้าไปยืนหนึ่งในใจของหลายคน

ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะ เฟค

เส้นเรื่องหลักเป็นเรื่องราวของ ‘กอล์ฟ’ รับบทโดย ปิงปอง-ธงชัย ทองกันทม หนึ่งในสมาชิกแก๊งตุ๊ดซี่ส์ ที่ดันไปเป็นต้นเหตุให้ เคที่-แคทรีโอน่า กรรณิการ์ หวัง รับบทโดย ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ประสบอุบัติเหตุจนต้องเข้าโรงพยาบาลและไม่สามารถไปถ่ายงานโฆษณาที่รับไว้ได้และอาจถูกลูกค้าฟ้องเรียกค่าเสียหายถึง 50 ล้านบาท!

เดชะบุญ คุณพระเข้าข้างกะเทย ประทาน เจ๊น้ำ ซึ่งก็คือชมพู่อีกร่างหนึ่งในบทแม่ค้าผัดผงกะหรี่ที่ไปศัลยกรรมเบ้าหน้าจนเหมือนเคที่ประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์ได้ ผิดจากแบบนิดเดียวก็ตรงที่นางมีเขี้ยว หูกาง และเสียงพูด แต่ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหวก็คือกิริยาของนางที่ถอดแบบมาจากเจ๊น้ำแม่ค้าออนไลน์ชื่อดังตัวจริง จึงเป็นเหตุให้กอล์ฟต้องพยายามเปลี่ยนปลาตีนให้เป็นหงส์เพื่อไปถ่ายโฆษณาแทนเคที่โดยมีคิม  หรือ เต๋อ-รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์ เป็นผู้ช่วย

ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะ เฟค
ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะ เฟค

ส่วนเส้นเรื่องรองก็คือเรื่องราวของสองคนที่เหลือที่ต่างก็มีอุปสรรคในชีวิตให้ต้องฟันฝ่า โดย อีแหนด หรือ พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ ที่ต้องเปิดศึกชิงมรดกกับแมวตัวโปรดของแม่ ส่วน กัส เพชร-เผ่าเพชร เจริญสุข นางเอกของเรื่องก็หนีไม่พ้นเรื่องรัก ๆ ที่ต้องเคลียร์ใจตามประสาคนสวย

จุดยืนของหนังชัดเจนมากอยู่แล้ว (ตั้งแต่สมัยเป็นซีรีส์ด้วยซ้ำ) ว่านี่คือหนังคอเมดี้ เป็นเรื่องราวที่เน้นฮา เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานที่เคยทำไว้ในซีรีส์ทั้งสองซีซั่น แต่ประเด็นอื่น ๆ ที่เหมือนจะแฝงมาให้ขบคิด กลับไม่ได้ถูกชูให้โดดเด่นเลยสักประเด็น นี่จึงเป็นจุดอ่อนข้อหนึ่งของหนัง

ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะ เฟค

นักแสดงที่โดดเด่นที่สุดก็แน่นอนว่าต้องเป็นชมพู่อยู่แล้ว ฝั่งแก๊งตุ๊ดซี่ส์ก็ถือว่าอยู่ในมาตรฐานของตัวเองอีกเช่นกัน ส่วนนักแสดงรับเชิญตัวเป้ง ๆ ที่ถูก ‘จับยัด’ มาในหนัง ก็ไม่ได้มีอะไรให้จดจำเท่าไหร่ เหมือนถูกเชิญมาขาย ‘ภาพจำ’ ของตัวเองเท่านั้น เช่น แพร-วทานิกา ที่มาพร้อมกับประโยค Do not tuch my hair! จากเรียลลิตี้ This is me Vatanika ซีซี่นแรก ส่วนเชฟป้อม ก็มากับวลี “เตือนแล้วนะ” จาก MasterChef Thailand

อีกหนึ่งปัญหาที่พบก็คือจังหวะการเล่าเรื่อง เหมือนเรื่องที่เขาอยากเล่าเยอะไปหมด ชมพู่ก็อยากขาย แก๊งตุ๊ดซี่ส์ก็ทิ้งไม่ได้ แล้วไหนจะมีอภิมหานักแสดงรับเชิญที่มีแต่เบอร์ใหญ่ ๆ อีก ถ้าเขียนกราฟให้ดูก็คือทะยานขึ้นสูงตั้งแต่ฉากแรกแล้วก็อยู่อย่างนั้นเกือบทั้งเรื่อง หนังก็เลยออกมาดูเป็นการยำรวมฉากใหญ่ ๆ ซึ่งถ้าจะให้เทียบกับยำจริง ๆ ก็ต้องบอกว่า เป็นยำที่วัตถุดิบดี ปรุงได้ครบรส แต่แทนที่จะกลมกล่อมกลับแหลมปรี๊ดไปหมดทุกรส

ทั้งนี้ทั้งนั้นภาพรวมก็ไม่ถึงกับเสียอรรถรสซะทีเดียว แต่โดยส่วนตัวคิดว่าตอนเป็นซีรีส์มันกลมกล่อม ลงตัว พอดี และไปถึงอรรถรสมากกว่านี้ ส่วนในเวอร์ชั่นหนังก็ขอยกความดีความชอบให้ความตลกเฮฮา เข้าไปดูยังไงก็ได้ฮาแน่นอน นี่คือสิ่งที่คาดหวังได้ แต่เรื่องอื่นอย่าเพิ่งไปหวังเลยแม่ ดูเอาฮากันไปก่อน

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา