ชีวิตหลังมงกุฎของ เมญ่า-นนธวรรณ ฌรรวนธร

หากพูดถึง เมญ่า-นนธวรรณ ฌรรวนธร ใครๆ ต้องนึกถึงสาวสวยผู้เปลี่ยนขนบความงามของนางงามไทย ด้วยการเป็นสาวไทยผิวสีแทนคนแรกที่ได้รับมงกุฎใหญ่อย่าง Miss Thailand World ในปี ค.ศ 2014 เวทีซึ่งเปิดประตูสู่การเป็นนางแบบ นักร้อง และนักแสดง ให้กับเธอ

หลังจากโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงไทยได้สักพัก เราก็ได้ข่าวดีจากเมญ่าอีกครั้ง สาวสวยตัดสินใจเข้าประตูวิวาห์กับ ฟิลลิป บรามาส นักธุรกิจชาวสวิตเซอร์แลนด์ ไปเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาท่ามกลางกลุ่มเพื่อนสนิท และตอนนี้กำลังสนุกกับบทบาทใหม่ในฐานะภรรยา และหุ้นส่วนร้านอาหาร Quince ร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เนียน/โมเดิร์นออสเตรเลียนในซอยสุขุมวิท 45 ที่เรานัดอัพเดทชีวิตกับเธอ

บทบาทใหม่ในแวดวงอาหาร

ถึงแม้จะมาจับงานด้านธุรกิจเป็นครั้งแรกในฐานะหุ้นส่วนร้านอาหาร Quince แต่เมญ่าบอกเราว่าอันที่จริงเนื้องานก็ไม่ได้แตกต่างจากงานสายบันเทิงหรือสายนางงามมากนัก เพราะยังเน้นการใช้คำพูดและทักษะในการสื่อสารเพื่อให้คนเข้าใจและรู้จักร้านมากขึ้น "[งานนี้]ใช้ความสามารถในการชอบขายของเบาๆ แต่หนูเป็นคนที่เห็นอะไรดีถึงจะพูด เรารู้ว่าจุดเด่นของร้านคืออะไร เราชอบอะไร และเราอยากพรีเซนต์อะไรให้คนมากิน" เมญ่ากล่าว

        อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่แตกต่างออกไปจากเดิมก็คือการได้พบปะกับคนใหม่ๆ และเปิดโลกการทำงานที่บังคับให้เธอต้องโตขึ้น เรียนรู้ความเปลี่ยนแปลงของเมนูในแต่ละฤดูกาล เทรนด์อาหารใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เช่นเทรนด์อาหารคลีนและออร์แกนิค ซึ่งมาญ่ายอมรับว่าเป็นความท้าทายใหม่ที่น่าตื่นเต้น "เมื่อก่อนเราไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้เลย แต่พอได้มาเป็นส่วนหนึ่งของร้าน ก็รู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนครอบครัวและชีวิตของคนได้จริงๆ"

สุขภาพที่ดีเริ่มที่อาหาร

"อาหารแตกต่างกันเพราะวัตถุดิบจริงๆ เวลาเลือกอาหารเข้าไปในร่างกาย เราจะรู้ได้เลยว่าวัตถุดิบดีหรือไม่ดี กินแล้วสบายตัวหรือไม่สบายตัว อยากให้คนมองเห็นมุมนี้มากขึ้น เพราะบางคนเลือกที่จะแบบ... 'ไม่เป็นไรหรอก พอให้กินไปวันๆ' จนลืมไปว่าอาหารที่กินเข้าไปเป็นอันตราย และส่งผลในระยะยาวได้" เมญ่ากล่าว

