muji central chidlom
Top Koaysomboon / Time Out Bangkok

สำรวจมาตรการเข้าร้านอาหาร บาร์ อีเวนต์ และสถานที่ปิดทั่วโลก ยุค New Normal

ตามไปดูว่าเมืองไหนมีมาตรการอย่างไรกันบ้าง

Top Koaysomboon
เขียนโดย
Top Koaysomboon
การโฆษณา

กรุงเทพฯ และจังหวัดพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดสีแดงเข้ม เริ่มกลับมาเปิดเมืองแล้วอีกครั้งหนึ่งตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ยังคงสูงถึงหลักหมื่อต่อวัน โดยทาง ศบค. ให้เหตุผลว่าเพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ โดยในการแถลงครั้งแรกนั้นทาง ศบค. เผยว่าจะมีการพิจารณาให้ประชาชนแสดงผลการฉีดวัคซีนและ/หรือผลการตรวจโควิด ก่อนเข้าใช้บริการร้านอาหารและพื้นที่ปิดที่ไม่ได้มีอากาศถ่ายเท เพื่อเป็นการเฝ้าระวังโรคระบาดซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าควบคุมสถานการณ์ได้ แต่จากราชกิจจานุเบกษาที่ประกาศออกมาในภายหลังและการบังคับใช้จริงในวันแรกๆ เรายังคงไม่เห็นการใช้มาตรการเข้มงวดต่างๆ มากมายนัก โดยยังคงเน้นไปที่การให้สแกน ไทยชนะ เข้าและออกแต่ละสถานที่ ตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากาอนามัยต่อเวลา และเว้นระยะห่าง ในขณะที่ในร้านอาหารนั้นให้เปิดได้ 50% ของความจุ สำหรับร้านที่มีเครื่องปรับอากาศ และ 75% ของความจุสำหรับร้านที่เปิดโล่ง

ดูมาตรการบ้านเราแล้วเลยอยากชวนไปดูเมืองอื่นบ้าง ว่าตอนนี้เราปรับมาตรการไปถึงไหนแล้วท่ามกลางการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า

นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา

นิวยอร์กเริ่มนำร่องประชาสัมพันธ์มาตรการ Key to NYC Pass ที่ให้แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็มก่อนจะเข้าไปนั่งกินข้าวในร้านอาหาร เข้าโรงเรียน ฟิตเนส โรงหนัง โรงละคร และการทำกิจกรรมในพื้นที่ปิด มาตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยนิวยอร์กจะบังคับใช้มาตรการนี้จริงจังตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนเป็นต้นไป ซึ่งหลักฐานการฉีดวัคซีนที่สามารถใช้ได้มีทั้งในรูปแบบกระดาษ คือ (1) ใบหลักฐานการฉีดวัคซีน CDC Vaccination Card (2) ประวัติการฉีดวัคซีนทั้งจากในแนะนอกประเทศ NYC Vaccination Record และรูปแบบดิจิทัล ได้แก่ (3) NYC COVID Safe App ที่มีภาพของใบหลักฐานการฉีดวัคซีน CDC Vaccination Card (4) Excelsior Pass App ที่เชื่อมต่อข้อมูลการฉีดวัคซีนหรือผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ ทั้งนี้ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ขวบที่ยังไม่สามารถรับวัคซีนได้จะได้รับยกเว้นจากมาตรการนี้

ก่อนหน้านี้ นิวยอร์กผ่านหลายเฟสของการเปิดให้บริการร้านอาหารมาก่อนตั้งแต่ช่วงต้นปี เริ่มจาก 25% ครึ่งนึง 75% และปัจจุบันสามารถเปิดได้ 100% ของความจุ

ซานฟรานซิสโก, สหรัฐอเมริกา

ซานฟรานซิสโก เริ่ใช้มาตรการตรวจหลักฐานการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม ก่อนเข้าใช้บริการร้านอาหาร บาร์ คลับ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ และสถานที่จัดอีเวนต์ในร่มขนาดใหญ่ มาตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม โดยถ้าไม่มีหลักฐานจะนั่งได้แค่ในโซน outdoor หรือซื้อกลับเท่านั้น หลักฐานที่ใช่ได้มีทั้งแบบกระดาษ ถ่ายรูปไว้ในโทรศัพท์ และหลักฐานดิจิทัลในแอป

