[title]
ท่ามกลางบรรดารายการแข่งร้องเพลงในช่วงนี้ หนึ่งในรายการที่สร้างความฮือฮาได้มากขึ้นทุกๆสัปดาห์เห็นจะเป็น เปลี่ยนหน้า...ท้าโชว์ หรือ Sing Your Face Off ของผู้จัดเอ-วราวุธ เจนธนากุล ที่เดินทางมาถึงซีซั่นที่ 3 ของการนำเอาศิลปินมากถึง 10 คนจับมาแปลงโฉมเพื่อแข่งร้องเพลงและมอบเงินให้กับมูลนิธิการกุศลในทุกๆ สัปดาห์แล้ว และยิ่งเข้มข้นและตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัปดาห์ที่นัททิว-ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม ถูกแปลงโฉมให้กลายเป็น อดัม เลอวีน นักร้องนำของ Maroon 5 ที่เหมือนจนคนทั้งประเทศตกใจ!
งานนี้ นอกจากผู้จัดและครีเอทีฟ ทีมงานอีกฝ่ายหนึ่งที่จะต้องยกความดีความชอบให้ก็คือทีมแต่งหน้าสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ที่อยู่เบื้องหลังการแปลงโฉมสุดอลังการในทุกสัปดาห์ Time Out Bangkok บุกไปคุยกับอาจารย์เจี๊ยบ-ฐาน ธัญศญาพร ฝ่ายเมคโอเวอร์ ผู้ดูแลการเมคโอเวอร์รวมทั้งหมด, ติ่มซำ-พิเชษฐ วงศ์จันทร์สม ฝ่ายเมคโอเวอร์ ปะติดชิ้นเนื้อ และไก่-คงกฤช ทองดี ฝ่ายพิมพ์โครงหน้า สามผู้อยู่เบื้องหลังความฮือฮาในรายการนี้
Sing Your Face Off
การเปลี่ยนหน้าไม่ใช่แค่เรื่องของการแต่งหน้า
“จริงๆ แล้วจะเรียกว่าการ Makeover ทั้งหมดก็ไม่ได้ พี่ใช้คำว่า make real มากกว่า เพราะการ makeover คือต้องทำให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่งานนี้คือการทำให้ศิลปินคนหนึ่งเหมือนกับอีกคนมากกว่า” อาจารย์เจี๊ยบกล่าว และถึงแม้ทีมงานส่วนใหญ่จะมีประสบการณ์การแต่งหน้าเอ็ฟเฟ็กต์ให้กับภาพยนตร์มาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังแนวสยองขวัญ แต่ทุกคนต่างตอบรับเป็นเสียงเดียวกันว่าแต่งง่ายกว่าการแต่งหน้าคนจริงๆ หลายเท่าตัว “โจทย์นี้มันยากครับ เพราะถ้าเป็นผีหรือสัตว์ประหลาด เราใช้จิตนาการได้ แต่อันนี้คือ real กับ real เจอกัน เลยมีข้อเปรียบเทียบชัดเจน” ติ่มซำเสริม
ขั้นตอนแรกของการทำงานนั้นจะเริ่มต้นที่การหล่อหน้าศิลปินที่เข้าร่วมรายการ เพื่อให้ได้ออกมาเป็นรูปหล่อหรือโมลด์ที่ทำจากปูน ซึ่งไก่และติ่มซำจะใช้เป็นต้นแบบในการเปลี่ยนหน้าแต่ละสัปดาห์ “การปั้นเป็นขั้นตอนที่นานที่สุด เพราะมีรายละเอียดมาก” อาจารย์เจี๊ยบเสริม “เมื่อได้โจทย์มา ทางทีมต้องทำการรีเสิร์ชทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้า 45 องศา หน้าด้านข้าง มุมก้ม มุมเงย โดยดูตามรูปที่เตรียมไว้ บางครั้งก็ต้องมีการวัดจริงจัง เช่น ปีกจมูกของศิลปินคนนี้อยู่ตรงไหน อยู่ตรงหัวตา หรือกลางตา เป็นต้น”ขั้นตอนการเปลี่ยนหน้านั้นจะใช้ดินน้ำมันแปะไปบนโมลด์ จนได้โครงหน้าของศิลปิน จากนั้นจึงค่อยถอดพิมพ์ออกมาทำเป็นซิลิโคน เพื่อใช้เป็นชิ้นเนื้อแปะลงบนหน้าศิลปินในขั้นตอนถัดไป
Sereechai Puttes/Time Out Bangkok
Sereechai Puttes/Time Out Bangkok
โครงหน้าดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
เนื่องจากข้อจำกัดทางสรีระต่างๆ การเลือกหน้าศิลปินที่มีช่วงทีโซน (หน้าผาก เรื่อยมาถึงจมูกและคาง) คล้ายกันจะทำให้งานแปลงโฉมง่ายมากขึ้น “ความจริงแล้วงานนี้คือการทำงานร่วมกันระหว่างเมกอัพเอ็ฟเฟ็กต์และเมกอัพสวยงามครับ ช่วงขั้นตอนการปั้น ก็ต้องมาดูกันว่าตรงไหนที่ต้องมีโครง ต้องไหนที่เมกอัพสวยงามช่วยได้ เช่น การเชดดิ้ง” ไก่กล่าว “เราอาจจะขึ้นโครงไว้ประมาณ 50% แล้วได้เมกอัพสวยงามช่วยจนออกมาสัก 80% ที่เหลือก็มีทรงผม เสื้อผ้า ท่าทาง และองค์ประกอบอื่นๆ หลายส่วน ที่ช่วยให้ผลงานออกมาดูดีได้ครับ”
ในการเลือกศิลปินนั้น ทั้งทางทีมงาน ศิลปินผู้เข้าแข่งขัน และทีมเมคโอเวอร์ ต้องมีการพูดคุยและปรึกษากันว่า ศิลปินที่เลือกนั้นมีหน้าตาใกล้เคียงกี่เปอร์เซ็นต์ และดูไปจนถึงความเชื่อมโยงกับส่วนต่างๆ ของโชว์ในเวลาเดียวกัน“ในขั้นตอนการแปะ เราต้องปั้นเพื่อให้ศิลปินขยับได้ พูดได้ ร้องได้ ยิ้มได้ เรื่องความยืดหยุ่นจึงสำคัญเช่นกัน” อาจารย์เจี๊ยบกล่าว นอกจากนี้ความแตกต่างของเบ้าหน้าคนเอเชียและคนตะวันตกซึ่งมีความลึกก็มีผลให้ปั้นโครงหน้าใหม่ทั้งหมด “ถ้าเสริมมากกว่านี้ไมได้แล้ว ก็ต้องใช้เมกอัพสวยงามช่วยตอนจบให้ดูมีมิติแทน” ไก่เสริม
Sereechai Puttes/Time Out Bangkok
Sereechai Puttes/Time Out Bangkok
การแปลงโฉมหน้าผู้ชายคือความท้าทายในอีกระดับ
เมื่อแปะซิลิโคนลงบนหน้าศิลปินเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการลงสีผิว และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ เช่น การทำคิ้ว การติดขนตา เรื่อยไปจนถึงการติดหนวด และผม (หรือแม้กระทั่งการทำหัวล้าน) โดยทีมงานทั้งหมด 20 คนนั้นก็จะมีหน้าที่แตกต่างกันไป “เมกอัพสวยงามช่วยได้เยอะ เหมือนเวลาคนแต่งหน้ากับไม่ได้แต่งหน้า การทำหน้าศิลปินชายเลยอยากกว่าผู้หญิงที่ยังมีเมกอัพช่วย เพราะใช้เมกอัพช่วยได้น้อยกว่า” อาจารย์เจี๊ยบกล่าว พร้อมยกตัวอย่างเรื่องคิ้วที่ผู้หญิงสามารถใช้ดินสอเขียนได้ ในขณะที่ผู้ชายต้องใช้การติดขนคิ้วเพื่อความสมจริง
ในส่วนของขน ไม่ว่าจะเป็นขนคิ้ว หรือหนวดนั้นสามารถทำได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการติดแยกทับไปบนซิลิโคน หรือฝังไปกับซิลิโคน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลา งบประมาณ และความใกล้ไกลในการซูมกล้องของแต่ละรายการ “แน่นอนว่าความผิดพลาดมีได้อยู่แล้ว เราแค่ต้องประคองให้ผิดพลาดน้อยที่สุด ดูภาพรวมเป็นหลัก” อาจารย์เจี๊ยบกล่าวถึงโชว์ที่มีการร้อง เต้น และขยับตัวมากๆ เพราะเหงื่อสามารถดันซิลิโคนที่ปิดรูขุมขน และจำเป็นต้องมีการทากาวซ่อมแซม และอาจดูไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนครั้งแรก
Sereechai Puttes/Time Out Bangkok
Sereechai Puttes/Time Out Bangkok
ติดตามรายการ เปลี่ยนหน้า...ท้าโชว์ หรือ Sing Your Face Off ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 18.20 น. ทางช่อง 7 ออกอากาศวันที่ 9 กันยายนเป็นตอนสุดท้าย