          "ก่อนหน้านี้เป็นคนชิลมาก พอมาคบกับคุณสามี... อาหารออร์แกนิคก็ดีเนอะ" เมญ่าเล่าถึงฟิลลิป สามี ซึ่งเป็น influencer ในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน พร้อมเล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ตอนมาที่ร้านครั้งแรกซึ่งเธอไม่เข้าใจว่าทำไมที่ร้านใช้หลอดกระดาษ "เราไม่เข้าใจเลยจนมาเห็นคลิปเต่าถูกหลอดพลาสติกเจาะจมูก ที่ร้านเลยจะไม่ใช้พลาสติกเลย จะใช้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ อาหารที่เหลือก็เอามาใช้เป็นปุ๋ยให้เกษตรกรต่อไป พยายามให้เป็น zero waste มากที่สุด"

อาหารใต้หรอยจังหู้

เมญ่าเป็นสาวใต้ เธอเกิดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงไม่แปลกที่อาหารใต้จะเป็นอาหารโปรดที่เธอทำกินเองบ่อยที่สุด โดยจานเด็ดคือคั่วกลิ้ง ที่สูตรของเธอจะไม่คั่วจนแห้งแต่เติมน้ำเล็กน้อย ซึ่งเมญ่าบอกว่าฟินสุดๆ เมื่อกินกับข้าวสวยร้อนๆ "โทรให้แม่ส่งเครื่องแกงมาให้หน่อย ทำอะไรก็ได้ถ้ามีเครื่องแกง สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือกะปิกับเครื่องแกงนี่แหละค่ะ" เมญ่าหัวเราะแถมยังบอกว่าไม่มีร้านอาหารใต้ในกรุงเทพฯ ร้านไหนที่โดนใจเธอจังๆ สักที

        "ชอบอาหารที่แม่ทำที่สุด... แกงปูใส่ฟักทองอร่อยมาก หนูยังอยากให้เขาทำร้านอาหารใต้เลย ในใจตอนนั้นคิดว่าถ้าต้องย้าย [ตามสามี] ไป [ทำงานที่] สเปนจริงๆ อยากไปเปิดร้านที่นั่น แต่เผ็ดจ๋าเขาไม่เข้าใจอีกแหละ แต่เราจะได้หายอยากไง" เมญ่าหัวเราะ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่มีแผนเปิดร้านจริงๆ เพราะฟิลลิปบอกว่าการทำร้านอาหารนั้นเหนื่อยมาก

ทางข้างหน้า

"ตอนนี้อยากทำโปรดักส์ของตัวเองที่เป็นออร์แกนิคค่ะ เคยมีปัญหากับฟิลลิปจนเกือบจะเลิกกันเพราะเขาอยากให้ใช้เครื่องสำอางออร์แกนิค... แล้วหนูจะไปหาที่ไหน" เมญ่าเล่าติดตลกถึงโปรเจ็กต์ในอนาคตที่อยากทำเครื่องสำอางออร์แกนิค โดยเฉพาะการทำเฉดสีที่เหมาะสมกับสาวผิวเข้มที่หาเครื่องสำอางถูกใจได้ยาก 

        ในส่วนของการตีกอล์ฟที่เมญ่าฝึกฝนอย่างจริงจังก่อนหน้านี้ เธออาจจะต้องหยุดพักไปก่อนเพราะปัญหาสุขภาพ แต่ถึงอย่างนั้นสาวคนเก่งคนนี้ก็แทบไม่มีว่าง เพราะตอนนี้เธอยังช่วยร้าน Quince Saigon ร้านสาขาใหม่ที่ประเทศเวียดนามซึ่งเพิ่งเปิดได้ 2-3 เดือน และร้าน Funky Lam ร้านอาหารไทย-ลาว ซึ่งจะเปิดบริการเร็วๆ นี้ โดยจะใช้พื้นที่ของคาเฟ่ Luca Moto เปิดเป็นร้านในช่วงเวลากลางคืน ... ใครที่เป็นแฟนของสาวเมญ่า ก็อดใจรออีกสักนิด แล้วแวะไปชิมอาหารที่ร้านของเธอได้เร็วๆ นี้