Nuttaya Sumritvanitcha

สัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายนเดินทางมาถึงแล้ว พวกเราชาวกรุงเทพฯ เท้าหนึ่งเปียกฝน อีกเท้ายังร้อนผ่าวจากแดดแรงที่ส่องลงมาโดยไม่สนใจว่ามันคือหน้าฝน เราถือร่มที่ไม่เคยใช้ ก้าวเท้าในรองเท้าที่พร้อมพัง และกรุงเทพฯ ก็ยังดำเนินไปแบบเดิม ทั้งชื้น ดื้อ และมึนงงเล็กน้อย สุดสัปดาห์นี้ยังมีหลายเหตุผลให้เราออกไปเจอโลกภายนอก ไม่ว่าจะเปียกหรือไม่ก็ตาม Yoga and Sound Healing at the Old Library จะเปลี่ยนห้องสมุดเนี๊ยบๆ ที่ Neilson Hays ให้กลายเป็นสตูดิโอโยคะชั่วคราว ที่ชวนให้เรายืดตัว หายใจ และปล่อยให้เสียงฆ้องสะท้อนก้องลึกไปถึงข้างใน ในอีกด้านของเมือง Brasi ดีเจจากอิตาลีกำลังจะเปลี่ยน BEAMCUBE ให้เป็นพื้นที่ลึกลับของเสียงและจังหวะ ชวนเต้นด้วยความมืดที่มีโทน พร้อมกับเรสซิเดนท์อย่าง Kunanon และ Moodyboom ที่จะนำทางเราผ่านอารมณ์ซับซ้อน ก่อน Brasi จะคลี่เราออกมาอย่างช้าๆ และสำหรับใครที่โหยหาความสงบของคีย์เปียโน Bernardo Santos จากโปรตุเกส จะพาเราเดินทางไปกับบทเพลงของเบโธเฟน วิลลา-โลบอส และอีกหลายบทประพันธ์ ที่เขาเล่นไม่ใช่เพื่อสร้างความประทับใจแบบสวยหรู แต่เพื่อกระตุ้นให้เรารู้สึก บางครั้งถึงขั้นหลอกหลอน ส่วนใครที่อยากแพลนยาวๆ ตั้งแต่ต้นเดือน ลองตามไปอ่าน รวมกิจกรรมน่าสนใจในเดือนมิถุนายน ที่เราคัดมาให้จากทุกมุมของกรุงเทพฯ

สำหรับคนที่รับประทานอาหารวีแกน หลายคนอาจรู้สึกเหนื่อยกับการต้องตอบสามคำถามเดิมๆ ๆ  ว่าอะไรทำให้ตัดสินใจก้าวเข้าสู่โลกของวีแกน ไม่ว่าจะเป็น ต่อต้านการทารุณสัตว์หรือเปล่า? ดีต่อสุขภาพใช่ไหม? หรือจะช่วยลดภาวะโลกร้อน? หรือว่าคุณอาจเจอคำถามที่สี่ หรือว่าคุณทำไปเพราะสามเหตุผลเลย? หลังจาก Time Out ได้เดินทางไปลิ้มลองร้านอาหารแพลนต์เบส ต้องยอมรับว่ามีร้านอาหารวีแกนในกรุงเทพฯ หลายแห่งที่หลายคนอาจไม่กล้าเข้าไปลอง เพราะคิดว่าเป็นอาหารที่ไม่น่าสนใจ แต่ร้านอาหารในลิสต์นี้จะช่วยเปิดใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอาหารวีแกนอย่างแท้จริง ไม่ว่าไลฟ์สไตล์การกินของคุณจะเป็นอย่างไร ร้านอาหารเหล่านี้ได้รับคำแนะนำจากเหล่าวีแกนอคนทานพืช และคนอื่นๆ ว่าเป็นร้านอาหารปราศจากเนื้อสัตว์ที่ควรค่าแก่การลิ้มลองอย่างยิ่ง

ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่เปิดกว้างและให้การต้อนรับกลุ่ม LGBTQ+ อย่างอบอุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งแม้จะสร้างความประหลาดใจให้กับบางฝ่ายก็ตาม แต่ก็เป็นผลลัพธ์จากการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิความเท่าเทียมทางเพศที่ดำเนินมาอย่างยาวนานนับหลายทศวรรษ และในวันนี้ เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าประทับใจเกิดขึ้น ด้วยแรงสนับสนุนจากสาธารณชน ไม่ว่าจะเป็นการลงคะแนนเสียง การแสดงความเห็นผ่านแบบสำรวจ หรือแคมเปญรณรงค์ต่างๆ แม้กฎหมายฉบับใหม่นี้จะนับเป็นก้าวสำคัญสู่ความเท่าเทียม แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเดินหน้าต่อ เพราะในชีวิตประจำวัน หลายคนในกลุ่ม LGBTQ+ ยังคงเผชิญกับการเลือกปฏิบัติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนาน เวลานี้จึงควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง ด้วยการรับชมภาพยนตร์เควียร์ดีๆ สักเรื่อง หรือดูต่อเนื่องแบบมาราธอนไปเลย ในปัจจุบัน ภาพยนตร์เควียร์ได้พัฒนาและก้าวข้ามกรอบของเรื่องราวแบบเดิมๆ อย่างชัดเจน เปรียบเสมือนกับความหลากหลายของเพศและอัตลักษณ์ในสังคม ภาพยนตร์เหล่านี้สามารถสะท้อนทั้งความรักต้องห้าม การค้นหาตัวตน และความสัมพันธ์ในแบบที่สังคมอาจมองข้าม ความงดงามของหนังเควียร์ไม่เพียงอยู่ที่การเรื่องราวอันหลากหลาย แต่ยังอยู่ที่การเปิดพื้นที่ให้กับการตีความอีกด้วย หากคุณกำลังมองหาหนังเควียร์คุณภาพ เราจะพาคุณไปรู้จักกับภาพยนตร์เควียร์ที่ควรค่าแก่การรับชม ตั้งแต่ Moonlight เจ้าของรางวัลออสการ์ ไปจนถึง Tangerine ผลงานแสนอบอุ่นของผู้กำกับ ฌอน เบเกอร์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของสองหญิงข้ามเพศ ที่มีอาชีพขายบริการ โดยถ่ายทำด้วยกล้องไอโฟนตลอดทั้งเรื่อง ภาพยนตร์เหล่านี้ไม่เพียงสร้างความแปลกใหม่ในวงการหนัง แต่ยังสะท้

เรียกได้ว่าตอนนี้กระแสการรับประทาน ‘บรันช์’ ที่ถือว่าเป็นวัฒนธรรมที่เห็นได้ทั่วไปแบบในนิวยอร์กหรือลอนดอน  กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ในกรุงเทพฯ ที่มีร้านบรันซ์หลากหลายให้ได้มาเอ็นจอย พร้อมได้ถ่ายรูปสวยๆ ในบรรยากาศแบบ slow morning Time Out กรุงเทพฯ เลยรวบรวมร้านทั่วเมืองกว่า 10 ร้านมาให้ได้เช็กอินกัน ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นโดยเชฟที่ส่งตรงมาจากบรูคลิน ตึกแถวอันเต็มไปด้วยมนต์สเน่ห์ย่านเมืองเก่า หรือร้านที่อบอวลไปด้วยเมโลดี้ของเพลงบลูส์และกลิ่นอายของนิวออร์ลีนส์ พร้อมแล้วมาปักหมุดและเซฟเก็บไว้ในลิสต์ได้เลย 

สงกรานต์เพิ่งผ่านไปแป๊บเดียว เผลออีกทีก็เข้าเดือนใหม่แล้ว ใครใช้วันหยุดไปจนหมด หรืออยากเก็บไว้ไปต่างจังหวัดทีหลังก็ไม่ต้องห่วง เพราะกรุงเทพฯ เองก็มีที่แฮงก์เอาท์น่าสนใจให้แวะไปรีเฟรชกันได้ง่ายๆ ทั้งหลังเลิกงานหรือช่วงสุดสัปดาห์ ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นสายนิทรรศการ สายฟู้ด สายดนตรี หรือแค่ชอบเดินเล่นแบบชิลๆ เรารวบรวมกิจกรรมเด็ดๆ มาให้ครบ ทั้งคอนเสิร์ตที่ต้องไป อีเวนต์ศิลปะถ่ายรูปสวย ไปจนถึงดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่สายกินต้องใจเต้น ลองเปิดใจ แล้วออกไปสนุกกับกรุงเทพฯ ด้วยกันในเดือนใหม่นี้เถอะ!

หน้าร้อนปีนี้ ถ้าอยากดับความร้อนด้วยความละเมียดละไมแบบไทยๆ ไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าสำรับข้าวแช่ ที่หลายร้านดังทั่วกรุงเทพฯ ต่างพร้อมใจกันรังสรรค์เมนูนี้มาให้ลิ้มลองกันอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่ข้าวหอมมะลิอบควันเทียน น้ำลอยดอกไม้หอมเย็น ไปจนถึงเครื่องเคียงที่ผ่านการปรุงด้วยฝีมือชั้นครู ทั้งแบบชาววังแท้ๆ และแบบดัดแปลงให้มีลูกเล่นทันสมัย ใครเป็นแฟนข้าวแช่ หรือกำลังหาวิธีคลายร้อนแบบมีสไตล์ ลองเลือกจาก 10 ร้านที่เรารวบรวมมาให้นี้ได้เลย!

ทริปมาเก๊าครั้งนี้ เราได้มีโอกาสไปพักที่ โรงแรมเดอะ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ มาเก๊า (THE KARL LAGERFELD MACAU) โรงแรมห้าดาวในเครือแกรนด์ ลิสบัว พาเลซ รีสอร์ต มาเก๊า (Grand Lisboa Palace Resort Macau) ที่บินตรงจากกรุงเทพฯ แค่ 3 ชั่วโมงก็จะได้พบกับความหรูหราและสะดวกสบาย ภายในโรงแรมแห่งเดียวในโลกที่ตั้งชื่อและออกแบบโดยดีไซเนอร์ระดับตำนาน คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) ซึ่งสถาปัตยกรรมภายในและภายนอกอาคารมีความเท่แบบร็อกชิก ผสมเสน่ห์แบบจีนในทุกมุม  นอกจากการออกแบบที่โดดเด่นแล้ว ทางโรงแรมยังมีร้านเด็ดให้ลองชิมอย่าง Mesa by José Avillez และ Zuicho รวมถึงสปาแบบพรีเมียมที่เหมาะกับการปิดท้ายวันหนักๆ เราเลยขอลองเข้าพักและใช้บริการในโรงแรมตลอด 48 ชั่วโมงแบบครบจบในที่เดียว ส่วนใครสนใจเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ เราขอพาทุกคนมาพบกับประสบการณ์สุดพิเศษนี้กันก่อน 

Earth Day หรือ วันคุ้มครองโลก ตรงกับวันที่ 22 เมษายนของทุกปี เป็นวันที่คนทั่วโลกใช้เวลาหยุดคิด พูดคุย และลงมือทำบางสิ่งเพื่อดูแลโลกใบนี้ จุดเริ่มต้นของวันสำคัญนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2513 จากความตั้งใจของ เกย์ลอร์ด เนลสัน สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ที่ผลักดันให้สิ่งแวดล้อมกลายเป็นวาระแห่งชาติ โดยเชิญชวนให้ชาวอเมริกันกว่า 20 ล้านคนออกมาชุมนุมเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง ซึ่งกลายเป็นชนวนให้เกิดการตั้ง องค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA) และนำไปสู่การออกกฎหมายสิ่งแวดล้อมชุดใหญ่ วันคุ้มครองโลกจึงไม่ใช่แค่วันปลูกต้นไม้ หรือเก็บขยะ แต่คือวันแห่งการตระหนักรู้ ว่าเราแต่ละคน ‘มีพลัง’ มากกว่าที่คิด และในปีนี้ Earth Day 2025 มาพร้อมธีมระดับโลกว่า Our Power, Our Planet หรือ พลังของเรา โลกของเรา ที่เชิญชวนให้ทุกคนใช้พลังในแบบของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นพลังของศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ หรือพลังจากการตัดสินใจเล็กๆ อย่างการเลือกเสื้อผ้าและของใช้ มาช่วยเปลี่ยนโลกให้น่าอยู่ขึ้น เราจึงอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับ 5 แบรนด์ไทยหัวใจอัปไซเคิล ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และใกล้ตัวกว่าที่คิด แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจที่สวยงาม และช่วยให้โลกของเราหายใจสะดวกขึ้นทีละนิด

กรุงเทพฯ ไม่เคยขาดร้านอาหารใหม่ๆ ที่พร้อมให้สายกินได้ตื่นเต้นอยู่เสมอ และเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็เช่นกัน มีหลายร้านน่าสนใจหลายแห่งที่เปิดตัวแล้วเป็นที่พูดถึง (และกำลังรอให้ถูกพูดถึงมากขึ้นอีก!) ตั้งแต่อาหารเกาหลีไฟน์ไดนิงสุดประณีต ไปจนถึงร้านจีนที่มาพร้อมกับความดิสโก้สุดเท่ หรือแม้แต่ร้านไทยที่นำเสนอเมนูท้องถิ่นในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ถ้าพร้อมแล้ว ลองมาดูกันว่ามีร้านไหนที่น่าปักหมุดไปลองบ้าง

หน้าร้อนนี้ ใครหาที่หลบร้อนหรืออยากใช้เวลาทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว เราขอแนะนำ 7 ร้านอาหารและคาเฟ่เปิดใหม่น่าลองที่เลือกเฟ้นมาแล้วว่าเด็ดจริง มีทั้งร้านอาหารนีโอบิสโทรในบ้านไม้สุดคลาสสิก คาเฟ่มัตฉะสายกรีนจากแบรนด์ชื่อดัง ไปจนถึงร้านพิซซ่าสไตล์โตเกียว - นาโปลีจากญี่ปุ่นที่ Jeff Bezos ยังเคยแวะไปทานถึงโตเกียว มาดูกันว่ามีร้านไหนน่าสนใจบ้าง!

‘สกี’ เป็นลิสต์ที่ค้างอยู่ใน travel bucket list มาหลายปี สงกรานต์นี้เลยจะขอใช้วันลาไปเก็บลิสต์นี้สักที พอเริ่มหาข้อมูลก็คิดไปถึง ‘คิโรโระ’ เมืองโลเคชันสวยจากหนังแฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว ที่ไม่ได้ป๊อปจนคนแน่น แต่ก็ไม่ได้นอกกระแสจนเที่ยวลำบาก แถมที่นี่ยังเปิดให้เล่นสกียาวจนถึงต้นพฤษภาคม วันนี้เลยขอมาพูดถึงคลับเมด คิโรโระ (Club Med Kiroro) สกีรีสอร์ตในเครือคลับเมดที่หนึ่งในทีมเราเคยไปมาแล้วกับ ทริปเป่ย์ต้าหู ประเทศจีน เลยเชื่อมือได้ว่าถ้าไปที่นี่ก็จะไม่ผิดหวังแน่นอน เริ่มจากบริการแบบ all-inclusive ซึ่งรวมทั้งที่พัก อาหาร เครื่องดื่ม ออนเซ็นกลางแจ้งท่ามกลางหิมะ คอร์สเรียนสกี และสโนว์บอร์ดสำหรับทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงมือโปร ส่วนใครที่ไม่มีอุปกรณ์ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะที่นี่มีให้เรายืมแบบครบครัน สำหรับที่พักก็มีรีสอร์ตให้เลือก 2 แห่ง 2 สไตล์ที่เปิดใกล้ๆ กัน คือ คลับเมด คิโรโระ พีค (Club Med Kiroro Peak) รีสอร์ตพรีเมียมสำหรับคู่รักและกลุ่มเพื่อนผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีคลับเมด คิโรโระ แกรนด์ (Club Med Kiroro Grand) ที่ออกแบบมาเพื่อครอบครัวและนักเดินทางทุกวัย

Shang Palace has been the gold standard for Chinese dining, and their new Executive Chinese Chef Kwok Ka Wai, just raised the bar even higher. They rolled out four signature dishes that’ll challenge every fantastic Chinese meal you’ve ever had. The stir-fried fresh lobster with scallions is seriously impressive – generous chunks of sweet, fresh lobster (no frozen imposters here), stir-fried in a sauce that gets more nuanced with every bite. The baked stuffed crab shell might sound fancy but tastes like the best crab dip you've ever had, just elevated to perfection. Baked oyster with port wine reads a bit posh on the menu, but the flavours land: The richness of the wine complements, rather than overpowers. Fried diced cod fish with honey rounds things out perfectly. Crispy fish, sweet glaze, zero greasiness.  Simple concept, flawless execution. The classics? Still flawless. Traditional Peking-style oven glazed goose (yes, goose – not duck) has that perfect lacquered skin that crackles perfectly on the bite. The crab sticky rice is the kind of dish you could eat forever – proper sticky rice with plenty of crab integrated throughout, not just sprinkled on top for show. Sure, it's lavish, but this is hotel dining done right. The service doesn't crowd but they are attentive and know their stuff. Perfect for when you want to impress someone or just treat yourself to Chinese food that remembers What amazing technique tastes like.   Located on Level 3, Shangri-La Wing, Shangri-La Ban

Kay’s Sathon เป็นร้านที่เมื่อได้ก้าวเท้าเข้าไปแล้ว เหมือนเราได้หลุดเข้าไปในธรรมชาติจนลืมความวุ่นวายของกลางเมืองไปเลย  ทั้งบรรยากาศรอบข้างที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ ความเงียบสงบ และต้นมะกอกที่เด่นสง่าอยู่กลางร้าน ตัวร้านที่เป็นกระจกรับแสงแดดที่ลอดเข้ามา ช่วยสร้างบรรยากาศที่เหมาะกับการใช้เวลาช้าๆ ไม่ว่าจะเลือกนั่งในร้านหรือออกไปรับลมข้างนอก จานที่เสิร์ฟออกมาทุกจานเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา หนึ่งในเมนูที่ห้ามพลาดคือ Kay’s Market Plate เพราะรวมของดีไว้ในจานเดียว ทั้งอะโวคาโด เบคอน มะเขือเทศ เคล และไข่เนื้อนุ่ม  ที่ 1 ถนนศรีเวียง สีลม บางรัก เปิดบริการ ทุกวัน 06.30 - 17.00 น. โทร 092-995-9985

K, the first overseas project from the Michelin-star chef by Vicky Cheng and owner of VEA and Wing in Hong Kong.  Combining Chinese cuisine with French techniques, you'll be dazzled by the colourful garnishes and techniques that elevate the robust Cantonese and Chiu Chow fare at the heart of her dishes. K offers a variety of Cantonese menu options for your liking. If you're into spicy food, whole squid with green Sichuan pepper might catch your eye. K's signature crab with Chinese black olives and garlic might be a bit messy, but the succulent meat inside is well worth the effort. Finish your meal with mango pomelo sago with coconut ice cream, chef Vicky’s interpretation of mango sticky rice.  The tea bar is also worth a shout out. Here, tea culture is blended into a wide range of inspired drinks, from brewed Chinese leaves to crafted tea-infused cocktails and mocktails. Don't let the menu intimidate you – the tea experts will help you choose the right one for your cup.

ปีนี้กรุงเทพฯ คึกคักไปด้วยนิทรรศการอนิเมะที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น Naruto the Gallery  Attack on Titan หรือว่า 100% Doraemon & Friends Tour in Thailand ให้แฟนๆ ได้เลือกเปิดประสบการณ์สุดประทับใจ แต่ว่าเดือนนี้ยังมีอีกหนึ่งอีเวนต์น่าสนใจ เพราะเรื่องราวของอนิเมะที่หลายคนชื่นชอบยังถูกนำมาเล่าใหม่ผ่านท่วงทำนองของเสียงดนตรีโดยวง Royal Bangkok Symphony Orchestra ในคอนเสิร์ต Music of Anime วันที่ 19 - 20 มิถุนายน เวลา 19.30 น. เตรียมนำเรื่องราวของอนิเมะของคุณมาเล่าใหม่ ซึ่งในการบรรเลงบทเพลงจากวงออร์เคสตรานี้ ได้วาทยกรชาวโตเกียวอย่าง นาโอฮิซา ฟูรูซาวา (Naohisa Furusawa) มาถ่ายทอดอารมณ์ของเพลง โดยนาโอฮิซาเป็นที่รู้จักจากแนวทางที่สร้างสรรค์ในการตีความดนตรีประกอบภาพยนตร์แอนิเมชัน และได้สะกดผู้ชมมาแล้วจากผลงานร่วมกับ Malaysian Philharmonic Orchestra  คอนเสิร์ตปีนี้เปิดฉากด้วยบทเพลงคลาสสิกจากสตูดิโอจิบลิ เริ่มต้นด้วยเพลงประกอบจากผลงานอมตะของ โจ ฮิซาอิชิ (Joe Hisaishi) จากเรื่อง มิติวิญญาณมหัศจรรย์ (Spirited Away) ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ (Howl’s Moving Castle) และ โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย (Ponyo)  เมื่อค่ำคืนดำเนินไป วงออร์เคสตราจะพาคุณท่องไปในอารมณ์ที่หลากหลายด้วยบทเพลงจากอนิเมะอีกหลายเรื่อง  เช่น คำอธิษฐานในวันที่จากลา (Frieren: Beyond Journey’s End) ซอร์ดอาร์ตออนไลน์ (Sword Art Online)  รักไร้เสียง (A Silent Voice) และ หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Your Name)  คอนเสิร์ต Music of Anime จัดขึ้นที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บัตรราคาเริ่มต้นที่ 600 บาท สามารถซื้อได้ที่นี่

ข่าวดีรับสัปดาห์! สำหรับสายเที่ยว สายคอนเทนต์ที่หลงรักทะเลไทย เพราะ อ่าวมาหยา จังหวัดกระบี่ หนึ่งในเพชรเม็ดงามแห่งอันดามันของบ้านเรา เพิ่งจะสร้างชื่อเสียงระดับโลกอีกครั้ง ด้วยการผงาดคว้าอันดับ 1 ชายหาดที่ถ่ายรูปสวยที่สุดในโลก (Top 10 Most Photogenic Beaches in the World on Instagram) จากการจัดอันดับของแพลตฟอร์ม Heepsy ที่วิเคราะห์ข้อมูลจาก Instagram พร้อมกับ เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ติดอันดับ 9 ในรายการเดียวกัน รางวัลนี้ไม่ได้มาโดยบังเอิญ แต่มาจากความงามที่เป็นเอกลักษณ์ของอ่าวมาหยา ทั้งน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ใสราวคริสตัล หาดทรายขาวละเอียด และฉากหลังของภูเขาหินปูนสูงตระหง่านที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ไม่ว่าจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายจากมุมไหน ก็ได้รูปสวยปังพร้อมอวดลงโซเชียล สิ่งที่ทำให้รางวัลนี้มีความพิเศษคือการที่อ่าวมาหยาได้กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวหลังจากปิดปรับปรุงเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติไปหลายปี การกลับมาในครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าการอนุรักษ์และการดูแลระบบนิเวศอย่างยั่งยืนคือหัวใจสำคัญที่ทำให้อ่าวแห่งนี้ยังคงความงามบริสุทธิ์และอุดมสมบูรณ์ ทั้งแนวปะการังที่ฟื้นตัวและการกลับมาของสัตว์ทะเลหายากอย่างฉลามครีบดำ เรียกได้ว่าเป็นการตอกย้ำให้ทั่วโลกได้เห็นว่า ทะเลไทย โดยเฉพาะอ่าวมาหยา ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามระดับโลก แต่ยังมาพร้อมกับความใส่ใจในการอนุรักษ์ ที่ทำให้ความงามนี้คงอยู่ได้อย่างยั่งยืน สำหรับใครที่กำลังมองหาจุดเช็กอิน ที่ทั้งสวย ถ่ายรูปขึ้น และยังได้ชื่นชมความสำเร็จของการอนุรักษ์ธรรมชาติระดับโลก อ่าวมาหยา คือคำตอบที่ทุกคนต้องไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต  

สวนสัตว์เชียงใหม่กำลังเตรียมเปิดบ้านต้อนรับแพนด้ายักษ์ 2 ตัวจากจีนในช่วงปลายปีนี้ โดยนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ระบุว่า นี่คือของขวัญพิเศษในวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยจึงอนุมัติงบประมาณ 110 ล้านบาท เพื่อสร้างที่อยู่ขนาดใหญ่พร้อมจำลองสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ ให้น้องได้อยู่อย่างสบาย ถ้าเคยจำกันได้ สวนสัตว์เชียงใหม่เคยเป็นบ้านของแพนด้าช่วงช่วง และ หลินฮุ่ย ที่ความน่ารักจับใจคนไทยได้เกือบทั้งประเทศ และเคยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้กว่า 7 ล้านคน ทั้งสองยังให้กำเนิดลูกแพนด้าน้องหลินปิง ในปี 2552 ก่อนที่หลินฮุ่ยจะจากไปเมื่อปี 2566 จากภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากอายุที่มากขึ้น หลังจากนั้น บ้านแพนด้าก็เงียบเหงาอยู่นาน จนถึงตอนนี้ที่แพนด้าคู่ใหม่กำลังจะเดินทางมาอีกครั้ง ด้วยความคาดหวังว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและย้ำสายสัมพันธ์ไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่การลงทุนครั้งนี้นำมาสู่คำถามที่ว่า การใช้เงินหลายร้อยล้านบาทเพื่อสร้างที่พำนัก ‘จำลองธรรมชาติ’ ให้สัตว์จากอีกฟากโลก นั้นจะคุ้มค่าหรือไม่?  โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยยังมีปัญหาสังคมมากมายที่รัฐบาลต้องจัดการ และถึงแม้จะมีเหตุผลว่าเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ก็มีเส้นบางๆ ระหว่างการอนุรักษ์ชีวิตเพื่อศีลธรรม หรือเป็นเครื่องมือเพื่อความบันเทิง ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่สังคมควรช่วยกันตั้งคำถามและพิจารณากันต่อไป  

เดือนมิถุนายนเป็นเดือนพิเศษสำหรับชุมชน LGBTQIA+ และ Kimpton Maa-Lai Bangkok ก็ไม่พลาดที่จะร่วมเฉลิมฉลองด้วยการจัด Pride Film Festival ปีที่ 5 ขึ้นในวันที่ 13 - 14 มิถุนายน ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสกับพลังของภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวความรัก ความหลากหลาย และการยอมรับ งานนี้จัดขึ้นที่ Maa-Lai Library ชั้น 30 ของโรงแรมฯ โดยคัดสรรภาพยนตร์มาทั้งหมด 4 เรื่องที่ได้รับรางวัลและมีเนื้อหาที่สะเทือนใจ เริ่มต้นด้วย 'มะลิลา' ภาพยนตร์ไทยที่เล่าเรื่องความรักของเพศเดียวกันอย่างบรรจิตบรรจง ฉายในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน เวลา 19:00 น. ตามด้วยอีก 3 เรื่องในวันเสาร์ ได้แก่ 'The Miseducation of Cameron Post' เรื่องราวของวัยรุ่นสาวที่ถูกส่งไปศูนย์บำบัดพฤติกรรมรักร่วมเพศ, 'God's Own Country' โรแมนติกดราม่าจากอังกฤษ และปิดท้ายด้วย 'The Adventures of Priscilla, Queen of the Desert' ภาพยนตร์ตำนานของออสเตรเลีย ที่โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ ร่วมกับสถานทูตออสเตรเลียภูมิใจนำเสนอ Photograph: Kimpton Maa-Lai Bangkok สิ่งที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กันคือ 'Proud & Loud Party: Queen of the Desert' ที่ Bar.Yard รูฟท็อปบาร์ชั้น 40 ในคืนวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ไปจนถึงดึก งานนี้จะมีการแสดงแดร็กโชว์สุดตื่นตาจากตัวแม่สุดแซ่บ ทั้ง Meannie Minaj /  ZEPEE และ Kandy Zyanide ที่จะมาโชว์เดี่ยวและแสดงกลุ่มที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Priscilla เวลา 21.45 น. เป็นต้นไป การฉายภาพยนตร์เข้าชมฟรี แต่ต้องจองที่นั่งล่วงหน้าผ่าน Megatix ส่วนงานปาร์ตี้สามารถจองได้ที่ 02-056-9999 หรือ LINE Official Account @bar.yard

เป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีของเมืองไทย ที่นอกจากเราจะมีคนเก่งๆ ให้ได้ชื่นชมกันเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ได้อันดับหนึ่งนักแบดมินตันโลก หรือ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี คว้ามงกุฏ Miss World เป็นคนแรกของเมืองไทย วงการ Hospitality ของเราก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน เพราะล่าสุด La Liste ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการจัดอันดับร้านอาหารของประเทศฝรั่งเศสได้เริ่มจัดอันดับโรงแรมจากทั่วโลกเป็นปีแรก และแมนดาริน โอเรียนทัล กรุงเทพฯ ก็เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดในลิสต์  ในปีนี้ มีโรงแรมเพียง 10 แห่งทั่วโลกที่ทำคะแนนได้สูงสุด และในจำนวนนั้น มีเพียงสองแห่งจากเอเชียเท่านั้นที่ติดอันดับ ได้แก่ แมนดาริน โอเรียนทัล กรุงเทพฯ และ The Peninsula Shanghai ซึ่งทำให้โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ กลายเป็น ตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวจากอาเซียน ที่ได้รับเกียรติในลิสต์ระดับโลกนี้ การจัดอันดับครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะ La Liste ใช้อัลกอริทึมที่ซับซ้อนวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลระดับนานาชาติมากกว่า 400 แหล่ง รวมถึงคู่มือท่องเที่ยว สื่อที่เชื่อถือได้ และรีวิวจากผู้เข้าพักจริง เพื่อให้ได้ผลการประเมินที่เป็นกลางและเที่ยงตรงที่สุด ซึ่งทำให้การได้รับรางวัลนี้มีน้ำหนักและเป็นที่ยอมรับในวงการโรงแรมระดับโลก รายชื่อโรงแรมอื่นๆ ที่ติดอันดับในครั้งนี้ ได้แก่: La Réserve Paris (ฝรั่งเศส) Cheval Blanc Paris (ฝรั่งเศส) The Connaught (สหราชอาณาจักร) The Savoy (สหราชอาณาจักร) Il San Pietro di Positano (อิตาลี) J.K. Place Capri (อิตาลี) The Peninsula Chicago (สหรัฐอเมริกา) Rosewood Mayakoba (เม็กซิโก) แต่ละแห่งล้วนเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านคุณภาพ บริการ และประสบการณ์อันเหนือระดับ สำหรับ แมนดาริน โอเรี

ตั้งแต่ประกาศตาราง world tour 2025 ตั้งแต่อาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้งกรุ๊ปแชตและเธรด X ของเหล่าบลิ้งค์ชาวไทยก็เด้งรัวๆ จนแจ้งเตือนไหลไม่หยุดจนแทบอ่านกันไม่ทัน เพราะกรุงเทพฯ กำลังเตรียมพร้อมอีกครั้งเพื่อรอการมาถึงของ Blackpink วงเกิร์ลกรุ๊ป 4 สาวจะกลับมาที่กรุงเทพฯ ในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อจัดคอนเสิร์ตสามคืนที่สนามกีฬาแห่งชาติราชมังคลากีฬาสถาน ภายใต้ชื่อ Deadline World Tour นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเธอมาเยือนเมืองหลวงของเรา และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นคอนเสิร์ตที่จัดโดย Live Nation Tero ตรงกับวันหยุดยาวพอดี ทำให้แฟนๆ เริ่มแห่จองโรงแรมกันไม่หยุด วางแผนชุดที่จะใส่ และคาดเดาแขกรับเชิญพิเศษที่ห้ามพลาด  นับว่าเป็นทัวร์ที่น่าจับตามองหลังจาก Born Pink เวิลด์ทัวร์ครั้งก่อนในปี 2022 - 2023 ดึงดูดผู้คนมากกว่า 1.8 ล้านคนทั่วโลก สร้างสถิติใหม่และให้นิยามใหม่ของสิ่งที่เกิร์ลกรุ๊ปสามารถทำได้บนเวทีสเตเดียม มันไม่ใช่แค่ชุดคอนเสิร์ตธรรมดา แต่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม Deadline Tour ดูเหมือนจะไปได้ไกลกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อ Blackpink ไม่ใช่แค่วงดนตรีอีกต่อไป พวกเธอคือสัญลักษณ์ เป็นตัวชี้วัด และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก หากคุณกำลังวางแผนจะจองที่นั่งหรือบัตรยืน นี่คือทุกสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับสาวๆ วงนี้ ตั้งแต่วันที่และเวลาที่บัตรวางจำหน่ายทั่วไป ไปจนถึงราคา Blackpink World Tour ที่กรุงเทพฯ จัดเมื่อไหร่? พวกเธอจะกลับมาที่สนามกีฬาแห่งชาติราชมังคลากีฬาสถานเป็นเวลา 3 คืน ในวันที่ 24 / 25 และ 26 ตุลาคม Blackpink จะขึ้นเวทีกี่โมง? ประตูสนามกีฬาจะเปิดเวลา 19.00 น. โดย Blackpink คาดว่าจะขึ้นเวทีราวเวลา 19.30 น. แต่อาจจะขึ้นจริงใกล้เคียง 20.15 น. จองบัตรยังไง? สมาชิก Weverse Blink Membership (gl

เดือนมิถุนายนปีนี้ The Parq ขอชวนทุกคนมาใช้พื้นที่กลางเมืองร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลายและความเป็นตัวของตัวเองกันในแคมเปญ Canvas of Pride ที่จะเปลี่ยนลานหน้าตึกให้กลายเป็นผืนผ้าใบขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยสีสัน เสียงเพลง และบรรยากาศที่อบอุ่นให้ทุกคนได้แสดงความเป็นตัวเองได้อย่างอิสระตลอดทั้งเดือน ทุกเย็นวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 18.00 - 21.00 น. จะมี มินิคอนเสิร์ตเล็กๆ แต่ใจใหญ่ ที่เปิดพื้นที่ให้ศิลปินมาส่งต่อพลังบวกผ่านเสียงเพลง เริ่มจาก ซิลวี่ ภาวิดา, มิ้น มิณฑิตา และ อ๊อฟ ปองศักดิ์ ในวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งจะเป็นวันเปิดตัวแคมเปญอย่างเป็นทางการ ตามมาด้วย Serious Bacon (12 มิถุนายน) AmadiVa & Friends (19 มิถุนายน) และปิดท้ายอย่างยิ่งใหญ่กับ คริสติน่า อากีล่าร์ (26 มิถุนายน)แค่ลงทะเบียนที่หน้างานก็รับ wristband เข้าชมฟรี—ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องเร่ง แค่แวะมาก็พอ ส่วนใครเป็นสายคราฟต์ก็มีเวิร์กช็อปแบบง่ายๆ อย่างการทำ พวงกุญแจรีไซเคิลจากฝาขวด เพนต์หมีน้อยดริปสี หรือ ตกแต่งกระเป๋าผ้าใบของตัวเอง เพียงใช้จ่ายครบ 500 บาทในร้านค้าภายใน The PARQ Life แล้วแอดไลน์ @theparq ก็เข้าร่วมได้เลย (จำกัด 50 คนต่อวัน) ทุกวันอังคารและพฤหัสบดี เวลา 11.30 - 19.00 น. แล้วก่อนกลับบ้าน อย่าลืมแวะมาแต่งแต้มสีสันกันกับ Pride Art Wall ที่เปิดให้ทุกคนได้หยิบพู่กันขึ้นมาวาดเขียนกำแพงสะท้อนความภาคภูมิใจในแบบของตัวเองได้เต็มที่ หรือแวะ Pride Market (จัดตั้งแต่ 4 - 27 มิถุนายน ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 10.00 - 20.00 น.) ที่รวมร้านขนม เครื่องดื่ม และของน่ารักๆ ไว้ในบรรยากาศสบายๆ พร้อมเสียงดนตรีอะคูสติกเบาๆ ในบรรยากาศอบอุ่นและเต็มไปด้วยพลังบวก ที่ The Parq Life ชั้น 1 (MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 2) วันที่ 1 - 31 มิ

  Jameson Irish Whiskey ประเทศไทย เพิ่งจัดงาน Jameson Black Barrel Competition Thailand ที่โรงแรมดุสิตธานี เพื่อค้นหาสุดยอดบาร์เทนเดอร์ 2 คนที่จะได้เดินทางไปแข่งขันระดับโลกที่ประเทศไอร์แลนด์ การแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่แค่การโชว์สกิลการชง แต่เป็นการท้าทายให้สร้างสรรค์ 'ค็อกเทลที่สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่น' โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากวงการ ได้แก่ คุณอภิวิชญ์ปัญญา จาก Pernod Ricard Thailand คุณศุภวิชญ์ มุทธารัตน์ จาก Drywave Cocktail เชฟนิค จากร้านวังหิงห้อย และคุณไบรอัน กอนซาเลซ จาก SEEN The St. Regis Bar Bangkok ได้ตัดสินจากความคิดสร้างสรรค์ รสชาติ การนำเสนอ และการตีความแนวคิดท้องถิ่น ผู้ชนะทั้งสองคือ ธรรมาริน คูเปอร์ บาร์เทนเดอร์อิสระ กับผลงานค็อกเทล 'Made in Thailand' และ ภูพาน โรงสะอาด จาก Opium Bar กับผลงาน 'Jamming James' ทั้งสองจะได้เดินทางไปร่วมงาน Jameson HOSTS Global Summit ที่ไอร์แลนด์ในเดือนกันยายน 2568 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของเจมสัน ประเทศไทยจนถึงสิ้นปี 2568 สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมการดื่ม เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงการยกระดับวงการบาร์และค็อกเทลไทยสู่มาตรฐานสากล ไม่ใช่แค่การดื่มเพื่อความสนุก แต่เป็นศิลปะที่ผสมผสานวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และฝีมือระดับมืออาชีพ การที่แบรนด์ระดับโลกอย่าง Jameson มองเห็นศักยภาพของบาร์เทนเดอร์ไทย และเปิดโอกาสให้ไปแสดงความสามารถในเวทีโลก ถือเป็นสัญญาณดีที่แสดงว่าฉากบาร์และค็อกเทลไทยกำลังได้รับการยอมรับมากขึ้น

สำหรับคนที่คุ้นกับซูชิโรลแบบมากิ (maki) หรือ (uramaki) ที่มักเสิร์ฟกันตามร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป ตอนนี้ถึงเวลาทำความรู้จักกับเทมากิ (temaki) หรือที่หลายคนเรียกว่า แฮนด์โรล (handroll) ซูชิอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสในกรุงเทพฯ ตอนนี้  แฮนด์โรลต่างจากมากิที่ม้วนด้วยเสื่อไม้ไผ่แล้วหั่นเป็นชิ้น แต่คือซูชิแบบห่อด้วยมือเป็นคำๆ ในทรงกรวยหรือทรงกระบอก เน้นความสดใหม่จากเคาน์เตอร์บาร์ เสิร์ฟตรงจากมือเชฟถึงมือลูกค้า ทำให้หยิบทานได้ทันที ไม่ต้องรอหั่น ไม่ต้องแบ่งใคร เทมากิเริ่มฮิตในญี่ปุ่นตั้งแต่หลังยุคโชวะ โดยนิยมเสิร์ฟในบ้านหรือในปาร์ตี้เล็กๆ ให้ทุกคนได้เลือกไส้และข้าวเองตามใจ ต่างจากโอมากาเสะที่รสชาติเซ็ตโดยเชฟ เทมากิเน้นความสนุก สร้างสรรค์ และเข้าถึงง่าย ไม่ว่าจะเป็นไส้แซลมอน ทูน่า ปูอัด หรือดัดแปลงเป็นฟิวชั่นก็ยังได้ และตอนนี้ ‘ไวรัลคำต่อคำ’ ของสายกินในกรุงเทพฯ อย่างเต็มตัว หนึ่งในร้านที่ผลักดันให้แฮนด์โรลกลายเป็นเทรนด์ก็คือ Kanori แบรนด์ที่ปูทางคอนเซปต์ Hand Roll Bar จากร้านแรกที่เปิดเมื่อปี 2566 และตอนนี้มีถึง 4 สาขาทั่วกรุงเทพฯ ความพิเศษของ Kanori คือการเสิร์ฟแฮนด์โรลแบบคำต่อคำ ในบรรยากาศเคาน์เตอร์บาร์ไม้แบบญี่ปุ่น เพดานสูงโปร่ง และการใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติได้อย่างชาญฉลาดที่สุด พร้อมสาหร่ายสูตรพิเศษที่กรอบ หอม และไม่เหนียว เพราะผ่านการ R&D ร่วมกับทีมจากญี่ปุ่นโดยตรง ล่าสุด ทางร้านเปิดตัวเมนูใหม่ ‘Premium Five’ รวมแฮนด์โรลพรีเมียม 5 คำเด็ดที่สายซูชิต้องลอง: Ankimo — โรลตับปลาอังกิโมะ เนื้อเนียนเข้มข้น Madai Plum — ปลามาไดกับซอสบ๊วยหอมเปรี้ยวสดชื่น KANORI Roll — คำเดียวรวมล็อบสเตอร์ อูนิ ไข่ปลาแซลมอน และทูน่าบด Awabi — หอยเป่าฮื้อราดซอสตับลึกซึ้ง The Unagi — ปลาไหลย่างหนังกรอ

The Distinguished Gentleman’s Ride 2025 กลับมาอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคมนี้ พร้อมเปลี่ยนถนนกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นขบวนพาเหรดของสุภาพบุรุษไบเกอร์สไตล์วินเทจ ด้วยเสื้อสูท แพตเทิร์นเนี๊ยบ รองเท้าหนังเงาวับ และเสียงเครื่องยนต์คลาสสิกที่ดังกระหึ่ม กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการรวมตัวของผู้รักมอเตอร์ไซค์คลาสสิกเท่านั้น แต่ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อระดมทุนสนับสนุนสุขภาพผู้ชายผ่านมูลนิธิ Movember  กิจกรรมเริ่มต้นที่ ไทรอัมพ์ พระราม 5 เวลา 15:00 น. และออกเดินทางเวลา 16:00 น. เส้นทางยาว 37 กิโลเมตรผ่านแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ เช่น อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เสาชิงช้า และประตูศักดิ์ชัยวัดพระแก้ว ก่อนจะสิ้นสุดที่ Tough Cafe นนทบุรี พร้อมดนตรีสด อาหารดี และรางวัลสำหรับผู้แต่งกายยอดเยี่ยม ผู้เข้าร่วมไม่จำเป็นต้องเสียค่าสมัคร แต่สามารถร่วมบริจาคผ่านเว็บไซต์ gentlemansride.com เพื่อสนับสนุนภารกิจระดับโลกนี้ DGR ไม่ใช่แค่การขี่มอเตอร์ไซค์ แต่เป็นการรวมพลังเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพผู้ชาย โดยเฉพาะโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและสุขภาพจิต เงินที่ระดมได้จะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมในเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศไทย เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา หัวหิน และอุบลราชธานี โดยแต่ละเมืองมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการขี่ด้วยสไตล์ เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถลงทะเบียนและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ gentlemansride.com อย่าลืมแต่งตัวให้เนี้ยบ สไตลิช วินเทจ หรือทวิสต์อะไรก็ได้ที่เป็นตัวคุณ แล้วมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนสุภาพบุรุษไบเกอร์เพื่อสุขภาพผู้ชายกันเถอะ! 

เดือนนี้เหล่าแฟนอนิเมะและมังงะมีนัดใหญ่กันตลอดทั้งเดือน เพราะกิจกรรมสายญี่ปุ่นทยอยบุกกรุงเทพฯ แบบไม่มีพัก เริ่มจากนิทรรศการ Jujutsu Kaisen ที่เพิ่งปิดฉากไปไม่นาน ก็ตามมาด้วยโชว์จัดเต็มของ มาสค์ไรเดอร์ ที่เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ทางฝั่งธนฯ ก็มี Doraemon Tour ครั้งแรกในกรุงเทพฯ รวมถึง Naruto The Gallery ที่เตรียมเปิดตัวที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ปลายเดือนนี้ และล่าสุด นิทรรศการ Attack on Titan Final Exhibition ก็ได้บุกมาถึง CentralWorld Pulse แล้ว พาแฟนๆ ดำดิ่งสู่โลกดิสโทเปียสุดเข้มข้นของผลงานระดับตำนาน พร้อมจัดเต็มทั้งภาพ เสียง และบรรยากาศสมจริง แม้จะผ่านมาเกือบ 2 ปีหลังจากตอนสุดท้ายของอนิเมะ Attack on Titan ออกอากาศ แต่โลกอันหม่นหมองและสะเทือนอารมณ์ที่อาจารย์ ฮาจิเมะ อิซายามะ สร้างขึ้น ก็ยังคงฝังลึกอยู่ในใจแฟนๆ ทั่วโลก ด้วยพล็อตเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตาม คาแรกเตอร์ที่ซับซ้อนลุ่มลึก และคำถามเชิงปรัชญาและสังคมที่ชวนให้ขบคิดไม่แพ้ฉากแอ็กชันสุดมัน นิทรรศการครั้งนี้จะพาทุกคนย้อนกลับสู่โลกของไททันอีกครั้ง ผ่านการจัดแสดงแบบเต็มรูปแบบใน 8 โซนหลัก ที่อัดแน่นด้วยต้นฉบับร่างภาพ สเก็ตช์คาแรกเตอร์ และอาวุธจากมังงะที่หาชมได้ยาก หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือโซน ‘Titan War’ โรงภาพยนตร์จอยักษ์ที่ฉายแอนิเมชันจำนวน 2 ตอน ตอนละ 10 นาที บนจอภาพขนาดใหญ่ สูง 2.4 เมตร กว้าง 9 เมตร พร้อมระบบเสียงและเอฟเฟกต์สุดสมจริง ที่จะพาผู้ชมเข้าสู่สนามรบเสมือนจริงอย่างตื่นตาตื่นใจ และพิเศษสุดสำหรับการจัดแสดงในประเทศไทยเท่านั้น! พบกับโซน ‘Titan Head’ หัวไททันเป่าลมขนาดมหึมา สูงถึง 4 เมตร พร้อมดีไซน์กำแพงให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนกำลังปีนหลบภัยจากไททันราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของอนิเมะอย่างแท้จริง ที่ Centralworld Puls

ชีวิตในกรุงเทพฯ จะออกไปกินข้าว ดื่มกาแฟ หรือเจอเพื่อนแต่ละที คนเมืองก็ต้องเผื่อเวลาหาที่จอดรถกันเป็นชั่วโมงๆ โดยเฉพาะโซนสาธรที่หาที่จอดยากยิ่งกว่าถูกหวย ตอนนี้นับว่าเป็นข่าวดี ที่ Velaa Langsuan หรือ เวลา สินธร วิลเลจ หลังสวน เปิดตัวเฟสใหม่พร้อมพื้นที่จอดรถใต้ดินกว่า 300 คัน ให้คุณเอารถมาแบบไม่ต้องวนหาที่จอดจนท้องร้องก่อนถึงร้านชื่อ เวลา (Velaa) ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะที่นี่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนใช้ ‘เวลา’ ตั้งแต่เช้าจรดเย็นแบบไม่มีเบื่อ จะมาเดินเล่นใต้ร่มไม้สีเขียว ชิลกับเพื่อน 4 ขา หรือนัดกินข้าวแบบจริงจังกับแก๊งเพื่อนก็ได้หมด เฟสใหม่นี้จัดเต็มด้วยร้านใหม่ 10 ร้าน ที่ไม่ใช่แค่สวย แต่รสชาติก็จริงจังเหมือนกัน เริ่มวันด้วยกาแฟดีๆ จาก Get Some Coffee แบรนด์ดังจากเกาหลี หรือลองชาไต้หวันพรีเมียมจาก Chicha San Chen ที่ใช้เครื่องชงชา AI Teapresso ตัวแรกของโลก แล้วอย่าลืมแวะเติมความหวานที่ Kad Kreamery โดย Kad Kokoa ที่เสิร์ฟไอศกรีมและคุกกี้จากช็อกโกแลตไทยแบบบีน-ทู-บาร์ ที่เด็ดที่สุดคือการรวมตัวของเชฟระดับมิชลินในพื้นที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น Jtap โดยเชฟแท็ป ที่เสิร์ฟอาหารไทยผ่านเทคนิคพื้นฐานอย่าง ต้ม นึ่ง ย่าง ทอด ผัด แบบถึงเครื่องและถึงใจ  Maison Roru โดยเชฟมาซาโตะและคุณปลา iberry ที่พา handroll กับสาเกมาเจอกันแบบลงตัว Vilas โดยเชฟปริญ กับอาหารไทยโมเดิร์นที่ยังกลิ่นอายคลาสสิก และ Lawoi’ ของเชฟต้นกับคุณเมย์ ที่จัดซีฟู้ดมาเต็มเอาใจสายอิซากายะแบบไม่มีกั๊กและสำหรับคนที่อยากผ่อนคลายให้สุด ที่นี่ก็มี KINGSMAN บาร์เบอร์พรีเมียมสไตล์คลาสสิกที่บริการครบเครื่องหรือจะพาเจ้าขนฟูมาเดินเล่นให้ครบแก๊งก็ทำได้ เพราะที่นี่ pet-friendly แบบเต็มตัว