Get us in your inbox

Suriyan Panomai

Suriyan Panomai

Senior Writer, Time Out Bangkok

นักเขียนที่ใช้งานเขียนพัฒนาตัวเองเพื่อพัฒนางานเขียน

Articles (152)

ชิลริมเจ้าพระยา ชิมของอร่อยใน 11 ร้านเด็ดที่ท่าพระจันทร์

ชิลริมเจ้าพระยา ชิมของอร่อยใน 11 ร้านเด็ดที่ท่าพระจันทร์

ชวนไปเดินลัดเลาะย่าน ‘ท่าพระจันทร์’ ที่นอกจากจะเป็นตลาดพระเครื่องที่โด่งดังมากแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ แล้ว ยังเป็นแหล่งรวมของกินอร่อยๆ อีกนับสิบร้าน ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ข้าวหน้าเนื้อ โรตีมะตะบะ หมูทอด ฯลฯ ที่สำคัญคือท่าเรือแห่งนี้อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตท่าพระจันทร์ ลูกค้าจำนวนไม่น้อยก็เป็นน้องๆ นักศึกษา เพราะฉะนั้นราคาจึงย่อมเยา ใครอยากชิมของอร่อย ราคาสบายกระเป๋า กับบรรยากาศดีๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตามเรามาได้เลย

นิทรรศการศิลปะห้ามพลาดตลอดเดือนนี้

นิทรรศการศิลปะห้ามพลาดตลอดเดือนนี้

ถึงเวลาอัปเดตนิทรรศการศิลปะน่าดูกันอีกครั้ง เผื่อเป็นไอเดียดีๆ ให้คนที่อยากจูงมือแม่ไปดูงานศิลปะด้วยกันช่วงวันแม่ที่จะถึงนี้ เดือนนี้เรามัดรวมนิทรรศการใหม่มาแนะนำทั้งหมด 13 งานด้วยกัน ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือ FLOCK OF... Discover the supernatural nature of floating fish นิทรรศการ interactive art ที่ใช้เทคโนโลยีสุดล้ำมาสร้างฝูงปลาให้แหวกว่ายกลางอากาศราวกับมีชีวิตที่ True Digital Park west รวมถึงงาน GroundPLAY! อีเวนต์ศิลปะออนกราวนด์ครั้งแรกของ GroundControl ที่ชวนทุกคนไปสนุกกับโลกศิลปะร่วมกับ 50 ศิลปินชื่อดังที่บ้านตรอกถั่วงอก   See also: รวมพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และแกลเลอรีย่านเจริญกรุง อีเวนต์และกิจกรรมน่าสนใจประจำสัปดาห์  

อัปเดตพิกัด 12 บาร์สุดคูลในย่านซอยนานา-เยาวราช

อัปเดตพิกัด 12 บาร์สุดคูลในย่านซอยนานา-เยาวราช

ย่านเยาวราชหรือไชน่าทาวน์ของเมืองไทย โดยเฉพาะซอยนานา ที่เราต้องแวะเวียนไปกินอาหารจีนและอาหารทะเลอร่อยๆ มากันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก กลายร่างกลายเป็นแอเรียสุดฮิปที่เรียงรายไปด้วยบาร์เจ๋งๆ ที่เราอยากชวนให้ทุกคนเปิดประตูเข้าไปนั่งสนทนากับบาร์เทนเดอร์ สั่งเครื่องดื่มที่ผสมผสานไอเดียสุดบรรเจิดและวัตถุดิบพิสดาร และจิบค็อกเทลนั้นท่ามกลางบรรยากาศสุดพิเศษ เคล้ากับบทสนทนากับคนสนิทยาวๆ ไปค่อนคืน ปล. ถ้าเมาแล้วอย่าขับรถกลับนะ

8 บาร์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ จาก Asia’s 50 Best Bars 2023

8 บาร์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ จาก Asia’s 50 Best Bars 2023

เปิดตี้กลางสัปดาห์กันไปเลย เพื่อฉลองบาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียประจำปีนี้ หรือ Asia’s 50 Best Bars 2023 ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ที่โรงแรมโรสวู้ด ฮ่องกง โดยปีนี้มี 4 บาร์จากกรุงเทพฯ ติดอันดับ 1-50 และอีก 4 บาร์ที่ติดอันดับ 51-100 กลายเป็น 8 บาร์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ณ ขณะนี้ และนี่คือทุกบาร์จากกรุงเทพฯ ที่ได้รางวัลในปีนี้

15 ร้านอาหารริมทางเจ้าเด็ดย่านบางลำพูที่ส่งต่อความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่น

15 ร้านอาหารริมทางเจ้าเด็ดย่านบางลำพูที่ส่งต่อความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่น

คนรุ่นใหม่อาจจะรู้จักบางลำพูในฐานะแหล่งรวมเสื้อผ้าโหล ชุดนักเรียน และเป็นย่านที่อยู่ติดกับถนนข้าวสาร แต่ถ้าเป็นเมื่อสมัยคุณย่าคุณยายเรา บางลำพูนี่ก็สยามสแควร์ดีๆ นี่เอง ย่านการค้านี้เติบโตขึ้นจากการค้าทางน้ำที่ขยายตัวหลายร้อยปีก่อนในช่วงที่มีการตัดคลองรอบกรุง บางลำพูกลายเป็นท่าน้ำขนถ่ายและแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนคร และยิ่งมีการตัดถนนเชื่อมจากถนนสามเสนในช่วงรัชกาลที่ 5 ความคึกคักของบางลำพูในฐานะศูนย์กลางการค้าของเกาะรัตนโกสินทร์ก็ขยายไปไม่หยุด ทุกวันนี้สถานะของบางลำพูคือย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ คนรุ่นใหม่อาจจะคุ้นเคยแถวนั้นบ้างจากการไปแฮงเอาต์ที่ถนนข้าวสาร แต่ถ้าถามคนรุ่นเก่าจะรู้ดีว่าบางลำพูเป็นแหล่งรวมของอร่อยไม่แพ้แหล่งสตรีตฟู้ดใหม่ๆ รอบกรุงเทพฯ หลายๆ ร้านขายกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ส่งต่อความอร่อยกันรุ่นต่อรุ่นจนถึงปัจจุบัน เชื่อเลยว่าถ้านับอายุแต่ละร้านรวมกันน่าจะแตะหลักพันปีไปแล้ว ถ้าไม่เด็ดจริงคงอยู่มาทุกยุคแบบนี้ไม่ได้ ถ้ายังไม่เชื่อเราขอท้าให้ไปพิสูจน์กับ 15 ร้านต่อไปนี้

ชวนสะพายกล้องออกตามล่า 'สตรีตอาร์ต' จุดไฮไลต์ทั่วกรุงเทพฯ

ชวนสะพายกล้องออกตามล่า 'สตรีตอาร์ต' จุดไฮไลต์ทั่วกรุงเทพฯ

เพราะ "ศิลปะคือการนอกกรอบ" ประโยคนี้เริ่มต้นมาจากใครก็ไม่แน่ใจนัก แต่เราเชื่อว่าเป็นคำอธิบายงานกราฟิตี้แนว street art ได้ดีทีเดียว จากเมื่อก่อนที่หลายคนมองว่าเป็นศิลปะที่เลอะเทอะ ไม่เป็นที่เป็นทาง แต่เมื่อศิลปินมีฝีมือเริ่มออกมาวาดกลางแจ้งกันมากขึ้น ซึ่งผลงานเหล่านั้นบางทีก็สะกิดความคิดบางอย่างในสังคมได้ดี ศิลปะแนวนี้จึงกลายเป็นที่ยอมรับ จนหลายประเทศจัดพื้นที่ขึ้นให้นักกราฟิตี้มาเพ้นต์ลวดลายได้ตามใจ แท้จริงแล้วเบื้องหลังการเกิดสตรีตอาร์ตมีความลึกซึ้งน่าสนใจไม่เบา โดยจุดเริ่มต้นครั้งแรกเกิดในช่วงปี 1920-1930 ที่เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ เมื่อมีแก๊งหนึ่งพ่นลายเซนต์ลงบนขบวนรถไฟ ก่อนจะมีกลุ่มอื่นทำตามกันมาเรื่อยๆ จนเรียกว่ากลายเป็นวัฒนธรรมหนึ่งก็คงไม่ผิด อีกทั้งช่วงปี 1970 ก็มีการล้มล้างวัฒนธรรมขึ้นด้วย วัยรุ่นในยุคนั้นจึงเริ่มใช้กราฟิตี้เป็นเครื่องมือในการแสดงออกทางสังคม อาจเพราะเหตุการณ์เหล่านั้นเอง ทำให้กราฟิตี้เริ่มมีบทบาทในสังคมโลกมากขึ้น และกลายเป็นศิลปะอีกสไตล์หนึ่งที่ให้มากกว่าความสวยงาม แน่นอนว่าสตรีตอาร์ตที่เราจะชวนทุกคนออกไปตามล่ากันวันนี้ ก็เป็นชิ้นงานที่น่าสนใจและมีเรื่องราวซ่อนอยู่ไม่แพ้กัน ส่วนจะมีที่ไหนบ้างมาเริ่มกันเลยดีกว่า...

12 บาร์ที่เหมาะกับการไปนั่งชิลในคืนฝนพรำ

12 บาร์ที่เหมาะกับการไปนั่งชิลในคืนฝนพรำ

ช่วงนี้กรุงเทพฯ ฝนตกถี่ๆ นอกจากจะทำให้น้ำท่วมแล้ว ผลข้างเคียงอีกหนึ่งอย่างที่มาพร้อมสายฝนก็คือบรรยากาศเหงาๆ เราเลยอยากชวนคนเหงาออกไปหาอะไรทำ ให้คืนที่ฝนพรำมีสีสันขึ้นมาหน่อย และนี่คือ 12 บาร์ที่เราว่าเหมาะกับการเข้าไปนั่งหลบฝน เลือกร้านที่ใช่แล้วออกไปนั่งฟังเพลงกลบเสียงฝนกันได้เลย

อัปเดตบาร์และร้านอาหารเปิดใหม่ในย่านทองหล่อ-เอกมัย

อัปเดตบาร์และร้านอาหารเปิดใหม่ในย่านทองหล่อ-เอกมัย

เราไม่แปลกใจว่าทุกครั้งเวลาเราหาร้านอาหารอร่อยๆ ร้านกาแฟน่ารัก หรือร้านเสื้อผ้าที่นำสมัย ทองหล่อมักจะเป็นคำตอบแรกของพวกเราเสมอ นั้นก็เพราะทองหล่อคือย่านแสนคึกคัก ที่มีทุกอย่างที่เราต้องการ ตั้งแต่ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิที่อร่อยที่สุด ร้านกาแฟน่านั่ง ไปจนถึง Cocktail Bar ที่ทุกคนไม่ควรพลาด

อัปเดตบาร์เปิดใหม่ในกรุงเทพฯ

อัปเดตบาร์เปิดใหม่ในกรุงเทพฯ

ต้อนรับครึ่งปีหลังของปี 2566 ด้วยลิสต์บาร์ใหม่ที่เราว่าน่าสนใจและอยากแนะนำให้เป็นที่แฮงเอาต์ใหม่ๆ ของทุกคน ซึ่ง 8 บาร์ที่ว่านี้มีตั้งแต่บาร์ค็อกเทลที่จริงจังเรื่องการคราฟต์เครื่องดื่ม คอนเซ็ปต์ชัดๆ ไปจนถึงร้านบรรยากาศสบายๆ แวะไปนั่งชิลๆ ได้ทุกวัน ใครชอบสไตล์ไหนแท็กชวนเพื่อนแล้วตามไปเช็กอินได้เลย (หรือจะเก็บให้ครบทุกร้านในลิสต์นี้เลยก็ได้นะ)

10 ร้านอาหารบรรยากาศดี สำหรับมื้อโรแมนติกช่วงกลางวัน

10 ร้านอาหารบรรยากาศดี สำหรับมื้อโรแมนติกช่วงกลางวัน

อาหารมื้อพิเศษในวันแห่งความรักก็ต้องนั่งกินในร้านที่บรรยากาศดีๆ มาช่วยเพิ่มความโรแมนติก ถึงจะเป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำ และจากร้านอาหารจำนวนมากทั่วกรุงเทพฯ นี่คือ 10 ร้านที่เราขอแนะนำว่าโรแมนติกและเหมาะกับการควงคู่ไปลันช์ในโอกาสพิเศษ

Payaq Gallery: ปัดฝุ่นบ้านเก่าแห่งความทรงจำวัยเด็ก สร้างคอมมูนิตี้ของคนรักศิลปะย่านตึกดิน

Payaq Gallery: ปัดฝุ่นบ้านเก่าแห่งความทรงจำวัยเด็ก สร้างคอมมูนิตี้ของคนรักศิลปะย่านตึกดิน

เมื่อก่อนถ้าผ่านไปแถวเสาชิงช้าถ้าไม่ไปมนต์นมสดก็จะแวะไปหาของกินแถวสามแพร่ง หรือถ้ามีเวลาก็จะไปทั้งสองที่เลย แต่ตอนนี้เห็นทีจะต้องเพิ่มการเดินเล่นในอาร์ตแกลเลอรี่เข้าไปอีกหนึ่งกิจกรรมแล้ว เพราะเพิ่งมีแกลเลอรี่เปิดใหม่ในตรอกตึกดิน ถนนดินสอ (ใกล้ๆ ศาลาว่าการ กทม.) เราแวะไปเยี่ยมมาวันก่อน บรรยากาศดีเลย มีทั้งแกลเลอรี่ บาร์และคาเฟ่เล็กๆ พอได้แฮงเอาต์ รวมถึงโซนเอาต์ดอร์สำหรับจัดอีเวนต์แนวศิลปะ เรียกว่าเป็นคอมมูนิตี้ย่อมๆ ของคนรักศิลปะในย่านนี้เลยก็ว่าได้ Payaq Gallery (พยัคฆ์ แกลเลอรี่) ชื่อที่ฟังดูทั้งไทยทั้งเท่ สะท้อนคาแร็กเตอร์ของแกลเลอรี่และผู้ก่อตั้งทั้ง 3 คนอย่างชัดเจน ได้แก่ คุณต้น - ศราวุฒิ ปิ่นทอง อาจารย์และสถาปนิก, คุณเติ้ล - ธีระยุทธ พืชเพ็ญ หรือ TRK ศิลปินสตรีตอาร์ต ที่มาต้อนรับเรา ส่วนอีกคนคือคุณยศพร จันทองจีน อาจารย์และอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ (เป็นเจ้าของโปรเจ็กต์จรจัดสรรด้วย) ซึ่งวันนั้นติดธุระ  โปรเจ็กต์เสือๆ ของพวกเขามีที่มาอย่างไรและมีอะไรน่าสนใจบ้าง คุณเติ้ลและคุณต้นจะเป็นคนเล่าให้เราฟัง   Photograph: Tanisorn Vongsoontorn     บ้านแห่งความทรงจำวัยเด็ก คุณต้นเริ่มเล่าว่าเดิมทีบ้านซึ่งเป็นที่ตั้งของแกลเลอรี่เป็นบ้านของเพื่อนที่อยู่กันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า อายุบ้านประมาณราวๆ 150 ปี ตระกูลของเพื่อนอาศัยอยู่ที่นี่มาตลอดจนคุณย่าของเพื่อนเสียจึงย้ายออกแล้วปิดบ้านไว้จนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลายี่สิบกว่าปีแล้ว ด้วยความที่สมัยเด็กๆ สนิทกับเพื่อนมาก ไปมาหาสู่กันเป็นประจำและแฮงเอาต์ที่นี่จนรู้สึกใกล้ชิดกับบ้านหลังนี้มาก พอเรียนจบแล้วได้กลับมาเจอเพื่อนอีกครั้งจึงเกิดไอเดียอยากปัดฝุ่นบ้านหลังนี้และทำอะไรสักอย่างร่วมกัน “รู้สึกว่าบ้านหลังนี้น่าจะทำอะไรได้ เพราะแถวนี้นักท่องเที่ยวก็เยอ

ชวนไปเช็กอินสตาร์บัคส์ 8 สาขาที่สวยที่สุดในกรุงเทพฯ

ชวนไปเช็กอินสตาร์บัคส์ 8 สาขาที่สวยที่สุดในกรุงเทพฯ

พอตกบ่ายหลายคนคงเริ่มมีอาการหนังตาหย่อนจนอยากออกไปนั่งจิบกาแฟสักแก้ว บ่ายนี้เราเลยอยากชวนออกไปสั่งเมนูโปรดที่ร้านกาแฟยอดนิยมอย่างสตาร์บัคส์ทั้ง 8 สาขาที่ถือว่ามีดีไซน์ร้านที่สุดที่สุดในกรุงเทพฯ งานนี้ถ้าไม่ตื่นด้วยกาแฟก็ต้องมีตื่นด้วยความสวยของร้านกันบ้างล่ะ!

Listings and reviews (529)

สวิงในสวน Swing in the Park 8

สวิงในสวน Swing in the Park 8

ใครพลาดกิจกรรมเต้นสวิงทั้ง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งที่หัวลำโพงและที่บ้านตรอกถั่วงอก (งาน GroundPLAY) เตรียมไปขยับแข้งขยับขาแก้ตัวกันได้ที่งาน Swing in the Park ครั้งที่ 8 ที่รอบนี้จัดที่สวนปทุมวนานุรักษ์ สวนเปิดใหม่ข้างเซ็นทรัลเวิลด์ ในงานพบกับเสียงดนตรีสวิงสนุกๆ ตลอดช่วงค่ำจากวงที่ทุกคนคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น วง The Stumbling Swingout, วง Lit It Up และ DJ Jib ใครเต้นไม่เป็นหรือไม่มีคู่ก็ไปได้เพราะในงานจะมีคลาสเรียนเต้นสวิงฟรีจาก Jelly Roll Dance Club ด้วย Swing in the park ครั้งที่ 8 จะจัดขึ้นในวันที่ 9 กันยายน 2566 เวลา 16.30 - 18.30 น. ที่สวนปทุมวนานุรักษ์ ข้างเซ็นทรัลเวิลด์ เข้าร่วมฟรี

A lion threw 41 zebra’s hearts to feed sharks under the apple trees by Walden lagoon

A lion threw 41 zebra’s hearts to feed sharks under the apple trees by Walden lagoon

นิทรรศการเดี่ยวโดย ‘เทอดเกียรติ หวังวัชรกุล’ ถ่ายทอดห้วงความรู้สึกถึงความรัก ความสัมพันธ์ของศิลปินและคนรักที่มีต่อกันในบริบทหลังการแยกทาง ศิลปินใช้สัญลักษณ์ภาพสิงโตแทนตัวของเขา และม้าลายคือคู่รักที่ได้แยกทางกัน ส่วนบึงวอลเดนเป็นที่จดจำไปทั่วโลกจากหนังสือเรื่อง " วอลเดน " โดย Henry David Thoreau ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้เขียนได้ไปใช้ชีวิตอย่างสงบ สันโดษ เพื่อสำรวจชีวิตตนเองควบคู่ไปกับการเฝ้าสังเกตปรากฏการณ์ธรรมชาติริมบึงวอลเดนนั้น ผลงานชุดนี้ศิลปินนำลูกบอลทรงกลมสร้างเทคนิคจุดเป็นรูปร่าง รูปทรงอย่างอิสระ และมีความสมบูรณ์ของปริมาตรที่น่าทึ่งด้วยการกดหมุนมือเป็นจังหวะหนักเบา และยังใช้เทคนิคเดียวกันกับการทำจุดแตกแขนงมาเป็นอีกแบบ ด้วยวิธีการนำลูกบอลนั้นลากเส้นอย่างรวดเร็วและในเส้นนั้นมีน้ำหนักแสงเงาในตัว ทำให้เกิดมิติลึกตื้นของภาพที่แปลกตา

Hakuna Matata

Hakuna Matata

นิทรรศการเดี่ยวครั้งที่ 4 โดยศิลปิน ณัฐิวุฒิ ชูมะโนวัฒน์ จากความประทับใจความครื้นเครง ของเพลง “ฮาคูน่า มาทาท่า” ในภาพยนตร์ The Lion King นำซึ่งการขยับมุมมองของ ณัฐิวุฒิ ออกมานอกห้องทำงานศิลปะที่เคยจดจ่อเเละคร่ำเคร่ง และได้สนใจกับเรื่องราวชวนให้อมยิ้มรอบ ๆ ตัว

Conversation of flowers

Conversation of flowers

นิทรรศการโดย 13 ศิลปิน ได้แก่ กัญญา เจริญศุภกุล, กิ่งกาญ สุนทรชื่น, ชัชวาลย์ วรรณโพธิ์, ญาณวิทย์ กุญแจทอง, ฑีฆวุฒิ บุญวิจิตร, ทินกร กาษรสุวรรณ, ธรรมนูญ เรืองสวัสดิ์, ปริญญา ตันติสุข, ปาริชาติ ศุภพันธ์, พิษณุ ศุภนิมิตร, ฤทัยรัตน์ คำศรีจันทร์, วิชญ มุกดามณี และ อำนาจ คงวารี ร่วมกันจัดแสดงผลงานศิลปะที่ว่าด้วยดอกไม้ อันเป็นภาพสะท้อนของสุนทรียภาพและความงาม แต่ขณะเดียวกันก็ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของศิลปินแต่ละท่านด้วยแนวคิดและเทคนิคการสร้างสรรค์ที่หลากหลาย ดอกไม้ที่ปรากฎในนิทรรศการนี้จึงไม่ใช่เพียงการนำเสนอภาพดอกไม้เท่านั้น หากแต่เป็นการสะท้อนถึงชีวิต ประสบการณ์ ความนึกคิด และความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในอันแฝงไปด้วยสัญญะทางความหมายไว้มากมาย ให้ผู้ชมงานได้สัมผัส ตีความ และร่วมสนทนาไปกับมัน

Solitude

Solitude

นิทรรศการที่ว่าด้วยการตามหาเศษเสี้ยวของตัวตนที่ร่วงหล่น ผ่านการท่องไปในทัศนียภาพแสนโดดเดี่ยว เพื่อชักชวนให้เราออกสำรวจ โอบกอด และเยียวยาจิตใจอันเปราะบาง ให้หันกลับมารักและเห็นค่าตนเองอีกครั้ง กับผลงานชุดล่าสุดของ Chubbynida (ชนิดา อารีวัฒนสมบัติ) ศิลปินนักวาดภาพประกอบผู้โดดเด่นด้วยคาแร็กเตอร์หญิงสาวตากลมอันเป็นเอกลักษณ์ ที่จะทำให้หัวใจคุณอบอุ่น และเต็มเปี่ยมด้วยความรัก

Mother’s Day dancing fountain show at Benchasiri Park

Mother’s Day dancing fountain show at Benchasiri Park

วันแม่ปีนี้ กทม. จับมือกับ ททท. และภาคีภาครัฐ-ภาคเอกชนกว่า 50 องค์กร จัดการแสดงม่านน้ำ-น้ำพุฉลองวันแม่กลางอุทยานเบญจสิริ เปิดให้เข้าชมฟรีตลอดเดือนสิงหาคมนี้ การแสดงม่านน้ำ-น้ำพุชุด ‘แม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงพระมหากรุณาธิคุณ’ เป็นการแสดงม่านน้ำและน้ำพุดนตรี ประกอบแสง สี เสียง ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 91 พรรษา ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมการแสดงม่านน้ำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย วันละ 3 รอบ เวลา 19:00 น. / 20:00 น. / 21:00 น. ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2566 – 31 สิงหาคม 2566 ที่อุทยานเบญจสิริ ถนนสุขุมวิท  View this post on Instagram A post shared by Emporium_Emquartier (@emporium_emquartier)

FLOCK OF... Discover the supernatural nature of floating fish

FLOCK OF... Discover the supernatural nature of floating fish

4 out of 5 stars

ฝูงปลาที่กำลังแหวกว่ายกลางอากาศในห้องนี้ ดูเผินๆ อาจจะคล้ายลูกโป่งปลาลอยได้ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วปลาทุกตัวคืองานศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี Immersive Art สุดล้ำ ในนิทรรศการ FLOCK OF... Discover the supernatural nature of floating fish ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ ทรู ดิจิทัล พาร์ค และ bit.studio บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีอินเทอร์แอ็กทีฟชั้นนำของไทย  FLOCK OF... Discover the supernatural nature of floating fish สร้างดินแดนที่หลอมรวมระหว่างความเป็นจริงและจินตนาการ เปลี่ยนฝูงปลาใต้น้ำขึ้นมาโบยบินกลางอากาศราวฝูงนก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างกันในธรรมชาติที่แม้เต็มไปด้วยความแตกต่าง แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยการปรับตัว เทคโนโลยี Immersive Art ที่ทำให้ปลาแหวกว่ายในอากาศได้ มีทั้งซอฟต์แวร์ในการควบคุมอิเล็กทรอนิกส์และเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อเข้ากับเซิร์ฟเวอร์ เพื่อใช้ควบคุมปลาให้เคลื่อนไหวไปตามจุดที่กำหนด เทคโนโลยีที่ทำให้ปลาแต่ละตัวสามารถรับรู้ตำแหน่งของปลาตัวอื่นๆ เลียนแบบพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันในธรรมชาติ และเทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์หลายชนิดเข้าด้วยกัน เป็นต้น ผลงานฝูงปลานี้ถูกจัดแสดงในห้องโล่งกว้างขนาดใหญ่ พร้อมฉายภาพและแสงไปทั่วทุกมุมห้อง คนดูสามารถมีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์กับผลงานได้อย่างอิสระ เหมือนหลุดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโลกเหนือจินตนาการที่ทุกอย่างเป็นไปได้ FLOCK OF... Discover the supernatural nature of floating fish เปิดให้เข้าชมจนถึงวันที่ 15 กันยายนนี้ โดยวันจันทร์ – ศุกร์ เปิดให้เข้าชม 2 รอบ เวลา 12.00-13.00 น. และ 18.00-19.00 น. ส่วนวันเสาร์ - อาทิตย์ เปิดให้เข้าชม 3 รอบ เวลา 11.00-12.00 น., 14.30-15.30 น. และ 17.30-18.30 น. ณ ทรู ดิจิทัล

Stage Fright

Stage Fright

ผลงานล่าสุดของศิลปิน ‘วันทยา ธิติไพศาล’ เป็นคอลเล็กชั่นงานศิลปะที่แฝงข้อคิดสำคัญ ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความพิถีพิถันตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งปี ผลงานชุดนี้ดำดิ่งลงไปที่ความซับซ้อนอันลึกซึ้งของความคลุมเครือ และการต่อรองเพื่อตนเอง (self-negotiation) ในการสํารวจผลกระทบของความเป็นส่วนตัวในความสัมพันธ์ของมนุษย์ ศิลปินสามารถเบลอเส้นแบ่งระหว่างการเปิดเผยต่อสาธารณะ กับการปิดบังสิ่งที่คิดอยู่ในใจได้อย่างเชี่ยวชาญ เนื้อหาของ Stage Fright พูดรวม ๆ ถึงความซับซ้อนในแต่ละวันที่พวกเราโต้ตอบกัน ไล่ตั้งแต่การนินทาและข่าวลือ จนถึงตํานานเรื่องเล่า โครงสร้างทางสังคม คุณธรรม เพื่อให้เราได้ไตร่ตรองถึงสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป จนอาจนำไปสู่การสํานึกผิดและการกลับใจในที่สุด ผลงานในคอลเลกชันนี้สัมผัสได้ถึงความเป็นแนวคิดหลังสมัยใหม่ (postmodern) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ สถานที่ และประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวัน

Coco Lima

Coco Lima

3 out of 5 stars

Coco Lima คือร้านอาหารฟิวชั่นสเปน-เม็กซิโกที่เรายกให้เป็นตัวจี๊ดย่านรองเมือง เพราะเขาจี๊ดจ๊าดจริงตั้งแต่การตกแต่งร้านไปจนถึงรสชาติอาหารที่ถือว่าสอบผ่านโจทย์ยากอย่างการทำร้านอาหารสเปน-เม็กซิโกให้แตกต่างได้ ที่มาของร้านเริ่มจาก ‘คุณภูมิ-ภูริลาภ เอื้อมมงคล’ เจ้าของร้านซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วน Blue Dye ติดใจรสชาติอาหารสเปน-เม็กซิโก รวมถึงสไตล์ของร้านตั้งแต่ตอนใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา พอกลับมา จะหากินในกรุงเทพฯ ก็ไม่เจอร้านถูกใจ บวกกับช่วงนี้รู้สึกว่าอาหารสเปน-เม็กซิโกกำลังได้รับความนิยม เลยตัดสินใจเปิดร้านเองและตั้งชื่อว่า Coco Lima เพราะ ‘มะพร้าว’ กับ ‘มะนาว’ คือ 2 วัตถุดิบที่เปรียบเสมือนหัวใจของอาหารสเปน-เม็กซิโก ร้านตั้งอยู่ในโรงแรมซาแปง (Hotel Sapin) อีกหนึ่งธุรกิจใหม่เอี่ยมของคุณภูมิ แต่ตั้งใจออกแบบทั้ง 2 ส่วนให้แตกต่างกัน เพราะอยากให้คนรู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารของโรงแรม ซึ่งจะเฟรนด์ลี่มากกว่าสำหรับบางคน โดยโรงแรมจะเป็นดีไซน์โฮเทลสไตล์เรียบๆ ใช้สีน้อยๆ เน้นตกแต่งด้วยวัสดุอย่างเหล็กกับสเตนเลสเป็นหลัก ส่วนร้านอาหารจะใช้สีสันจัดเต็มกว่าควบคู่กับการใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ ผ้า หนัง หิน เป็นต้น แรงบันดาลใจในการออกแบบและตกแต่งร้าน มาจากภาพวาดคัลเลอร์ฟูลภาพหนึ่งที่คุณภูมิไปเจอในร้านอาหารสเปน-เม็กซิกันที่อเมริกาแล้วชอบ เลยโยนโจทย์ไปให้เพื่อนดีไซเนอร์อย่าง Charif Lona จาก Studio Act of Kindness ที่ถนัดงานสไตล์คอนเทมโพรารีและสามารถจับคู่สีกับแมททีเรียลได้ดี ผลงานเลยออกมาสนุกและมีชีวิตชีวาอย่างที่เห็น อาหารสเปน-เม็กซิโก เวอร์ชั่น Coco Lima จะถูกทวิสต์ให้ถูกปากคนไทยมากขึ้นด้วยวัตถุดิบฝั่งเอเชียทั้งไทย ญี่ปุ่น เกาหลี ทำออกมารสชาติดี จัดจ้านขึ้น ไม่เลี่ยน และไม่หนีจากต้นตำรับจนเกินไป ม

The 126 Bar

The 126 Bar

3 out of 5 stars

ปาร์ตี้กับใครที่ไหนจะไปสนุกและเต็มที่ได้เท่าปาร์ตี้ที่บ้านกับกลุ่มเพื่อนรักล่ะ จริงไหม? เรื่องนี้เราว่า ‘ดรีม-แพรวพิสุทธิ์ ชินศักดิ์ชัย’ เจ้าของบาร์ใหม่ย่านทองหล่อ เห็นด้วยกว่าใคร เพราะร้านของเขามีจุดเริ่มต้นมาจากวงปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ที่ใช้พื้นที่ห้องคอนโดของเขาเป็นจุดนัดพบ และห้องนั้นคือห้องเลขที่ 126 ซึ่งเขานำมาตั้งเป็นชื่อบาร์ ความสนุกจากการร่วมวงดื่มกับเพื่อนๆ พัฒนาไปเป็นความหลงใหลในศาสตร์การทำเครื่องดื่ม จนอยากเป็นเจ้าของบาร์ เริ่มต้นจากตอนที่ดรีมไปเรียนต่อต่างประเทศและได้ลองทำงานด้านนี้ในร้านอาหาร พอรู้ตัวว่าชอบจริงๆ ก็เลยต่อยอดประสบการณ์ด้วยการไปเรียนทำเครื่องดื่มจริงจัง ก่อนบินกลับมาเปิดบาร์ที่นี่ The 126 Bar ซ่อนอยู่ที่ชั้นแรกของ Thonglor Tower (อาคาร B) หลังประตูไม้ที่ดูไม่น่าจะใช่ทางเข้าบาร์คือบาร์บรรยากาศอบอุ่น ตกแต่งสไตล์โฮมมี่ คุมโทนสีน้ำตาลเข้มโดยใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก แล้วเติมรายละเอียดด้วยชั้นวางของ หนังสือ กรอบรูป โคมไฟ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็น ‘บ้านเพื่อน’ ที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับเราเสมอ ตอนนี้ซิกเนเจอร์ค็อกเทลของร้าน มีทั้งหมด 10 แก้ว แต่ละแก้วได้แรงบันดาลใจมาจากคาแร็กเตอร์ของเพื่อนที่เคยไปปาร์ตี้ที่ห้อง 126 ของดรีม (กลุ่มใหญ่น่าดู) และทุกแก้วถูกเคาะมาแล้วว่าชงออกมาได้ตรงตามคาแร็กเตอร์เป๊ะ แก้วที่ดรีมแนะนำเรา ได้แก่ Trinkanzen (380 บาท) เพื่อนคนนี้ชื่อ ‘ทริน’ ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่น ชอบกินอาหารญี่ปุ่น ดรีมจึงอยากนำเสนอความเป็นญี่ปุ่น ส่วนผสมหลักของแก้วนี้เลยเป็นวิสกี้ญี่ปุ่นและยูสุสาเก Flirty Freya (320 บาท) จากคาแร็กเตอร์ของเพื่อนชื่อ ‘เฟรย่า’ สาวสวยที่ซ่อนความแรงและซ่า แก้วนี้ดรีมใช้เหล้าผลไม้ 4 ชนิด คือ เหล้าราสป์เบอร์รี่ เหล้าลิ้นจี่ เหล้าพีช เหล้าเสาวรส และเ

Gaze Cocktail Bar

Gaze Cocktail Bar

3 out of 5 stars

ชวนไปสัมผัสบรรยากาศของการนั่งดูดาวบนยอดเขาที่ Gaze Cocktail Bar บาร์ย่านทองหล่อที่ตกแต่งร้านด้วยไฟระยิบระยับราวแสงดาวและเสิร์ฟค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความเชื่อ เรื่องเล่า หรือตำนานเกี่ยวกับดวงดาวในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก Gaze หมายถึงการจ้องมอง ในที่นี้ก็คือการดูดาว (Stargazing) นั่นเอง และสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการดูดาวก็คือบนยอดเขาที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ การตกแต่งของบาร์แห่งนี้เลยเน้นใช้วัสดุที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติมากที่สุด โดยเฉพาะโซนบาร์ที่ตกแต่งด้วยแผ่นหินจำลองขนาดใหญ่ มองขึ้นไปบนเพดานก็จะเห็นแสงระยิบระยับราวกับดวงดาวกำลังสุกสว่างบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ใครตาดีหน่อยก็อาจจะเห็นดาวตกที่ร้านจำลองมาเป็นกิมมิกน่ารักๆ ด้วย แต่เราจะไม่บอกว่าอยู่ตรงไหน ให้ไปลองมองหากันเอง ด้านหลังบาร์คือจอที่ใช้ฉายภาพสถานที่ต่างๆ ที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว มองไป จิบเครื่องดื่มไปก็เพลินดีเหมือนกัน พูดถึงเครื่องดื่ม อย่างที่บอกว่าซิกเนเจอร์ค็อกเทลของ Gaze Cocktail Bar รังสรรค์ขึ้นตามการตีความความเชื่อ เรื่องเล่า หรือตำนานเกี่ยวกับดวงดาวในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก มีตั้งแต่ทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ไปจนถึงอียิปต์ ฯลฯ ทุกแก้วจะถูกเสิร์ฟมาพร้อมเรื่องเล่าจากบนฟากฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเชื่อมโยงคนดื่มกับเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดี ส่วนเมนูเครื่องดื่มจะมาพร้อมไฟฉายแบล็กไลต์ ดูแบบปกติจะเห็นแค่ชื่อค็อกเทล ส่วนผสม ราคา และลวดลายที่เกี่ยวข้องกับค็อกเทลแต่ละแก้ว แต่ถ้าใช้ไฟฉายแบล็กไลต์ส่องลายเส้นของเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ก็จะปรากฎขึ้นมา เป็นอีกหนึ่งลูกเล่นของร้าน ซิกเนเจอร์ค็อกเทล 3 แก้วที่อยากแนะนำคือ Golden Horn (380 บาท) ตีความเรื่องราวของกลุ่มดาววัว (Taurus) ที่เชื่อมโยงกับมีตำนานเทพเจ้ากรีกโดยมีต