เช่นเดียวกับนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโกเปิดร้านอาหารเป็นเฟสมาตั้งแต่ช่วงต้นปี และปัจจุบันสามารถเปิดได้ 100% ของความจุ

ลอนดอน, สหราชอาณาจักร

อังกฤษมีแอปพลิเคชันที่เรียกว่า NHS ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับไทยชนะ ใช้เช็กอิน-เช็กเอาต์สถานที่ และไม่มีการตรวจหลักฐานก่อนเข้าร้านอาหาร นั่งได้ปกติ

ไอร์แลนด์

ไอร์แลนด์ออกข้อกำหนดต้องแสดงผลการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเท่านั้นแล้วถึงจะสามารถเข้าใช้บริการร้านอาหาร ผับ และพื้นที่ปิดได้ โดยผับห้ามมีดนตรีสด และห้ามเต้น และต้องปิดบริการตอน 23:30 ตรง

เวียนนา, ออสเตรีย

ปัจจุบันออสเตรียบังคับใช้กฎที่เรียกว่า 3G กับการเข้าใช้บริการในร้านอาหารหรือสถานที่ปิด ซึ่งหมายถึงการต้องแสดงหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้ (1) หลักฐานว่าได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเล่มวัคซีน หรือ EU Digital Certificate (2) หลักฐานว่าเคยติดโควิด-19 และหายดีแล้ว ไม่เกิน 90 วัน ซึ่งเป็นระยะที่มีภูมิคุ้มกันโรค หรือ (3) หลักฐานการตรวจโควิดแบบ PCR ว่าเป็น negative ไม่เกิน 72 ชม. หรือ ATK ไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนการเข้าใช้บริการ โดยหลักๆ จะตรวจก่อนเข้าร้านอาหาร โรงเรียน โรงภาพยนตร์หรือโรงละคร และพื้นที่ปิดซึ่งไม่มีอากาศถ่ายเทเป็นหลัก

ซูริค, สวิตเซอร์แลนด์

จะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนจะเข้าร้านอาหาร คลับ งานอีเวนต์ และคอนเสิร์ต

โคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก

ข้อมูลจากคนไทยที่อาศัยในโคเปนเฮเกนระบุว่าตอนนี้สถานการณ์ในเดนมาร์กปกติมาก และไม่มีการขอเอกสารการเข้าใช้บริการ โดนเดนมาร์กมีแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า MinSundhed (MyHealth) ที่เชื่อมต่อกับฐนข้อมูลประชากร ซึ่งจะระบุสถานะการได้รับวัคซีน และผลตรวจต่างๆ ทั้งนี้เดนมาร์กเป็นหนึ่งในประเทศยุโรปที่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดีมาก แม้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของสายพันธ์เดลต้า 

ฮ่องกง

จะเข้าผับและบาร์ที่ฮ่องกงได้แสดงหลักฐานว่าฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส โดยบาร์เปิดให้บริการได้ที่ 75% ของความจุและให้นั่งได้ไม่เกินโต๊ะละ 4 คน ขณะที่ร้านอาหารมีแค่การวัดอุณภูมิก่อนเข้าใช้บริการ ฮ่องกงเป็นหนึ่งในดินแดนที่มีประชากรเลือกจะไม่ฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก จนถึงกับต้องมีการออกแคมเปญเชิญชวนให้คนมาฉีดวัคซีนด้วยการแจกของมูลค่าสูง เช่นรถยนต์ Tesla หรือทองคำแท่ง กันเลยทีเดียว จากสิถิติล่าสุด (1 กันยายน) มีประชากรได้รับวัคซีนครับ 2 เข็มแล้วประมาณ 51%

อนึ่ง ทุกเมืองส่วนใหญ่ทั่วโลกเน้นการปูพรมฉีดวัคซีนให้กับพนักงานร้านอาหาร บาร์ และธุรกิจบริการต่างๆ ก่อนจะสามารถเปิดให้บริการได้

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา