Central x Guillaume Sardin
Central Department StoreCentral x Guillaume Sardin

Central x Guillaume Sardin โปรเจกต์พิเศษที่พา "สังข์ทอง" มาสู่ศิลปะในโลกปัจจุบัน

เปิดประสบการณ์ศิลปะใหม่ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลได้ตั้งแต่เทศกาลสงกรานต์นี้เป็นต้นไป

Time Out Bangkok in partnership with Central Department Store
การโฆษณา

ใครที่ผ่านไปผ่านมาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลมช่วงนี้จะเห็นการตกแต่งรอบตัวห้างที่แปลกตาไป เพราะเกือบทั้งตึกกำลังถูกห่อด้วยผืนผ้าใบสีขาวขนาดยักษ์ที่ระบายด้วยภาพเขียนลายเส้นน่ารักๆ เจือสีพาสเทลสดใสที่ดูเผินๆ ก็จะเหมือนภาพเทวดานางฟ้าฝรั่งเต็มไปหมด แต่ถ้าใช้เวลาค่อยๆ มองก็เริ่มจะเห็นรายละเอียดไทยๆ ที่คุ้นตา ไม่ว่าจะเป็น เทวดาที่ดูเหมือนจะสวมชฎา หรือนางฟ้าที่สวมสไบลอยไปลอยมา 

เพราะจริงๆ แล้วงานศิลปะขนาดยักษ์นี้กำลังเล่าเรื่อง สังข์ทอง นิทานพื้นบ้านที่คนไทยทุกคนรู้จักกันดี โดยเรื่องราวการผจญภัยของพระสังข์ถูกนำมาตีความใหม่โดยศิลปินชาวฝรั่งเศส Guillaume Sardin (กิโยม ซาร์แด็ง) เป็นโปรเจกต์สุดพิเศษของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เพื่อนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ไทยอย่างเทศกาลสงกรานต์ปีนี้

Central x Guillaume Sardin
Central Department StoreCentral x Guillaume Sardin

เรื่องราวของสังข์ทอง ตั้งแต่พระสังข์พลัดพรากจากผู้ให้กำเนิด ตกอยู่ในอุปการะของนางยักษ์ หนีมาพร้อมของวิเศษ (ที่รวมถึงรูปเงาะ) พบรักกับนางรจนาที่เห็นถึงรูปทองที่ซ่อนอยู่ภายใน และกลับคืนสู่ครอบครัวในที่สุดนั้นทัชใจศิลปินกิโยมอย่างมาก โดยเฉพาะหัวใจของนิทานสังข์ทองที่พูดเรื่องของการวัดคุณค่าจากแก่นแท้ภายใน เกิดแรงบันดาลใจที่เขาจะพาเอาฉากในเรื่องสังข์ทองมาเล่าใหม่ผ่านลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ ในโอกาสพิเศษที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลตั้งใจมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่นักช้อปและคนรักศิลปะ 

Central x Guillaume Sardin
Central Department StoreCentral x Guillaume Sardin

กิโยม ซาร์แด็ง นั้นมีงานอันเป็นเอกลักษณ์ที่เกิดจากความชอบในสัญลักษณ์ภาพโบราณที่ผู้คนวาดและสื่อสารกันในยุคก่อนผสมผสานกับความหลงใหลในนิทานและเทพนิยายที่ช่วยถักทอจินตนาการของเขาและเด็กอีกหลายล้านคนทั่วโลกในวัยเด็ก ทั้งหมดนี้สะท้อนออกมาผ่านลายเส้นที่เรียบง่ายคล้ายภาพวาดเด็ก แต่แฝงด้วยการจัดองค์ประกอบที่แม่นยำ และการใช้สีน้ำในโทนพาสเทลที่สดใสเหมือนความทรงจำในวัยเยาว์ เป็นผลงานที่ชวนให้เราย้อนนึกถึงความสดใสของวัยเด็ก

โดยการเล่าเรื่องสังข์ทองครั้งนี้ เราจะได้เห็นนิทานไทยผ่านลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ของ กิโยม ซาร์แด็ง ซึ่งเป็นการผสมผสานศิลปะของตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นพระสังข์ในชุดและปีกคล้ายเทวดาฝั่งตะวันตกแต่ทรงเครื่องทองแบบตะวันออก สาวชาววังห่มสไบที่คล้ายจะเป็นผ้าพันกายแบบโรมัน ประคองไหโบราณที่กิโยมกระซิบว่าได้แรงบันดาลใจจากเครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง และเขายังจัดวางตัวละครในฉากที่ดูคล้ายกับโรงลิเกอีกด้วย

Central x Guillaume Sardin
Central Department StoreCentral x Guillaume Sardin

กิโยมหยิบเอา 9 ฉากสำคัญจากสังข์ทองมาเล่าใหม่ในครั้งนี้ โดย 9 ฉากนั้นได้แก่

ฉากที่ 1: กำเนิดเจ้าชายหอยสังข์ พระมเหสีของท้าวยศวิมล ผู้ครองนครให้กำเนิดพระโอรสที่เป็นหอยสังข์ นางสนมเอกที่อิจฉาพระมเหสีอยู่แล้วจึงติดสินบนโหรหลวง โดยทำนายว่าทั้งพระมเหสีและโอรสหอยสังข์เป็นกาลกิณี ทั้งสองจึงถูกขับไล่ออกนอกเมือง

ฉากที่ 2: กระท่อมตายายชายป่า พระมเหสีและเจ้าชายออกจากวังไปอาศัยที่กระท่อมตายายชายป่า จนกระทั่งวันหนึ่งพระมเหสีได้เห็นโอรสของตนออกมาจากหอยสังข์และมีร่างกายเป็นมนุษย์จริงๆ จึงได้ทุบทำลายหอยสังข์เสียเพื่อไม่ให้สังข์ทองกลับเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในหอยสังข์อีก 

ฉากที่ 3: เจ้าชายเผชิญภัย ข่าวลือหนาหูว่ามีเด็กชายที่หน้าตาเหมือนท้าวยศวิมลจึงทำให้นางสนมเอกเกิดความไม่พอใจ คิดทำร้ายสังข์ทองด้วยการนำเจ้าชายไปทิ้งถ่วงน้ำจมลงที่ก้นบาดาล แต่ท้าวภุชชงค์ เจ้าเมืองบาดาลมาพบเข้าและเห็นว่าสังข์ทองเป็นผู้ที่มีบุญญาธิการมากจนคิดว่าตนอาจไม่เหมาะที่จะเลี้ยงเด็กคนนี้ จึงนำสังข์ทองไปให้นางยักษ์พันธุรัตช่วยเลี้ยงดูแทน 

ฉากที่ 4: พระสังข์ชุบตัวในบ่อทอง สังข์ทองถูกส่งไปยังเมืองยักษ์ ได้รับการเลี้ยงดูจากนางพันธุรัตเป็นอย่างดี ด้วยความสงสัย สังข์ทองได้แอบเข้าไปยังบริเวณต้องห้ามแล้วพบกับของวิเศษมากมาย ทั้งรองเท้าแก้วเหาะเหินเดินอากาศ รูปเงาะที่ใช้แปลงกายได้ รวมถึงบ่อทอง สังข์ทองจึงกระโดดลงไปชุบตัวในบ่อทอง พร้อมสวมหน้ากากพรางตัวเป็นอสูรกายเหาะเหินเดินอากาศหนีออกจากเมือง หมายจะตามหาพระมารดาให้พบ 

ฉากที่ 5: พระสังข์เยือนอาณาจักรสามล สังข์ทองในร่างเจ้าเงาะเหาะมายังเมืองสามล พบท้าวสามลผู้เป็นเจ้าเมืองกำลังหาคู่ให้ธิดาทั้งเจ็ด รวมถึงรจนา ซึ่งเป็นผู้เดียวที่ยังไม่เลือกใครเป็นคู่ จนทำให้เจ้าเงาะหรือสังข์ทองถูกเรียกไปดูตัวด้วย

ฉากที่ 6: รจนาเสี่ยงพวงมาลัย สังข์ทองหลงรักรจนาตั้งแต่แรกพบ และตั้งจิตอธิษฐานว่าหากเป็นเนื้อคู่กัน ขอให้รจนาได้มองเห็นรูปทองที่อยู่ภายใน และรจนาก็ได้เห็นรูปทองที่พรางตัวอยู่ในร่างเงาะป่าจริงๆ จึงเลือกสังข์ทองเป็นคู่ซึ่งทำให้ท้าวสามลไม่พอใจอย่างมาก 

ฉากที่ 7: พระสังข์ประชันตกปลา ท้าวสามลจึงออกอุบายจัดให้มีการประชันตกปลาแข่งขัน โดยให้เขยทั้ง 7 ออกไปหาเนื้อหาปลา สังข์ทองจึงถอดรูปเงาะออกแล้วใช้มนต์เรียกปลาที่เรียนมาจากนางพันธุรัตจนชนะการแข่งขัน 

ฉากที่ 8: ประลองกับพระอินทร์ พระอินทร์ลงมาช่วยสังข์ทองในร่างเจ้าเงาะเพื่อให้ได้พบกับพระมารดาอีกครั้ง ด้วยการประลองเกมเพื่อชิงเมือง เขยทั้งหกไม่สามารถสู้พระอินทร์ได้ เจ้าเงาะจึงได้ถอดรูปเป็นสังข์ทองเป็นตัวแทนไปประลองกับพระอินทร์จนชนะ ทำให้ทุกคนมองเห็นรูปทองที่แท้จริงของพระสังข์ที่งดงาม จึงได้รับการยอมรับและเรียกตัวกลับเข้าเมืองสามลพร้อมกับรจนา

ฉากที่ 9: พระสังข์ปกครองเมืองด้วยความสงบสุข ตอนจบที่สวยงามของการเดินทาง ท้าวสามลยอมรับสังข์ทองเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่พระอินทร์รู้ดีว่าสังข์ทองต้องการกลับไปพบกับพ่อแม่อีกครั้ง จึงได้ส่งข่าวให้กับท้าวยศวิมลและพระมเหสี ทั้งสองได้เดินทางมาหาสังข์ทองและนำสังข์ทองกลับคืนสู่เมืองยศวิมลเพื่อครองนครกับรจนาในที่สุด

Central x Guillaume Sardin
Central Department StoreCentral x Guillaume Sardin

พิเศษขนาดนี้ แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่รอบห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม แต่ภาพศิลปะสังข์ทองในโปรเจกต์ Central x Guillaume Sardin ยังจะไปปรากฏที่ชั้นต่างๆ ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม (อย่าพลาดไปชมนิทานสังข์ทองแบบ 3D projection mapping ฉายลงบนหนังสือนิทานขนาดยักษ์นะ) และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลอีก 4 สาขาทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่ ลาดพร้าว บางนา ปิ่นเกล้า และเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ 

นอกจากนั้นลวดลายของสังข์ทองยังถูกทำไปทำเป็นเสื้อและหมวกคอลเลกชันพิเศษ DeFry01 x Guillaume Sardin และสินค้าที่ระลึกอีกหลายรายการ ไม่ควรพลาดเก็บเป็นที่ระลึก

ภาพวาดสังข์ทองนี้จะจัดแสดงไปจนถึง 31 พฤษภาคม ศกนี้

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา