[title]
เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่พ่อลูกชาวจีนได้ค้าขายอยู่ที่ตึก Foojohn ในซอยเจริญกรุง 31 และเมื่อทั้งคู่ตัดสินใจเลิกกิจการ กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ก็ได้เข้าซื้อห้องแถว 5 ชั้นแสนคลาสสิคหลังนี้ก่อนถูกตกแต่งเสียใหม่ในสไตล์เรโทรให้กลายเป็นร้านอาหารและบาร์ในแบบ East-meets-West ชั้น 1 และ 2 ของร้านเสร็จสมบูรณ์แล้วในชื่อว่า Foudejoie ส่วนอีก 3 ชั้นข้างบนจะกลายเป็นบาร์เบียร์และร้านสเต๊กสไตล์อเมริกันแท้ๆ ในอีกไม่ช้าไม่นานนี้
เมื่อก้าวเข้าไปในร้าน Foudejoie เราจะเจอกับแสงไฟสลัวๆ กับบรรยากาศแบบย้อนยุคที่ชวนให้นึกถึงร้านอาหารสไตล์บิสโทรในฮ่องกงช่วงยุค 70's โดยตกแต่งด้วยกระจก ชุดโต๊ะเก้าอี้แบบร้านอาหารสมัยก่อน และโมเสกราวกับหลุดออกมาจากหนังของ หว่อง กาไว เลยทีเดียว
อาหารของน้านจะเป็นเมนูเบาๆ ในสไตล์ปารีส เช่น cured meat และชีส ที่เสิร์ฟมาบนเขียงไม้เหมาะกับการทานคู่กับไวน์ฝรั่งเศสชั้นยอด (เริ่มต้นที่แก้วละ 140 บาทเท่านั้น) รวมไปถึงเมนูเครปแบบฝรั่งเศสแท้ๆ อย่าง Parisienne (200 บาท) ที่มีทั้งแฮม ชีส ไข่ ก่อนโรยด้วยกุ้ยช่าย หรือจะลองเป็น Foie Gras (240 บาท) เนื้อสัมผัสเนียนๆ ของตับห่านกับลูกเกดรสชาติเข้มที่หมักในเหล้ามาแล้ว
ชั้นบนของร้านจะเป็นส่วนของบาร์ค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุค Prohibition ช่วงห้ามจำหน่ายเหล้าในอเมริกาช่วงปี 1920 ซึ่งบารืแห่งนี้ได้รับการดูแลโดยมิกโซโลจิสต์ชาวฝรั่งเศส Antoine Loubry ที่ได้นำสูตรค็อกเทลมาจากหนังสือค็อกเทลสุดคลาสสิค Savoy Cocktail Book เช่น 12Mile Limit ประกอบไปด้วย รัม เหล้าคอนยัค มะนาวและน้ำเชื่อมทับทิม (320 บาท) และ Satan Whiskers (จิน เวอร์มุธ น้ำส้ม และบิทเทอร์ส้ม 380 บาท) มาให้ลองกันอีกด้วย