[title]
ลืมวลี ‘Netflix and chill’ กันไปได้เลย เพราะตอนนี้คำฮิตใหม่ก็คือ ‘Netflix and Bangkok’ ในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นประเทศไทยได้กลายเป็นหนึ่งในตลาดสตรีมมิงที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่บรรดาผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ต่างพากันจับตามอง
โดยผู้นำเทรนด์นี้ก็คือ Netflix ที่พร้อมทุ่มงบกว่า 6.5 พันล้านบาท เพื่อยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็น Creative Hub แห่งใหม่ของเอเชีย ซึ่งการขยับตัวครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ถือว่าเกิดขึ้นถูกจังหวะสุดๆ เพราะนโยบาย ‘soft power’ ของรัฐบาลไทยกำลังดึงดูดผู้เล่นระดับโลกด้วยสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยมีกลยุทธ์ง่ายๆ ก็คือ การสร้างโปรดักชันให้เป็นงานระดับโลกมากขึ้นก็เท่ากับว่าการจ้างงานของคนไทยก็จะเพิ่มขึ้น นักแสดงและทีมงานไทยจะได้แสดงฝีมือบนเวทีระดับโลก และเราจะได้เห็นภาพของกรุงเทพฯ ได้รับการส่องประกายบนหน้าจอทั่วโลก
โดยหวังว่าคลื่นโปรดักชันลูกนี้จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างจริงจัง ลองนึกภาพตามว่าไม่กี่ปีก่อนกระแส K-drama ของฝั่งเกาหลีพุ่งแรงจนฉุดไม่อยู่ทำให้ตั๋วเครื่องบินไปโซลขายหมดเกลี้ยง และตอนนี้กรุงเทพฯ ก็พร้อมแล้วที่จะเฉิดฉายออกสู่สายตาของทุกคน หวังว่าฉากและเรื่องราวสุดยูนีคของเราจะปลุกกระแสการมาเยือนไปยังทั่วโลกได้เช่นเดียวกัน
Netflix เองก็มั่นใจเต็มที่ในเสน่ห์ของคอนเทนต์ไทย ซึ่งปีนี้เพียงปีเดียวก็กวาดยอดชมทั่วโลกไปแล้วกว่า 750 ล้านชั่วโมง ทำให้ทางแพลตฟอร์มไฟเขียวให้โปรเจกต์ออริจินัลไทยใหม่ในปีนี้มากถึง 9 เรื่อง ตั้งแต่หนังซอมบี้ที่ถูกพูดถึงหนักมากอย่าง ปากกัดตีนถีบ (Ziam) ไปจนถึงซีรีส์ดราม่าที่ผ่านมาในปี 2567อย่าง สืบสันดาน (Master of the House) ที่พิสูจน์แล้วว่าคอนเทนต์ไทยของเราเดินทางไปไกลยังผู้ชมหลากหลายประเทศจริงๆ
และไม่ใช่แค่ Netflix ที่ปูพรมแดงต้อนรับเมืองไทย เพราะ HBO ก็ถ่ายทำ The White Lotus ซีซั่น 3 ที่นี่ทั้งเรื่อง ทางฝั่ง Universal ก็พา Jurassic World: Rebirth มาลงจอดในไทยเช่นกัน และที่ผ่านมาล่าสุด FX’s Alien: Earth ก็กลายเป็นซีรีส์ต่างชาติที่ใช้งบประมาณสูงสุดในการถ่ายทำในไทย และนี่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า กรุงเทพฯ คือโลเคชันสุดฮอตแห่งใหม่ที่ทั่วโลกไว้วางใจ
สำหรับประเทศไทย ผลตอบแทนมันมากกว่าตัวเงินเยอะ และนี่คือ Game-Changer ของวงการครีเอทีฟ ที่เรื่องเล่าของเราบ้านเราจะได้ออกสู่สายตาผู้คนทั่วโลก ทั้งนักเขียน ผู้กำกับ นักแสดงไทย จะได้ไปเยือนเวทีระดับนานาชาติ ในขณะที่ทีมงานเบื้องหลังก็จะได้รับประสบการณ์จริงจากการทำงานร่วมกับโปรดักชันขนาดใหญ่
ตอนนี้กรุงเทพฯ กำลังจะเข้าสู่เวทีระดับโลกแล้ว เตรียมหยิบป๊อปคอร์นให้พร้อมเพราะโชว์นี้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น!