
หน้าหลัก Time Out Bangkok
เอดิชันภาษาไทยของมีเดียแพลตฟอร์มระดับโลกที่อัปเดตไลฟ์สไตล์คนเมืองมาตั้งแต่ปี 1968

Things to do
เดือนธันวาคมถือเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองและเก็บเกี่ยวความสุขส่งท้ายปีอย่างแท้จริง และกรุงเทพฯ ก็พร้อมใจกันจัดอีเวนต์สุดพิเศษมากมาย ที่ Time Out...

Things to do
กิจกรรมน่าทำในกรุงเทพฯ สุดสัปดาห์นี้ (4 - 7 ธันวาคม)
ลมหนาวพัดมาพร้อมกับกิจกรรมน่าสนใจมากมายในกรุงเทพฯ ที่จะทำให้สุดสัปดาห์ของคุณเต็มไปด้วยความสนุกและสีสัน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะออกไปเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ...

Things to do
โชว์พลุสุดอลังกลับมาอีกครั้งในงานวิจิตรเจ้าพระยา 2568 ตลอดเดือนธันวาคมนี้
หลังจากที่งาน วิจิตรเจ้าพระยา 2568 จัดหนักจัดเต็มตลอดเดือนพฤศจิกายน ด้วยโชว์แสง สี เสียงริมแม่น้ำเจ้าพระยา และได้รับเสียงตอบรับแบบถล่มทลาย...

Things to do
วันพ่อปีนี้ชวนพ่อดู 6 หนังไทยคัดสรร สนุกครบทุกอารมณ์
เบื่อแล้วกิจกรรมเดิมๆ วันหยุดยาววันพ่อทั้งที มาลองเปลี่ยนบรรยากาศชวนคุณพ่อมานั่งดูหนังไทยสุดปังที่บ้านกันดีกว่า Time Out คัดมาให้แล้วแบบครบทุกรสชาติ...

Restaurants
ฝันที่เป็นจริงของนักดื่ม! ปลดล็อกขายสุราตั้งแต่บ่ายสองถึงห้าโมง เริ่มแล้ววันนี้
ข่าวดีสำหรับมิตรรักนักดื่มและผู้ประกอบการทุกท่าน! ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของการจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ในช่วงบ่าย เพราะล่าสุด...
การโฆษณา
อีเวนต์และกิจกรรมน่าสนใจในกรุงเทพฯ
อัปเดตข่าวล่าสุดจาก Time Out กรุงเทพฯ

Things to do
คริสต์มาสนี้ชวนมาหลบหนาวในค่ำคืนทริบิวต์ของ Laufey & Daniel Caesar ที่ร้านพาสต้าโฮมเมดสุดละมุนย่านอารีย์
ใครกำลังมองหากิจกรรมในช่วงคริสต์มาสที่หลีกหนีความวุ่นวายและเต็มไปด้วยความอบอุ่นแบบมีสไตล์บ้าง? ถ้าคุณคือหนึ่งในแฟนเพลงตัวยงของ Laufey เจ้าหญิงแจ๊สอินดี้เสียงใส หรือติดใจในความโซลละมุนของ Daniel Caesar เรามีอีเวนต์ที่ห้ามพลาดมานำเสนอ
ลืมปาร์ตี้คริสต์มาสแบบเดิมๆ ไปก่อน แล้วมาเพลิดเพลินไปกับ ‘A Very Laufey & Daniel Caesar Tribute Night’ งานที่รวมเอาดนตรีเพราะๆ บรรยากาศแสนโรแมนติก และอาหารรสเลิศสุดฟินมาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว บอกเลยว่านี่คือโอกาสที่คุณจะได้ใช้เวลาคุณภาพกับเพื่อนหรือคนพิเศษ ท่ามกลางกลิ่นอายคริสต์มาสที่นุ่มนวลที่สุดในย่านอารีย์
Photograph: knockknock.bkk
สำหรับค่ำคืนพิเศษนี้ คุณจะได้ร่วมแสดงความคารวะแด่ศิลปินขวัญใจอย่าง Laufey และ Daniel Caesar ผ่านการแสดงดนตรีสดสุดพิเศษ เตรียมเคลิ้มไปกับเพลงฮิตที่คุ้นเคยในเวอร์ชันสุดไพเราะจาก มัท ปณิธาน นักร้องนำวง Rocket Man และนักร้องสาวเสียงใสอย่าง dopameen ที่จะมาถ่ายทอดบทเพลงรักและบทเพลงโซลให้คุณได้ดื่มด่ำกันยาวๆ ตลอดค่ำคืน
ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่จัดงานก็ลงตัวสุดๆ เพราะอีเวนต์นี้จัดขึ้นท่ามกลางร้านพาสต้าโฮมเมด ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูอบอุ่นให้คุณได้ซึมซับเสียงเพลงไปพร้อมกับรสชาติอาหารอร่อยๆ รับรองว่าคริสต์มาสปีนี้จะอิ่มเอมทั้งใจและท้องแน่นอน
นอกจากดนตรีสดแล้ว งานนี้ยังจัดเต็มกิจกรรมสุดเก๋ที่เข้ากับคอนเซ็ปต์มากๆ เริ่มต้นด้วยการให้คุณได้เขียนโปสการ์ดถึงตัวคุณเองในอนาคตผ่าน Christmas Postcard Dropbox ที่จะส่งไปให้คุณอีกครั้งในเดือนมกราคม หรือจะชวนเพื่อนสนิทไปถ่ายภาพคู่เก๋ๆ ที่ กำแพงภาพโพลารอยด์ ‘Best Part’ ที่ได้แรงบันดาลใจจากเพลงดังของ Daniel Caesar นอกจากนี้ยังมี มุมชมรมหนังสือ Laufey Book Club Corner ที่ให้คุณได้ลองทำที่คั่นหนังสือในบรรยากาศโคซี่ ปิดท้ายด้วยการต้อนรับที่แสนอบอุ่นแถมฟรีช็อกโกแลตร้อน หรือ ชาอุ่นๆ เพื่อเพิ่มความละมุนให้ช่วงเวลาวันหยุดของคุณ
Photograph: knockknock.bkk
นี่คือโอกาสที่แฟนๆ Laufey และ Daniel Caesar ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือไป! เตรียมตัวมาสนุกและซึมซับความโรแมนติกแบบมีระดับใน A Very Laufey & Daniel Caesar Tribute Night และยังมีโอกาสลุ้นรับแผ่นเสียงไวนิล ‘A Very Laufey Holiday Christmas Waltz Edition Vinyl’ ไปครอบครองอีกด้วย
งานนี้จัดขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่ เวลา 18.00 - 23.00 น.ที่นั่งมีจำนวนจำกัด! รีบจองบัตร Early Bird ราคา 299 บาท ก่อนใคร (บัตรหน้างาน ราคา 399 บาท) สำรองที่นั่งได้ทันทีทางโทรศัพท์ 062-253-9898 หรือ Line: @knockknockbkk (มี @) อย่าปล่อยให้คริสต์มาสนี้เป็นเพียงวันหยุดธรรมดา มาสร้างความทรงจำที่เปล่งประกายอย่างนุ่มนวลไปด้วยกัน!

Things to do
ดูหนังกลางแปลงใน KinoFest เทศกาลหนังเยอรมันร่วมสมัยประจำปี
เทศกาลหนังเยอรมันประจำปีกลับมาอีกครั้ง และปีนี้ได้พาคอหนังไปสำรวจความหมายที่ลึกซึ้งของคำว่า ครอบครัว ในโลกยุคใหม่
ต่อเนื่องจากความคึกคักของตลาดคริสต์มาสเยอรมัน สถาบันเกอเธ่เตรียมพร้อมเฉลิมฉลอง KinoFest เทศกาลหนังเยอรมันร่วมสมัยซึ่งจัดขึ้นทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาพร้อมหนังกลางแปลงและหนังคัดสรรหลากหลายพร้อมความหมายลึกซึ้งชวนให้คิดตาม ส่งตรงให้คนไทยได้ชมกันแบบจัดเต็ม และไลน์อัปปีนี้ก็ดูน่าติดตามไม่น้อย
เทศกาลปีนี้จัดระหว่างวันที่ 9-21 ธันวาคม ภายใต้ธีม ‘Family: Extended ครอบครัว: ส่วนขยาย’ ที่ทิ้งภาพจำของหนังครอบครัวแบบดั้งเดิม แล้วชวนผู้ชมไปดูว่าความหมายของครอบครัวได้ขยับขยายไปไกลแค่ไหน คุณจะได้พบกับหนังที่พูดถึงความเป็นแม่ทั้งในมุมทรงพลังแต่เต็มไปด้วยความกังวล หนังที่สะท้อนโลกของงานดูแลที่แทบไม่มีใครพูดถึง และหนังที่เจาะลึกความตึงเครียดที่คุกรุ่นอยู่ในทุกความสัมพันธ์ของคนในบ้าน
โกลของงานคือการให้เรามอง ‘ครอบครัว’ เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน ความงงงวย ความไม่ลงรอย และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ใช่ภาพครอบครัวสุขสันต์ที่สมบูรณ์ตลอดเวลา
ทั้งหมดจะถูกเล่าผ่านหนังหลากหลายแนว ตั้งแต่ดราม่า ผจญภัย แอนิเมชัน ตลก ระทึกขวัญ แอ็กชัน ไปจนถึงสารคดี ไม่ว่าจะมูดไหนก็มีให้เลือกชมตามใจคุณ
สองเรื่องที่ต้องห้ามพลาดคือ Greetings from Mars (Grüße vom Mars) เรื่องราวของเด็กชายที่เปลี่ยนการไปพักกับปู่ย่าให้กลายเป็นภารกิจตะลุยดาวอังคารเวอร์ชันชนบท กลายเป็นการผจญภัยข้ามรุ่นที่น่ารัก อบอุ่น และชวนยิ้มตาม และ Two to One (Zwei zu Eins) หนังตลกเสียดสีว่าด้วยเพื่อนสามคนที่มองเห็นโอกาสกลางความวุ่นวาย พยายามพลิกเงินสกุลเยอรมนีตะวันออกที่กำลังจะไร้ค่าให้กลายเป็นสมบัติก่อนรวมประเทศ พล็อตที่เกิดขึ้นได้เฉพาะยุคนั้นจริงๆ
ตลอดเทศกาลหนังฉายที่สถาบันเกอเธ่ กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 9-21 ธันวาคม พร้อมขยายไปยังอีกเจ็ดจังหวัด ได้แก่ นครปฐม เชียงใหม่ อุบลราชธานี พะเยา พิษณุโลก และนครราชสีมา
ใครอยากดูไลน์อัปเต็มๆ และรอบฉาย เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของสถาบันเกอเธ่

Things to do
ฝุ่นถล่มกรุงเทพฯ เช้านี้ PM2.5 เข้าสู่โซนสีส้มครอบคลุม 69 จุดทั่วเมือง เริ่มกระทบต่อสุขภาพแล้ว
เช้านี้หากใครตื่นมาแล้วเจออากาศเย็นของช่วงปลายปีจนแทบไม่อยากลุกจากเตียง แต่พอเหลือบมองออกไปข้างนอกทั้งเมืองถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา ไม่ต้องตกใจ นี่ไม่ใช่หมอกหน้าหนาวแต่อย่างไร แต่นี่คือฝุ่น PM2.5 วายร้ายที่ชาวกรุงเทพฯ ต้องเผชิญทุกปี และได้กลับมาเยือนเราอีกครั้ง
ล่าสุดศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ประจำวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 07.00 น. โดยระบุว่าคุณภาพอากาศเข้าระดับ ‘สีส้ม’ ที่แตะค่าเฉลี่ย 50.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว และพบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานทุกพื้นที่ของกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันยังคาดการณ์ว่าระหว่างวันที่ 2-10 ธันวาคม ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ ‘ไม่ดี/อ่อน’ และเกิดภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น
อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่ค่าฝุ่นจะลดลงช่วงวันที่ 4-6 ธันวาคม เพราะชั้นบรรยากาศใกล้พื้นดินมีลักษณะเปิดมากขึ้น และอาจมีฝนช่วยพัดพาและลดปริมาณฝุ่นได้บางส่วน
ปัจจุบันมีพื้นที่ในระดับ ‘สีส้ม’ ทั้งหมด 69 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดย 12 เขตที่มีค่าฝุ่นสูงที่สุด ได้แก่
1.สาทร - 65.8 มคก./ลบ.ม.
2.บางรัก - 61.7 มคก./ลบ.ม.
3.ลาดกระบัง - 60.1 มคก./ลบ.ม.
4.มีนบุรี - 59.5 มคก./ลบ.ม.
5.หนองแขม - 56.8 มคก./ลบ.ม.
6.ตลิ่งชัน - 56.3 มคก./ลบ.ม.
7.คลองสามวา - 56.2 มคก./ลบ.ม.
8. ราชเทวี - 56.1 มคก./ลบ.ม.
9. ปทุมวัน - 55.2 มคก./ลบ.ม.
10. ทวีวัฒนา - 55 มคก./ลบ.ม.
11. ยานนาวา - 54.8 มคก./ลบ.ม.
12. บางคอแหลม - 54.4 มคก./ลบ.ม.
ในระดับประเทศ จังหวัดสมุทรสาครครองอันดับหนึ่งของพื้นที่ค่าฝุ่นสูงสุดด้วยค่าเฉลี่ย 98.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามมาด้วยนนทบุรี นครปฐม รวมทั้งหมด 15 จังหวัดที่เข้าสู่ ‘โซนสีแดง’ ขณะที่อีก 25 จังหวัดอยู่ในระดับ ‘สีส้ม’
เรื่องสุขภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน สำหรับประชาชนทั่วไปควรใส่หน้ากาก PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน จำกัดระยะเวลาในการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง และสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก หรือระคายเคืองตา ส่วนกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ควรเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และหากมีอาการรุนแรงต้องรีบพบแพทย์ทันที พร้อมติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศจากแหล่งทางการตลอดวัน

Things to do
จิบไวน์กว่า 100 เลเบลในงาน BangCork Wine Fair ต้นธันวาคมนี้
เทศกาลสำหรับคนรักไวน์ BangCork Wine Fair กลับมาอีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จไปอย่างสวยงามเมื่อช่วงต้นปี จากคราวที่แล้วที่งานให้เราได้จิบไวน์ท่ามกลางย่านเมืองเก่าอย่างทรงวาด คราวนี้เราจะได้จิบไวน์กันกลางกรุง ที่ Friend Friend, Emporium ตั้งแต่วันที่ 6-7 ธันวาคมนี้ สถานที่จัดงานอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่บอกได้เลยว่าใครที่แพลนจะไป ยังคงได้ไวบ์เดิมๆ พร้อมบรรยากาศที่เคล้าด้วยดนตรีจากแผ่นไวนิลตลอดสองวัน ตั้งแต่เที่ยงวันถึง 20.00 น.
ถ้าคุณเป็นสายชิมไวน์ที่อยากค้นพบรสชาติและเลเบลใหม่ๆ แบบไม่ต้องการความเป็นพิธีรีตองเหมือนงานไวน์เทสติ้งทั่วไป ปักวันหยุดสุดสัปดาห์ไว้ได้เลย งานนี้คือเหตุผลดีๆ ในการออกจากบ้าน คุณจะได้เจอไวน์จากทั่วโลก ผ่านโปรดิวเซอร์และผู้นำเข้าชั้นนำอย่าง Fin, Cloud Wine, Winearoi, Koko Wines, The Grand Crew, Tipsy Tickles, Soul Wines, Must Wine Bar, Grapey และ Veraison รวมกว่า 100 เลเบล ใหญ่พอๆ กับงานเปิดตัวครั้งก่อนแบบเต็มสเกล
Photograph: koko_wines
ชิมไวน์เสร็จแล้วอย่าลืมแวะซื้อ ซาวร์โดว์จาก Dough และ สลัดโฮมเมดจาก Olive & Apple เติมพลังก่อนกลับบ้าน ส่วนสายสะสมแผ่นเสียงก็ต้องไม่พลาด Vinyl Market ที่ให้เลือกแผ่นไวนิลดีๆ ติดไม้ติดมือไปเข้ากรุ
บัตรเข้างานราคา 700 บาท พร้อมโทเคนชิมไวน์ 2 โทเคน หรือ 1,500 บาท สำหรับ 10 โทเคน และสามารถซื้อโทเคนเพิ่มได้ภายในงาน ซื้อบัตรล่วงหน้าได้ทาง Ticketmelon
BangCork Wine Fair จัดวันที่ 6-7 ธันวาคม ที่ Friend Friend Emporium เวลา 12.00-20.00 น.

Things to do
ธันวานี้ออกผจญภัยกลางคืนกับพิพิธภัณฑ์กว่า 50 แห่งทั่วไทยในเทศกาล Night at the Museum Festival 2025
คอหนังและสายพิพิธภัณฑ์เตรียมตัวสวมบท เบน สติลเลอร์ จากหนัง Night at the Museum ได้เลย เพราะเทศกาล Night at the Museum Festival 2025 กลับมาอีกครั้งพร้อมลมหนาวปลายปี ให้เราได้ออกผจญภัยในพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สัมผัสประสบการณ์การเที่ยวพิพิธภัณฑ์เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังและของจัดแสดงที่ดูมีชีวิตราวกับออกมาจากจอ
ปีนี้แต่ละพิพิธภัณฑ์มีธีมและกิจกรรมพิเศษไม่ซ้ำกัน ทั้งการแสดงแสงสีเสียง เวิร์กช็อปสนุกๆ ไปจนถึงทัวร์ส่วนจัดแสดงที่ปกติไม่ค่อยเปิดให้ชมในเวลากลางวัน ทำให้ผู้เข้าชมได้เห็นพิพิธภัณฑ์ในมุมใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ในกรุงเทพฯ มีพิพิธภัณฑ์เข้าร่วมกว่า 30 แห่ง ตั้งแต่ พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ ที่พาเราย้อนเวลาเรียนรู้เรื่องเหรียญโบราณและประวัติการเงินของไทย, พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำหรับสายธรรมชาติและสัตว์โลก, พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน บ้านเก่าที่เต็มไปด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมไทย-ตะวันตก, The Wireless House One Bangkok ที่เน้นเทคโนโลยีและการสื่อสารแบบ interactive, ไปจนถึง สยาม เซอร์เพนทาเรียม และ ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ สำหรับเรียนรู้ดาราศาสตร์กลางคืน และแน่นอน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร แหล่งประวัติศาสตร์และศิลปวัตถุชั้นนำของชาติที่ไม่ควรพลาด
เทศกาลนี้ให้ฟีลเหมือนหนัง Night at the Museum แบบเรียลๆ เพราะแสงไฟในความมืด เสียงจากการจัดแสดง และการจัดแสดงที่มีชีวิตราวกับหลุดออกมาจากจอ จะทำให้ทุกย่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความประหลาดใจ การเดินชมพิพิธภัณฑ์กลางคืนจะไม่ใช่แค่การเที่ยวชมอย่างเดียว แต่จะเป็นการออกสำรวจและเรียนรู้ไปพร้อมกัน
สำหรับกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ เริ่มจัดงานตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม แต่บางแห่งเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนอย่าง The Wireless House One Bangkok และ Bangkok Art and Culture Centre เป็นต้น สำหรับผู้สนใจควรวางแผนล่วงหน้า เช็กวันเวลาเปิด-ปิดของแต่ละพิพิธภัณฑ์ให้ดี เพราะบางแห่งเริ่มงานต้นเดือน ขณะที่บางแห่งเริ่มกลางเดือนถึงปลายเดือน เตรียมกล้องและไฟฉายเล็กๆ ไปด้วย จะได้เก็บภาพและสำรวจมุมสนุกๆ ของพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งอย่างเต็มที่

Art
Canon เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ EOS R6 Mark III และ Cinema EOS C50 อาวุธใหม่ของครีเอเตอร์สายไฮบริดและซีนีม่า
วงการกล้องต้องสะเทือนอีกครั้ง เมื่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการภาพอย่าง แคนนอน (Canon) ประกาศเดินเกมรุกเต็มสูบ เปิดตัว 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล EOS R system และ Cinema EOS system เพื่อยกระดับเวิร์กโฟลว์ของมืออาชีพและครีเอเตอร์ทุกคน ด้วยการผสมผสานคุณภาพระดับภาพยนตร์เข้ากับความยืดหยุ่นของกล้องไฮบริดได้อย่างลงตัวที่สุดตอบโจทย์ความต้องการของสายคอนเทนต์วิดีโอที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกแพลตฟอร์ม
การเปิดตัวครั้งนี้นำโดยกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมเจนเนอเรชันที่สามที่ทุกคนรอคอยอย่าง Canon EOS R6 Mark III และกล้องซีนีม่าไฮบริดฟูลเฟรมขนาดกะทัดรัดที่สุดในซีรีส์อย่าง Cinema EOS C50 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์การบันทึกวิดีโอแบบ Open Gate ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกันและกัน ตอบโจทย์เทรนด์ตลาดที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงในการสร้างคอนเทนต์แนวตั้งและแนวนอนในหลากหลายแพลตฟอร์มได้อย่างเต็มเฟรม ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพสาย Production House ขนาดเล็ก หรือครีเอเตอร์รุ่นใหม่ที่ต้องการอิสระในการสร้างสรรค์อย่างแท้จริง
Canon EOS R6 Mark III การอัปเกรดครั้งใหญ่เขย่าวงการสายภาพนิ่งและไฮบริด
Photograph: Canon Thailand
สำหรับช่างภาพที่เน้นงานภาพนิ่งเป็นหัวใจหลักแต่ก็ต้องการความสามารถด้านวิดีโอระดับโปร EOS R6 Mark III คือกล้องเจนเนอเรชันที่ 3 ของซีรีส์ที่ถูกปรับปรุงให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น เพราะนี่คือสุดยอดกล้องสายไฮบริดที่โดดเด่นในเรื่องการโฟกัสแม่นยำในสภาพแสงน้อย ด้วยการ ปลดล็อกความละเอียดและสปีดใหม่ ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ฟูลเฟรมความละเอียดสูง 32.5 ล้านพิกเซล และสมรรถนะการถ่ายภาพต่อเนื่องที่เร็วเหนือระดับด้วยโหมด Pre-continuous shooting ที่ความเร็วสูงสุด 40 FPS ไม่เพียงเท่านั้น ยังรองรับการบันทึก วิดีโอระดับ 7K Open Gate ที่ 7K/ 30p ในอัตราส่วน 3:2 นับเป็นกล้องตระกูล EOS R รุ่นแรกที่ทำได้ ซึ่งให้ความยืดหยุ่นในการปรับสเกลภาพสำหรับงาน Cinematic และวิดีโอแนวตั้ง พร้อมรองรับ Canon Log 2 และ Log 3 เพื่ออิสระในการเกรดสีขั้นสูง ปิดท้ายด้วยระบบ โฟกัสอัจฉริยะ ที่ทำงานร่วมกับระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF II ที่มีเทคโนโลยีการติดตามรุ่นล่าสุด ทำให้คุณไม่พลาดทุกช็อตสำคัญอย่างแน่นอน
Canon EOS C50: กล้องซีนีม่าไฮบริดที่เกิดมาเพื่อครีเอเตอร์โดยเฉพาะ
Photograph: Canon Thailand
ต้องบอกเลยว่านี่คือนิยามใหม่ของกล้องที่จิ๋วแต่แจ๋ว เพราะ Canon EOS C50 คือกล้องซีนีม่าที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุดในซีรีส์ แต่พกพาสเปกระดับไฮเอนด์มาเต็มกระเป๋า ด้วยเซ็นเซอร์ฟูลเฟรมและหน่วยประมวลผล DIGIC DV 7 เพื่อไฟล์คุณภาพสูงสุดสำหรับมืออาชีพ จุดเด่นคือระบบ Open Gate Recording ครั้งแรกใน Cinema EOS ที่ใช้พื้นที่เซ็นเซอร์เต็ม 3:2 ทำให้คุณได้ไฟล์ยืดหยุ่นสูง พร้อมนำไปผลิตคอนเทนต์ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนจากการถ่ายทำเพียงครั้งเดียว แถมยังมี พลังไฮบริดเต็มตัว สามารถสลับไปถ่ายวิดีโอ RAW สูงสุด 7K 60P หรือภาพนิ่งความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ได้อย่างราบรื่น ด้วย ดีไซน์โมดูลาร์ น้ำหนักเบา ทำให้ EOS C50 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครีเอเตอร์ หรือ Production House ขนาดเล็กที่ต้องการทั้งคุณภาพระดับซีนีม่าและความคล่องตัวสูงในเครื่องเดียว
เลนส์รุ่นใหม่สำหรับสายภาพนิ่งและซีนีม่า เติมเต็มคลังแสงไร้ขีดจำกัด
นอกจากตัวกล้องแล้ว แคนนอนยังได้เติมเต็มชุดอุปกรณ์สร้างสรรค์อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการเปิดตัวเลนส์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ RF45mm f/1.2 STM เลนส์ไพร์มรูรับแสงกว้างที่สุดในซีรีส์ R ที่มาในราคาเข้าถึงง่าย เอาใจสายถ่ายภาพบุคคลที่หลงใหลโบเก้ละลายฉากหลังสวยงาม และ Cinema Lens CN5 x 11 IAS T เลนส์ Cine-Servo สำหรับงานบรอดคาสต์และภาพยนตร์คุณภาพสูง รองรับการบันทึกระดับ 8K HDR ที่ระยะ 11-55 มม. การเปิดตัวเลนส์ทั้งสองรุ่นนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแคนนอนในการขยาย Cinema Line อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นผู้นำเทคโนโลยีภาพถ่ายและภาพยนตร์อย่างแท้จริง
พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
กล้องและเลนส์ใหม่ทั้งหมดนี้จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้เป็นต้นไป และเพื่อเป็นการต้อนรับการมาถึงอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้แคนนอนยังได้เตรียมมอบสิทธิประโยชน์และโปรโมชันพิเศษในช่วงเปิดตัว ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2569 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลงตัวที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการอัปเกรดอุปกรณ์ หรือก้าวเข้าสู่โลกของการถ่ายภาพแบบไฮบริดอย่างเต็มตัว
หากใครที่ต้องการเป็นเจ้าของและอยากจับจองกล้องและเลนส์รุ่นใหม่สุดล้ำนี้ สามารถตรวจสอบรายละเอียดราคาโปรโมชันได้แล้ว (ที่นี่)

Things to do
ดื่มด่ำรสชาติสุราชุมชนทั่วไทย ใน 6 โซนพิเศษ ที่งาน ‘เมรัยไทยแลนด์ 2025’
ในที่สุดประเทศไทยของเราก็มีอีเวนต์และพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับพูดคุยและเฉลิมฉลองเรื่องราวของสุราและแอลกอฮอล์มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน สัญญาณดีๆ แบบนี้เริ่มชัดเจนขึ้นมากว่าอนาคตของวงการสุราไทยกำลังจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และหากคุณเป็นคอเครื่องดื่มตัวยงที่กำลังมองหาประสบการณ์ลิ้มรสสุราพื้นบ้านที่แปลกใหม่และสร้างสรรค์ บอกเลยว่านี่คืออีเวนต์ที่ไม่ควรพลาด
‘เมรัยไทยแลนด์ 2025’ มหกรรมสุราชุมชนและคราฟต์เบียร์ทั่วประเทศไทย กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้ผลิตสุราชุมชน คราฟต์เบียร์ไทย ภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจวัฒนธรรมการดื่ม เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสุราไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ดันบาร์ความเจ๋งให้สูงขึ้นไปอีกขั้น
หลังจากการจัดงานในปีที่แล้วประสบความสำเร็จและเป็นที่พูดถึงในวงกว้างอย่างถล่มทลาย งานนี้ ไทยรัฐในฐานะผู้เดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก ได้ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน มุ่งเชิดชูภูมิปัญญาการหมักและการกลั่นท้องถิ่น พร้อมต่อยอดโอกาสทางธุรกิจสู่ระดับประเทศและระดับโลกผ่านกิจกรรมที่ครบเครื่องทั้งมิติธุรกิจ วัฒนธรรม และความบันเทิง จัดเต็มตลอด 5 วัน 5 คืน ที่ Em Wonder & Sphere Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้า The Emsphere กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26-30 พฤศจิกายน 2568 (งานเข้าฟรี)
ปีนี้บอกเลยว่าภายในงานพิเศษกว่าเดิมเพราะจัดในพื้นที่และสเกลที่ใหญ่ขึ้นกว่าปีที่แล้ว หากใครเป็นสายดื่มตัวจริงเตรียมพบกับประสบการณ์เต็มรูปแบบผ่าน 6 โซนสุดพิเศษ ที่จะทำให้คุณได้ เมาเหล้า เมาเบียร์ เมามันส์ อย่างมีสไตล์ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
Photograph: Merai Thailand
เปิดวาร์ป 6 โซนพิเศษ ที่จะปลุกความเป็นคอเครื่องดื่มในตัวคุณ
1. ร้านค้าเมรัย
รวมพลสุราชุมชนและคราฟต์เบียร์จากทุกภาคทั่วไทยกว่า 50 แบรนด์ ที่คุณสามารถเลือกชิม เลือกเม้าท์และเลือกซื้อสุราไทยครบทุกสไตล์ รับรองว่าได้ค้นพบขวดโปรดขวดใหม่กลับบ้านแน่นอน
2. เสวนาร่ำเมรัย
เวทีพูดคุยและถกเรื่องอนาคตอุตสาหกรรมเมรัยไทยโดย ‘คนวงใน’ ตัวจริงเสียงจริง และนี่คือพื้นที่ที่คุณจะได้รู้ลึก รู้จริง และเข้าใจเส้นทางการเติบโตของสุราไทยอย่างรอบด้าน
3. เมรัยไทยแลนด์ Competition 2025
ร่วมเป็นสักขีพยานการแข่งขันเพื่อยกระดับวงการสุราไทย ทั้งในหมวด Craft Beer และ Thai White Spirits พร้อมไฮไลต์พิเศษกับผลงานสร้างสรรค์จากการประกวด ‘เมรัย Competition 2025 Logo & Label Design’ ที่จะมาตอกย้ำความเจ๋งของดีไซน์บรรจุภัณฑ์สุราไทย
4. เสพดนตรีเมรัย
สนุกไปกับเวทีคอนเสิร์ตจัดเต็มจากศิลปินไทยและดีเจระดับแนวหน้า ที่จะมาปลุกทุกอารมณ์แห่งความมันส์ให้ล้นเวที ตั้งแต่ 6 โมงเย็นยันเที่ยงคืน เตรียมโยกไปกับไลน์อัปสุดเดือด อาทิ Paradise Bangkok Molam International, Yokee Playboy, Apartment Khunpa, Yellow Fang, Stoondio, H3F, Landokmai, Guncharlie, Cornboi, Rattanakosin Breakin Crew, DJ Freudonidas, DJ Daokanong, DJ Tob, DJ Arman, DJ Onra และวงดนตรีจาก ม่วน บางกอก
5. เมรัย Moodtail Bar
ค็อกเทลบาร์สุดครีเอทีฟ ที่จะผสมเครื่องดื่มจากสุราไทยตามอารมณ์ของคุณ เพียงแค่กระซิบกระซาบบอกบาร์เทนเดอร์ว่าวันนี้อยู่ในมู้ดไหน ก็จะได้แก้วที่ใช่ ในแบบของคุณโดยเฉพาะ
6. The Lost Thai Taste
รวมอาหารพื้นถิ่นหลายคนคิดถึงให้ทุกคนได้ลิ้มลองอีกครั้ง เตรียมตัวให้พร้อมอิ่มอร่อยไปกับเมนูพิเศษที่หมุนเวียนกันไปตาม 5 ภาค ตลอด 5 วัน แถมยังมีการ ชิมฟรี 4 รอบต่อวันอีกด้วย
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ที่จะทำให้คุณได้ค้นพบว่าสุราไทยมีดีไม่แพ้ชาติใดในโลก แอบกระซิบว่า Koktail Thailand และ Time Out กรุงเทพฯ ก็เตรียมไปเปิดบูธขาย Merchandise สุดเท่ภายในงานเช่นกัน แล้วพบกัน ที่ Em Wonder & Sphere Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้า The Emsphere กรุงเทพฯ (ไม่มีค่าเข้างาน) วันที่ 26-30 พฤศจิกายน 2568
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.meraithailand.com
Facebook: เมรัยไทยแลนด์ / IG: meraithailand

Movies
รีวิว ‘Bugonia’ เมื่อทุนนิยมปะทะทฤษฎีสมคบคิด หนังไซไฟตลกร้ายที่สับขาหลอกเราจนนาทีสุดท้าย
ทันทีที่โลกภาพยนตร์รู้ข่าวว่า ยอร์กอส ลานทิมมอส (Yorgos Lanthimos) ผู้กำกับชาวกรีกเปี่ยมวิสัยทัศน์กำลังจะมีผลงานเรื่องใหม่ในปีนี้ และได้เห็นเค้าโครงเรื่องรวมถึงภาพเบื้องหลังที่ปล่อยออกมาตั้งแต่ก่อนเข้าฉาย ผู้เขียนก็ปักธงไว้ในใจเลยว่า นี่คือภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ห้ามพลาดอย่างแน่นอน
สำหรับคอหนังที่เคยผ่านงานของผู้กำกับคนนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น The Lobster (2015), The Favourite (2018) หรือผลงานสร้างชื่อล่าสุดอย่าง Poor Things (2023) ย่อมตระหนักดีว่า ลานทิมมอสคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในการสร้างภาพยนตร์ที่จิกกัดประเด็นสังคมอย่างลึกซึ้ง ผ่านการนำเสนอคาแร็กเตอร์ตัวละครที่บิดเบี้ยว แตกต่าง และมีสไตล์เฉพาะตัวสูงมาก
และในผลงานล่าสุดอย่าง Bugonia (2025) เรื่องนี้ ก็ยังคงเป็นหนังที่สับขาหลอกคนดูอย่างถึงพริกถึงขิงจนถึงวินาทีสุดท้าย ชวนให้ตั้งคำถามกับตัวเองตลอดเวลาว่าสิ่งที่เห็นอยู่บนจอคือเรื่องจริงหรือความวิปลาสกันแน่ เป็นการผสมผสานองค์ประกอบที่ทั้งปั่นประสาท ผิดเพี้ยน ตลกร้าย เสียดสี และสะท้อนประเด็นโลกทุนนิยมได้อย่างแสบสันต์
สไตล์เฉพาะตัวที่เข้าถึงง่ายที่สุดของ ยอร์กอส ลานทิมมอส
Photograph: Element Pictures
หากให้นิยามมวลรวมของ Bugonia คงต้องบอกว่าเป็นภาพยนตร์แนว ไซไฟ แฟนตาซี ตลกร้าย เสียดสี จิกกัดโลกทุนนิยม ในแบบฉบับเฉพาะตัวของลานทิมมอส โดยหนังเรื่องนี้เป็นการรีเมคจากภาพยนตร์เกาหลีเรื่องดัง Save the Green Planet!(2003)
แม้ว่าโดยปกติแล้ว งานของลานทิมมอสมักต้องใช้การตีความและวิเคราะห์ผ่านสัญญะต่างๆ ที่สอดแทรกอยู่ภายในเรื่อง แต่ใน Bugonia กลับเป็นงานที่เรียกได้ว่าดูรู้เรื่องและเข้าใจง่ายที่สุดแล้วในบรรดาหนังทั้งหมดของเขา เพราะเส้นเรื่องและไทม์ไลน์ถูกเล่าอย่างค่อนข้างชัดเจน บอกเล่าให้คนดูรับรู้หมดว่า ใคร ชื่ออะไร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ และทำไปเพื่ออะไร
แต่ถึงกระนั้น ลายเซ็นเฉพาะตัวของเขาก็ยังคงชัดเจนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความงดงามทางภาพ (Visual) ทั้งการจัดเฟรมที่พิถีพิถัน การเกรดสีที่สร้างบรรยากาศเฉพาะตัว ไปจนถึงการตัดต่อคัทติงน้อยๆ ที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่แฟนๆ คุ้นเคย
พล็อตที่ว่าด้วยความเชื่อ ความบ้าคลั่ง และการกอบกู้โลก
Photograph: Element Pictures
เรื่องราวเริ่มต้นจากสองลูกพี่ลูกน้อง ดอว์น และ เท็ดดี้ (นำแสดงโดย ไอแดน เดลบิส และ เจสซี่ พลีมอนส์) ชายหนุ่มผู้ซึ่งจมดิ่งและหมกมุ่นอยู่กับทฤษฎีสมคบคิดอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะความเชื่อเรื่องเอเลี่ยนและมนุษย์ต่างดาว
ความเชื่ออันแรงกล้านี้เองที่นำพาไปสู่การก่อเหตุสุดพิลึก เมื่อพวกเขาได้ลักพาตัว มิเชล (รับบทโดย เอ็มม่า สโตน) ซีอีโอสาว ประธานบริษัทวิจัยและผลิตเคมีภัณฑ์และเภสัชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก เพราะพวกเขาปักใจเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยว่าเธอคือมนุษย์ต่างดาวจากเผ่าอันโดรเมดา ที่มีเจตนาจะทำลายล้างโลก การลักพาตัวครั้งนี้จึงมีจุดมุ่งหมายเดียวคือการช่วยกอบกู้โลกให้สงบสุขจากภัยคุกคามต่างดาวพล็อตที่ฟังดูพิลึกพิลั่นนี้ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสุดเหวี่ยง มันทั้งเพี้ยน และโดนเส้นความตลกร้ายมากกว่าที่เราคาดคิดไว้มาก
การต่อสู้ทางความคิด: ทุนนิยมปะทะแรงงานผู้อ่อนล้า
Photograph: Element Pictures
ความน่าสนใจของ Bugonia ไม่ได้อยู่ที่เพียงแค่เรื่องราวเหนือจริง แต่คือการสร้างตัวละครให้เป็นตัวแทนทางความคิดที่น่าขบคิด
มิเชล เป็นตัวแทนภาพใหญ่ของ ระบบทุนนิยม ที่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงสร้างสิ่งใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนโลกให้เป็นไปตามเครื่องจักรทุน เธอไม่ใช่แค่ตัวละคร แต่เป็นสัญลักษณ์ขององค์กรที่มีอิทธิพลต่อชีวิตผู้คนนับล้าน ในขณะเดียวกัน เท็ดดี้ ถูกวางให้เป็น ‘ผึ้ง’ ภาพสะท้อนของแรงงานในระบบทุนนิยมที่อ่อนล้า และอาจเป็นภาพของคนที่ถูกล้างสมองด้วยทฤษฎีสมคบคิดและการเสพสื่อที่ควบคุมไม่ได้
ซึ่งต้องอธิบายเพิ่มเติมว่าเพราะเหตุใดการเปรียบเปรยนี้จึงสมเหตุสมผล
Photograph: Element Pictures
ในเชิงสัญลักษณ์ ผึ้ง (Bee) เป็นสัตว์ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อส่วนรวม มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท และผลิตผลผลิต (น้ำผึ้ง) เพื่อระบบ แต่ในบางมุมก็เป็นเหมือนฟันเฟืองเล็กๆ ในโครงสร้างขนาดใหญ่ที่อาจถูกใช้งานอย่างหนักและถูกมองข้าม การเปรียบเทียบนี้จึงสะท้อนถึงแรงงานที่ต้องทำงานภายใต้ระบบทุนนิยมที่ไม่เป็นธรรมได้เป็นอย่างดี
ความเฮี้ยนของตัวละครที่ไม่มีใครยอมใคร การต่อสู้กันด้วยบทสนทนาและไดอะล็อกที่ชวนคิดตลอดทั้งเรื่อง จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความน่าสนใจและดูสนุกอย่างมาก ชวนให้คนดูต้องคิดตามตลอดว่า เรื่องของทฤษฎีสมคบคิดที่ถูกหยิบยกขึ้นมานั้น แท้จริงแล้วมันมีอยู่จริงหรือไม่?
นอกจากนี้ หนังยังได้สะท้อนถึงอิทธิพลของการเสพสื่อและการหมกมุ่นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างสุดโต่งของตัวละครเท็ดดี้ ซึ่งนำพาไปสู่การกระทำที่โหดร้าย ทั้งการกักขังหน่วงเหนี่ยวและการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อมิเชล
สารที่ซ่อนอยู่ในชื่อ ‘Bugonia’ ความตายเพื่อการเกิดใหม่
Photograph: Element Pictures
เมสเสจสำคัญที่สุดของเรื่องถูกซ่อนไว้ตั้งแต่ชื่อของภาพยนตร์ Bugonia ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่เชื่อมโยงกับภาษากรีกโบราณที่หลายคนอาจไม่คุ้นหู โดยความหมายที่ซ่อนอยู่คือความเชื่อที่ว่า ‘ผึ้ง’ จะมีชีวิตได้จากซากหรือการตายของ ‘วัว’ สื่อถึงแนวคิดที่ว่า ‘การทำลายล้างอะไรบางอย่าง อาจนำไปสู่การเริ่มต้นสิ่งใหม่ หรือความหวังใหม่ๆ’ อันเป็นแนวคิดที่เชื่อมโยงกับการคลี่คลายของเนื้อเรื่องในตอนจบอย่างลึกซึ้ง และแน่นอนว่า ตอนจบของภาพยนตร์เรื่องนี้จะนำพาไปสู่ความเข้าใจหรือข้อคิดอะไรนั้น… ขอเชิญชวนให้ทุกท่านไปรับชมกันต่อในโรงภาพยนตร์
Photograph: Element Pictures
สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้และยกให้เป็นความพิเศษของ Bugonia คือการได้เห็นพลังการแสดงที่เชือดเฉือนกันอย่างดุเดือดของสองนักแสดงคู่บุญของยอร์กอส อย่าง เอ็มม่า สโตน (Emma Stone) ที่ครั้งนี้ถึงกับลงทุนโกนหัวจริง และ เจสซี่ พลีมอนส์ (Jesse Plemons) ที่ได้ร่วมงานกับลานทิมมอสมาตั้งแต่ The Favourite(2018), Poor Things (2023) มาจนถึง Kinds of Kindness (2024) และ Bugonia
การแสดงของ เอ็มม่า สโตน ในบทบาทซีอีโอสาวครั้งนี้ทำให้เราเห็นมิติที่ซับซ้อนของตัวละคร ที่ต้องต่อสู้กับความบ้าคลั่งที่อยู่ตรงหน้า เธอถ่ายทอดความฉลาด ความหวาดกลัว และความแข็งแกร่งได้อย่างน่าทึ่ง ทางฝั่งของ เจสซี่ พลีมอนส์ ในบทบาทชายผู้หมกมุ่นกับทฤษฎีสมคบคิด ก็แสดงให้เห็นถึงความเฮี้ยน และความเชื่อที่ฝังรากลึกจนกลายเป็นความอำมหิตได้อย่างมีพลัง สร้างความรู้สึกน่าขนลุกและชวนอึดอัดให้กับผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม การประชันบทบาทของทั้งคู่จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้บทสนทนาและสถานการณ์อันผิดเพี้ยนของหนังมีน้ำหนักและน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ
Photograph: Element Pictures
Bugonia จึงไม่ได้เป็นเพียงหนังไซไฟตลกร้าย แต่มันคือกระจกที่สะท้อนความบิดเบี้ยวของสังคมทุนนิยม อิทธิพลของความเชื่อ และความหวาดระแวงที่เรามีต่อโลกและกันและกัน การเล่าเรื่องของยอร์กอส ลานทิมมอส ในครั้งนี้ได้ทิ้งคำถามก้อนใหญ่ไว้ในใจผู้ชม
ถ้าทฤษฎีสมคบคิดที่เรามองว่าไร้สาระเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงๆ และมีผลต่อความเป็นความตายของโลก คุณจะเลือกเชื่อมันหรือไม่? และการทำลาย ‘วัว’ (สิ่งที่เป็นอยู่เดิม) เพื่อให้เกิด ‘ผึ้ง’ (การเริ่มต้นใหม่) นั้น คุ้มค่าและสมเหตุสมผลหรือเปล่า?
รับชม Bugonia ได้แล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
นักแสดงและทีมงาน
ผู้กำกับ: ยอร์กอส ลานทิมมอส
นักเขียนบท: วิลล์ เทรซี่, จาง จุน ฮวาน
นักแสดง: เอ็มมา สโตน, เจสซี พลีมอนส์, ไอแดน เดลบิส, สตาฟรอส ฮัลคีอัส, อลิเซีย ซิลเวอร์สโตน

