[title]
โดยผลการประกาศรางวัล Asia’s 50 Best Bar 2025 ปีนี้ ไทยติดโผ The Best Bar in Asia 2025 ทั้งหมด 7 บาร์กับเขาด้วย ได้แก่
No. 4 Bar Us
No. 5 Dry Wave Cocktail Studio (พร้อมรางวัล Disaronno Highest New Entry Award)
No. 19 BKK Social Club
No. 26 G.O.D
No. 29 Vesper (พร้อมรางวัล Rémy Martin Legend of the List Award)
No. 43 Opium
No. 48 Bar Sathorn
เท่ากับว่าปีนี้ Bar Us ขึ้นแท่นเป็นบาร์ยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศไทยด้วยอันดับที่ 4 ของเอเชีย
(จากเดิมปีที่แล้วอยู่ในอันดับ 21) ส่วน Dry Wave Cocktail Studio, G.O.D, Opium และ Bar Sathorn คือ 4 บาร์ไทยที่ติดลิสต์เป็นครั้งแรก

โดย Bar Us คือบาร์ที่เสิร์ฟค็อกเทลในรูปแบบ Liquid Cuisine ส่วน Dry Wave Cocktail Studio คือบาร์ของ ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ บาร์เทนเดอร์แถวหน้าของเมืองไทย หรือจะเป็น BKK Social Club บาร์ในโรงแรมโฟร์ซีซั่น ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่รังสรรค์เครื่องดื่มผ่านบรรยากาศของมหานครเม็กซิโก ตามด้วย G.O.D บาร์สุดคูลที่เพิ่งเปิดแค่ขวบปีในซอยนานา โดยทีมงาน Teens of Thailand และ Asia Today ต่อมาเป็น Vesper บาร์แรกๆ ในกรุงเทพฯ ที่คิดค้นการทำค็อกเทล รวมถึง Opium ค็อกเทลบาร์ในตึก Potong (ตึกเดียวกับร้านอาหาร Potong) ที่รีโนเวตจากห้องสูบฝิ่น และ Bar Sathorn บาร์หรูในตึกเก่าที่มีอายุกว่าร้อยปี
ยังมีบาร์ในไทยที่คว้ารางวัล Best Bar Design Award ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลสร้างสรรค์ที่บ้านตรอกถั่วงอก อย่าง Messenger Service
นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่นๆ ที่ได้รับรางวัล The Best Bar of Asia ตามลำดับ เช่น Zest Bar จากกรุงโซล ที่เน้นเครื่องดื่มด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาลโดยเฉพาะ Gin, jigger & Pony จากสิงคโปร์ ที่มีสโลแกนว่า ค็อกเทลคือการผจญภัย, Hope & Sesame บาร์ที่ทรงอิทธิพลต่อวงการค็อกเทลในจีนแผ่นดินใหญ่จากกว่างโจว, Lair บาร์ลับที่ทำให้นึกถึงฉากภาพยนตร์ฟิล์มนัวจากอินเดีย, Bar Benfiddich จากญี่ปุ่น ซึ่งความน่าสนใจของ Benfiddich ก็คือเป็นการผสมผสานระหว่างร้านตัดผมและบาร์, Smoke & Bitters จากศรีลังกา ร้านอาหารที่ลงตัวทั้งค็อกเทล อาหาร และบรรยากาศในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน, Vender บาร์จากไต้หวันที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงในสไตล์ Urban Industrial และเสิร์ฟเมนูที่ไม่มีในสูตร เป็นต้น
ส่วน Bar Leone จากฮ่องกง ที่ขึ้นแท่นแชมป์ The Best Bar in Asia สองปีซ้อนในปีนี้ คือบาร์ที่ Lorenzo Antinori ตั้งใจอยากมีบาร์เป็นของตัวเอง โดยเขาเก็บประสบการณ์จากการเป็นบาร์เทนเดอร์ในโรงแรมมากว่า 11 ปี สิ่งที่ทำให้เขาครองใจสายบาร์เลิฟเวอร์ได้ก็คือความตั้งใจอยากให้บาร์เข้าถึงคนได้ง่าย โดยมีคติพจน์ที่ว่า ‘Cocktail Cocolari’ และหยิบจับประเพณีวัฒนธรรมในอิตาลีที่เขาเติบโตมาจากย่าน Trastevere มาครีเอตเมนูค็อกเทลรวมไปถึงการตกแต่งร้าน แถมยังสร้างคอมมูนิตี้ระหว่างคนในชุมชนด้วย
สำหรับ Asia's 50 Best Bars เป็นงานระดับภูมิภาคภายใต้แบรนด์ The World’s 50 Best Bars จัดโดยพันธมิตรและเจ้าภาพอย่าง Wynn Macau และ Wynn Palace ที่มีผู้สนับสนุนหลักอย่าง Perrier (น้ำแร่ธรรมชาติจากฝรั่งเศส) เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพของผู้คนในวงการที่เป็นนักสร้างสรรค์หรือนักออกแบบเครื่องดื่มที่เรียกว่า บาร์เทนเดอร์ ซึ่งการจัดอันดับในแต่ละปีจะอิงตามคะแนนโหวดของ Asia's 50 Best Bar Academy โดยสมาชิกที่มีความรู้และประสบการณ์ในวงการบาร์ สื่อด้านเครื่องดื่ม และผู้เชี่ยวชาญด้านการผสมเครื่องดื่มจากทั่วเอเชีย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาและความสำคัญของบาร์ในสถานที่ต่างๆ และความหลากหลายของสถานที่ดื่มในเอเชีย