Photo: Tanisorn Vongsoonton
Photo: Tanisorn Vongsoonton

We are Hong Kong - Dicky Ip กับความมุ่งมั่นในการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่วัฒนธรรมอาร์ตทอยในประเทศไทย

“ผมประทับใจกับพัฒนาการของตลาดอาร์ตทอยที่นี่มากๆ และนั่นก็ทำให้ผมตัดสินใจเปิดร้านของตัวเองในไทย”

Time Out Bangkok in partnership with HKETO
การโฆษณา

ขอต้อนรับสู่ซีรีส์ “We are Hong Kong” อีกครั้ง บทความฉบับนี้ขอแนะนำทุกคนให้รู้จักกับ Dicky Ip (ดิ๊กกี้ ยิป) หนึ่งในเจ้าของร้าน Zendio Dawa ผู้ทุ่มเททุกวิถีทางเพื่อส่งเสริมชุมชนอาร์ตทอยไทยให้แข็งแกร่ง 

Photo: Tanisorn Vongsoonton
Photo: Tanisorn Vongsoonton

ดิ๊กกี้เริ่มสนใจอาร์ตทอยอย่างจริงจังตั้งแต่ได้ไปเข้าร่วมงานทอยแฟร์ในฮ่องกงเมื่อปี 2016 ความพิเศษของอาร์ตทอยและดีไซเนอร์ทอยที่ผลิตขึ้นในรูปแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นดึงดูดใจเขาได้อยู่หมัด และในงานนี้เอง เขายังมีโอกาสได้พบกับ Shoko Nakazawa (โชโกะ นาคาซาว่า) ผู้สร้างฟิกเกอร์ Sofubi สไตล์ญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า “Byron” ซึ่งเขาได้พูดคุยกับเธอถึงเบื้องลึกเบื้องหลังการออกแบบคาแรกเตอร์นี้ รวมถึงความเป็นมาในการเป็นศิลปินอาร์ตทอยของเธอด้วย

ปีต่อมา ดิ๊กกี้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมอีเวนต์อาร์ตทอยหลากหลายงานและทำความรู้จักกับนักออกแบบอาร์ตทอยชาวญี่ปุ่นมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ “Sofubi” อาร์ตทอยที่ทำจากวัสดุซอฟต์ไวนิลและเป็นที่รู้จักในหมู่นักสะสมของเล่นชาวญี่ปุ่นอย่างยาวนาน

Photo: Tanisorn Vongsoonton
Photo: Tanisorn Vongsoonton

ความหลงใหลในอาร์ตทอยอย่างแรงกล้าผลักดันให้ดิ๊กกี้ก้าวเข้าสู่วงการรีเซลอย่างเต็มตัวทั้งๆ ที่ยังไม่มีแผนธุรกิจและการสร้างกำไรอย่างชัดเจน เพื่อที่จะได้เข้าใจจักรวาลอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้ให้มากยิ่งขึ้น ไปพร้อมๆ กับช่วยลูกค้าตามหาอาร์ตทอยที่ต้องการตามงานต่างๆ

ดิ๊กกี้เล่าให้ฟังว่าในระหว่างที่ทำธุรกิจนี้ กลุ่มลูกค้าของเขาส่วนใหญ่คือนักสะสมของเล่นชาวไทย

“ตอนนั้นลูกค้าไทยบางคนไม่รู้วิธีที่จะเข้าร่วมงานอาร์ตทอยในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในฮ่องกงหรือจีนแผ่นดินใหญ่ พวกเขาเลยต้องการใครสักคนมาช่วยในการเข้าไปซื้อคอลเลกชั่นต่างๆ ที่ต้องการในงานอีเวนต์เหล่านี้ นอกจากการทำธุรกิจรีเซลแล้ว ผมยังสั่งสมประสบการณ์จากการช่วยเพื่อนคนไทยที่เปิดร้านอาร์ตทอยในเรื่องการส่งสินค้าเข้ามายังไทยด้วย ผมประทับใจกับพัฒนาการของตลาดอาร์ตทอยที่นี่มากๆ และนั่นก็ทำให้ผมตัดสินใจเปิดร้านของตัวเองในไทย”

ถึงอย่างนั้นการเติบโตของตลาดอาร์ตทอยในไทยก็ไม่ได้เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ดิ๊กกี้ปลุกปั้นร้านขายอาร์ตทอยและดีไซเนอร์ทอยที่เมก้า พลาซ่า สะพานเหล็ก หนึ่งในอาณาจักรของเล่นและของสะสมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

“ศิลปินอาร์ตทอยไทยมีไอเดียสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมมากๆ อีกทั้งงาน Thailand Toy Expo เองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมและผลักดันวัฒนธรรมและชุมชนอาร์ตทอยไทยให้เติบโตมากยิ่งขึ้นด้วย”  

