Mekhong ยกระดับรสชาติจานเด็ดจาก 7 ร้านดังด้วยค็อกเทลแบบไทยๆ

ชิมอาหารอร่อยๆ จากร้านดังทั่วกรุงเทพฯ แล้วชูรสด้วยค็อกเทลสูตรพิเศษที่รังสรรค์จากสุราไทยในงาน Mekhong Elite Table 2019

Suriyan Panomai
เขียนโดย
Suriyan Panomai
การโฆษณา

หลายปีที่ผ่านมา Mekhong หรือ แม่โขง สุราไทยสุดคลาสสิก ได้พาค็อกเทลที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ไทยไปจับคู่กับอาหารจากร้านดังเพื่อชูรสชาติของอาหารให้ดียิ่งขึ้น จนหลายคนติดใจมาแล้ว

ปีนี้ Mekhong Elite Table 2019 แม่โขงก็ได้ร่วมกับ Time Out Bangkok พาค็อกเทลไทยไปจับคู่กับเมนูจากร้านอาหาร 7 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ อีกครั้ง เมนูอร่อยๆ ของแต่ละร้านพอได้ค็อกเทลดีๆ ไปช่วยชูรสชาติแล้วก็ยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก เราจึงขอยกตัวอย่างเมนูเด็ดของแต่ละร้านมาเรียกน้ำย่อยกันตามนี้

เสน่ห์จันทร์ (Saneh Jaan)

เสน่ห์จันทร์

ร้านนี้นำเมนูซิกเนเจอร์อย่าง ยำส้มโอขาวน้ำผึ้งกุ้งเสียบ รสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด กลมกล่อม ปรุงด้วยน้ำยำสูตรเฉพาะที่มาจากน้ำมะขาม น้ำตาลปี๊บ และพริกเผา มาจับคู่กับ Thai Margarita ซึ่งมีรสเปรี้ยวจากน้ำเสาวรส น้ำมะนาว และนำมาผสมกับสุราแม่โขง เชกกับน้ำแข็งที่ใส่พริกลงไปผสมด้วย แล้วริมแก้วด้วยพริกเกลือแบบไทย จึงทำให้ค็อกเทลแก้วนี้มีรสชาติกลมกล่อม ทานคู่กับยำส้มโอกุ้งเสียบแล้วเข้ากันดีทีเดียว

ห้องทานข้าวสุพรรณนิการ์ (Supanniga Eating Room)

สุพรรณนิการ์

ห้องทานอาหารแห่งนี้นำเสนอเมนู หมูชะมวงย่างแนมข้าวจี่ ซึ่งหมูชะมวงเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน เป็นเนื้อสันคอหมูที่มีรสเปรี้ยวของใบชะมวงและออกหวานหน่อยๆ เมื่อจับคู่กับค็อกเทล Mekhong Essence ที่มีน้ํามะพร้าวสดเป็นส่วนผสมหลัก จึงมีกลิ่นหอมของนํามะพร้าวและมีรสหวานที่ลงตัวกับหมูชะมวงจานนี้

รอยัล โอชา (Royal Osha)

Osha

Royal Osha เสิร์ฟความแซ่บเป็น ยำหอยนางรม อาหารขึ้นชื่อของทางร้าน ใช้น้ำยำสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของน้ำพริกเผาทำเอง ให้รสเปรี้ยว หวาน เค็ม กำลังดี หอมกลิ่นหอมแดง ตะไคร้ เข้ากันดีกับค็อกเทล Mekhong Thai Sabai ที่สะท้อนตัวตนของคนไทยได้อย่างชัดเจน รสชาติเปรี้ยวอมหวานหอมสมุนไพรไทย ดื่มสบายๆ ไปกันได้ดีกับยำหอยนางรม

80/20

80/20

ร้านนี้มีกลิ่นอายอาหารใต้อยู่ในทั้งอาหารและเครื่องดื่ม โดยนำ กระหรี่ปั๊บหัวปลีคั่วกลิ้ง ที่นำหัวปลีมาผัดกับพริกคั่วกลิ้งจนหอม ปรุงรสให้จัดจ้านตามแบบฉบับคั่วกลิ้งใต้ นำไปห่อกับแป้งบางๆ ทอดจนเหลืองกรอบน่ากิน เสิร์ฟคู่กับซอสกล้วยและกระเทียมโทนรสหวานละมุนลิ้น ทานคู่กับ Kati ค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูผักราดน้ำกะทิของภาคใต้ โดยนำกะทิอบควันเทียน ผสมกับน้ำส้ม น้ำมะนาวและน้ำมะกรูด แช่รวมกับแม่โขง เพิ่มความขมด้วยสะเดาสด เติมสีแดงด้วยน้ำกระเจี๊ยบ แช่รวมกัน 24 ชั่วโมงแล้วกรองเอาแต่น้ำใสๆ ด้วยเทคนิค Milk Punch

พาย (Paii)

Paii

Paii ร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องการสรรหาวัตถุดิบอาหารทะเล ได้นำ XO Sauce French Razor Clams หอยหลอดจากฝรั่งเศสผัดซอสเอ็กซ์โอโฮมเมดที่มีส่วนผสมของหอยเชลล์แห้ง แฮมยูนนานแห้ง ปลาหมึกแห้ง กุ้งแห้งเพื่อเพิ่มความหอมของซอส และความเผ็ดจัดจ้านจากพริกแห้งจากจังหวัดศรีษะเกษ ตบท้ายด้วยการเฟลมเบ้ด้วยสุราแม่โขงก่อนรับประทานเพื่อให้กลิ่นสัมผัสที่หอมของใบมะกรูดและความหวานของสุราแม่โขง จับคู่กับค็อกเทล Nak ที่มีเบสเป็นแม่โขงตัดด้วยความละมุนของชาไทยและมีกลิ่นหอมจากใบโหระพา  ช่วยชูรสของเมนูจานนี้ได้เป็นอย่างดี คู่นี้ราคา 690++ บาท จากปกติราคา 1,060 บาท ยังมีให้ชิมจนถึง 23 ตุลาคม นี้

บูรพา (Burapa)

บูรพา

คู่อร่อยของร้านนี้เป็น Krill paste seasoned sticky rice, steamed in banana ข้าวเหนียวผัดกะปิไส้ปลาเห็ดโคนยีฟู ซอสพริกศรีตราด ผักอีสานดอง จับคู่กับ Yard ค็อกเทลที่ใช้เบสเป็นแม่โขงผสมกับน้ำมะพร้าวสด ไซรัปมะพร้าว และ มะกอกป่า

บ้านสุริยาศัย (Baan Suriyasai)

บ้านสุริยาศัย

บ้านหลังนี้นำเมนูเรียกน้ำย่อยแบบไทยๆ อย่าง เครื่องว่างบ้านสุริยาศัย ที่ประกอบไปด้วยสะเต๊ะไก่ที่เสิร์ฟพร้อมน้ำจิมโบราณ ขนมเบื้องแย้มพระโอษฐ์ ขนมเบื้องไส้กุ้งผัดแบบวิธีโบราณ โรยหน้าด้วยเนื้อปู และปลาแห้งแตงอุลิตหรือปลาแห้งแตงโม จับคู่กับ Sida ที่นำเอาฝรั่งสดกับผงบ๊วยมาผสมกับแม่โขงจนได้ออกมาเป็นเครื่องดื่มที่มีรสหวานหอมและช่วยให้ทำให้เครื่องว่างจานนี้มีรสชาติที่ลงตัวมากขึ้น

ถ้าปีนี้ยังไม่ได้ลองชิมหรือยังชิมไม่ครบทุกร้านก็ไม่เป็นไร เพราะปีหน้า Mekhong Elite Table จะกลับมาอย่างแน่นอน และจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์อีกบ้างก็ต้องรอดูกัน

เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา