ที่กิน ที่เที่ยว ที่ชิลในซอยปรีดี พนมยงค์

บาร์กาแฟโดยบาริสต้าชาวศรีลังกาที่หลงใหลและศรัทธาในลวดลายการสักยันต์ ซึ่งเลือกจับจองพื้นที่ในซอยปรีดีพนมยงค์ 26 ก่อนจะใช้พื้นที่ด้านหลังคั่วเมล็ดกาแฟเองทุกอาทิตย์ และส่งให้กับร้านกาแฟอื่นอีกหลายร้าน พร้อมเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์ เช่น Lavender Latte (160/180 บาท) และ Hot Mexican Mocha (160 บาท)

แลนด์มาร์คใหม่ของคอแฟชาวพระโขนงในห้องคูหาเดี่ยวขนาดน่ารัก ใต้ที่พัก 26 House ที่ตั้งใจให้คนไทยหันมาดื่มกาแฟจากเมล็ดแบบ single-origin มากขึ้น โดยรับเอาอิทธิพลจากวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนออสเตรเลียมาใช้ในการทำกาแฟ มีเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Summerest (150 บาท) กาแฟ cold brew จากเมล็ดเชียงใหม่ที่ออกรสชาติแบบผลไม้แห้ง ผสมชาพีช และน้ำลูกพรุน เสิร์ฟคู่กับพุทราเชื่อมเสียบไม้

ด้วยความคุ้นเคยในเสียงดนตรีและแผ่นเสียงจากการที่มีคุณพ่อเป็นนักดนตรี ทำให้เมื่อ พลอย-ตวงพรรษ รัตนวาทิน มีโอกาสได้ไปเรียนที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ซึ่งเปี่ยมไปด้วยแหล่งซื้อขายแผ่นเสียงหลากหลายเกรด หลากหลายประเภท ในราคาที่น่าคบ เธอก็เริ่มสนุกกับการเลือกซื้อแผ่นเสียงมาฟังอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งลงเอยด้วยการมีแผ่นเสียงมากเกินจะเป็นเพียงงานอดิเรก และเป็นที่มาของการเปิดร้านนี้ โดยมีตั้งแต่แผ่นเสียงเพลงประกอบภาพยนตร์ไปจนแผ่นหายากหน่อย เช่น อัลบั้ม The Wall (1979) ของ Pink Floyd เริ่มต้นที่ 300 บาท เรื่อยไปจนถึงพันต้นๆ

ร้านอาหารญี่ปุ่นท้องถิ่นของจังหวัดโอกินาว่า หมู่เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ในบรรยากาศการตกแต่งเป็นแบบญี่ปุ่น ปกคลุมผนังโดยรอบด้วยภาพถ่ายของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และตัวอักษรญี่ปุ่น อาหารโอกินาว่านั้นขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารที่มีผลดีต่อสุขภาพ จนมีผลวิจัยเคยบอกไว้ว่าคนโอกินาว่านั้นมีอายุยืนยาวที่สุดในประเทศ โดยมีอาหารแนะนำนั้นหลายเมนู อาทิ ผัดมะระญี่ปุ่นแบบโอกินาว่า โซบะโอกินาว่า ข้าวแกงกะหรี่หมู ข้าวผัดกระเทียม และจิมามิโทโทฟุ เป็นต้น

บาร์ไทยสไตล์กันเองที่ปลอบประโลมนักดื่มด้วยค็อกเทลจากเหล้าไทยและเพลงเก่าเท่ๆ หลากหลายแนว ซ่อนตัวอย่างเงียบเชียบอยู่ในซอยปรีดี พนมยงค์ 1 ด้านหลังมาร์เก็ตสเปซชื่อดังของพระโขนงอย่าง W District ด้วยวัตถุประสงค์ในการใช้พื้นที่เป็นสตูดิโอสอนทำอาหารไทยคอร์สสั้นๆ ในตอนกลางวัน ร่วมกับการเปิดเป็นบาร์ในตอนกลางคืน จึงไม่ต้องแปลกใจไปหากจะเห็นของตกแต่งหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหาร มีจุดเด่นอยู่ที่ซิกเนเจอร์ค็อกเทลที่ชงขึ้นจากสุราไทยหลายตัว

จะมีอะไรเพลิดเพลินอารมณ์ไปกว่า การรับชมงานศิลปะแล้วมีเครื่องดื่ม ขนมจุบจิบไว้คอยบริการพอหอมปากหอมคอ จะเลือกจิบกาแฟชิมคุกกี้รับชมงานศิลปะในเวลากลางวัน หรือจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ในยามค่ำคืน รับรองว่าบทสนทนาภาษาศิลปะจะลื่นไหลพอตัว รู้ตัวอีกทีอาจสงสัยว่านี่มันแกลเลอรีหรือบาร์กันแน่นะ ไหนลองพูดใหม่อีกทีซิ..?

บาร์ดวงจันทร์เปี่ยมกลิ่นอายและสีสันจากยุค 80' ที่ออกแบบและตั้งชื่อตามเพลงของ The Rah Band วงดนตรีของอังกฤษจากยุค 80 ด้วยความชื่นชอบในแนวเพลงและสีสันของวันวานในยุคนั้น และไม่พลาดที่จะหยิบเอาเรื่องราวในอวกาศและจักรวาลมาสอดแทรกไว้ในซิกเนเจอร์ค็อกเทลได้อย่างน่าสนใจ อาทิ Moonflowers (280 บาท), Clouds Across The Moon (280 บาท) หรือสาเกช็อตในชื่อ Half Moon (140 บาท) เป็นต้น

คอมมูนิตี้สเปซสุดชิคน้องใหม่ล่าสุดของย่านเบื้องหลัง facade จับลอนสีขาวที่ดูทันสมัยของตึกแถวดัดแปลงใจกลางซอยปรีดี พนมยงค์ 31 หรือ ซอยเอกมัย 12 โดยโรงคั่วกาแฟดาวรุ่งของไทยอย่าง Craftsman และผู้นำเข้าเนเชอรัลไวน์อย่าง Marchwood

ร้านอาหารอาหารตะวันตกฉบับกินง่าย เน้นการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี สดใหม่ ในสถานที่โปร่งสบาย ผนังสีฟ้าอมเขียวเข้ม ตัดสีสันให้ลงตัวขึ้นด้วยโต๊ะไม้ฝังแผ่นหินอ่อนด้านบน บาร์เครื่องดื่มตระการตา และเก้าอี้หวายสไตล์ฝรั่งเศส พร้อมด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านหน้าต่างกระจกสีที่ทำให้ทั้งห้องดูสว่างใสวมากขึ้น