[title]
อีกครั้งที่ฮอลลีวูดรีเมคภาพยนตร์เรียกน้ำตาจากฝั่งเอเชีย ล่าสุดคือ Midnight Sun ภาพยนตร์รีเมคจาก Taiyo no Uta (Song to the Sun) หนังญี่ปุ่นของผู้กำกับ Norihiro Koizumi เกี่ยวกับความรักที่เกิดขึ้นหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าของนักดนตรีสาวที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังแพ้แสงแดด นำแสดงโดยนักร้องดัง Yui และออกฉายเรียกน้ำตาชาวยุ่นไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006
Midnight Sun ฉบับฮอลลีวูดเล่าเรื่องของ Katie Price เด็กสาววัย 17 ปีที่ป่วยเป็นโรคเซลล์ผิวหนังไวต่อแสงแดดผิดปกติ (Xeroderma Pigmentosum) มาตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่แสงแดดเพียงเล็กน้อยก็อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตเธอใช้ชีวิตอยู่ในบ้านตลอดช่วงกลางวัน และใช้เวลาทุกวันหมดไปกับการเล่นดนตรีและแต่งเพลงด้วยกีตาร์ตัวโปรด พร้อมกันแอบมองโลกภายนอกผ่านทางหน้าต่าง โดยหนึ่งในสิ่งที่เธอเห็นก็คือเด็กหนุ่ม Charlie Reed ที่เล่นสเก็ตผ่านหน้าบ้านของเธอเป็นประจำ เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า Katie มักไปนั่งร้องเพลงอยู่ตามสถานีรถไฟให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาฟัง จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้พบกับ Charlie แบบตัวเป็นๆ เป็นครั้งแรก และนับแต่นั้นทั้งสองก็ใช้เวลาทุกค่ำคืนในช่วงหน้าร้อนสร้างความทรงจำดีๆ ด้วยกัน โดยที่ Charlie ไม่เคยรับรู้ถึงอาการป่วยของ Katie เลยแม้แต่น้อย
โดย Midnight Sun ฉบับฮอลลีวูดรีเมคเป็นผลงานการกำกับของ Scott Speer จาก Step Up Revolution และ Step Up: All In และได้ Bella Thorne อดีตนักร้องและนักแสดงสังกัดดิสนีย์วัย 20 ปีมารับบท Katie Price ประกบกับหนุ่มหน้าใส Patrick Schwarzenegger นักแสดงและนายแบบสุดหล่อลูกชายของคนเหล็ก Arnold Schwarzenegger ที่รับบท Charlie Reed
"[หนังเรื่องนี้] มีความเป็นเทพนิยาย Cinderella ยุคใหม่ที่มีกลิ่นอายของเทพนิยาย Rapunzel เจือปน เพราะ Katie ต้องถูกขังอยู่ในห้องไม่สามารถออกไปไหนมาไหนในยามดวงอาทิตย์ฉายแสง" ผู้กำกับกล่าว "ผมเชื่อว่าคนดูทุกคนคงจะเคยรู้สึกแบบเดียวกัน... เวลาที่เรามองออกไปนอกหน้าต่างแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลก จนกระทั่งมีใครคนหนึ่งก้าวเข้ามา และพาเราออกไปยังโลกใบนั้น" นอกจากบทดั้งเดิมซึ่งกลิ่นอายความเป็นเทพนิยายที่ผู้กำกับชื่นชอบอยู่แล้ว Scott ยังได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เก่าๆ ไม่ว่าจะเป็น Splendor in the Grass และ The Umbrellas of Cherbourg รวมไปถึงการนำเรื่องราวความรักครั้งแรกจาก Romeo + Juliet หรือ Moulin Rouge มาสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้อีกด้วย
บท Katie Price ยังถือเป็นการแสดงนำครั้งแรกของ Bella (ก่อนหน้านี้มีถึงแม้เธอจะเคยมีผลงานทางโทรทัศน์ แต่ก็เป็นบทรอง) "สิ่งที่น่าทึ่งอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้คือ การที่ตัวละครค่อนข้างมีความไร้เดียงสาอย่างมาก ความรักที่ Katie มีต่อ Charlie นั้นเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ เนื่องจากเธอแอบเฝ้ามองเขา อยู่ฝ่ายเดียวมานานตลอดหลายปี หนังเรื่องนี้ไม่เหมือนหนังรักเรื่องอื่นๆ ตรงที่ความรู้สึกของ Katie ไม่มีเรื่องเพศมาเกี่ยวข้อง เธอเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาที่มอบหัวใจให้หนุ่มหล่อข้างบ้าน ผู้ที่เธอเชื่อว่าคงไม่มีวันได้ทำความรู้จักกับเขาเป็นอันขาด" Bella กล่าว "สิ่งที่ดึงดูดใจให้ฉันอยากเล่นบทนี้ คือฉันอยากเป็นคนเล่าเรื่องที่ยังไม่เคยมีใครเคยเล่ามาก่อน ... คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักโรคนี้ ฉันจึงอยากถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครที่ถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก และไม่เคยได้ออกไปพบเจอแสงตะวันเลยสักครั้งในชีวิตออกมาให้ผู้ชมได้สัมผัส"
นอกจากนำแสดงแล้ว Bella ยังได้โอกาสโชว์พลังเสียงร้องเพลงโปรโมตภาพยนตร์ที่ชื่อว่า "Burn So Bright" ซึ่งเป็นเพลงบัลลาดฟังง่ายที่สะท้อนถึงชีวิตและตัวตนของ Katie ได้เป็นอย่างดี "ดนตรีเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของหนังเรื่องนี้" Scott กล่าว "ดนตรีประกอบของหนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก โดยเฉพาะเพลงประกอบหนัง การสร้างตัวละครผ่านบทเพลงถือเป็นเรื่องน่าสนุกมาก และเป็นอีกวิธีหนึ่งในการสื่อความคิดซึ่งไม่ค่อยได้พบเจอบ่อยนักในหนังส่วนใหญ่"
ส่วนตัวละคร Charlie เป็นนักกีฬาหนุ่มหล่อที่ใครๆ ก็หลงรัก และในขณะที่มีสาวๆ มาให้เลือกเป็นแฟนมากมาย เขากลับตกหลุมรัก Katie ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเธอร้องเพลงอยู่ที่สถานีรถไฟ "ก่อนหน้าจะได้พบเธอ Charlie กำลังอยู่ในภาวะสับสน เพราะเขากำลังไม่แน่ใจในจุดที่กำลังยืนอยู่ เนื่องจากชีวิตที่เขาวางแผนมาอย่างดิบดีโดยตลอดกำลังก้าวเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน จุดเปลี่ยนซึ่งทำให้เขาต้องพยายามคิดทบทวนว่าควรจะก้าวต่อไปทางไหนดี" Patrick เล่าถึงตัวละครของเขา "แต่แล้วเขาก็ได้พบกับสาวน้อยแสนสวย ผู้ดึงสติของเขาให้กลับคืนมา ด้วยการช่วยให้เขาค้นพบสิ่งที่มีความหมายมากที่สุดในชีวิตอย่างแท้จริง ... เมื่อเขาได้เจอ Katie เธอช่วยให้เขาเกิดความเชื่อมั่นในตัวเองจนสามารถค้นพบตัวตนอันแท้จริงในที่สุด ทำให้เขารู้สึกผูกพันกับ Katie จนอยากจะสำรวจโลกกว้างใบนี้ไปพร้อมๆ กับเธอ"
มาร่วมสัมผัสเรื่องราวความรักของพวกเขาได้ใน Midnight Sun เข้าฉายวันที่ 12 เมษายน (รอบพรีิวิว 5-11 เมษายน เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป)
