Bangkok’78

  • Restaurants
  • เพลินจิต
  1. Bangkok’78
    Kenika Ruaytanapanich / Time Out Bangkok
  2. Bangkok’78
    Kenika Ruaytanapanich / Time Out Bangkok
  3. Bangkok’78
    Kenika Ruaytanapanich / Time Out Bangkok
  4. Bangkok’78
    Kenika Ruaytanapanich / Time Out Bangkok
  5. Bangkok’78
    Kenika Ruaytanapanich / Time Out Bangkok
  6. Bangkok’78
    Kenika Ruaytanapanich / Time Out Bangkok
  7. Bangkok’78
    Kenika Ruaytanapanich / Time Out Bangkok
  8. Bangkok’78
    Kenika Ruaytanapanich / Time Out Bangkok
  9. Bangkok’78
    Kenika Ruaytanapanich / Time Out Bangkok
การโฆษณา

Time Out พูดว่า

ห้องอาหารไทยแห่งใหม่ของโรงแรมสินทร มิดทาวน์ Bangkok’78 เราว่าเป็นอีกห้องอาหารที่ไม่ว่าคุณจะพาใครมาก็ต้องรู้สึกอบอุ่นคุ้นเคย อาจด้วยบรรยากาศที่ดูเหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่นกลิ่นอายไทยโมเดิร์น และด้วยรสมือของเชฟที่ต้องการให้ทุกคนชิมแล้วนึกถึงกับข้าวที่บ้าน

แต่ถ้าจะบอกว่า Bangkok’78 เป็นห้องอาหารใหม่เอี่ยมก็อาจไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะปรับปรุงมาจาก Tr.EAT by Saneh Jaan พร้อมๆ กับการรีแบรนด์ใหม่และพื้นที่ใหม่ของโรงแรม ซึ่งทุกคนน่าจะได้เห็นแล้วตั้งแต่บาร์แมวไทย Black Cat และคาเฟ่แบบออลเดย์ Sip&Co ที่โรงแรมเพิ่มเข้ามา

Bangkok’78 นั้นหมายถึงราวปี 1978 ที่ทางร้านบอกว่าเป็นอีกยุคที่อาหารไทยรโดดเด่น โดยยังมีทีมเบื้องหลังจากเสน่ห์จันทน์มาช่วยดูแลอยู่เช่นเดิม ทำให้ในเล่มเมนูยังมีหลายๆ จานเด็ดจากครั้งก่อนเก็บไว้ให้สั่งมาลองได้ นำโดย “เชฟกอล์ฟ-ภัควลัญชญ์ เวชมนต์” ที่จะปรุงทุกจานด้วยรสชาติไทยๆ ที่คนกรุงยุคก่อนคุ้นเคย หรือบางคนอาจกำลังตามหา

เมนูจะเป็นอาหารไทยที่เราว่าเป็นคอมฟอร์ตฟู้ด เพราะทุกจานกินง่าย ไม่ใช่เมนูแปลกหน้าจนเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็มีเมนูหากินยากที่คนรุ่นใหม่อาจไม่เคยชิมให้สั่งด้วย แบบนี้เลยน่าพาครอบครัวหรือผู้ใหญ่มานั่งกินมื้อพิเศษด้วยกันเพื่อสร้างบทสนทนาระหว่างคนต่างรุ่น

จานที่อยากให้สั่งเมื่อแวะมาที่นี่ก็เริ่มตั้งแต่ ของเรียกน้ำย่อย เช่น ลูกชิ้นกุ้ง (320 บาท) เป็นลูกชิ้นกุ้งลูกโตเนื้อเด้ง เสิร์ฟพร้อมซอสเปรี้ยวหวานและซอสถั่ว ยำส้มโอกุ้งสด (350 บาท) เมนูเด็ดของเสน่จันทน์ที่เสิร์ฟให้ชิมที่นี่ เป็นยำรสหวานอมเปรี้ยวกินแล้วสดชื่นดี ดอกขจรผัดวุ้นเส้นและแหนม (250 บาท) ก็เป็นจานที่ควรสั่ง เพราะเชื่อว่ากินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ของกินเล่นจานสุดท้าย เสือร้องไห้ (350 บาท) เนื้อแองกัสหมักจนรสชาติดีก่อนนำไปซูวีดและย่าง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วและแจ่วปลาร้า

กับข้าวจานหลักที่แนะนำมีทั้ง ไข่ตุ๋นทะเลหมูสับหม้อไฟ (490 บาท) เป็นไข่ตุ๋นเนื้อเนียนผสมหมูสับและท็อปด้วยซีฟู้ดชิ้นโตมาให้ในหม้อร้อนๆ กินตอนเสิร์ฟใหม่ๆ กับข้าวสวยแล้วชวนนึกถึงอาหารโปรดวัยเด็ก ขาดไม่ได้เลยคือแกงร้อนๆ แกงรัญจวนหมู (290 บาท) เมนูหากินยากที่นำมาจากเสน่จันทน์ ทุกคนสั่งชิมได้ที่นี่

อีกไฮไลต์เด็ด ข้าวต้มกุ๊ย (420 บาท) ที่เราสามารถเลือกเครื่องเคียงเองได้ 5 เมนู เสิร์ฟมาแบบสำรับแบ่งกินได้ 2 คน โดยเมนูกับข้าวที่มีก็อย่างเช่น ไชโป๊วผัดไข่ ผัดหนำเลี๊ยบ ยำกุนเชียง ยำเกี้ยมฉ่าย ผัดผักบุ้งหมูกรอบ บอกเลยว่าใครลองสั่งเซ็ตนี้รับรองกินจุกแน่นอน

ปิดท้ายด้วยของหวาน แนะนำให้ลอง ว่านหางจระเข้ในนำอัญชัญมะนาว (150 บาท) หรือ มรกตกรอบ (150 บาท) เป็นทับทิมกรอบเวอร์ชั่นสีเขียว หรือเมนูขายดีที่สุด ส้มฉุนหิมะ (250 บาท) ที่เสิร์ฟแบบกรานิตต้า กินแล้วเย็นสดชื่นเหมาะกับเมืองร้อนๆ ที่สุด

Bangkok’78 เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวัน เวลา 11:30 - 15:00 น. (เสาร์-อาทิตย์ปิด 17:00 น.) และมื้อเย็น 17:00 - 22:00 น. สอบถามหรือสำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ 02-796-8888​

Kenika Ruaytanapanich
เขียนโดย
Kenika Ruaytanapanich

รายละเอียด

ที่อยู่
68
ซ.หลังสวน แขวง ลุมพินี เขตปทุมวัน
กรุงเทพมหานคร
10330
ข้อมูลติดต่อ
02 796 8888​
เปิดบริการ
เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวัน เวลา 11:30 - 15:00 น. (เสาร์-อาทิตย์ปิด 17:00 น.) และมื้อเย็น 17:00 - 22:00 น.
การโฆษณา
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