10 คาเฟ่เปิดใหม่ทั่วกรุงเทพฯ ที่ต้องตามไปเช็กอินด่วน

คาเฟ่สุดฮิตและใหม่ล่าสุดในย่านสะพานควาย BONCI (บอนชี่) เป็นร้านกาแฟที่เหมาะสำหรับมานั่งชิลตอนสายๆ จนถึงบ่าย บรรยากาศในร้านค่อนข้างโปร่งสบาย ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเท่าไหร่แม้คนจะเยอะในบางวัน (แต่ช่วงนี้ก็อาจทุกวัน) สามารถแวะมาจิบกาแฟสักแก้วแล้วค่อยกลับไปทำงานต่อ หรือแวะมานั่งชิลก่อนไปเดินเล่นแถวอารีย์-ประดิพัทธ์ก็ได้

ตอนนี้ร้านอยู่ในช่วง soft opening ถ้าหากเปิดเต็มรูปแบบได้เมื่อไหร่ จะมีโซนบาร์นั่งดื่มให้บริการหลังช่วงเย็นเป็นต้นไปด้วย โดยเมนูกาแฟที่ร้านจะเริ่มต้นที่ 90 บาทเท่านั้น แต่หากให้เราแนะนำก็ต้องเป็นซิกเนเจอร์ อาทิ Dirty (130 บาท) หรือ Bimbom Cream (150 บาท) เหมาะสำหรับคนชอบกาแฟดื่มง่าย

Bonci เปิดให้บริการทุกวันพุธ - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 18.00 น. ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน ตรงข้ามบิ๊กซีสะพานควาย

หนึ่งในร้านกาแฟดังที่ฮ่องกง ก่อตั้งโดย Benny Leung และ Sam Chan ปัจจุบันมี 7 สาขาและโรงคั่วอยู่ในฮ่องกง และร้านที่ตั้งอยู่ในคอมมูนิตี้มอล PowWowWow คอมมูนิตี้มอลแห่งใหม่ในซอยสุขุมวิท 40 นี้ถือว่าเป็นร้านแรกของเขตปกครองฯ

ชั้นล่างจะเป็นเคาน์เตอร์ขายกาแฟเฮาส์เบลนด์ที่เป็นส่วนผสมของเมล็ดจากโคลอมเบียและจากน่าน ส่วนเมนูที่เขาแนะนำวันที่เราไปคือ Dirty (นมเย็น + ช็อตกาแฟร้อน, 120 บาท) ซึ่งก็ได้อยู่ แต่ที่เราว่าที่ไหวคือกาแฟนมร้อน flat white ที่น่าจะถูกใจคนชอบกาแฟคั่วเข้ม (120 บาท) ส่วนชั้นบนนั้นรับหน้าที่ Slow Bar เสิร์ฟกาแฟดริปสำหรับคนที่อยากใช้เวลานานหน่อยกับกาแฟ

ด้วยความที่ NOC นั้นเป็นตัวย่อของวลี Not Only Coffee ร้านนี้จึง (ตามที่เขาว่า) จริงจังเรื่องอาหารและการออกแบบด้วย โดยเท่าที่เรากวาดตาดูเมนูคืออาหารกินง่ายแบบชาวสุขุมวิทชอบ (เฟรนช์โทสต์ดูน่าอร่อยทีเดียว) ในขณะที่ดีไซน์ร้านนั้นก็สวยกริ๊บแบบที่เราเห็นตาม Dezeen

NOC เปิดให้บริการทุกวัน 08.00 - 18.00 น.

ร้านกาแฟสำหรับคอกาแฟในย่านสาทร ซึ่งตอนนี้ F.I.X. Coffee ได้นำกาแฟรสชาติดีมาเสิร์ฟให้ชาวประดิพัทธ์ได้ลองกันบ้างแล้ว โดยร้านตั้งอยู่ในโครงการ Somewhere ซอยประดิพัทธ์ 17 เป็นสเปซรวมร้านและไลฟ์สไตล์สำหรับมาใช้เวลาในวันพักผ่อน

โดยสาขานี้ออกแบบให้เป็นตึกสี่เหลี่ยมเล็กๆ มาในโทนสีขาวตัดน้ำตาลจากไม้ ตรงข้ามกับสาขาแรกที่ดูเท่ขรึม F.I.X. สาขาประดิพัทธ์จึงดูมินิมอล และมีแสงจากธรรมชาติที่ส่องเข้ามาทำให้บรรยากาศในร้านดูอบอุ่นสบายตา

F.I.X Pradiphat เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 8.00 - 17.00 น. ตั้งอยู่ในโครงการ Somewhere ซอยประดิพัทธ์ 17

ถ้าใครไปงาน Awakening Bangkok 2020 และเดินดูไฟจนครบทุกจุด เชื่อว่าจะต้องคุ้นหน้าคร่าตาบ้านเก่าแก่อายุกว่า 200 ปีที่ปากซอยแฟลตทรัพย์สิน ในย่านตลาดน้อยหลังนี้แน่นอน เพราะมีผลงานไฟจัดแสดงอยู่ที่นี่ถึง 3 ผลงานด้วยกัน และถ้าสังเกตดีๆ อาจจะเห็นว่ามีโซนที่เต็มไปด้วยของตกแต่งและเครื่องไม้เครื่องมือช่างเหมือนกำลังจะรีโนเวตเป็นอะไรสักอย่าง

ใช่ ชั้นล่างของบ้านหลังนี้ถูกปัดฝุ่นให้กลายเป็น Patina Bangkok คาเฟ่ ร้านอาหาร และบาร์ ในบรรยากาศสุดคลาสสิกแบบไม่ต้องเติมแต่งอะไร ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วง soft-opening ให้บริการเฉพาะส่วนของคาเฟ่ แวะไปชิมกาแฟ ถ่ายรูปสวยๆ ได้ ส่วนร้านอาหารและบาร์ก็จะเปิดให้บริการตามมาเร็วๆ นี้แน่นอน

Patina Bangkok เปิดให้บริการทุกวัน 09.00-18.00 น.

บาร์ยอดนิยมในซอยคอนแวนต์ ที่ปรับรูปแบบมาเป็นคาเฟ่ เสิร์ฟอาหารสไตล์คอมฟอร์ทฟู้ดและเครื่องดื่ม non-alcohol ที่แปลงมาจากซิกเนเจอร์ค็อกเทล รวมถึงเมนูคอฟฟี่ม็อกเทลกับทีม็อกเทลที่ครีเอตเมนูขึ้นมาใหม่เพื่อทำคาเฟ่โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ บรรยากาศโดยรวมของร้านก็ถูกปรับเหมาะกับการเป็นร้านกลางวันมากขึ้น เน้นความรู้สึกสบายๆ สามารถเอาโน้ตบุ๊กมานั่งทำงาน นั่งดื่ม ทานอาหารก็ได้ เรื่อยๆ ทั้งวัน

Vesper Caffe เปิดให้บริการ 11.30 - 20.30 (Last Order)

คาเฟ่โทนสีขาวในซอยทองหล่อ 5 ที่น่าจะถูกใจคนชอบถ่ายรูป โดยเฉพาะโซน Glass House ที่หลังคาและผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกใส เปิดรับแสงธรรมชาติ และมองเห็นวิวรอบนอก และที่เยอะไม่แพ้มุมถ่ายรูปก็คือเมนูที่มีทั้งกาแฟ ม็อกเทล เบเกอรี่ และอาหารหลากสไตล์

Bitter Smith เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 18.00 น.

ร้านกาแฟ slow bar ย่านพระราม 9 (ซอย 43 แยก 9) ที่มีเมนูซิกเนเจอร์สุดสร้างสรรค์ถึง 8 เมนู บอกได้เลยว่าชนะขาดตั้งแต่หน้าตา รวมถึงกาแฟ specialty ที่เลือกใช้เมล็ดกาแฟอย่างดี ที่สำคัญคือเจ้าของเป็นคนชอบถ่ายรูป เพราะฉะนั้นในร้านจึงมีมุมถ่ายรูปเช็กอินที่ทั้งสวยและไม่เหมือนใคร

A Hidden Lab เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 19.00 น.

คาเฟ่เปิดใหม่ในย่านทองหล่อ ด้วยขนาดกะทัดรัดของร้าน ถ้าไม่สังเกตดีๆ อาจจะเดินผ่านร้านได้ แต่ถ้าตั้งใจมาดื่มด่ำบรรยากาศสบายๆ พร้อมจิบกาแฟเฮาส์เบลนที่นี่ หลังจากเข้าซอยทองหล่อ 9 มาแล้วให้สังเกตขวามือดีๆ จะเจอร้านสีขาวเล็กๆ อยู่ตรงข้ามร้าน La Dotta ผนังกระจกหน้าร้านมีประโยค “Ben is calling you… come in!” แสดงว่ามาถูกแล้ว เข้าไปได้เลย

อย่างที่บอกว่าขนาดร้านค่อนข้างกะทัดรัด ข้างในจึงมีที่นั่งเพียง 7 ที่เท่านั้น เน้นตกแต่งด้วยโทนสีขาว ตัดกับสีน้ำตาลของไม้และดอกไม้แห้ง ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผนังกระจกใสก็ช่วยให้ร้านเล็กๆ ดูไม่อึดอัดจนเกินไป ส่วนเครื่องดื่ม ถ้าใครเป็นสาย specialty coffee ต้องมาลองให้ได้

Benkoff เปิดให้บริการทุกวัน 08.00 - 18.00 น. (ปิดทุกวันที่ 16 ของเดือน)