ข่าว

รัฐฯ ไฟเขียวอัดฉีดวงการภาพยนตร์ไทย ผู้ผลิตรับสิทธิประโยชน์คืนสูงสุด 30% เตรียมดัน T-Content สู่เวทีโลก

ชาวไทยเตรียมกำเงินซื้อตั๋วหนังพร้อมป๊อปคอร์นไว้ได้เลย เพราะปีหน้าวงการหนังไทยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

Fitri Aelang
เขียนโดย
Fitri Aelang
Staff writer, Time Out Thailand
Netflix
Photograph: Netflix | Netflix
การโฆษณา

ชาวไทยเตรียมกำเงินซื้อตั๋วหนังพร้อมป๊อปคอร์นไว้ได้เลย เพราะปีหน้าวงการหนังไทยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งเคาะมาตรการใหม่ที่เรียกว่าเป็น ‘Game Changer’ ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ด้วยการอนุมัติมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำในประเทศ ที่พร้อมคืนผลประโยชน์ให้ผู้ผลิตสูงสุดถึง 30% งานนี้บอกเลยว่าเราจะได้เห็นหนังไทยโปรดักชันอลังการขึ้นแน่นอน

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา คุณซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้ออกมาเปิดเผยข่าวดีว่า คณะรัฐมนตรีเพิ่งไฟเขียวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ครั้งใหญ่ อนุมัติการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ไทยในประเทศ พร้อมจัดหนักสิทธิประโยชน์ ‘คืนเงิน’ ให้ผู้ผลิตสูงสุดถึง 30% โดยรัฐบาลเตรียมงบสนับสนุนยาวๆ ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป เพื่อผลักดันให้ T-Content กลายเป็นสินค้าวัฒนธรรมตัวท็อปที่พร้อมโกอินเตอร์ทั้งเงินและชื่อเสียง

แล้วทำไมรัฐถึงทุ่มขนาดนี้? เพราะหนังไทยในปี 2567 ทำผลงานดีงามจนปังทะลุเพดาน กวาดส่วนแบ่งตลาดในประเทศไปถึง 54% แซงหนังฮอลลีวูดแบบฉุดไม่อยู่ รัฐบาลเลยตัดสินใจลงสนามเองด้วยงบประมาณปีละ 1,500 ล้านบาท ผ่านระบบ Cash Rebate สำหรับโปรเจกต์ที่ใช้จ่ายในประเทศไทยตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป ผู้ผลิตจะได้รับเงินคืนทันที 15%

ไฮไลต์ของมาตรการใหม่

โปรดิวเซอร์ไทยที่มีทุนสร้างตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป และถ่ายทำในประเทศไทย จะได้รับการสนับสนุนพื้นฐาน 15% ของค่าใช้จ่ายการผลิต (ไม่นับ PR และการตลาด) และยังเพิ่มได้อีกสูงสุด +15% หากเข้าเงื่อนไขต่อไปนี้ รวมแล้วรับได้มากสุด 30% ต่อโปรเจกต์

  • +5% สำหรับหนังหรือซีรีส์ที่ใช้ ธีมสร้างสรรค์ ตามที่คณะอนุกรรมการกำหนด

  • +2.5% - 5% สำหรับโปรเจกต์ทุนกลางและใหญ่

  • +5% หากผลงานออกฉายอย่างน้อย 4 ประเทศทั่วโลก หรือบนสตรีมมิ่งที่ฉายในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 4 ประเทศ (และต้องมีอย่างน้อยหนึ่งประเทศนอกอาเซียน)

ในมุมคนดูอย่างเรา นี่คือการยกระดับความบันเทิงครั้งใหญ่ เพราะเมื่อทุนหนาขึ้น ย่อมหมายถึงโปรดักชันที่อลังการและสมจริงกว่าเดิม ไม่ใช่แค่หนังผีหรือตลกในสตูดิโอแคบๆ อีกต่อไป แต่เราอาจได้เห็นหนังไซไฟหรือแฟนตาซีฟอร์มยักษ์สัญชาติไทยที่กล้าฉีกกรอบเดิมๆ 

แถมมาตรการนี้ยังเป็นแรงผลักดันให้หนังไทยต้องโกอินเตอร์เพื่อรับสิทธิ์เพิ่ม ซึ่งเท่ากับเป็นการส่งออกวัฒนธรรมและดาราไทยสู่เวทีโลกอย่างแท้จริง โดยระหว่างที่กระทรวงวัฒนธรรมเร่งสรุปกฎเกณฑ์ภายในปี 2568 นี้ และนี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะพลิกโฉมวงการศิลปะและบันเทิงไทยให้กลับมาผงาดและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาล แฟนหนังเตรียมตัวซัพพอร์ตผลงานคุณภาพกันได้เลย

การโฆษณา