Things to do
หนีจอไปอ่านหนังสือในสวน พร้อมรับลมเย็นฉ่ำที่สวนเบญจกิติเสาร์นี้
อากาศกรุงเทพฯ เริ่มเป็นใจแล้ว สุดสัปดาห์นี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะชวนตัวเอง (และมิตรรักนักอ่าน) ออกไปพลิกหน้าหนังสือกับกลุ่มคนแปลกหน้าในสวน ที่งาน Reading in the Park กลับมาอีกครั้งเป็นรอบที่สอง ทักทายสายลมเย็นที่เพิ่งพัดเข้ามา งานจะจัดขึ้น วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ที่ อัฒจันทร์กลางสวนเบญจกิตติ เวลา 16.00 - 18.00 น.
จุดเด่นของงานนี้คือการพาคนออกจากหน้าจอโทรศัพท์ และออกจากบ้านไปพูดคุยกันแบบเห็นหน้า ซึ่งนี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นของชุมชน Bangkok Offline Reading Club ทั้งหมด รอบนี้ถือว่าเหมาะสุดๆ กับอากาศเย็นๆ และเป็นโอกาสดีที่จะออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมนอนเอนหลังในสวนกับหนังสือดีๆ
ในครั้งก่อนงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Offline Book Club series จัดโดยทีม BKK Lit Fest ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องพักมือถือไว้ชั่วคราว เมื่อไปถึงที่งาน เตรียมพกแค่หนังสือที่คุณกำลังอ่านอยู่มา ไม่ว่าจะเป็นเล่มจริงหรือ e-reader หยิบเสื่อหรือผ้าปูติดไม้ติดมือมาด้วย หรือถ้ามีหนังสือที่อยากแนะนำให้คนอื่นอ่าน ก็สามารถเอาเล่มสำรองมาสลับแลกเปลี่ยนกันได้เช่นกัน
งานนี้เข้าฟรี ดังนั้นไม่มีข้ออ้างอะไรที่จะไม่ลองออกไปอ่านหนังสือท่ามกลางลมเย็น และบรรยากาศสวนสวยของกรุงเทพฯ ที่ อัฒจันทร์กลางสวนเบญจกิตติ วันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 16.00 - 18.00 น.

Things to do
‘Bangkok Music City 2026’ เทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ย่านเจริญกรุงกลับมาแล้ว!
ใครๆ ก็รู้ว่ากรุงเทพฯ คือมหานครคอนเสิร์ตที่เต็มไปด้วยศิลปินคุณภาพคับแก้ว และในปีนี้เองพวกเรากำลังต้อนรับการคัมแบ็กเฟสติวัลที่คนดนตรีทั่วเอเชียจับตามองกับงาน Bangkok Music City 2026 เทศกาลดนตรีที่ไม่ใช่แค่งานโชว์เคสธรรมดาๆ แต่คือสนามปล่อยของของศิลปินทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ที่พร้อมระเบิดพลังความคิดสร้างสรรค์แบบไม่มีกั๊ก ให้คนรักเสียงเพลงได้ชมเพอร์ฟอร์แมนซ์กันแบบเต็มเหนี่ยวไม่เกรงใจใคร บอกเลยว่าถ้าดนตรีคือพลังชีวิตของคุณ งานนี้คือหมุดหมายที่พลาดไม่ได้จริงๆ!
Photograph: Bangkok Music City
และแน่นอนว่ากลับมาทั้งทีจะมาเล่นๆ ได้ยังไง เพราะปีนี้ Bangkok Music City 2026 ขนไลน์อัปมาแน่นยิ่งกว่าเดิม เริ่มจากเจ้าบ้านฝั่งไทยอย่าง Apartment Khunpa, Bedroom Audio, Defying Decay, Kosum Boy, Lepyutin, Officesyndrome, pami, Scrubb, Shadow Colonies, The Darkest Romance, Tontrakul, Vega, VVAS และ Zambug
ยังไม่พอ เพราะฝั่งต่างประเทศปีนี้ก็อลังไม่แพ้กัน มีทั้งศิลปินเอเชียที่บินตรงมาจากเกาหลีใต้ เช่น OWAVE, 87dance, Animal Divers, Milena, SUAUN ตามด้วย Ardhito Pramono จากอินโดนีเซีย, Shye จากสิงคโปร์, Nghịch จากเวียดนาม รวมถึง FÜLÜ จากฝรั่งเศส และ Jamaica Moana จากฝั่งออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ งานนี้ทุกบทเพลงหลากหลายสัญชาติพร้อมระเบิดความมันส์กันแบบเต็มอัตราศึกแล้ว
Photograph: Bangkok Music City
แต่ภายในงานนี้ไม่ได้มีดีแค่ฟรีคอนเสิร์ตเท่านั้น แต่ยังรวมผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมดนตรีจากทั่วโลกไว้เพียบ เป็นโอกาสทองของศิลปินที่อยากก้าวไกลสู่เวทีอินเตอร์รวมถึงคอเพลงที่อยากได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ หรืออยากรู้เบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับวงการดนตรีในยุคนี้แบบเจาะลึก
และสำหรับใครที่กำลังมองหาเพลงใหม่เติมลงเพลย์ลิสต์ เตรียมไปค้นพบวงโปรดวงใหม่ในย่านสร้างสรรค์เจริญกรุงได้เลย เพราะปีนี้งานจัด 2 วันเต็ม วันที่ 24-25 มกราคม 2569 (เข้างานฟรี) แต่ถ้าใครขี้เกียจรอคิวก็อัปเกรดบัตรเป็น Priority Lane ในราคาเพียง 350 บาท เท่านั้น ซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ผ่านแอปฯ Bangkok Music City
ติดตามไลน์อัป ตารางโชว์ และกิจกรรมพิเศษเพิ่มเติมได้ที่ bangkokmusiccity
การโฆษณา
เผื่อคุณจะพลาดสิ่งนี้ไป...

Travel
เฉลิมฉลองฤดูกาลแห่งความสุข ให้ทุกโมเมนต์ของปลายปีเปล่งประกายไปกับ COMO Metropolitan Singapore
ธันวาคม เดือนที่อากาศเริ่มเย็นลงพอให้ใจได้พักจากฝุ่นเมืองและจังหวะชีวิตที่เร่งรีบตลอดปี แสงไฟตามถนนเริ่มส่องประกาย ผู้คนค่อยๆ ผ่อนคลายจังหวะของตัวเองลง...

Art
ได้รับการสนับสนุน
ชวนทำ Vlog กับ 5 โลเคชั่นน่าไปในกรุงเทพฯ
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ที่แม้จะดูขัดแย้งกันแต่ก็ลงตัว อย่างโกดังสินค้าเก่าที่ถูกรีโนเวตเป็นแกลเลอรี ห้างริมแม่น้ำระยิบระยับด้วยกระจกใส...

Travel
ได้รับการสนับสนุน
COMO Metropolitan Singapore โรงแรมใจกลางสิงคโปร์ที่อยากให้ผู้เข้าพักมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ใกล้ช่วงไฮซีซั่นเข้าไปทุกที สายเที่ยวคงปักหมุดที่พักตามไลฟ์สไตล์กันให้วุ่น ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาช่วงเวลาของการพักผ่อนเพื่อบาลานซ์ความสมดุลทั้งกายใจ โรงแรม COMO...

Things to do
ได้รับการสนับสนุน
ไม่ใช่แค่ Private Club แต่นี่คือคอมมูนิตี้ที่ความคิดสร้างสรรค์มาบรรจบกันอย่างไร้ขอบเขต
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่พร้อมเปิดพื้นที่ให้ทุกคนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครีเอทีฟสุดคึกคักไปจนถึงคลับไพรเวทสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่นี่มีพื้นที่ให้กับทุกไลฟ์สไตล์ และ JAI...

Travel
ได้รับการสนับสนุน
สัมผัสประสบการณ์ที่เป็นได้มากกว่าโรงแรม ที่ COMO Metropolitan Singapore
ว่ากันว่า สิงคโปร์ เป็นหนึ่งในหมุดหมายลำดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวไทยเลือกที่จะไปพักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะด้วยการเดินทางที่ง่าย การท่องเที่ยวที่สะดวก...
รีวิวร้านอาหารและคาเฟ่ในกรุงเทพฯ

Restaurants
Gordon Ramsay Bread Street Kitchen & Bar ICONSIAM
หลายปีหลังจากกระแสความนิยมของรายการทำอาหารที่พุ่งสูงขึ้น เชฟหลายคนได้กลายเป็นขวัญใจของคนรักอาหารทั่วโลก และหนึ่งในนั้นคือ เชฟกอร์ดอน แรมซีย์...

Restaurants
Tapori
เมื่อพูดถึงอาหารอินเดีย ภาพจำของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นสตรีตฟู้ดที่พ่วงมากับรถเข็น หรือตลาดที่มีผู้คนชุกชุม...

Restaurants
โสมะ
ตั้งแต่ร้านอาหารไทยได้รับรางวัลต่างๆ ไม่ว่าจะมิชลินไกด์ Thailand’s Favourite Restaurant หรือ The Worlds 50 Best Restaurants...

Restaurants
Olivetto
สาวกพาสต้าทั้งหลายคงคุ้นชินกับเบคอนในคาโบนารา หรือแซลมอนย่างในซอสเพสโต้ ราวกับเป็นสูตรสำเร็จของเมนูเส้นยอดนิยมจากอิตาลี...

Restaurants
Bisou
Bisou แกสโตรไวน์บาร์สไตล์ฝรั่งเศสเปิดใหม่ล่าสุด ย่านหลังสวน เสิร์ฟจริตปาริเซียงสุดเท่และเซ็กซี่...
บทสัมภาษณ์ล่าสุด

Travel
โจ คัมมิงส์ ชายผู้ปักหมุดประเทศไทยบนแผนที่การท่องเที่ยวระดับโลก
ก่อนจะมียุคออนไลน์ในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยติ๊กต็อก เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ และแฮชแท็กสารพัด...

Things to do
‘ดาราโซเฟีย’ อินฟลูเอนเซอร์สายพลังบวก ผู้เชื่อว่าทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง
ในยุคที่โลกโซเชียลหมุนไปอย่างรวดเร็ว และ TikTok ได้กลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่ให้ใครก็ได้ลุกขึ้นมาพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดและเชื่อ...

Movies
เป้–อารักษ์ อมรศุภศิริ : จากชีวิตร็อกแอนด์โรลสู่ผู้กำกับผู้ท้าทายทุกบทบาท
เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ เชื่อว่าแทบไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ เพราะเขาคือบุคคลที่เรียกได้ว่าอยู่มาทุกยุค ผ่านมาแล้วหลายบทบาท...
รีวิวบาร์ในกรุงเทพฯ
Bars
Lost in Thaislation
ข้าวมันไก่ ผัดไทย หมูสับเกี้ยมบ๊วย ข้าวเหนียวมะม่วง ทั้งหมดนี้คือชื่อเมนูค็อกเทลของร้าน Lost in Thaislation บาร์ใหม่ย่านทองหล่อโดย ‘ฝาเบียร์ - สุชาดา...
Bars
#FindTheLockerRoom
แม้จะเป็นที่รู้จักจากรางวัลการันตีคุณภาพมากมายทั้งที่มอบให้ร้านและบาร์เทนเดอร์แต่ก็ยังยืนหนึ่งเรื่องการเป็น ‘บาร์ลับ’ อยู่ดี สำหรับ...
Bars
Falcon Secret Bar
ตอนที่ร้าน Marie Guimar (มารี กีร์มาร์) ร้านอาหารไทยบนชั้น 28 ของโรงแรม Wyndham Bangkok Queen Convention Centre เปิดใหม่ๆ...
แนะนำโรงแรมทั่วกรุงเทพฯ

Travel
Kimpton Kitalay Samui
ใครอยากหนีไปพักผ่อนเงียบๆ แต่ก็อยากเจอบรรยากาศมีชีวิตชีวาให้รู้สึกได้มาพักผ่อน เราว่าอาจจะชอบรีสอร์ทแห่งใหม่ Kimpton Kitalay Samui (คิมป์ตัน คีตาเล สมุย)...

Hotels
Capella Bangkok
โรงแรมคาเพลลา (Capella) แห่งแรกในประเทศไทยตั้งอยู่บนที่ดินผืนงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาบนถนนเจริญกรุง ให้บริการห้องพัก ห้องสวีท และวิลลา 101 ห้อง...

Hotels
W Bangkok
ถ้าจะบอกว่า W Bangkok คือหนึ่งในโรงแรมหรูที่เท่ที่สุด คูลที่สุด ฮิปที่สุดในกรุงเทพฯ ก็คงไม่ผิด ตั้งแต่สถานที่ใจกลางกรุงเทพฯ ณ แยกสาทร...

Hotels
Sindhorn Kempinski Hotel
สินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนเขียวชอุ่มของสินธรวิลเลจ ใกล้กับโรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok และห้าง Velaa เป็นโรงแรมเคมปินสกี้แห่งที่ 2...

Hotels
Kimpton Maa-Lai Bangkok
โรงแรมแห่งแรกจากแบรนด์ Kimpton ที่เข้ามาเจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและการผสมผสานกันอย่างลงตัวของทุกองค์ประกอบ...
Quick Meal: ดูคลิปเมนูทำง่ายจากร้านดังทั่วกรุงเทพฯ

Restaurants
พล่ากุ้งอบวุ้นเส้น
Time Out: Quick Meal คลิปนี้ ชวนเชฟเรณู หอมสมบัติ จากร้าน Saffron โรงแรม Banyan Tree กรุงเทพฯ หนึ่งในร้านอาหารที่ร่วมฉลองครบรอบ 25 ปีเบียร์ช้าง ในงาน Time Out...














