หลังจากแนะนำอาร์ตสเปซทั่วเมืองขอนแก่นไปแล้ว วันนี้เป็นคิวของคนนอนดึกที่ชอบออกไปนั่งปล่อยใจ จิบเครื่องดื่ม ฟังเพลงหรือพบปะผู้คนใหม่ๆ ในยามค่ำคืน เพราะเรามาพร้อมกับลิสต์บาร์ค็อกเทลที่ดีที่สุดในเมืองขอนแก่น ซึ่งมีอยู่ 5 ร้าน ถือว่าไม่มากไม่น้อย ถ้าใครแข็งแกร่งหน่อยก็สามารถตามเก็บให้ครบทุกร้านได้ในคืนเดียว
จากที่ได้ไปเยือนเองถึงที่ (ใช้เวลา 2 คืน) พบว่าหลายร้านเซอร์ไพรส์เรามาก ไม่ว่าจะด้วยเครื่องดื่มสุดสร้างสรรค์ คอนเซ็ปต์ม่วนๆ สไตล์อีสานซึ่งถูกใจเรามาก เพลงที่ถูกคัดมาอย่างมีรสนิยม การตกแต่งร้านแบบที่เห็นแล้วต้องให้ความสนใจก่อนเมนูเครื่องดื่มตรงหน้า หรือแม้แต่ความน่ารักเป็นกันเองของเจ้าของร้านและบาร์เทนเดอร์
ไม่ขอเกริ่นมากกว่านี้ เอาเป็นว่าเลื่อนไปอ่านรีวิวแต่ละร้านกันได้เลย แต่ก่อนอื่นขอฝากงาน Awakening Khonkaen กันอีกสักรอบ งานเราจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-10 กรกฎาคมนี้บน 15 โลเคชั่น ทั่วถนนศรีจันทร์ ย่านเก่าเมืองขอนแก่น ใครมีโอกาสไปเยือนขอนแก่นช่วงนั้นแวะไปเดินดูงานไฟสวยๆ แล้วฮอปปิ้งบาร์ต่อได้เลย
1. Realizegallery
ซอยเฉลิมพระเกียรติ ถนนศรีจันทร์

บาร์ค็อกเทลนอกโรงแรมที่แรกในเมืองขอนแก่นที่เพิ่งฉลองครบรอบ 10 ปีไปหมาดๆ เป็นอายุที่การันตีคุณภาพของบาร์แห่งนี้ได้โดยที่เราไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ที่มาของบาร์เริ่มจากการเป็นแกลเลอรี่ก่อนเพราะเจ้าของเป็นคนทำงานศิลปะ กระทั่งปรับตัวมาเปิดบาร์ก็ยังเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ ของคนทำงานศิลปะในจังหวัดขอนแก่นด้วย
หลังจากได้นั่งคุยกับเจ้าของร้านพร้อมกับจิบเครื่องดื่มและฟังดนตรี Lofi คลอไปด้วย เราไม่แปลกใจเลยที่ร้านอยู่ได้นานถึง 10 ปี และต้องยกให้เป็น hidden gem ของเมืองขอนแก่นเลยจริงๆ ด้วยองค์ประกอบทุกอย่างในร้านไม่ว่าจะเป็นความสร้างสรรค์ของค็อกเทล บรรยากาศภายในร้านที่เน้นความเงียบ (ถึงกับมีป้าย keep quite แปะอยู่ที่หน้าร้าน) ไม่ใช่เงียบกริบแบบห้ามคุยกัน แต่คือเงียบแบบไม่โฉงเฉงจนเกินน่ารัก รวมถึงพลังงานดีๆ จากเจ้าของร้านที่พร้อมเป็นเพื่อนคุยในยามค่ำคืนโดยเฉพาะเรื่องศิลปะ คุยกับพี่เขาได้ทั้งคืนเลยล่ะ

มาที่นี่ถ้าไม่ใช่คนอีสานอาจจะงงกับชื่อค็อกเทลซิกเนเจอร์ได้ เพราะหลายๆ แก้วจะใช้ชื่อภาษาอีสานเช่นเดียวกับคอนเซ็ปต์สุดสร้างสรรค์ที่ดึงเอาวัฒนธรรมอีสานมาเชกเป็นเครื่องดื่มเย็นๆ ให้เราดื่ม เช่น ‘คำเกิ้ง’ (280 บาท) ค็อกเทลรสเปรี้ยวหวานดื่มง่าย จากส่วนผสมของเหล้าโยเกิร์ต ลิเคียวองุ่นเคียวโฮและไวท์พีช ให้สัมผัสละมุนๆ เปรียบเหมือนแสงจันทร์ซึ่งคนอีสานเรียกว่า ‘อีเกิ้ง’ เสิร์ฟคู่กับมะม่วงอบแห้งและพริกเกลือ ในชุดชามเล็กๆ สไตล์ญี่ปุ่น ตอนดื่มต้องยกขึ้นจิบเหมือนชาวญี่ปุ่นจิบชา แต่ถ้าเรียกแบบคนอีสานก็คือ ‘หูบ’ เป็นกิมมิกน่ารักๆ ที่ทำให้เราเห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของเจ้าของร้าน

อีกแก้วคือ ‘สาวขอนแก่น’ (280 บาท) ค็อกเทลเบสแม่โขงรัมผสมไซรัปน้ำบ๊วยที่ต้มกับลูกโดด (พริกสด) เพื่อให้ได้รสเผ็ดนิดๆ และกลิ่นเขียวอ่อนๆ ตามด้วยไซรัปน้ำผึ้งมะนาว และน้ำเก๊กฮวยซึ่งเป็น game changer ในแก้วนี้ ทำให้ได้รสชาติคล้ายมะขามจี๊ดจ๊าดโดยไม่มีมะขามเป็นส่วนผสม ทำไมต้องเป็นมะขาม? ก็เพราะขอนแก่นที่เป็นชื่อจังหวัดนั้น ตามตำนานคือขอนของต้นมะขามนั่งเอง


แก้วสุดท้ายคือ ‘เต้ย’ (260) ที่ใช้เหล้ากาแฟผสมกับ fernet branca น้ำเชื่อม น้ำมะนาว และไข่ขาว แก้วนี้รสชาติเย็นๆ มีกลิ่นสมุนไพร สมัยก่อนผู้บ่าวอีสานจะจีบสาวด้วยกลอน หรือเรียกว่า ‘เต้ยสาว’ อาฟเตอร์เทสต์ของแก้วนี้จึงทิ้งความหวานติดปากเหมือนหนุ่มคารมดีปากหวานที่เที่ยวไปหยอดสาวบ้านโน้นทีบ้านนี้ที
Realizegallery เป็นบาร์ไซซ์กะทัดรัด รองรับได้ราว 20 ที่นั่ง ในร้านจะมีมุมแผ่นเสียงและบูธดีเจเล็กๆ ซึ่งเป็นร้านเดียวในลิสต์นี้ที่มีดีเจมาเล่นแผ่นเสียงให้เราฟัง แถมเพลงก็ดีซะด้วย ร้านเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.00 - 23.45 น. (เฉพาะวันพุธและวันเสาร์เปิด 18.00 น.)
2. Hidden Town
ถนนศรีจันทร์

หลังจาก Realizegallery บุกเบิกตลาดบาร์ค็อกเทลขอนแก่นในฐานะบาร์แรกที่เปิดนอกโรงแรม ประมาณ 5 ปีต่อมาขอนแก่นก็มี Hidden Town บาร์ค็อกเทลนอกโรงแรมอีกหนึ่งร้านที่มาพร้อมดนตรีแจ๊สเล่นสด
ความตั้งใจแรกของเจ้าของร้านคืออยากเปิดบาร์ในป่าลึกเพราะอยากให้เป็น Hidden Town สมชื่อร้านจริงๆ โดยเจ้าของร้านมีที่ดินริมแม่น้ำชีฟังดูบรรยากาศน่าจะดีใช้ได้เลย แต่ในแง่ธุรกิจ ที่ตั้งของร้านที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกก็เป็นเรื่องสำคัญ สุดท้ายเลยต้องเปลี่ยนไอเดียจากป่ามาอยู่กลางเมืองแทน

ถึงอย่างนั้นเจ้าของร้านก็ยังคงความเป็น Hidden Town ไว้อย่างชัดเจนด้วยการตกแต่งอันโดดเด่นแบบที่เห็นแล้วต้องให้ความสนใจก่อนเมนูเครื่องดื่มตรงหน้า เข้ามาในร้านแล้วเหมือนอยู่ในโรงละครวินเทจที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าอีกที . จะว่าไปข้าวของบางอย่างในร้านก็ไม่ได้เข้ากันสักเท่าไหร่ แต่พอมาอยู่รวมกันเรากลับไม่รู้สึกว่ามีอะไรเป็นสิ่งแปลกปลอม เหมือนเป็นเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่หลังประตูจริงๆ น่าเสียดายที่เราไปผิดช่วงไปหน่อย เพราะที่ร้านกำลังจะเปลี่ยนเมนูใหม่ยกเซ็ต แต่ที่ได้ชิมไป 2 แก้วก็ถูกคอเราเลยล่ะ แต่จะขอข้ามเรื่องดีเทลไปก่อนรอกลับไปชิมเมนูใหม่ช่วงงาน Awakening Khonkaen แล้วจะกลับมาอัปเดต


เอาจริงๆ จุดขายร้านนี้ก็ไม่ใช่เครื่องดื่มอยู่แล้ว แต่เป็นดนตรีแจ๊สที่เป็นแจ๊สจริงๆ และเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เปิดร้านจนถึงวันนี้ แม้กลุ่มคนฟังซึ่งเป็นลูกค้าของร้านด้วยจะมีน้อยเมื่อเทียบกับแนวดนตรีที่แมสกว่านี้ แต่เจ้าของร้านก็ยังชัดเจนในจุดยืนที่ต้องการเป็นแจ๊สบาร์ต่อไปและการที่มีแจ๊สแบนด์มาเล่นสดทุกคืนวันศุกร์และเสาร์ก็ยิ่งทำให้ร้านมีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจน
Hidden Town เปิดให้บริการทุกวันพุธ - วันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 18.00 - 00.00 น.
3. Pixel Bar & Gallery
ถนนศรีจันทร์

บาร์โทนสีขาวสะอาดตาดูมินิมัลแห่งนี้ อยู่ในโครงการ Hugz Mall ถนนศรีจันทร์ เปิดให้บริการเมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ถือว่าใหม่ใช้ได้ เป็นอีกหนึ่งบาร์ในเมืองขอนแก่นที่มาในพร้อมคอนเซ็ปต์สุดสร้างสรรค์นั่นคือการเป็นทั้งบาร์และแกลเลอรี่ในที่เดียวกัน
Pixel Bar & Gallery ต้อนรับเราด้วยทางเข้าร้านที่ตกแต่งเหมือนอาร์ตแกลเลอรี่สวยๆ มีงานประติมากรรมจำลองเทพเจ้ากรีกตั้งเด่นอยู่สุดทางเดิน ขนาบด้วยผนังสีขาวที่มีภาพวาดแนวแอบสแทร็กต์แขวนโชว์อยู่ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเป็นผลงานที่ทางร้านให้ศิลปินที่ชื่นชอบช่วยวาดขึ้นตามคาแร็กเตอร์ของค็อกเทลซิกเนเจอร์แต่ละแก้ว

แก้วที่เราลองชิมก็มี Sharp & Cloud (300 บาท) ค็อกเทลเข้มๆ พร้อมกลิ่นสโมก สำหรับคนชอบแนวสปิริต-ฟอร์เวิร์ด มีส่วนผสมหลักเป็นวิสกี้เบอร์เบินและคอนญัก ซึ่งศิลปินได้ถ่ายทอดแก้วนี้ออกมาเป็นภาพวาดคล้ายเกลียวคลื่นสีส้ม (สีคล้ายกับเครื่องดื่ม) แซมสีดำและเทาสื่อถึงความเข้มและเกรี้ยวกราดของเครื่องดื่ม

อีกแก้วคือ Warm-hearted (280 บาท) ค็อกเทลสีหวานตกแต่งด้วยดอกไม้กินได้แก้วนี้ใช้จินเป็นเบสและมีส่วนผสมของคาร์โมมายล์ ไซรัปเมเปิ้ลและบิตเทอร์ จับคู่กับภาพวาดสีสดใสฟุ้งๆ ซึ่งบ่งบอกรสชาติของแก้วนี้ได้เป็นอย่างดี หรือใครชอบแนวรีเฟรชชิงต้องลอง Soft Wind (250 บาท) แก้วนี้มาใสๆ สไตล์จินโทนิก ใช้จินอินฟิวส์ในเนียมเป็นเบส ตามด้วยไวน์ขาว น้ำแอปเปิ้ล ตกแต่งด้วยในเนียมสีเขียวสด มาพร้อมภาพวาดที่เน้นสีฟ้าน้ำทะเลสดใสเหมือนภาพมุมสูงของชายหาดสวยๆ สักที่หนึ่ง

สำหรับเราการจับคู่งานศิลปะกับค็อกเทลแบบนี้ถือเป็นไอเดียที่ดีมาก เพราะไม่ว่าจะสั่งแก้วไหนก็มีเรื่องให้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนร่วมโต๊ะหรือบาร์เทนเดอร์ได้หมด ตอบโจทย์เจ้าของร้านที่อยากให้ที่นี่เป็นทั้งบาร์และร้านที่ทุกคนเข้ามานั่งพูดคุยกัน ไม่จำเป็นต้องดื่มก็เข้ามาดูงานศิลปะมาฟังดนตรีได้ ซึ่งที่นี่มีดนตรีสดทุกคืน
Pixel Bar & Gallery เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 19.00 - 00.00 น.
4. The Gentle
ถนนดรุณสำราญ

ใครอินกับหนังเรื่อง King’s man ทั้ง 3 ภาค เราว่าคงนั่งแช่ในร้านนี้ได้ทั้งคืน เพราะเจ้าของร้านนี้ก็ชอบมากๆ จนนำมาเป็นคอนเซ็ปต์ของร้านแบบถอดมาจากหนังตั้งแต่หน้าร้าน การตกแต่งภายในไปจนถึงเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์เลย เริ่มจากหน้าร้านที่ตั้งใจออกแบบมาให้เหมือนห้องตัดสูท ไม่บอกก็ไม่มีใครรู้ว่าข้างในมีบาร์ซ่อนอยู่ แต่ถ้าหาทางเข้าร้านถูกโดยไม่งงแสดงว่าคุณเป็นลูกค้าประจำร้านนี้หรือไม่ก็ต้องเป็นแฟนหนังคิงส์แมนแน่ๆ

หลังประตูห้องตัดสูทคือบาร์มาดเท่ มีพนักงานในยูนิฟอร์มคอยบริการ หน้าบาร์มีเก้าอี้สีเขียววางเรียง ลึกเข้าไปหน่อยเป็นห้องไพรเวทสำหรับลูกค้าที่มา 6 คนขึ้นไป ผนังห้องนี้ตกแต่งด้วยอาวุธปืน (ปลอม) หลายขนาด แน่นอนว่าได้แรงบันดาลใจมาจากห้องคลังแสงในคิงส์แมน


ค็อกเทลที่เสิร์ฟในร้านตอนนี้เป็นเซ็ตที่ 3 อัปเดตตามภาคหนัง เราชิมมา 2 แก้ว ซึ่งเป็นเมนูที่ทางร้านสร้างสรรค์ขึ้นตาม 2 คาแร็กเตอร์ในคิงส์แมนภาคล่าสุด ได้แก่ Conrad เบสวอดก้า ผสมลิเคียวร์ 2 ตัวคือ Benedictine D.O.M และ Disaronno ตามด้วยความหอมหวานของไซรัปคุกกี้โฮมเมด ท็อปด้วยวิปปิ้งครีมและช็อกโกแลตขาวไข่เค็ม
ทั้งหมดสื่อถึงฉากฉลองวันเกิดของ Conrad ตัวละครสำคัญในภาค 3 ที่มีพ่อคอยปกป้องไม่ให้เจอกับเหตุการณ์เสี่ยงๆ เปรียบเสมือนนกในกรงจนกลายเป็นคนมีปม แก้วนี้จึงมีทั้งความละมุนละไมเหมือนความรักที่พ่อมีต่อลูกและรสชาติที่หนักแน่นที่เปรียบกับความมุ่งมั่นของชายหนุ่ม


อีกแก้วคือ Orlando Oxford ค็อกเทลที่เสิร์ฟมาพร้อมกับซาลามิเสียบไม้เบิร์นไฟจนได้กลิ่นหอม แก้วนี้เป็นตัวแทนของ Orlando Oxford พ่อของ Conrad เป็นคนชอบดื่มชา ถ้าใครเคยดูจะเห็นในบางฉากที่เขานั่งชิบชา ทางร้านเลยนำนำใบชาอู่หลงไปอินฟิวส์กับเหล้า และแต่งกลิ่นคาราเมลเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมหวานตามด้วยเอซิดเพื่อเพิ่มความเปรี้ยว นอกจากนี้ Orlando Oxford ยังเป็นคนหนักแน่น เข้มขรึม ตรงกับคาแร็กเตอร์ของค็อกเทลสปิริต-ฟอร์เวิร์ด
ภาพรวมเราว่าร้านนี้เหมาะกับคนที่ชอบนั่งบาร์ที่มีความพร็อพเพอร์ประมาณนึง และไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนหนังคิงส์แมนก็ได้ The Gentle เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 19.00 - 00.00 น.
5. หลงบาร์
ถนนกลางเมือง

บ้าน 3 ชั้นริมถนนกลางเมือง ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ ขอนแก่น ชั้นล่างคือร้านชางหลง ร้านอาหารจีนขึ้นชื่อของชาวขอนแก่นที่เปิดให้บริการได้ประมาณ 2 ปี ตอนถึงขอนแก่น มื้อแรกเจ้าถิ่นก็แนะนำเรามาฝากท้องที่ร้านนี้ซึ่งอร่อยดี ส่วนชั้น 3 คือ ‘หลงบาร์’ บาร์สไตล์โรงเตี๊ยมสีแดงร้อนแรง ซึ่งเปิดตามหลังร้านอาหารข้างล่างได้ไม่นาน
เจ้าของบาร์แห่งนี้เป็นคนขอนแก่นซึ่งไปอยู่ที่ออสเตรเลียมา 7 ปีและมีเพื่อนคนไทยซึ่งเป็นบาร์เมเนเจอร์อยู่ที่โน่นเลยชวนกันมาเปิดบาร์ ส่วนที่มาของธีมโรงเตี๊ยมเริ่มจากร้านอาหารชั้นล่าง โดยเจ้าของร้านอยากเปิดร้านอาหารแบบที่ยังไม่มีใครทำในเมืองขอนแก่นเลยนึกถึงร้านอาหารจีนที่ให้ลูกค้าเลือกได้ทั้งวัตถุดิบและวิธีการปรุง (แต่ถ้าขี้เกียจคิดก็มีเมนูให้จิ้มสั่ง) และจริงๆ แล้วบ้านหลังนี้ก็เคยเป็นภัตตาคารจีนมาก่อนชื่อ ‘ภัตตาคารสามหงวน’ บาร์เทนเดอร์เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนเศรษฐีจีนขอนแก่นชอบมากินข้าวที่นี่กัน


โต๊ะและเก้าอี้ไม้สีน้ำตาลเข้ม โคมไฟสีแดงและไหสุราสไตล์จีน ทำให้เรานึกถึงฉากโรงเตี๊ยมที่เห็นบ่อยๆ ในหนังจีนกำลังภายในขึ้นมาจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือที่ร้านจะเน้นใช้เหล้าจีนซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความแรง ตัวเด่นๆ ที่ร้านคือเหมาไถ 53 ดีกรี ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของเหล้าจีนยอดนิยม

เราตัดสินใจสั่งมาลองแค่อย่างเดียวคือ Blue Ocean (420 บาท) ค็อกเทลสีฟ้าน้ำทะเล รสหวานนำ ดื่มง่าย ใช้เหมาไถเป็นเบส เสิร์ฟมาในไหสีดำพร้อมแก้วช็อต 2 ใบ ได้อารมณ์โรงเตี๊ยมสุดๆ ไหเดียวดื่ม 2 คนกำลังดี ไม่จำเป็นและคิดว่าไม่ควรสั่งคนละไห เว้นแต่ว่าคืนนั้นอยากจะดื่มเพื่อลืมใคร
หลงบาร์ เปิดให้บริการทุกวันพุธ - จันทร์ ตั้งแต่เวลา 19.00 - 00.00 น.