[title]
กว่าหนึ่งเดือนที่ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าทั่วประเทศต้องปิดบริการชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หนึ่งในประเภทธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักคือธุกิจแฟชั่น โดยเฉพาะแบรนด์ดีไซเนอร์แฟชั่นหรูจากยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น ที่เกือบทั้งหมดให้ความสำคัญกับประสบการณ์การจับจ่ายผ่านการบริการในร้านเป็นส่วนหนึ่งของ brand experience
ท่ามกลางหลากหลายหนทางการปรับตัว ความน่าสนใจคือ LINE แอพลิเคชันแชตยอดนิยมหลักที่เราคนไทยใช้กันได้กลายเป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญที่แบรนด์หรูหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ที่ดำเนินการเองและแบรนด์ที่ขายผ่านตัวแทนในประเทศ เลือกที่จะใช้ขายกระเป๋าราคาใบละหลายหมื่นบาท ผ่านบริการ live chat ซึ่งก็เหมือนกับเวลาเราแชตคุยกับเพื่อนนั่นเอง
อันที่จริงการขายสินค้าผ่าน LINE ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผู้บริโภคชาวไทย เพราะแบรนด์แฟชั่นไทยและต่างชาติหลากหลายแบรนด์เลือกใช้ช่องทางนี้สร้างขายได้มาพักใหญ่แล้ว ควบคู่ไปกับการร่วมมือกับ KOLs ในช่องทางอื่นๆ เช่น PP Group ผู้แทนจำหน่ายแบรนด์ยุโรปหลายแบรนด์ เช่น Loewe และ Givenchy หรือ Club 21 ผู้แทนจำหน่ายแบรนด์ยอดฮิตอย่าง Bao Bao Issey Miyake ก็เลือกใช้ LINE account ในการประชาสัมพันธ์และขายสินค้าของแต่ละแบรนด์ผ่าน live chat มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว (ดีลกระเป๋า Bao Bao ใน LINE คือเกินห้ามใจมาก) แต่สำหรับแบรนด์ใหญ่ที่บริษัทแม่เข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยเอง เช่น Chanel และ Louis Vuitton นั้นน่าสนใจที่เดียวที่เลือกปรับตัวมาใช้ช่องทาง LINE account มาเพื่อเป้าหมายในการขายเช่นเดียวกัน
Chanel และ Louis Vuitton ปรับช่องทาง LINE official account ภาษาไทยที่ก่อนหน้านี้เป็นการสื่อสารทางเดียว เช่น ปล่อยวิดีโอและภาพแคมเปญ ให้เพิ่มฟังก์ชัน live chat ให้ลูกค้าสามารถแชตโต้ตอบกับคนจริงๆ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลและราคาสินค้าได้ทันที โดยชาแนลเปิดบริการแชตเพื่อซื้อสำหรับสินค้าเครื่องสำอางและน้ำหอมเท่านั้น ในขณะที่หลุยส์ วิตตองอำนวยความสะดวกไห้ลูกค้าชาวไทยได้ช็อปสินค้าทุกประเภทที่วางขายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมหรือจะเป็นกระเป๋าคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุด (ซึ่งหลายชิ้นขายหมดแล้วทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดตัว) โดยสินค้าจะส่งไปถึงบ้านในภายหลัง เราได้ลองใช้บริการนี้ด้วยตัวเองแล้วและพบว่าการแชตคุยกับพนักงานนั้นราบรื่นดี พนักงานสามารถตอบคำถามได้รวดเร็วและสุภาพ ที่สำคัญ เราว่าการแชตถามราคาสินค้าผ่าน LINE ก็ให้อารมณ์สบายๆ กว่าการไปถามราคาจากหน้าร้านอย่างที่เราเคยทำเมื่อก่อนมากมายนัก
Central Group เองก็เพิ่งจะปรับ LINE account มาขายสินค้าของแบรนด์หรูที่เปิดร้านอยู่ในศูนย์ฯ ของทางกลุ่มและได้รับผลกระทบในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็น Coach, Zegna, Salvatore Ferragamo หรือ Polo Ralph Lauren กระทั่งแบรนด์เครื่องประดับอย่าง Swarovski ก็มี LINE account ที่มอบส่วนลด 10% ให้ลูกค้าในช่วงนี้เช่นกัน เป็นต้น
ส่วนแบรนด์แฟชั่นไทยที่ขายสินค้าผ่านช่องทางโซเชียลมานาน ก็เริ่มขยับขยายไปสู่ e-marketplace กันมากขึ้น เช่น Greyhound และ Painkiller ซึ่งเพิ่งเปิดร้านค้าอย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Lazada ให้ลูกค้าสามารถช็อปสินค้าราคาพิเศษได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ถึงแม้ว่าศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าจะกลับมาเปิดให้บริการในเร็ววันนี้ เราเชื่อว่า e-commerce และช่องทางโซเชียลมีแนวโนมจะกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางขายสินค้าแฟชั่นหรู ทำรายได้ให้แบรนด์หรูโลกได้อีกช่องทางหนึ่ง เช่นเดียวกับในญี่ปุ่นและจีน ถือเป็นช่องทางที่เพิ่มขึ้นมา แต่คงไม่ได้มาแทนประสบการณ์การซื้อสินค้าจากร้านแต่อย่างใด