รวม 10 ร้านบรันช์สุดชิลในกรุงเทพฯ ที่ควรค่าแก่การตื่นสายเพื่อไปเช็กอิน

คาเฟ่อาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นที่เอาใจคนสายคลีน ซึ่งหยิบเอาแรงบันดาลใจจากบรูคลินมาผสมกับวิถีญี่ปุ่นแท้ๆ และใส่กลิ่นอายแบบกรุงเทพฯ ลงไปอย่างพอดี โดยได้หยิบเอาหลักคิดแบบญี่ปุ่นอย่าง ‘Mottainai’ หรือการใช้วัตถุดิบให้คุ้มค่าตามหลัก zero waste มาสร้างเป็นเมนูที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรสชาติในซอยสุขุมวิท 38 เมนูเด่นประจำร้านคือ Ichiju Gosai ที่เสิร์ฟอย่างพอดีในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นปลากับอีก 5 เครื่องเคียง ทั้งรสชาติ ปริมาณ และการจัดจาน อย่างกับออกแบบมาเพื่อเราโดยเฉพาะ เหมาะกับเช้าวันที่อยากใช้ชีวิตให้ช้าลง แล้วรู้สึกว่า ‘วันนี้ชีวิตมันดีจัง’

ที่ 33/1 ซอยสุขุมวิท 38 พระโขนง คลองเตย เปิดบริการ ทุกวัน 07.00 - 19.00 น. โทร 061-338-8000

ถ้านึกถึงคาเฟ่ที่ คิดว่าตั้งใจมานั่งแป๊บเดียวแต่ดันเผลออยู่นาน เราคงต้องชี้ไปที่ Luka Cafe เพราะที่นี่รวมเอาบรรยากาศแสนสบาย เมนูหลากสไตล์ และรสนิยมดีๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เมนูที่นี่เหมือนออกแบบมาเพื่อคนขี้เบื่อที่ยกระดับให้เป็นจานที่เราไม่คิดว่าจะเข้ากันได้ จะไม่แปลกใจเลยที่เราได้เห็นเบอร์ริโตวางคู่ไก่ทอดวาฟเฟิลสไตล์เกาหลี หรือบีทรูทควินัวโบลว์อยู่ถัดจากอะโวคาโดโทสต์หน้าตาน่าทานสุดๆ แต่ถ้าจะนิยามร้านนี้จริงๆ คงเป็นคำว่า ‘Global comfort food’ ที่อธิบายความเป็น Luka ได้ดีที่สุด เพราะเขาได้รวบเมนูหลากสัญชาติ มาไว้ในที่เดียวโดยไม่ต้องพยายามเกินไป ให้ได้นั่งทานใน ตัวร้านที่ตกแต่งเหมือนหลุดมาจากหน้าฟีด Pinterest แต่ไม่ดูตั้งใจจนฝืนธรรมชาติ เหมาะกับทั้งบรันช์วันหยุด หรือนั่งคุยงานที่ไม่อยากรู้สึกเหมือนนั่งห้องประชุมจริงจังเกินไป

ที่ 64/3 ถนนปั้น สีลม บางรัก เปิดบริการทุกวัน 08.00 - 18.00 น. โทร 091-886-8717

Larder เป็นร้านที่เหล่าเชฟที่พักจากหน้าเตาและเหล่า foodie แวะเวียนมากัน ด้วยความที่เป็นร้านที่ชึ้นชื่อเรื่องเมนูอาหารที่เน้นคุณภาพในทุกจาน บวกกับบรรยากาศร้านในสไตล์อินดัสเทรียลแบบดิบๆ ด้วยทุกจานที่เสิร์ฟเต็มไปด้วยดีเทลและรสชาติที่คิดมาอย่างดี ไฮไลท์ของที่นี่คือเมนู Tuna 3000 ซึ่งประกอบด้วยขนมปังซาวโดวจ์ ท็อปด้วยซอสทาร์ทาร์ ไข่ต้มยางมะตูม และทูน่า เสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งแผ่นบางทอดกรอบ นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมอบสดใหม่มากมายวางเรียงอยู่หน้าเคาน์เตอร์ให้ได้เลือกสรรกันอีกด้วย ถ้าคุณเป็นสายบรันช์ที่เน้นเรื่องรสชาติ ที่ผสมไปกับความเซอร์ไพรส์ Larder คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด

ที่ 31/2 ซอยพร้อมใจ 39 คลองตันเหนือ วัฒนา เปิดบริการ ทุกวัน 08.00 - 17.00 น. โทร 093-009-4494

Tina’s เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านในกรุงเทพฯ ที่นำเสนออาหารอเมริกาทางตอนใต้แบบดั้งเดิม

ซึ่งรวมถึงเมนูบรันช์ ร้านนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากทางตอนใต้ของอเมริกาโดยเฉพาะเมือง New Orleans ที่ถ่ายทอดออกมายังอาหารและบรรยากาศของร้าน ถ้าคิดภาพไม่ออก ร้านนี้เสิร์ฟเมนูอย่างกัมโบหรือกุ้งที่เราคุ้นเคยจากเรื่อง Forrest Gump ที่เสิร์ฟพร้อมบัตเตอร์มิลค์บิสกิตราดเกรวี่เนยแบบจัดเต็ม ซึ่งเป็นอาหารที่พบได้ทั่วไปในหลุยเซียนา ถ้าได้ลิ้มลองแล้ว จะได้สัมผัสกับกลิ่นหอมเข้มข้นอันเกินต้าน นอกจากตัวอาหารแล้ว ร้านนี้ยังมีดนตรีที่บรรเลงเพลงบลูส์มาให้ฟังกันแบบสดๆ โดยไม่ต้องพึ่ง Playlist จาก Spotify เราแนะนำให้เช็กตารางกันที่ Instagram ของร้านก่อน แล้วมาดื่มด่ำไปกับเสียงเพลง ที่ทำให้บรันช์ที่ Tina’s มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร

ที่ 7 ถนนสวนพลู ทุ่งมหาเมฆ สาทร เปิดบริการ ทุกวัน 11.30 - 15.00 น. และ 17.30 - 23.00 น. โทร 062-141-6549

ร้านนี้เป็นร้านที่ชวนให้คิดถึงบ้านอันอบอุ่นในความทรงจำของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นตัวอาหาร รสชาติ บรรยากาศ หรือรายละเอียดเล็กๆ อย่างจานลายครามที่วางบนโต๊ะไม้เก่าใต้ชายคาบ้านอายุร่วมศตวรรษ พร้อมทุกเมนูที่ตั้งใจปรุงมาแบบพอดี โดยได้หยิบสูตรของคุณยายของคู่รักเข้าของร้านมาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ทุกจาน ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียวฟูกรอบ ข้าวสวยหอมกรุ่นจากเตา ไปจนถึงข้าวต้มกุ๊ย นอกจากนั้นยังมีเมนูยอดฮิตอย่างไข่กระทะ หรือกาแฟไทยรสเข้ม ทุกองค์ประกอบของร้านทำให้บรรยากาศในร้านอบอวลไปด้วยความอบอุ่น หวนนึกถึงบ้านหลังที่เราเคยไปเยี่ยมเยียนสมัยเป็นเด็ก

ที่ 39/2 ซอยหลังสวน ลุมพินี ปทุมวัน เปิดบริการทุกวัน 07.30 - 23.30 น. โทร 085-215-5055

ถ้าพูดถึงร้านบรันช์ที่ฮอตที่สุดในกรุงเทพฯ คงหนีไม่พ้น Fran’s เห็นได้จากคิวยาวเมื่อครั้งร้านเปิดตัวโดยสาเหตุหลักๆ คงเป็นจานยอดฮิตอย่าง Velvet egg and bacon ที่มาพร้อมกับไข่เนื้อเนียนนุ่ม กับเบคอนชิ้นหนา ส่วนบรรยากาศร้านก็เป็นอะไรที่ลงตัวระหว่างความเป็นคาเฟ่บรันช์และบิสโทรฝรั่งเศสแบบสบายๆ นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยเมนูคลาสสิกอย่างแพนเค้ก เอ้กเบเนดิกต์ และสเต็กกับไข่ ที่แต่ละจานถูกยกระดับ แต่ยังคงความอร่อยไม่เปลี่ยนแปลง แถมตอนนี้ร้านยังเพิ่มสาขาไปยังสุขุมวิท และล่าสุดไกลถึงที่เชียงใหม่ 

ที่ 58 ซอยงามดูพลี ทุ่งมหาเมฆ สาทร เปิดบริการ ทุกวัน 08.00 - 22.00 น. โทร 092-131-0786

PRIDI เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่รีโนเวตมาเป็นบ้านสไตล์ mid-century สีขาวผสมกับภายในที่มีการตกแต่งด้วยไม้ ออกมาเป็นบรรยากาศที่ทั้งเรียบง่ายและอบอุ่น ทั้งยังเป็นโรงคั่วกาแฟในตัวเอง โดยไฮไลต์ของร้านคงหนีไม่พ้นกาแฟกลิ่นหอมๆ และเมนูที่หลากหลาย ซึ่งหนึ่งในเมนูที่เหมาะสมสำหรับรับประทานเป็นบรันช์คือเมนูตับไก่บดและขนมปังชิ้นกรอบ ที่มาพร้อมกับเครื่องเคียงที่เข้ากันได้ดีอย่างครีมที่ทางร้านหมักเอง และแยมสตรอเบอร์รีโฮมเมด เหมาะกับวันที่อยากทานอาหารมื้อสาย พร้อมอ่านหนังสือชิลๆ หรือจิบกาแฟแบบสบายใจ

ที่ 155 ซอยปรีดีพนมยงค์ 25 คลองตันเหนือ วัฒนา เปิดบริการทุกวัน 08.30 - 17.30 น. (ปิดพฤหัสบดี) โทร 065-098-8974

Kay’s Sathon เป็นร้านที่เมื่อได้ก้าวเท้าเข้าไปแล้ว เหมือนเราได้หลุดเข้าไปในธรรมชาติจนลืมความวุ่นวายของกลางเมืองไปเลย  ทั้งบรรยากาศรอบข้างที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ ความเงียบสงบ และต้นมะกอกที่เด่นสง่าอยู่กลางร้าน ตัวร้านที่เป็นกระจกรับแสงแดดที่ลอดเข้ามา ช่วยสร้างบรรยากาศที่เหมาะกับการใช้เวลาช้าๆ ไม่ว่าจะเลือกนั่งในร้านหรือออกไปรับลมข้างนอก จานที่เสิร์ฟออกมาทุกจานเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา หนึ่งในเมนูที่ห้ามพลาดคือ Kay’s Market Plate เพราะรวมของดีไว้ในจานเดียว ทั้งอะโวคาโด เบคอน มะเขือเทศ เคล และไข่เนื้อนุ่ม 

ที่ 1 ถนนศรีเวียง สีลม บางรัก เปิดบริการ ทุกวัน 06.30 - 17.00 น. โทร 092-995-9985

ถ้าใครอยากย้อนเวลากลับไปชมมนต์เสน่ห์ความขลังของกรุงเทพฯ ร้านออน ล๊อก หยุ่น ย่านเมืองเก่าคือคำตอบ ด้วยบรรยากาศแบบสภากาแฟที่ไม่เคยเปลี่ยน ทั้งโต๊ะแบบดั้งเดิม พัดลมเพดาน และกระป๋องไมโลวินเทจที่ยังคงอยู่เหมือนเมื่อครั้งร้านยังเปิดตัว โดยเป็นร้านอาหารเช้าสไตล์ไทยจีน และตะวันตก โดยแม้ว่าร้านจะเปิดตัวมาเกือบร้อยปีแล้ว แต่ยังคงให้ทุกคนได้ลิ้มรสชาติที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมของอาหารเช้าแบบง่ายๆ ทั้งไข่ดาว ไข่คน ขนมปังนึ่งสังขยา กุนเชียง แฮม และกาแฟร้อนเข้มข้น 

ที่ 72 ถนนเจริญกรุง วังบูรพาภิรมย์ พระนคร เปิดบริการ ทุกวัน 06.00 - 14.30 น. โทร 085-809-0835

ร้านอาหารสไตล์อเมริกันแบบวินเทจ คือคำนิยามของบรันช์ร้านนี้ ที่มาพร้อมกับอาหารเช้าไซซ์บิ๊กเสิร์ฟตลอดทั้งวัน ตัวร้านมาพร้อมกับมู้ดสนุกสนาน ที่แม้ว่าจะย้ายจากย่านหลังสวนมาเปิดตัวที่อัมรินทร์พลาซ่า แต่กลิ่นอายแบบ Mickey’s Diner BKK ก็ยังอยู่ครบ ทั้งเสียงจานกระทบ เสียงหัวเราะ และมุมที่นั่งทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์

จานไฮไลต์ต้องยกให้ ไก่ทอดกับวาฟเฟิล ที่กรอบนอกนุ่มในแบบอเมริกันแท้ๆ แต่ถ้าอยากจัดเต็ม แนะนำเมนู AFR Jumbo ไก่ทอด พอร์กแพตตี้ ไส้กรอกคีลบาซ่า แฮม เบคอน คอร์นบีฟ และไข่ออนเซ็น ที่ขอบอกเลยว่าต้องพาเพื่อนไปช่วยกันลุย หรือไว้ฟื้นพลังหลังจากปาร์ตี้หนักๆ และไม่ว่าจะเลือกเมนูไหน เราแนะนำให้ปิดท้ายด้วยมิลค์เชกสตรอว์เบอร์รีรสหวานละมุนแบบวัยเด็กที่ช่วยเติมเต็มมื้อนี้ให้สนุกครบรสยิ่งขึ้น

ที่ อัมรินทร์พลาซ่า ชั้น G ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน เปิดบริการ ทุกวัน 08.00 - 23.00 น. โทร 090-499-5158