หนังไฮไลต์เข้าใหม่สัปดาห์นี้ (11 มกราคม): Darkest Hour

เขียนโดย

วันพุธ 10 มกราคม 2018

Facebook Twitter Pinterest Email WhatsApp

การโฆษณา

เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา แกรี่ โอลด์แมน (Gary Oldman) นักแสดงชาวอังกฤษคว้ารางวัลลูกโลกทองคำในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในหมวดภาพยนตร์ดราม่ามาครองจากการสวมบทบาท เซอร์วินสตัน เชอร์ชิล (Winston Churchill) อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรในภาพยนตร์พีเรียด Darkest Hour

หลายคนอาจคุ้นเคยกับแกรี่ โอลด์แมน จากบท ซีเรียส แบล็ก จากแฟรนไชส์พ่อมด Harry Potter หรือผู้บัญชาการตำรวจเจมส์ กอร์ดอนแห่งเมืองก็อทแธม ในภาพยนตร์แบทแมนฉบับไตรภาค Dark Knight ของผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) แต่การรับบทเป็น เซอร์วินสตัน เชอร์ชิลล์ ถือได้ว่าเป็นการแปลงโฉมครั้งใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้... เปลี่ยนจนเราแทบจำเขาไม่ได้เลย

"สิ่งที่เป็นอุปสรรคไม่ใช่ความท้าทายทางด้านจิตใจหรือสติปัญญา แต่เป็นทางด้านกายภาพ ผมหมายถึงคุณลองดูผม แล้วดูเชอร์ชิลล์สิ..." แกรี่ โอลด์แมน กล่าวติดตลกในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง

Darkest Hour เป็นผลงานการกำกับของโจ ไรท์ (Joe Wright) ผู้เคยฝากผลงานภาพยนตร์แนวพีเรียดไว้มากมายไม่ว่าจะเป็น Pride & Prejudice, Atonement และ Anna Karenina บอกเล่าเรื่องราวช่วงหนึ่งเดือนแรกที่วินสตัน เชอร์ชิลล์ นักการเมืองวัย 65 ปีต้องเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเร่งด่วนในปี 1940 เมื่อกองทัพนาซีได้เดินทัพเข้ามาในยุโรปตะวันตก ประเทศพันธมิตรกำลังพ่ายแพ้ และกองทัพอังกฤษเกือบทั้งหมดติดอยู่ที่เมืองดันเคิร์ก ประเทศฝรั่งเศส (เราแนะนำให้ดูภาพยนตร์ Dunkirk ของโนแลนด้วยจะได้อารมณ์มาก) โดยนอกจากจะต้องรับมือกับศึกนอกประเทศแล้ว ตัวเขาก็ยังต้องคอยรับศึกกับคนในพรรคที่ต่อต้านเขา และพระเจ้าจอร์จที่ 6 ในเวลาเดียวกัน

การแปลงโฉมในครั้งนี้เป็นผลงานของ คาซูฮิโร ซูจิ (Kazuhiro Tsuji) ช่างแต่งหน้าเทคนิคพิเศษชาวญี่ปุ่นที่เข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วหลายครั้ง โดยการแปลงโฉมใช้เวลาประมาณวันละสามชั่วโมงครึ่งในการแต่งหน้าแบบเต็มรูปแบบ และการถอดอุปกรณ์แต่งหน้าออกใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในแต่ละวันอีกด้วย "มันก็น่ากลัวนะสำหรับแนวคิดเรื่องการทำให้เหมือนภาพที่อยู่ในใจทุกคนอยู่แล้ว ส่วนที่ยากที่สุดคือสัดส่วนและขนาดของศีรษะของพวกเขาต่างกันมาก ศีรษะแกรีเป็นรูปไข่ ส่วนเชอร์ชิลล์หน้ากลมและแบนกว่า ตาของแกรีจะชิดกันหน่อย แต่ของเชอร์ชิลล์จะห่างกัน ผมต้องแก้ไขข้อจำกัดเหล่านี้ แต่ด้วยศิลปะของการแต่งหน้า เมื่อคุณมีนักแสดงที่สวมวิญญาณเข้าไป เขาสามารถกลายเป็นคนที่เราตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นได้เลย" คาซาฮิโรกล่าว

แน่นอนว่านอกจากอุปกรณ์เทียมต่างๆ เรื่อยไปจนถึงการแต่งหน้าทำผม และการแต่งองค์ทรงเครื่องแล้ว แกรี่ต้องฝึกฝนการใช้เสียง สำเนียง และท่าทาง โดยเฉพาะฉากสุดหินอย่างฉากสุนทรพจน์ที่เชอร์ชิลล์กล่าวในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ค.ศ. 1940 ซึ่งเป็นกลุ่มสุนทรพจน์ที่ยังคงถูกอ้างอิงยามต้องการรวมใจคนในชาติมาจนถึงปัจจุบัน โดยแกรี่จะต้องศึกษาสุนทรพจน์ต่างๆ เพื่อให้เหมือนจริงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการออกตัว s ไม่ชัด หริือการออกเสียงขึ้นจมูก เป็นต้น "นี่คืองานที่ยากที่สุดที่ผมเคยทำมาในฐานะนักแสดง แต่ก็เป็นงานที่มีอิสระที่สุด ผมแทบรอไม่ไหวที่จะได้ไปทำงานและเป็นวินสตัน ผมไปทำงานทุกวันและคิดในใจว่าผมโชคดีมากที่ได้ทำงานนี้"

อ่านเพิ่มเติม | Golden Globe Awards 2018: พรมแดง ชุดดำ และเรื่องเน่าๆ ของฮอลลีวูด (และสรุปผู้ชนะทั้งหมดของปีนี้)