Photo: Tanisorn Vongsoonton
Photo: Tanisorn Vongsoonton

เมื่อเดินเข้าไปในร้าน Zendio Dawa แล้ว จะเห็นได้เลยว่าทั้งตู้และชั้นวางทั่วร้านล้วนเต็มไปด้วยอาร์ตทอยและดีไซเนอร์ทอยนานารูปแบบนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นคาแรกเตอร์ที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง “Molly” ของศิลปินชาวฮ่องกง Kenny Wong (เคนนี่ หว่อง) ไปจนถึงผลงานของศิลปินอาร์ตทอยรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองอีกมากมาย การนำอาร์ตทอยแต่ละคอลเลกชั่นมาจัดแสดงให้ลูกค้าเห็นอย่างชัดเจนทุกมุมของร้านนี้ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์พิเศษในแบบที่การสั่งซื้อออนไลน์ไม่สามารถให้ได้

“หลายคนที่สั่งซื้ออาร์ตทอยผ่านช่องทางออนไลน์จะเห็นรายละเอียดของสินค้าผ่านรูปถ่ายที่ทางร้านลงไว้เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะผ่านการแต่งรูปมาบ้างแล้ว แต่การเข้ามาซื้อที่ร้านโดยตรงนั้นทำให้ลูกค้ามีโอกาสได้หยิบจับและสัมผัสสินค้าจริงได้ด้วยตัวเอง 

“นอกจากนี้ในบางโอกาสเราก็จัดอีเวนต์เล็กๆ เพื่อให้ลูกค้าหรือนักสะสม และศิลปินผู้สร้างสรรค์อาร์ตทอยได้มาพบปะพูดคุยกันด้วย โดยผมได้แรงบันดาลใจจากตอนที่ได้พบกับศิลปินผู้ออกแบบคาแรกเตอร์ Byron เป็นครั้งแรก ตัวผมเองรวมถึงนักสะสมอาร์ตทอยอีกมากมายต่างก็อยากเจอและพูดคุยกับศิลปินที่ชื่นชอบตัวเป็นๆ อยู่แล้ว ผมเลยอยากให้ลูกค้าชาวไทยของผมได้สัมผัสกับประสบการณ์แบบนี้บ้าง ซึ่งนี่ก็จะทำให้พวกเขาจดจำเราในฐานะร้านที่เป็นมากกว่าพื้นที่ซื้อขายอาร์ตทอยได้ด้วย” 

พื้นที่ที่ดิ๊กกี้ใช้จัดอีเวนต์อาร์ตทอยนั้นมีชื่อว่า Mido Gallery ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารที่ไม่ไกลจากเมก้า พลาซ่ามากนัก “15+5” คือนิทรรศการล่าสุดที่เพิ่งจัดขึ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยเป็นการร่วมงานกับ Jeffery Yau (เจฟฟรีย์ เหยา) ศิลปินอาร์ตทอยชาวฮ่องกงผู้สร้างคาแรกเตอร์ “Bigclawsx” ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็ไม่ได้มีไว้สำหรับการจัดแสดงผลงานอาร์ตทอยจากฮ่องกงเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ให้ศิลปินอาร์ตทอยชาวไทยที่มีความมุ่งมั่นและน่าจับตามองได้ปล่อยของด้วย 

“ผมติดต่อศิลปินไทยรุ่นใหม่ๆ ที่ต้องการเปิดตัวผลงานอาร์ตทอยคอลเลกชั่นแรกหรือคอลเลกชั่นล่าสุดของตัวเองไปบ้างแล้ว เพื่อชักชวนพวกเขาให้มาจัดแสดงผลงานอาร์ตทอยหรือพบปะแฟนๆ ของตัวเองที่แกลเลอรี่ของเรา ผมมองว่าสิ่งสำคัญในวงการอาร์ตทอยคือการมีพื้นที่ให้ศิลปิน นักสะสม หรือแม้แต่เจ้าของร้านขายอาร์ตทอย ได้แชร์ความคิด ความชอบ และความรู้ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้วัฒนธรรมและชุมชนอาร์ตทอยแข็งแกร่งและเติบโตมากยิ่งขึ้น” 

นอกจากการจัดพื้นที่ให้ศิลปินอาร์ตทอยไทยได้โชว์ฝีมือ และแลกเปลี่ยนมุมมองและความชอบกับเหล่านักสะสมแล้ว ดิ๊กกี้ยังสนับสนุนให้พวกเขาออกไปทำความรู้จักกับชุมชนอาร์ตทอยในระดับนานาชาติอีกด้วย

“ผมพาศิลปินอาร์ตทอยไทยไปร่วมงานอีเวนต์ต่างๆ ทั้งในฮ่องกง ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เมื่อปีที่แล้ว งาน Animation-Comic-Game Hong Kong Fair ก็ติดต่อให้เราพาศิลปินไทยไปร่วมงานด้วยเช่นกัน ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่ศิลปินเหล่านี้จะได้เปิดโลกและสานสัมพันธ์กับชุมชนอาร์ตทอยในประเทศอื่นๆ ในขณะเดียวกันก็ได้โชว์ผลงานและฝีมือของตัวเองไปด้วย” 

สุดท้ายนี้ดิ๊กกี้ได้ฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่วงการอาร์ตทอยไว้ด้วยว่า “ผมเริ่มต้นธุรกิจนี้จากศูนย์ ดังนั้นถ้ามีศิลปินรุ่นใหม่ๆ ที่มีใจรักในอาร์ตทอยและต้องการการสนับสนุน ผมยินดีช่วยจนสุดความสามารถ เพื่อที่จะได้สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกมาและเติบโตไปด้วยกัน”

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา