สายการบินโลว์คอสต์ Jetstar Asia เตรียมปิดตัวตั้งแต่ 31 กรกฎาคมนี้

แม้ว่าประเทศไทย จะเต็มไปด้วยสถานที่มากมายให้ได้ท่องเที่ยวกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการไปเที่ยวต่างประเทศสัก 2 - 3 วันก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากออกไปต่างประเทศแบบสั้นๆ แน่นอนสิงคโปร์เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดฮิตของคนไทย ที่ใช้เวลาบินเพียง 2 ชั่วโมง ก็ไปถึงเมืองที่ให้เราได้ทั้งลองชิมของอร่อยๆ เดินช็อปปิง ที่ Orchard Road หรือไปเที่ยว Universal Studio และเดินชมความอลังการของ Gardens by the Bay

แต่เรียกได้ว่านี่อาจเป็นข่าวไม่ค่อยดีนักสำหรับคนที่ใช้บริการสายการบินโลว์คอสต์อย่าง Jetstar Asia สักเท่าไร เพราะว่า สายการบินได้ประกาศยุติการให้บริการในเส้นทางสิงคโปร์ - กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคมนี้ หลังให้บริการมานานเกือบ 10 ปี

โดยสาเหตุที่ Jetstar Asia ตัดสินใจถอนตัวมาจากต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งค่าซัพพลายเออร์ ค่าธรรมเนียมสนามบิน และค่าใช้จ่ายด้านการบิน รวมถึงการแข่งขันของสายการบินโลว์คอสต์อื่นๆ ในภูมิภาคที่ดุเดือดมากขึ้น ซึ่งการปิดตัวครั้งนี้ส่งผลกระทบถึง 16 เส้นทางบินในเอเชีย แต่ว่ายังมีสายการบินภายใต้แบรนด์ของ Jetstar อย่าง Jetstar Airways และ Jetstar Japan ในเส้นทางเอเชียอื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ

ตั้งแต่เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2557 สายการบิน Jetstar Asia กลายเป็นตัวเลือกยอดฮิตสำหรับการเดินทางราคาประหยัด โดยในช่วงพีค เคยมีเที่ยวบินไป-กลับมากถึง 28 เที่ยวต่อสัปดาห์ ด้วยเครื่องบิน Airbus A320 ที่ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่ไปมาระหว่างสองประเทศนี้ 

แม้ว่าสายการบินใหญ่อย่าง สกู๊ตสิงคโปร์แอร์ไลน์ และ การบินไทย จะยังคงให้บริการในเส้นทางนี้ต่อไป แต่ในระยะสั้น การหายไปของ 28 เที่ยวบินต่อสัปดาห์อาจทำให้คนนักเดินทางมีตัวเลือกสายการบินน้อยลง ง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาตั๋วในเส้นทางนี้ขยับสูงขึ้นเล็กน้อยจนกว่าจะมีสายการบินอื่นๆ จะเข้าแทนที่ Jetstar Asia 

แต่ในทางกลับกันการถอนตัวของ Jetstar Asia อาจเป็นโอกาสให้สายการบินที่มีอยู่เติบโตในส่วนแบ่งตลาด หรือเปิดโอกาสให้สายการบินต้นทุนต่ำรายอื่นเข้ามาขยายธุรกิจในเส้นทางสุดฮิตนี้

สำหรับใครที่มีแพลนไปสิงคโปร์ในอนาคตอันใกล้ อาจต้องจองตั๋วกับสายการบินอื่นหรือเตรียมงบเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้เที่ยวในเมืองสิงโตอย่างที่วางแผนไว้