Each Other's

Each Other's

แจกันและดอกไม้คือหนึ่งในของตกแต่งสามัญประจำบ้าน แต่เราเคยตั้งคำถามถึงความหมายของมันที่มากกว่าความสวยงามหรือไม่? นิทรรศการ Each Other’s (กันและกัน) ชวนเราตั้งคำถามต่อสิ่งใกล้ตัวนี้ผ่านการจัดแสดงผลงาน installation arts ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง 12 นักสร้างสรรค์และ 12 ศิลปินดอกไม้จาก Grains & Grams โดยนักสร้างสรรค์จะทำหน้าที่สร้างภาชนะขึ้นมาสำหรับดอกไม้ ในขณะที่ศิลปินดอกไม้ได้รับเชิญมาเติมเต็มชีวิตให้กับความว่างเปล่าภายในภาชนะ ฝั่งนักสร้างสรรค์ ประกอบด้วย ชานนท์ นครสังข์, ฉัตตกาญจน์ วงษ์ศิริ, โม จิรชัยสกุล, ภาคภูมิ (นานุ) ยุทธนานุกร, ณัฏฐา เจริญพานิช, o-d-a, ภาคภูมิ วิทยวรการ, พิชาญ สุจริตสาธิต, ฤดี ตันเจริญ, สุมนัสยา โวหาร, ธีรพจน์ ธีโรภาส และต่อลาภ ลาภเจริญสุข ส่วนฝั่งศิลปินดอกไม้ ประกอบด้วย 1000 Malai, Blue in green, Bonne, Eric Tobua, Mala, นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์, Phka, Pollen Season, Triss, Vétiver, Wake up in the garden และ You said no flowers ผลงานสร้างสรรค์ในนิทรรศการนี้พยายามที่จะเปิดเผยแก่นแท้ภายในวัตถุและความสัมพันธ์ระหว่างภายนอกและภายในสื่อถึงนิยามของ ‘ภาชนะ’ ที่มากกว่าการเป็นเพียงวัตถุ เพราะมันยังเป็นที่บรรจุ อารมณ์ เรื่องเล่า และประสบการณ์ของมนุษย์ เช่นเดียวกับหน้าหนังสือที่ทำหน้าที่บรรจุตัวอักษรเพื่อจุดประกายจินตนาการของเรา ภายใต้โจทย์ที่ได้แรงบันดาลใจจากคำพูดของ Jonathan Callan ศิลปินชาวอังกฤษผู้เชื่อว่าธรรมชาติที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ อยู่ใต้พื้นผิว ขณะที่ ‘ดอกไม้’ มักถูกมองว่าเป็นองค์ประกอบในการตกแต่งเพื่อความสวยงามหรือมอบสำหรับโอกาสพิเศษ แต่ในนิทรรศการนี้ ศิลปินสนใจที่จะสำรวจการจัดดอกไม้ในฐานะศิลปะแขนงหนึ่ง ที่สามารถแสดงถึงเอกลักษณ์ของศิลปินแต่ละคนได้ไม่

News (433)

ชวนดู Waterfall ละครเวทีเรื่องใหม่ ได้แรงบันดาลใจจาก ‘ข้างหลังภาพ’ นำโดย 3 นักแสดงบรอดเวย์

ชวนดู Waterfall ละครเวทีเรื่องใหม่ ได้แรงบันดาลใจจาก ‘ข้างหลังภาพ’ นำโดย 3 นักแสดงบรอดเวย์

คอละครเวทีเตรียมพบกับมิวสิคัลเรื่องใหม่ Waterfall a new musical ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งแรกของยอดฝีมือจากบรอดเวย์และทีมงานละครเวทีไทย นำโดย บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ Waterfall a new musical คือละครเพลงอินเตอร์เรื่องใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจาก “ข้างหลังภาพ เดอะ มิวสิคัล” ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์คุกรุ่นอันนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930 ตัวละครหลักของเรื่องชื่อ ‘แคทเธอรีน’ หญิงสาวชาวอเมริกัน คู่หมั้นต่างชาติของรัฐมนตรีไทย และ ‘นพพร’ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ทั้งคู่ต้องก้าวผ่านแรงปรารถนาของกันและกัน รวมถึงอคติทางชาติพันธุ์มากมาย ก่อนเผชิญความแตกต่างหลากหลายมิติจากสังคมที่กำลังแปรเปลี่ยนรูปไป โดยมีฉากหลังเป็นสยามประเทศ ตัดสลับกับญี่ปุ่นในยุคสมัยที่กระแสวัฒนธรรมตะวันตกแทรกซึมเข้ามาอย่างถึงขีดสุด ก่อนหน้านี้ Waterfall The Musical เคยแสดงที่สหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2558 นำแสดงโดย บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว แต่เวอร์ชั่นที่จะทำการแสดงในไทยเป็นครั้งแรกนี้ จะมีการปรับเปลี่ยนทั้งบทและเพลง รวมถึงนักแสดงนำที่มาจากบรอดเวย์ จึงใช้ชื่อว่า Waterfall a new musical Waterfall a new musical กำกับการแสดงโดย ถกลเกียรติ วีรวรรณ และนำแสดงโดยนักแสดงละครเวทีระดับโลก ได้แก่ Josh Dela Cruz, Danielle Hope และ Jon Jon Briones ร่วมกับ Richard Maltby Jr.  นักเขียนบทละครเวทีและนักประพันธ์เพลงชาวอเมริกา และ David Shire  นักแต่งดนตรีและเพลงชื่อดังชาวอเมริกา เปิดแสดง 13 กันยายน - 1 ตุลาคมนี้ จำนวน 20 รอบการแสดง ณ เมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ เปิดขายบัตรแล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ thaiticketmajor หรือ เคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา (ทุกรอบการแสดงมีคำบรรยายภาษาไทยประกอบการแสดง)

เทศกาลไฟประจำปีกรุงเทพฯ Awakening Bangkok 2023 เตรียมกลับมาในโลเคชันใหม่ 'พระนคร-ปากคลองตลาด'

เทศกาลไฟประจำปีกรุงเทพฯ Awakening Bangkok 2023 เตรียมกลับมาในโลเคชันใหม่ 'พระนคร-ปากคลองตลาด'

เตรียมตัวไปเดินชมงานไฟรับลม (น่าจะหนาว) กันอีกครั้งในงาน Awakening Bangkok 2023 งานไฟประจำปีของกรุงเทพฯ โดย Time Out Bangkok ที่กำลังจะกลับมาอีกครั้งปลายปีนี้ — ซึ่งพิเศษกว่าทุกครั้งคือเราจะย้ายโลเคชันจัดงานจากย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย พาทุกคนเปลี่ยนบรรยากาศไปย่านใหม่ ‘พระนคร-ปากคลองตลาด’ กัน Awakening Bangkok 2023 มาในคอนเซ็ปต์ ‘Time Passage - ทางของเวลา’ ที่สะท้อนภาพเมืองเก่าพระนคร ย่านที่เกิดขึ้นและเติบโตขึ้นพร้อมๆ กับเครือข่ายทางถนนและคลองช่วงต้นรัตนโกสินทร์เพื่อลำเลียงผู้คน สิ่งของ ม้า ช้าง และผี และเส้นทางเหล่านี้ไม่เคยหยุดทำหน้าที่เลยตลอดกว่าสองร้อยปีที่ผ่านมา ยังคงทักทายผู้คน รองรับรถรา และนำเงินตรา ความเจริญ และความทันสมัยเข้ามา — และปีนี้เราจะพางานศิลปะแสงไฟไปทักทายเส้นทางของเวลาที่เชื่อมอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เหล่านี้กัน เตรียมออกไปสำรวจย่านเก่า โลเคชั่นใหม่ พวกเราที่ Awakening Bangkok 2023 ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้

BKK Social Club ติดท็อป 3 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียจาก Asia’s 50 Best Bars 2023 ส่วนแชมป์ปีนี้ยังเป็นของ Coa จากฮ่องกง

BKK Social Club ติดท็อป 3 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียจาก Asia’s 50 Best Bars 2023 ส่วนแชมป์ปีนี้ยังเป็นของ Coa จากฮ่องกง

Asia’s 50 best bars 2023 ประกาศผลแล้ว ตำแหน่งบาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียปีนี้ตกเป็นของแชมป์เก่าจากฮ่องกงอย่าง Coa มงลง 3 ปีซ้อน (2021-2023) ไปเลย ส่วนบาร์จากกรุงเทพฯ ปีนี้ติดอับดับ 1-50 รวมทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ 🥃 BKK Social Club อันดับ 3 ขยับจากอันดับ 10 ของปีก่อนขึ้นมาเป็นอันดับสูงสุดของบาร์จากกรุงเทพฯ ในปีนี้ 🥃 Tropic City ติดอันดับที่ 6 ก้าวกระโดดขึ้นมาจากอันดับ 17 เมื่อปีที่ผ่านมา 🥃 Vesper ติดอันดับที่ 12 ขยับขึ้นมาจากอันดับ 19 เมื่อปีที่ผ่านมา 🥃 Mahaniyom Cocktail Bar - มหานิยมค็อกเทลบาร์ ที่มีชื่อติดอันดับเป็นครั้งแรกในอันดับที่ 22 พ่วงด้วยตำแหน่งบาร์เปิดใหม่ที่ดีที่สุดจาก London Essence โดยเป็นบาร์ที่เพิ่งเปิดเพียง 18 เดือนเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมี 4 บาร์จากกรุงเทพฯ ที่ติดอันดับ 51-100 จากการประกาศผลเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้แก่ Opium อันดับ 59, #Findthelockerroom อันดับ 78, Asia Today อันดับ 68 และ The Loft อันดับ 99 สำหรับ Asia’s 50 Best Bars คือการจัดอันดับบาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียประจำปี ที่ต่อยอดมาจาก World’s 50 Best Bars หรือการจัดอันดับบาร์ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี โดยตัดสินจากการโหวตของคณะกรรมการจาก Asia’s 50 Best Bars Academy ซึ่งประกอบด้วยนักข่าว บาร์เทนเดอร์ และผู้ที่ชื่นชอบการดื่มค็อกเทลจำนวน 260 คน อีเวนต์ประกาศผลปีนี้จัดขึ้นที่โรงแรมโรสวูด ฮ่องกง ท่ามกลางผู้ร่วมงานจากแวดวงบาร์และสื่อไลฟ์สไตล์ทั่วเอเชียที่บินไปร่วมลุ้นผลกันอย่างใกล้ชิด รวมถึงเรา –Time Out กรุงเทพฯ ที่ส่งตัวแทนไปรายงานผลแบบสดๆ เป็นครั้งแรก และเราขอแสดงความยินดีกับทุกบาร์ทั่วเอเชียที่ติดอันดับในปีนี้ ดูลิสต์ Asia’s 50 Best Bars 2023 ทุกอันดับได้ที่ https://www.worlds50bestbars.com/asia/list/1-50

Districts of Bangkok:  ซิกเนเจอร์ค็อกเทลใหม่จาก ABar Rooftop ที่ได้แรงบันดาลใจจากย่านต่างๆ ของกรุงเทพฯ

Districts of Bangkok: ซิกเนเจอร์ค็อกเทลใหม่จาก ABar Rooftop ที่ได้แรงบันดาลใจจากย่านต่างๆ ของกรุงเทพฯ

กางแผนที่แล้วจิ้มสั่งแก้วที่ถูกใจได้เลย! กับซิกเนเจอร์ค็อกเทลชุดใหม่ของ ABar Rooftop รูฟท็อปบาร์บรรยากาศดีบนชั้น 37 ของโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park สุขุมวิท 22 ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจากย่านประวัติศาสตร์และสถานที่สำคัญต่างๆ ในกรุงเทพฯ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Districts of Bangkok Photograph: Tanisorn Vongsoontorn จากคอนเซ็ปต์ดังกล่าว อองเดร โปสปิชาล (Ondrej Pospichal) ผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องดื่ม และ ไนท์-ธีรวีร์ ปิยะเจียระไน ผู้ช่วยผู้จัดการบาร์ พร้อมทีม ABar Rooftop ได้นำเรื่องราวและสถานที่สำคัญจาก 8 ย่านในกรุงเทพฯ ได้แก่ พระนคร บางลำพู เยาวราช จตุจักร ปทุมวัน บางรัก และบางกระเจ้า มาตีความเป็นเครื่องดื่ม 12 แก้วที่สะท้อนเอกลักษณ์ของย่านต่างๆ ผ่านรสชาติ กลิ่น และการแต่ง ยกตัวอย่างแก้วที่เราประทับใจ ได้แก่ Photograph: Tanisorn Vongsoontorn Big Swing (400 บาท) เล่าเรื่องราวของเสาชิงช้า แลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ในย่านพระนคร ในอดีตเสาชิงช้าเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมโล้ชิงช้าหนึ่งในพิธีสำคัญของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูที่ปฏิบัติสืบต่อกันในสมัยกรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยา (ปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว) เป็นพิธีที่ทั้งศักดิ์สิทธิ์และอันตราย จุดเด่นของแก้วนี้จึงอยู่ที่การตกแต่งด้วยโฟมสีดำที่ทำจากเบียร์ดำและชาร์โคล ออนท็อปด้วยเกล็ดสีทอง ส่วนตัวเครื่องดื่มจะมีส่วนผสมของวิสกี้ น้ำสับปะรด กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง ซิตรัส และนม Photograph: Tanisorn Vongsoontorn Phra Khanong (420 บาท) แค่ได้ยินชื่ทุกคนก็คงจะนึกถึงเรื่องราวของ แม่นากพระโขนง ตำนานความหลอนสุดคลาสสิกของไทยที่ถูกเล่าขานกันมาทุกยุค ค็อกเทลเบสจินสีใสแก้วนี้จึงเต็มไปด้วยส่วนผสมที่ล้อไปกับองค์ประกอบสำคัญของตำนา

Van Gogh Alive Bangkok ขยายวันจัดแสดงจนถึง 14 ส.ค. พร้อมจัดคลาส ‘ไวน์โยคะ’ ท่ามกลาง Immersive Art

Van Gogh Alive Bangkok ขยายวันจัดแสดงจนถึง 14 ส.ค. พร้อมจัดคลาส ‘ไวน์โยคะ’ ท่ามกลาง Immersive Art

ข่าวดีสำหรับคนที่ยังไม่มีเวลาไปสัมผัสประสบการณ์แห่งโลกศิลปะแบบ Immersive Muti-Sensory Experience ในนิทรรศการ Van Gogh Alive Bangkok ที่ตอนแรกจะจัดแสดงถึงแค่สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ล่าสุดได้ขยายระยะเวลาการจัดแสดงอกไปจนถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2566 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษอย่างคลาส Immersive Brew Yoga โดย Brew Yoga Thailand ที่ชวนทุกคนไปเล่น ‘ไวน์โยคะ’ ท่ามกลาง immersive art เป็นการเพิ่มประสบการณ์การดูงานศิลปะให้ครบ 5 ผัสสะ ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส กิจกรรมจะมีทั้งการฝึกโยคะไวน์ ชมโชว์พิเศษ และ Morning Dance Session กับ DJ ไม่จำเป็นต้องมีทักษะโยคะก็เข้าร่วมได้ แถมแต่งตัวเหมือนไปเทศกาลดนตรีสนุกๆ ได้เลย โดย Immersive Brew Yoga จะจัดขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 06.30 - 10.00 น. บัตรราคา 1,890 บาท ซื้อได้ที่ Ticketmelon Van Gogh Alive Bangkok คือ Touring Experience สุดยิ่งใหญ่ที่เคยจัดแสดงมาแล้วมากกว่า 80 เมืองทั่วโลก เช่น ปักกิ่ง เบอร์ลิน เดนเวอร์ ลอนดอน มาดริด มอสโคว โรม ซิดนีย์ ฯลฯ โดยจัดแสดงในรูปแบบ Immersive Multi-Sensory Experience ที่มอบประสบการณ์ใหม่ๆ ในการดูงานศิลปะผ่านเทคโนโลยีแสง สี เสียงที่ทันสมัย บวกกับการออกแบบพื้นที่ที่ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของศิลปะจริงๆ นิทรรศการจัดแสดงที่ชั้น 6 ไอคอนสยาม เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 - 21.30 น. จนถึง 14 สิงหาคม 2566 ราคาบัตร VIP 1,490 บาท, บัตรทั่วไป 990 บาท และบัตรนักเรียนนักศึกษา 480 บาท ซื้อบัตรได้ที่ Thaiticketmajor

เตรียมสร้างแผนที่แนะนำจุดเติมน้ำดื่มทั่วกรุงเทพฯ ชวนพกขวดน้ำดื่มรีฟิลเพื่อลดขยะพลาสติก

เตรียมสร้างแผนที่แนะนำจุดเติมน้ำดื่มทั่วกรุงเทพฯ ชวนพกขวดน้ำดื่มรีฟิลเพื่อลดขยะพลาสติก

ใครจะไปเดินเล่นหรือไปออกกำลังกายที่ศูนย์กีฬาเปิดใหม่ในสวนเบญจกิติ อย่าลืมพกขวดน้ำรีฟิลไปด้วย เพราะตอนนี้ภายในสวนมีจุดเติมน้ำดื่มสะอาดให้บริการเพิ่มแล้ว สิ่งนี้เกิดขึ้นภายใต้โครงการ Bottle Free Seas โดยมูลนิธิ Environmental Justice Foundation Thailand หรือ EJF ซึ่งเป็นองค์การเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเล ร่วมกับ กทม. ชวนคนกรุงเทพฯ ลดการบริโภคน้ำดื่มจากขวดพลาสติกเพื่อลดขยะ โดยการติดตั้งจุดเติมน้ำดื่มสะอาดและปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะของ กทม. สวนเบญจกิติคือพื้นที่แรกที่มีการติดตั้งจุดเติมน้ำดื่มของโครงการฯ โดยให้บริการ 2 จุด ได้แก่ บริเวณประตูหก (https://maps.app.goo.gl/FNeoL9PuJRqeTek29) และศูนย์กีฬาในร่มอาคาร 3 พิกเคิลบอล (https://maps.app.goo.gl/F4RMqL4ETvLVkPGJA?g_st=ic) เป็นจุดเติมน้ำดื่มที่ติดตั้งเพิ่มเติมจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว (ซึ่งบางจุดไม่พร้อมใช้งาน) ตอนนี้ทีม Bottle Free Seas กำลังสำรวจพื้นที่อื่นๆ เพื่อติดตั้งจุดเติมน้ำดื่มเพิ่มเติม เช่น หอศิลป์ กรุงเทพฯ สวนเบญจสิริ สวนรถไฟ ศาลาว่าการ กทม. ฯลฯ และยังชวนทุกคนมาเป็นอาสาสมัครช่วยปักหมุดจุดเติมน้ำดื่มสาธารณะเพื่อทำเป็นแผนที่ให้ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ ใครเจอจุดให้บริการน้ำดื่มสาธารณะที่สะอาด น่าใช้ หรือเป็นเจ้าของจุดเติมน้ำและอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ สามารถกรอกข้อมูลจุดเติมน้ำดื่มได้ที่ https://bit.ly/bkkwaterstation แล้วทีม Bottle Free Seas จะไปสำรวจจุดเติมน้ำดื่มก่อนนำขึ้นแผนที่  

Asia’s 50 Best Bars ประกาศอันดับ 51-100 มี 4 บาร์จากกรุงเทพฯ ติดโผ ได้แก่ The Loft, #Findthelockerroom, Asia Today และ Opium

Asia’s 50 Best Bars ประกาศอันดับ 51-100 มี 4 บาร์จากกรุงเทพฯ ติดโผ ได้แก่ The Loft, #Findthelockerroom, Asia Today และ Opium

ระหว่างรอลุ้นผลบาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียประจำปี 2023 จาก Asia’s 50 Best Bars ในสัปดาห์หน้า ตอนนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับ 50 บาร์ทั่วเอเชียที่มีชื่อติดอันดับ 51-100 ที่เพิ่งประกาศมาสดๆ ร้อนๆ ในลิสต์นี้มี 4 บาร์จากกรุงเทพฯ ติดอันดับอยู่ได้ ได้แก่ Loft บาร์บนชั้น 56 ของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok ติดอันดับ 99 ร่วงจากอันดับ 88 เมื่อปีที่แล้ว ตามมาด้วย #Findthelockerroom บาร์ลับคุณภาพอีกหนึ่งแห่งของกรุงเทพฯ ที่มาในอันดับเดิมคือ 78 ถือว่ารักษามาตรฐานได้ดี และอีก 2 บาร ได้แก่ Asia Today บาร์ในซอยนานาที่ชูจุดเด่นเป็นน้ำผึ้งป่าและวัตถุดิบท้องถิ่นในเอเชีย หลุดจากอันดับ 43 เมื่อปีที่แล้วมาอยู่ที่อันดับ 68 และ Opium บาร์ของเชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ แห่งร้าน Potong ในอันดับ 59 ที่เข้ามาติดอันดับเป็นครั้งแรกหลังจากเปิดตัวเมื่อช่วงปลายปี 2021 และเป็นบาร์จากกรุงเทพฯ ที่ได้อันดับสูงสุดในลิสต์นี้ Asia’s 50 Best Bars 2023 จะประกาศผลอันดับที่ 1-50 ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2023 ที่ฮ่องกง

ชวนไปสุ่มกาชาปองธีม Chinatown ในงาน Gashapon Thailand 2023 14-16 กรกฎาคมนี้ ที่ชุมชนเลื่อนฤทธิ์

ชวนไปสุ่มกาชาปองธีม Chinatown ในงาน Gashapon Thailand 2023 14-16 กรกฎาคมนี้ ที่ชุมชนเลื่อนฤทธิ์

นักสะสมกาชาปองเตรียมต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าบ้านได้เลย เพราะสุดสัปดาห์นี้กำลังจะมีงาน Gashapong Thailand 2023 ที่กลุ่มกาชาปองไทยชวนศิลปินและสตูดิโออาร์ตทอยชั้นนำมาออกแบบกาชาปองธีม Chinatown ชวนไปสุ่มลุ้นรับกาชาปองน่ารักๆ กลับบ้านพร้อมกิจกรรมน่าสนใจมากมาย ศิลปินและสตูดิโออาร์ตทอยชั้นนำที่จะมาร่วมโชว์ผลงานมีทั้งหมด 5 เจ้าด้วยกัน ได้แก่ Little God Studio, Kappa Collectibles, MOTMO Studio, คชาปองไทย และมหาคณปติ กาชาปองไทย ตัวอย่างกาชาปองที่น่าสนใจในงานนี้คือ ชุดขบวนสิงโตนำโชค จาก Little Gods Studio ซึ่งประกอบไปด้วย กาชาปองเทพแห่งโชคลาภ แปะยิ้ม ซิ้มยิ้ม สิงโต และมังกร ชุดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากขบวนเชิดสิงโตที่พบเห็นได้บ่อยๆ ในย่านไชน่าทาวน์โดยเฉพาะในช่วงเทศการตรุษจีน ด้วยความเชื่อว่าผู้ใดได้ชมการเชิดสิงโต จะมีโชคลาภ เจริญรุ่งเรือง ถือเป็นการเติมความมงคลให้ชีวิตตลอดทั้งปี สตูดิโอเลยออกแบบกาชาปองซีรีส์นี้ขึ้นมาเพราะเวลามองผลงานก็จะเหมือนมีขบวนสิงโตมาคอยประธานพรให้ สำหรับกิจกรรมในงานจะมีทั้งงานอาร์ตทอย กิจกรรมเพนต์สีกาชาปอง การเปิดตัว ‘คชาปอง Little Ganesha’ คอลเล็กชั่นใหม่ของมหาคณปติ และกิจกรรมสุ่มกาชาปอง ขนาด 4 - 5 เซนติเมตร ราคาสุ่มละ 250 บาท โดยมีกติกาว่าต้องกดเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม กาชาปองไทยที่ https://www.facebook.com/groups/thaigashapon และสามารถสุ่มได้คนละไม่เกิน 5 สุ่มต่อวัน งาน Gashapon Thailand 2023 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 กรกฎาคม เวลา 10.00 - 18.00 น. ที่ชุมชนเลื่อนฤทธิ์

หลุดพ้น Festival: งานรวมตัวของศิลปินสตรีตอาร์ตที่เปลี่ยนกำแพงเมืองร้างเป็นผืนผ้าใบให้ทุกคนเข้าถึงศิลปะได้ไม่ว่าอยู่ที่ไหน

หลุดพ้น Festival: งานรวมตัวของศิลปินสตรีตอาร์ตที่เปลี่ยนกำแพงเมืองร้างเป็นผืนผ้าใบให้ทุกคนเข้าถึงศิลปะได้ไม่ว่าอยู่ที่ไหน

ช่วงนี้แถวโชคชัย 4 กำลังมีงานสตรีตอาร์ตจัดอยู่ในพื้นที่ตึกร้างอย่าง ‘หลุดพ้น Festival’ นำโดย Abi Original ศิลปินสตรีตอาร์ตซึ่งเป็นคนในพื้นที่ จัดงานนี้ขึ้นด้วย 2 จุดประสงค์หลักคืออยากใช้งานศิลปะดึงคนเข้ามาในย่านเพื่อซัปพอร์ตพ่อค้าแม่ขายในตลาดโชคชัย 4 ที่เขาเห็นว่าช่วงหลังคนมาเดินตลาดน้อยลง และอยากให้ทุกคนเข้าถึงงานศิลปะได้อย่างเท่าเทียมไม่ว่าอยู่ที่ไหน   Photograph: Tanisorn Vongsoontorn   Photograph: Tanisorn Vongsoontorn Photograph: Tanisorn Vongsoontorn     แรกๆ Abi เริ่มเข้ามาพ่นกำแพงในเมืองร้างแห่งนี้คนเดียว ค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับชุมชนไปในตัว ให้เขาเข้าใจสตรีตอาร์ตมากขึ้น ทำอยู่เป็นปีค่อยชวนเพื่อนศิลปินสตรีตอาร์ตเข้ามาช่วยกันจนเกิดเป็น หลุดพ้น Festival ซึ่งคอนเซ็ปต์งานก็ตามชื่อเลยคือ ‘หลุดพ้น’ จากทุกสิ่ง ไม่มีกรอบ ศิลปินสามารถปลดปล่อยไอเดียและตัวตนได้อย่างเต็มที่ Photograph: Tanisorn Vongsoontorn Photograph: Tanisorn Vongsoontorn สำหรับศิลปินที่มาร่วมพ่นกำแพงในครั้งนี้ก็มีทั้ง Alex Face, Himbad, Bonus, Asin,Dark1,Chun Smith, Pakorn, panda Dew, Mr.Bows, Komkrit, D.o.D, Loboboy, Bongo, Sorimeo, mxrnies ฯลฯ   Toon Kaewkerd Toon Kaewkerd   นอกจากงานสวยๆ ของศิลปินแล้ว โลเคชั่นเมืองร้างที่มีตั้งแต่ตึกแถวที่ครั้งหนึ่งเคยเปิดเป็นร้านต่างๆ ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงโรงแรม ก็เป็นอะไรที่เหมาะกับงานนี้มาก เป็น 2 องค์ประกอบที่เสริมกันได้ดีและลงตัว แต่ก็เช่นเดียวกับสตรีตอาร์ตส่วนใหญ่ งานนี้ศิลปินบอกว่าไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ก่อนจัดงาน ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาตามมาหรือเปล่า แต่ก็พร้อมรับผิดชอบ งานนี้เป็นงานที่ศิลปินจัดเอง ลงทุนเอง ไม่มีสปอนเซอร์ใดๆ และคนดูก็ต้องพึ่งตัวเอง 100

สวนเบญจกิติเปิดให้ใช้สนามกีฬาแล้ว ชวนออกกำลังกายกับ 7 กีฬายอดนิยม ให้บริการฟรี จองล่วงหน้าออนไลน์ได้เลย

สวนเบญจกิติเปิดให้ใช้สนามกีฬาแล้ว ชวนออกกำลังกายกับ 7 กีฬายอดนิยม ให้บริการฟรี จองล่วงหน้าออนไลน์ได้เลย

สวนเบญจกิติยังคงฮอตอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนเมือง เป็นด็อกพาร์กให้พาน้องๆ มาวิ่งเล่น เป็นที่ถ่ายรูป และพื้นที่จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบแล้ว ล่าสุดก็เพิ่งเปิดให้บริการสนามกีฬาเพิ่มอีกหนึ่งโซน สนามกีฬาสวนเบญจกิติ เริ่มเปิดทดลองให้บริการเมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีทั้งสนามบาสเก็ตบอล, สตรีตบาสเก็ตบอล, พิกเคิลบอล, เทเบิลเทนนิส, แบดมินตัน, ฟุตซอล, และ เทคบอล ใครสนใจสามารถชวนแก๊งเพื่อนไปออกกำลังกายด้วยกันได้ โดยในช่วงทดลองเปิดให้บริการจะไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถลงทะเบียนจองล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ กีฬากรุงเทพ.com สำหรับขั้นตอนการจอง มีดังนี้ 1.คลิก ‘จองเข้าใช้บริการศูนย์กีฬาเบญจกิติ’ 2.เลือกชนิดกีฬา 3.เลือกสนาม (กีฬาแต่ละชนิดมีจำนวนสนามไม่เท่ากัน) 4.เลือกวันและเวลาที่จะใช้บริการ 5.กรอกข้อมูลผู้ทำการจอง 6.ตรวจสอบและยืนยันข้อมูลการจอง

‘MRT สายสีเหลือง’ หมดเวลานั่งฟรีแล้ว เริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์วันนี้วันแรก ค่าโดยสารเริ่มต้น 15 บาท สูงสุด 45 บาท

‘MRT สายสีเหลือง’ หมดเวลานั่งฟรีแล้ว เริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์วันนี้วันแรก ค่าโดยสารเริ่มต้น 15 บาท สูงสุด 45 บาท

วันนี้เป็นวันแรกที่รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง (MRT สายสีเหลือง) จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ ทั้ง 23 สถานี จากสถานีลาดพร้าว ถึง สถานีสำโรง หลังจากทดลองเปิดให้บริการเป็นเวลา 1 เดือน โดยจะเก็บค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุด 45 บาท ผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสาร ได้ 3 วิธี คือ ซื้อบัตรโดยสารเที่ยวเดียวที่เครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารหรือติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารภายในสถานี, ใช้บัตรแรบบิท (บัตรโดยสารประเภทเติมเงิน) และจ่ายผ่านบัตร EMV Contactless หรือจ่ายผ่านบัตรเครดิต (VISA หรือ Mastercard) ของธนาคารใดก็ได้ รวมถึงบัตรเดบิตที่มีสัญลักษณ์ Contactless Payment โดยแตะเข้า-ออกระบบที่จุดให้บริการเครื่อง EDC บริเวณประตูพิเศษ (Swing Gate) กรณีจ่ายผ่านบัตร EMV Contactless ผู้โดยสารที่เดินทางเชื่อมต่อระหว่าง MRT สายสีเหลือง – MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีลาดพร้าว และชำระค่าโดยสารด้วยบัตร EMV Contactless ใบเดียวกัน จะได้รับส่วนลดการเปลี่ยนถ่ายระบบ หากเดินทางเชื่อมต่อภายใน 30 นาที สำหรับผู้โดยสารที่จะนำรถยนต์มาจอดและเดินทางต่อด้วย MRT สายสีเหลือง สามารถจอดรถยนต์ได้ที่อาคารจอดรถสถานีลาดพร้าว ค่าจอด 2 ชั่วโมง 15 บาท (กรณีไม่ใช้บริการรถไฟฟ้าชั่วโมงละ 50 บาท) และอาคารจอดรถสถานีศรีเอี่ยม ค่าจอดรชั่วโมงละ 5 บาท (กรณีไม่ใช้บริการรถไฟฟ้า ชั่วโมงละ 20 บาท)

เช็กอิน ‘ดานัง’ แบบไม่มีเหงากับ 5 กิจกรรมน่าสนใจที่จอยได้เช้ายันดึก

เช็กอิน ‘ดานัง’ แบบไม่มีเหงากับ 5 กิจกรรมน่าสนใจที่จอยได้เช้ายันดึก

เวียดนามถือเป็นอีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านที่น่าเที่ยว และเห็นคนไทยไปเที่ยวกันเยอะกว่าแต่ก่อนมาก นอกจากความน่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยวและวิถีชีวิตอันเป็นเสน่ห์แล้ว เหตุผลส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะใช้เวลาเดินทางไม่นาน รวมถึงค่าใช้จ่ายตลอดทริปแทบไม่ต่างจากการเที่ยวในประเทศเลย ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เราก็มีโอกาสไปเยือนเวียดนามมาเหมือนกัน โดยปักหลักเที่ยวที่เมือง ‘ดานัง’ เมืองชายฝั่งทะเลของเวียดนามตอนกลางที่ไม่ได้มีดีแค่ทะเล แต่ยังรายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อและกิจกรรมสนุกๆ ที่เที่ยวได้เช้ายันดึก ใครจะไปเยือนดานังเร็วๆ นี้ เรามีลิสต์กิจกรรมมาแนะนำ รับรองสนุกทั้งทริปแน่นอน   quangpraha quangpraha   เที่ยวเวียดนามฟีลยุโรปที่ Ba Na Hill ในอดีตเมืองบนหุบเขาแห่งนี้เคยเป็นที่พักตากอากาศของทหารฝรั่งเศส เคยถูกทิ้งร้างหลังทหารฝรั่งเศสถอนตัวออกจากเวียดนาม ก่อนถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในช่วงหลังสงครามเวียดนาม ด้านบนมีทั้งโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร สปา บาร์ สวนสนุก ให้ฟีลยุโรปทั้งงานสถาปัตยกรรม การตกแต่ง และสภาพอากาศ รวมถึงเป็นที่ตั้งของ Golden Bridge สะพานลอยฟ้าสีทองที่พาดตัวอยู่บนมือยักษ์ 2 ข้าง และไฮไลต์คือการเดินทางขึ้นลงต้องใช้ Cable Car หรือกระเช้าลอยฟ้า ซึ่งได้ชื่อว่ายาวที่สุดในโลก   Sean Kruger     ดูมังกรพ่นไฟที่ Dragon Bridge สะพานมังกร (Dragon Bridge) ที่ทอดข้ามแม่น้ำฮัน ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองดานัง มีรูปร่างเหมือนมังกรสีทองตัวใหญ่ๆ กำลังลอยข้ามแม่น้ำอยู่ ทุกๆ ค่ำคืนของวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป บนสะพานมังกรแห่งนี้จะมีโชว์พ่นน้ำพ่นไฟจากส่วนหัวมังกร เพิ่มความสวยงามให้กับสะพานแห่งนี้   United Bar Danang   Tê Bar         Bar Hopping