ป๋าเต็ดพร้อมขนศิลปินกว่า 200 ชีวิตกลับเขาใหญ่ กับ 8 เวที 8 สไตล์ ในปีที่ 9 ของ Big Mountain Music Festival

Sopida Rodsom
เขียนโดย
Sopida Rodsom
การโฆษณา

จะเรียกว่ากลับมาอย่างยิ่งใหญ่ก็ว่าได้ เพราะปีนี้เทศการดนตรีกลางแจ้ง Pepsi presents Big Mountain Music Festival 2017 "กลับเขาใหญ่แบ๊ววว!" กลับมาจัดที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาอีกครั้งในวันที่ 9-10 ธันวาคม ในพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ของสนามกอล์ฟ The Ocean [ลาก่อน...ฝุ่น] ซึ่งสามารถจุคนดูได้มากถึง 50,000 คน แถมยังได้ศิลปินกว่า 200 ชีวิตมาร่วมแสดงบน 8 เวที ผู้จัดงานเจ้าเก่าสุดเก๋า ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม แอบกระซิบกับทาง Time Out Bangkok ว่าเทศกาลปีนี้จะแปลกตากว่าเดิม (งานปีนี้จะเป็นแนวยาวตามพื้นที่สนามกอล์ฟขนาด 9 หลุม) รับรองว่ามากี่ครั้ง ก็ตื่นเต้นกับงานปีนี้แน่นอน!

 

 

(1) "สนามกอล์ฟคือความฝันของผม"

หลังจากย้ายไปจัดงานที่แก่งกระจานมาหนึ่งปี ปีนี้หนึ่งในเทศกาลดนตรีกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก็ได้ฤกษ์หวนคืนสู่ถิ่นเดิมที่เขาใหญ่อีกครั้ง "จริงๆ แล้ว Big Mountain เป็นงานที่ออกแบบไว้เพื่อจัดที่เขาใหญ่ มันเริ่มต้นที่เขาใหญ่ ชื่อมันก็คือเขาใหญ่ เราจัดที่นั่นมา 7 ปี เราผูกพันกับผู้คนที่นั่น สถานที่ บรรยากาศก็เหมาะสมกับการทำ music festival อากาศมันดี เดินทางสะดวก และผู้คนก็เรียกร้อง ไม่ใช่เพียงแค่คนดู แต่รวมไปถึงผู้ประกอบการ และศิลปินด้วย" ป๋าเต็ดกล่าว "การที่ได้จัดงานบนสนามกอล์ฟ มันเป็นความฝันของผมอยู่แล้ว เพราะว่าสนามกอล์ฟมันเต็มไปด้วยหญ้า ต้นไม้ บรรยากาศดี ร่มรื่น เจ้าของสนามก็ใจดี เขาอยากทำงานกับเรา อยากให้มีอีเวนท์แบบนี้เข้าไปอยู่ในสถานที่ของเขา ทุกอย่างก็เลยลงตัว"

 

(2) พูดถึงลำไย ... ลำไยก็มา

ต้องยอมรับว่าปีนี้ไม่มีนักร้องคนไหนฮอตไปกว่า #ผู้สาวขาเลาะ นักร้องลูกทุ่งสุดเซ็กซี่ ลำไย ไหทองคำ ที่จะมาร่วมงานในปีนี้เช่นเดียวกับศิลปินกว่า 200 ชีวิตที่ขนเพลงเด็ดกันมาเพียบ "Big Mountain เหมือนเหมือนงานสรุปภาพรวมของวงการบันเทิง ดังนั้นศิลปินดังๆ ในรอบปี เช่น อย่างปีนี้ทุกคนพูดถึงลำไย ไหทองคำ ก็จะต้องได้เจอ ทุกคนพูดถึงหน้ากากทุเรียน หน้ากากจิงโจ้ หน้ากากหอยนางรม ก็ต้องได้เจอ ทุกคนพูดถึงอะตอม พูดถึง The Toys ก็ต้องได้เจอ คือใครก็ตามที่คุณนึกถึงจะไปรวมตัวกันอยู่ที่นี่ทั้งหมด" ป๋าเต็ดกล่าวถึง lineup ประจำปีนี้ รวมไปถึงกิจกรรมนอกเหนือเสียงเพลงอย่าง การแข่งขันไข่เจียวชิงแชมป์ประเทศไทย ที่คัดสรรร้านเด็ด 10 ร้านทั่วไทยไปเปิดขายในงานเช่นเคย เพิ่มเติมด้วยโซนใหม่อย่าง "ตลาดนักร้อง" ที่ให้ศิลปินทำของที่ระลึกมาขาย และโซน "ทุ่งวัวบาน" ที่ให้น้องๆ นักศึกษามาแสดงฝีมือทำงานศิลปะบนคัตเอ้าต์ไม้รูปวัว ก่อนนำไปปักให้เต็มทุ่ง 

 

Sereechai Puttes/Time Out Bangkok

 

(3) 8 เวที 8 สไตล์ 8 ความมันส์ที่ไม่เหมือนใคร

ด้วยความตั้งใจที่จะให้ศิลปินทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่สามารถขึ้นเวทีร่วมกันได้ Big Mountain จึงมีเวทีมากถึง 8 เวทีเพื่อรองรับศิลปินและคอเพลงสไตล์ต่างๆ เริ่มจากเวทีที่เล็กที่สุดอย่าง เวทีไก่ และเวทีไข่ 2 เวทีสำหรับศิลปินหน้าใหม่ หรือศิลปินหน้าไม่ใหม่ แต่อาจไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก "เวทีไก่จะมีศิลปินอินดี้อย่าง Gym and Swim, YOUNG MAN AND THE SEA, เป้-อารักษ์, อิ๊งค์ วรันธร ประมาณนี้ครับ ส่วนเวทีไข่จะเป็นศิลปินอินดี้เหมือนกัน แต่ว่าจะดุเดือดขึ้นอย่าง Jelly Rocket, Yellow Fang, Desktop Error, TELEx TELEXs เป็นต้น" ป๋าเต็ดเล่า

          2 เวทีถัดมาจะเป็น เวทีวัว รวมศิลปินเพลงป๊อป ไม่ว่าจะเป็น Jetset’er, อ๊อฟ-ปองศักดิ์, ป๊อป-ปองกูล, นิว-จิ๋ว, สิงโต นำโชค, แสตมป์, อะตอม ไปจนถึงวี-วิโอเลต, ลุลา, เป๊ก ผลิตโชคและ Room39 ส่วน Black Stage จะเป็นเวทีสายร็อกเช่น Silly Fools และ Moderndog ส่วนเวทีหลักอย่าง Ferris Wheel จะเป็นเวทีรวมซูเปอร์สตาร์อย่าง Polycat, Klear, Potato, Bigass, Paradox, Cocktail, Lomosonic และ Thaitanium   

          "เรายังมีเวทีเล็กที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ผับอโคจร นำทีมโดยน้าเน็ก เป็นสไตล์ผับแบบเรื้อนๆ เกรียนๆ วงที่มาเล่นในนี้จะเป็นวงแนวบ้าๆ มันส์ๆ เช่น RAP IS NOW, บริษัทฮาไม่จำกัด ซึ่งรวมดาวตลกไว้มากมาย, Fuckling Hero, UrboyTJ มีคาแรคเตอร์เป็นฮิปฮอปหน่อยๆ" ป๋าเต็ดเสริม "อีกเวทีหนึ่งคือ บาร์รำวง มีโจอี้บอยเป็นโค้ช และได้รวมลูกทีม The Voice ของเขามาอยู่บนเวที แล้วเอาเพลงฮิตๆ มาคัฟเวอร์เป็นเพลงสามช่า รวมไปถึงศิลปินลูกทุ่งอย่าง อาภาพร นครสวรรค์, ลำไย ไหทองคำ, อี๊ด โปงลาง หรือวงตลกอย่าง ถั่วแระ เชิญยิ้ม เป็นเวทีที่ผสมผสานเพลงฮิตที่เอามาทำเป็นลูกทุ่งอีกที ส่วนเวทีสุดท้ายเป็นเวทีเต้นรำ อันนี้จะเป็น DJ ทั้งต่างชาติและในประเทศมาเปิด"

 

(4) เคล็ดลับสำหรับมือใหม่

ใครที่มา Big Mountain เป็นครั้งแรก อาจจะต้องเตรียมความพร้อมนิดหน่อย เพราะทางทีมงานคาดการณ์ว่าบัตรอาจจะหมดเร็วปีนี้ เพราะแบ่งขายออกเป็นช่วงๆ เริ่มจากบัตร Early Cow ในวันที่ 31 สิงหาคมวันเดียวเท่านั้นในราคาเพียง 1,500 บาท (จากราคาเต็ม 2,000 บาท) หลังจากนั้นจะเปิดขายอีกทีช่วงกลางเดือนกันยายน และอาจมีการจัดโปรโมชั่นร่วมกับเป๊ปซี่ พอมีตั๋วแล้วก็อย่ารีบจองที่พัก ที่แว่บๆ กันมาว่าเริ่มเต็มกันแล้ว หรือจะมาฟังเพลงแบบขาลุยแล้วจองเต๊นท์ที่ทางงานจัดไว้แล้ว หรือเช่าพื้นที่กางเต๊นท์สำหรับ 2 คน ซึ่งเริ่มเปิดจองในวันเดียวกัน 

          "เรื่องที่สำคัญมากคือ จงไปด้วยความรู้สึกที่พร้อมจะเปิดโลก อย่าไปปักหลักอยู่เวทีใดเวทีหนึ่ง หรือว่ารอดูวงที่เราชอบเพียงวงเดียว" ป๋าเต็ดกล่าว "อีกเรื่องคือการเตรียมตัวทางกายภาพ แต่งกายให้เหมาะสม กลางคืนหนาวแน่นอน และอาจจะมีน้ำค้าง ควรเตรียมแจ็คเก็ตที่มีฮู้ดไปด้วย รองเท้าก็ควรเป็นรองเท้าที่ใส่สบาย ของใช้ส่วนตัว ยา มือถือ ที่ชาร์ตแบต นำไปให้พร้อม เพื่อที่จะทำให้เราเที่ยวงานนี้ได้อย่างสนุกสนานครับ"

 

Big Mountain Music Festival

 

(5) งานนี้เด็กแว้นเยอะจริงไหม?

"บางทีเราอาจจะตัดสินคนที่หน้าตาเยอะไปหน่อย สมมติเห็นใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ก็เหมารวมว่าเป็นเด็กแว้นแล้ว ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่ ผมพูดได้แค่ว่าให้ไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง จริงๆ แล้วงานนี้เต็มไปด้วยคนที่รักดนตรีมากกว่า มาสนุกสนานกัน บรรยากาศที่ให้มากระโดดด้วยกัน ร้องไปด้วยกัน ผมใช้คำว่ามีคนทุกประเภทอยู่ในงานเรา แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือพวกเขารักเสียงดนตรีเขามาสนุกกัน ไม่ได้มาสร้างความวุ่นวาย" ป๋าเต็ดตอบคำถามที่หลายคนอาจสงสัย

          สิ่งหนึ่งที่ยังทำให้ Big Mountain เป็นเทศกาลดนตรีในใจของคนไทยก็คือ ความยิ่งใหญ่ของงาน ทั้งจำนวนเวที ศิลปิน และแนวเพลงที่ครบถ้วนและหลากหลาย "เราวางตัวไว้ว่าเป็น เทศกาลดนตรีหลัก ดังนั้นเราไม่ได้เน้นเฉพาะวงอินดี้ วงเมนสตรีม ร็อค แด๊นซ์ หรือป๊อป ... มันมีทุกอย่างเลย ใครมางานก็จะต้องมีสิ่งที่ชอบอยู่ในนี้แน่ๆ อีกอย่างมันเป็นงานเมนสตรีมที่คิดแบบอินดี้ ดังนั้นหน้าตาเวทีและบรรยากาศจะไม่เหมือนกับคอนเสิร์ตทั่วไป รวมไปถึงขนาดที่ใหญ่ จำนวนศิลปิน และกิจกรรมหลากหลายตลอดทั้ง 2 วันคืน ซึ่งเป็นสิ่งที่งานอื่นไม่มี" ป๋าเต็ดกล่าว

 

Ted's Choice

TO: เนื่องจากปีนี้ศิลปินเยอะมาก มีคนไหนที่ป๋าอยากดูเป็นพิเศษไหม?

ถ้าโดยส่วนตัว ผมอยากดู Rasmee Isan Soul (รัศมี อีสานโซล) เพราะว่าผมยังไม่เคยดูพวกเขาเล่นสด เคยเห็นแค่ในคลิป และได้ยินชื่อเสียงมานาน อีกอันนึงคือ Paradise Bangkok ซึ่งเป็นวงหมอลำ ที่นำเอาหมอลำกับเพลงฟังก์มารวมกัน เนื่องจากเราดูศิลปินมาทุกปี เราจึงอยากดูศิลปินวงที่เราไม่เคยเห็น เป็นวงหน้าใหม่ เช่น The Toys ซึ่งผมยังไม่เคยเห็นเล่นสด จึงอยากดูว่าจะเล่นเป็นยังไง Bomb at Track ก็เป็นวงร็อครุ่นใหม่ที่ผมชอบมาก

          เวทีที่ผมชอบทุกปีเลยก็คือ เวทีผับอโคจร กับบาร์รำวง ซึ่งผมรู้สึกว่ามันมีเซอร์ไพรส์ตลอดเวลา อย่างบาร์รำวงปีนี้ก็มี ลำไย ไหทองคำมา ผมอยากจะดูว่าถ้าลำไยขึ้นพร้อมกับ เป๊ก-ผลิตโชค หรือ Bigass จะเกิดอะไรขึ้น เพราะล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินที่โดดเด่นในแบบของตัวเอง อีกอันหนึ่งก็คงเป็น RAP IS NOW ที่เขาจัดทัวร์นาเมนต์ขึ้นมาก็อยากไปดู เพราะไม่เคยไปดูสด เคยเห็นแต่ในคลิป ความรู้สึกแบบนี้คืออยากให้คนที่ไปดูได้ไปค้นคว้าหาสิ่งใหม่ๆ ดูศิลปินแนวใหม่ ไม่ใช่ไปดูแค่วงโปรด เพราะบางทีคุณอาจจะได้ค้นพบศิลปินที่คุณชอบคนใหม่ก็ได้

 

บัตร Early Cow ราคา 1,500 บาท เปิดขายวันที่ 31 สิงหาคมวันเดียวเท่านั้น ณ All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศไทย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Website และ Facebook ของงาน

 

Sereechai Puttes/Time Out Bangkok

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา