A girl who’s always dressed in all-black, totally obsessed with band tees. Earphones in her ears most of the time, she rarely turns around when you call her name. A newbie in the working world who treasures solitude and craves freedom, she is deeply passionate about art, music, film photography, cinema and fried chicken. Her secret dream is to be an extra in a film by her all-time favourite director, Nawapol Thamrongrattanarit.

Yokploy Chandrabha

Yokploy Chandrabha

Staff writer, Time Out Thailand

Follow Yokploy Chandrabha:

Articles (25)

ย้อนดูสารานุกรมอสูรกายใน Stranger Things ซีซัน 1-4 ก่อนเข้าสู่บทสุดท้าย

ย้อนดูสารานุกรมอสูรกายใน Stranger Things ซีซัน 1-4 ก่อนเข้าสู่บทสุดท้าย

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับซีซันสุดท้ายของมหากาพย์ซีรีส์ไซไฟสยองขวัญย้อนยุคที่ใครหลายคนเติบโตมาพร้อมกันกว่าเกือบ 10 ปี Stranger Things ผลงานชิ้นเอกจากสองพี่น้องดัฟเฟอร์ ที่กลายเป็นทั้งแรงบันดาลใจ วัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์ และบทพิสูจน์ว่าซีรีส์แนววัยรุ่นก็สามารถเล่าเรื่องเหนือธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้งและทรงพลัง ในตลอด 4 ซีซันที่ผ่านมา Stranger Things ไม่เพียงสร้างความผูกพันระหว่างผู้ชมกับตัวละคร แต่ยังสร้างตำนานอสูรกาย ที่น่าจดจำไว้มากมาย ตั้งแต่ Demogorgon ตัวแรกสุดที่เปิดประตูสู่ฝันร้าย ไปจนถึง Vecna ปีศาจร้ายที่แฝงอยู่ในความมืดของจิตใจมนุษย์ และแน่นอนว่าแฟนพันธุ์แท้ย่อมรู้ดีว่า อสูรกายจาก Upside Down ไม่ได้มีแค่ตัวเดียว พวกมันคือตัวแทนของความกลัว ความเจ็บปวด และสิ่งที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของตัวละครทุกคน ก่อนที่ซีซัน 5 ซึ่งเป็นบทสรุปสุดท้ายที่หลายคนรอคอยจะมาถึง เราขอพาทุกคนย้อนทบทวน ‘สารานุกรมอสูรกายแห่ง Stranger Things’ ตั้งแต่ซีซันที่ 1-4 ว่าใครคือผู้ล่า ผู้ถูกล่า และใครกันแน่ที่เป็นปีศาจตัวจริง
กิจกรรมน่าทำในกรุงเทพฯ สุดสัปดาห์นี้ (6 - 9 พฤศจิกายน)

กิจกรรมน่าทำในกรุงเทพฯ สุดสัปดาห์นี้ (6 - 9 พฤศจิกายน)

ต้อนรับสัปดาห์แรกของพฤศจิกายนด้วยกิจกรรมมากมายที่จะเติมพลังและสีสันให้ช่วงปลายปี หากใครเคยได้ยินทฤษฎีที่ว่า เดือนพฤศจิกายนคือเดือนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นแบบไม่รู้ตัว ก็ถึงเวลาพิสูจน์แล้ว เพราะเดือนนี้เต็มไปด้วยงานสนุกๆ ที่รอให้คุณออกไปใช้ชีวิตอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลลอยกระทงริมเจ้าพระยาในบรรยากาศโรแมนติกที่งาน Hey! Thrift Riverside ทรงวาด พร้อมช็อปสินค้ามือสองสุดเท่ หรือจะเปลี่ยนลุคใหม่ให้ตัวเองรับปลายปีที่งาน Flea Spirit Market Ep.4 ตลาดแฟชั่นที่รวมร้านเสื้อผ้ามือสองและเวิร์กช็อปศิลปะสุดครีเอตกว่า 80 ร้านค้า สายอาร์ตเองก็มีงานดีให้ชมไม่แพ้กัน ทั้งนิทรรศการ Inside Space โดยศิลปินญี่ปุ่น ‘ทาเคฮิโระ อิคาวะ’ ที่จะชวนผู้ชมมองพื้นที่รอบตัวผ่านมิติของศิลปะ และนิทรรศการ ภาพสามัญประจำบ้าน ที่บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตประจำวันในมุมอบอุ่น ส่วนใครที่หลงใหลศิลปะการจัดวางและการแสดงสดต้องไม่พลาด As Shore, As Dream – เป็นฝั่ง เป็นฝัน ผลงานของ พวงสร้อย อักษรสว่าง ที่พาผู้ชมสำรวจร่องรอยของประวัติศาสตร์ผ่าน ‘จดหมายเหตุที่ยังมีชีวิต’  ขณะที่สายสปอร์ตต้องแวะงานเฟสติวัลใหญ่จาก ดีแคทลอน ฉลองเปิดสาขาใหม่ที่รวมอุปกรณ์กีฬาและกิจกรรมสนุกๆ สำหรับนักแคมป์และนักวิ่งโดยเฉพาะ ส่วนคนรักเสียงดนตรี ปิดท้ายสัปดาห์ไปกับบรรยากาศสุดอบอุ่นในงาน Bangkok Soundscape 2025 เทศกาลดนตรีที่รวมศิลปินอินดี้จากทั่วโลกมาแสดงแบบใกล้ชิด หรือร่วมย้อนวันวานไปกับบทเพลงของวงโปรดใน Sqweez Animal คอนเสิร์ตที่ฉันไม่เหงา เตรียมพบค่ำคืนแห่งเสียงเพลง ความทรงจำ และความสุขส่งท้ายปีที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้
เฉลิมฉลองฤดูกาลแห่งความสุข ให้ทุกโมเมนต์ของปลายปีเปล่งประกายไปกับ COMO Metropolitan Singapore

เฉลิมฉลองฤดูกาลแห่งความสุข ให้ทุกโมเมนต์ของปลายปีเปล่งประกายไปกับ COMO Metropolitan Singapore

ธันวาคม เดือนที่อากาศเริ่มเย็นลงพอให้ใจได้พักจากฝุ่นเมืองและจังหวะชีวิตที่เร่งรีบตลอดปี แสงไฟตามถนนเริ่มส่องประกาย ผู้คนค่อยๆ ผ่อนคลายจังหวะของตัวเองลง เพื่อรอต้อนรับค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองที่จะเข้ามาแทนที่ความวุ่นวาย ไม่ว่าคุณจะอยู่บนตึกสูง ลานกลางเมือง หรือร้านอาหารโปรด สิ่งหนึ่งที่ทุกคนรู้สึกเหมือนกันคือถึงเวลาที่จะหยุดพักและใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปีอย่างมีความหมายและหากจะมีที่ใดที่รวมทุกองค์ประกอบของความสุขเหล่านี้ไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งอาหารชั้นเลิศ การบริการอบอุ่น และความสงบที่แทรกอยู่ในทุกจังหวะของเวลา COMO Metropolitan Singapore คือจุดหมายที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างงดงาม ที่นี่เทศกาลไม่ได้หมายถึงเพียงปาร์ตี้หรือเสียงหัวเราะในยามค่ำคืน แต่คือพื้นที่ที่จะทำให้หัวใจคุณได้พักหายใจลึกๆ อีกครั้ง ท่ามกลางบรรยากาศเรียบหรู อบอุ่น และเต็มไปด้วยความตั้งใจในแบบเฉพาะของ COMO
คู่มือเที่ยว ‘สามย่าน’ ฉบับครบจบในที่เดียว

คู่มือเที่ยว ‘สามย่าน’ ฉบับครบจบในที่เดียว

ย่านที่กลางวันคือแดนของนักศึกษาและคนทำงานที่แวะจิบกาแฟก่อนเข้าคลาส ส่วนกลางคืนคือช่วงเวลาของเสียงหัวเราะ คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นของอาหารสตรีตฟู้ดริมทาง และแสงไฟจากร้านบาร์ที่ส่องระยิบระยับบนถนนบรรทัดทอง ‘สามย่าน’ คือย่านที่มีจังหวะเป็นของตัวเอง เป็นทั้งโลกของการเรียนรู้ การกิน การพักผ่อน และการใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เร่งรีบจนเกินไป เป็นพื้นที่ที่ความเก่ากับความใหม่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ทั้งตลาดโบราณกับห้างใหญ่ที่อยู่ห่างกันแค่ไม่กี่ก้าว คาเฟ่ร่วมสมัยซ่อนตัวอยู่ข้างร้านอาหารในตำนาน  ถ้าพูดถึงย่านที่มีชีวิตชีวาที่สุดในกรุงเทพฯ ชื่อของสามย่านคงเป็นย่านที่ใครหลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ แต่ก่อนที่นี่คือชุมชนเก่าแก่ มีที่มาจากตลาดสามแห่งที่เคยตั้งเรียงรายกัน เป็นแหล่งค้าขายอันคึกคักที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและชีวิตชีวา ทว่ากาลเวลาผ่านไป สามย่านก็ไม่เคยหลับใหล ในวันนี้มันกลายเป็นย่านทันสมัยใจกลางเมือง รายล้อมด้วยอาคารเรียนชื่อดัง ห้างหรูอย่าง Samyan Mitrtown และคาเฟ่เท่ๆ ที่เปิดแทบทุกหัวมุมถนน ทั้งนักศึกษา คนทำงาน หรือสายชิลที่อยากหาที่กิน ดื่ม เที่ยวแบบเดินทางสะดวก สามย่านถือเป็นจุดเช็กอินที่ตอบโจทย์ทุกจังหวะชีวิต สามย่านมีอะไรน่าสนใจ? Photograph: PMCU สิ่งที่ทำให้ ‘สามย่าน’ มีเสน่ห์ไม่เหมือนที่ไหน คือนอกจากที่จะเป็นศูนย์กลางของนักเรียนนักศึกษา และชาวออฟฟิศแล้ว ใครๆ ก็ต่างรู้ดีว่าปัจจุบันสามย่านได้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะย่านแห่งของกินและความคึกคักยามค่ำคืน โดยเฉพาะ ‘ถนนบรรทัดทอง’ ที่กลายเป็นหนึ่งในเส้นทางสายกินระดับตำนานของกรุงเทพฯ เพราะที่นี่มีทุกอย่างตั้งแต่ร้านอาหารรสชาติดีราคานักศึกษา ไปจนถึงร้านเก่าแก่ที่เปิดขายกันมาหลายสิบปี และในระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตร คุณจะได้พบกับร้านข้าวต้มป
อีเวนต์น่าสนใจในกรุงเทพฯ ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้

อีเวนต์น่าสนใจในกรุงเทพฯ ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้

พฤศจิกายนกำลังเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง พร้อมลมหนาวที่พัดพาให้ฤดูกาลค่อยๆ เปลี่ยนไป แม้ประเทศไทยจะอยู่ในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าหลังการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แต่หลายอีเวนต์ในกรุงเทพฯ ยังคงดำเนินต่อไปด้วยความสำรวมและให้เกียรติต่อบรรยากาศของช่วงเวลา โดยปรับรูปแบบการจัดงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เดือนนี้กรุงเทพฯ ยังคงเต็มไปด้วยกิจกรรมหลากหลายที่น่าสนใจ ทั้งงานประจำปีอย่าง ‘วิจิตรเจ้าพระยา’ ที่จะมาส่งท้ายปีด้วยเทศกาลแสง สี เสียงสุดยิ่งใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และ ‘งานวัดภูเขาทอง’ ที่สืบสานประเพณีไทยอย่างต่อเนื่องทุกปี สำหรับสายอาร์ตก็มีทั้งนิทรรศการ และเทศกาลภาพยนตร์อย่าง ‘Taiwan Documentary Film Festival’ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของผู้คนผ่านสายตาผู้กำกับมากฝีมือ ในฝั่งของความบันเทิง แฟนหนังจะได้สัมผัสประสบการณ์ชมภาพยนตร์ Harry Potter and the Prisoner of Azkaban พร้อมการบรรเลงสดจากวงออร์เคสตร้าสุดยิ่งใหญ่ ส่วนคนรักเสียงเพลงเตรียมตัวไว้ให้ดีเพราะตลอดเดือนนี้มีทั้งคอนเสิร์ตจากศิลปินไทยและต่างประเทศ งานแฟร์ งานแสดง และโชว์สแตนด์อัปคอมเมดี้มากมายที่พร้อมเติมสีสันให้พฤศจิกายนนี้อบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและแรงบันดาลใจ
เพลย์ลิสต์เพลงผีบอก เซฟไว้เปิดฟังวันปล่อยผี

เพลย์ลิสต์เพลงผีบอก เซฟไว้เปิดฟังวันปล่อยผี

ใกล้ฮาโลวีนเข้ามาทุกที หากพูดถึงวงการเพลงไทย บ้านเรามีศิลปินหลายรุ่นที่มักหยิบเอาเรื่องเล่าสุดหลอนมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าสุดหลอน ประสบการณ์ลี้ลับ หรือเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์สยองขวัญ ทำให้เพลงไทยหลายเพลงมีเสน่ห์และมู้ดชวนขนลุกไม่แพ้กับการดูหนังผี หากย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน เพลงที่เล่าเรื่องผีหรือความลึกลับมักจะมีความคลาสสิกเฉพาะตัว แต่ช่วงหลังมานี้ ศิลปินรุ่นใหม่ก็ได้มีการผสมผสานสไตล์ดนตรีสมัยใหม่เข้ากับเรื่องราวหลอน ชวนขนหัวลุก ทำให้เกิดเพลงใหม่ๆ ที่ทั้งฟังเพลินและสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ฟังได้ทุกวัย ถึงเวลาส่งท้ายเดือนตุลาคม เดือนแห่งความหลอนที่หลายคนรอคอยในทุกปี และเพื่อให้บรรยากาศในฤดูกาลนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น Time Out ขอแชร์เพลย์ลิสต์ ‘เพลงผีบอก’ ที่รวบรวมบทเพลงไทยที่ทั้งหลอน มันส์ เท่ และชวนขนหัวลุก เซฟเก็บไว้เป็นยันต์กันผี ฮาโลวีนนี้ผีไม่หลอกแน่นอน
เปิดโพลหนังสยองขวัญที่ดีที่สุดแห่งปี 2025

เปิดโพลหนังสยองขวัญที่ดีที่สุดแห่งปี 2025

อัปเดตเดือนตุลาคม: ฮาโลวีนปีนี้เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลของหนังสยองขวัญอย่างเต็มสูบ สำหรับคอหนังสยองขวัญ ไม่ว่าจะเป็น Good Boy น้องหมาเห็นผีสุดหลอน, Frankenstein ฉบับ Guillermo del Toro หรือ The Black Phone 2 สายมรณะที่พร้อมจะโทรมาทำให้คุณสะดุ้งทุกวินาที แม้ว่าปีศาจ ผีแวมไพร์ หรือไวรัสร้ายในจอจะถูกฆ่าตายไปกี่รอบต่อกี่รอบ แต่วงการหนังสยองขวัญยังคงเดินหน้าสร้างความหลอนให้ผู้ชมต่อเนื่อง ถ้าคุณคือคนที่หลงใหลในความรู้สึกสั่นสะท้านแบบนั่งไม่ติดเบาะในโรงภาพยนตร์ คุณคือผู้โชคดีเพราะปีนี้วงการหนังหลอนเสิร์ฟผลงานเด็ดมากกว่าคนที่อยากดูหนังตลกเสียอีก โดยหนังสยองขวัญที่สร้างกระแสแรงที่สุดปีนี้ เช่น Nosferatu ของโรเบิร์ต เอ็กเกอรส์, Sinners ของ ไรอัน คูเกลอร์ และ Weapons ของ แซ็ค เครกเกอร์ ต่างกวาดรายได้และคนยอดคนดูถล่มทลาย แถมยังกลายเป็นมีมไวรัลในโซเชียลอีกเพียบ แต่ก่อนจะไปถึง 10 อันดับแรก เรามาดูหนังสยองขวัญอีกชุดที่ไม่ควรมองข้ามกันก่อน เตรียมตัวสะดุ้งและหัวเราะไปพร้อมกันได้เลย สรุปหนังสยองขวัญประจำปี 2025  📍 28 Years Later – ฉายใน Netflix (US) / Prime Video / Apple TV+📍 Nosferatu – สตรีมใน Prime Video (US), เช่า/ซื้อได้ใน PVOD (US & UK)📍 Sinners – สตรีมบน Max (US) / เช่าใน PVOD (UK)📍 Weapons – ให้เช่าบน Prime Video / Apple TV (PVOD),📍 Final Destination: Bloodlines – สตรีมบน Max (US), มีให้เช่าใน PVOD (US & UK)
‘ดาราโซเฟีย’ อินฟลูเอนเซอร์สายพลังบวก ผู้เชื่อว่าทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง

‘ดาราโซเฟีย’ อินฟลูเอนเซอร์สายพลังบวก ผู้เชื่อว่าทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง

ในยุคที่โลกโซเชียลหมุนไปอย่างรวดเร็ว และ TikTok ได้กลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่ให้ใครก็ได้ลุกขึ้นมาพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดและเชื่อ หนึ่งในเสียงที่โดดเด่นและทรงพลังที่สุด คือเสียงของ ‘โซเฟีย–ศศิกานต์ วงค์งาม’ หรือที่หลายๆ คนรู้จักเธอในนาม ‘ดาราโซเฟีย’ อินฟลูเอนเซอร์สาวที่กล้าใช้ความจริงใจและอารมณ์ขันสะท้อนมุมมองต่อสังคมอย่างไม่กลัวคำวิจารณ์  จากนางแบบวัยรุ่น สู่บทบาทของผู้เป็นแม่ และเจ้าของธุรกิจ ที่ใช้ TikTok ไม่เพียงเพื่อสร้างรอยยิ้ม แต่ยังเป็นพื้นที่พูดคุยในเรื่องที่หลายคนไม่กล้าพูด ทั้งประเด็น Beauty Standard ความเท่าเทียม และประเด็นทางสังคมอื่นๆ อีกมากมาย เสียงของเธอได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงจำนวนมากกล้าที่จะ รักและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น วันนี้ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับโซเฟียอย่างใกล้ชิด ถึงเรื่องราวชีวิต เส้นทางการทำคอนเทนต์ที่กลายเป็นไวรัลไปทั่วประเทศ และมุมมองต่อสังคมในโลกออนไลน์ ที่สะท้อนให้เห็นว่า ‘ความสวย’ สำหรับเธอ ไม่ได้อยู่ที่หน้าตา แต่อยู่ที่การกล้าเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง   Photograph: ศศิกานต์ วงค์งาม จากนางแบบวัยรุ่นสู่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ เส้นทางของดาราโซเฟียเริ่มต้นตั้งแต่อายุเพียง 15–16 ปี จุดเริ่มต้นนั้นเกิดขึ้นอย่างเรียบง่ายจากวันหนึ่งที่เธอไปกินพิซซ่ากับเพื่อน และบังเอิญได้พบกับเจ้าของร้านซึ่งมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง เขาจึงชวนให้โซเฟียลองไปถ่ายแบบด้วยกัน ซึ่งนั่นกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่พาเธอก้าวเข้าสู่วงการนางแบบอย่างเต็มตัว หลังจากนั้นเธอก็เริ่มส่งคอมการ์ดไปตามงานต่าง ๆ ได้รู้จักผู้คนในแวดวงแฟชั่นมากขึ้น และเริ่มมีผลงานการถ่ายแบบออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาผ่านไป โซเฟียค่อยๆ ขยับจากโลกของแฟชั่นเข้าสู่โลกออนไลน์ โดยเลือก TikTok เป็นพื้นที่ใหม
อีเวนต์น่าสนใจในกรุงเทพฯ ตลอดเดือนตุลาคมนี้

อีเวนต์น่าสนใจในกรุงเทพฯ ตลอดเดือนตุลาคมนี้

ก้าวเข้าสู่เดือนตุลาคม เดือนที่ 10 ของปี เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและก็ใกล้สิ้นปีเข้าไปทุกที เดือนนี้ยังเป็นช่วงเวลาพิเศษที่หลายคนรอคอย เพราะเต็มไปด้วยบรรยากาศสนุก ตื่นเต้น และชวนขนลุกจากเทศกาลฮาโลวีน พร้อมด้วยอีเวนต์และกิจกรรมหลากหลายที่น่าสนใจให้เลือกเพียบ ซึ่ง Time Out ได้รวบรวมมาให้คุณแล้วในเดือนนี้ เริ่มต้นที่งานหลอนๆ อย่างบ้านผีสิงจากเรื่องเล่าสุดหลอนในคลื่นวิทยุ  The Shock เล่า เรื่อง หลอน หรือเตรียมกรี๊ดไปกับบ้านผีสิงสุดแฟนซีจาก Team Wang design ร่วมรังสรรค์โดย แจ็คสัน หวัง และเฮนรี่ จาง แฟนมังงะก็ไม่ควรพลาดกับโปรเจกต์บ้านผีสิงจากมังงะของอาจารย์จุนจิ อิโต้ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง รวมถึงคอนเสิร์ตธีมหลอนๆ จาก Tattoo Colour ขวัญใจวัยรุ่นชาวเจนซี สำหรับสายอ่านก็มีงานใหญ่ประจำปีอย่างมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 30 ที่หลายคนรอคอย ให้คุณได้ไปเดินเช็กลิสต์หนังสือที่เล็งไว้เข้ากรุกองดอง และนับเป็นครั้งแรกกับงานสตรีตฟู้ดอาหารไทยของ Koktail และ Time Out ที่รวมเอาร้านอาหารดังถึง 25 ร้าน พร้อมบูธเครื่องดื่ม และดนตรีสดให้ได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่พัก สำหรับใครที่เป็นแฟนรายการ ‘ป๋าเต็ด ทอล์ก’ ก็เตรียมตัวไปสนุกกับทอล์กโชว์รูปแบบใหม่จากป๋าเต็ด ยุทธนา ที่จะมาสร้างความฮาและความอินให้แฟนๆ กันอย่างเต็มอิ่ม สายอาร์ตก็มีงาน Bangkok Illustration Fair ที่รวมผลงานจัดแสดงของเหล่านักวาดหลากสไตล์ และปิดท้ายเดือนตุลาคมด้วยการคัมแบ็กของ 4 สาว Blackpink กับ World Tour ครั้งยิ่งใหญ่ ที่พร้อมมาเยือนไทยอีกครั้ง  ตุลานี้จึงเต็มไปด้วยอีเวนต์ที่รอให้คุณได้ออกไปสนุก รักษาสุขภาพ เตรียมร่างกายให้พร้อม แล้วไปสนุกด้วยกันตลอดทั้งเดือน!
Music… Camera…. Action!

Music… Camera…. Action!

Let us tell you straight off: if someone in Thailand says they’ve never heard of Arak ‘Pae’ Amornsupasiri, I’d raise an eyebrow. He’s lived through so many chapters – starting out as a guitarist in Slur in the late ’90s, then branching into solo music and acting, and lately daring to helm his own films. His debut The Stone: Phra Tae Kon Ke didn’t just stir the Thai scene – it went international. We found a fitting place to talk in one go: REC.Bangkok, the sleek Wireless Road bar we’ve taken over for the afternoon. Its dim lights, sharp corners and relaxed energy felt like the perfect backdrop for Pae’s many facets – cool, intense, playful.   Photograph: STYLEdeJATE Each role, a fresh mountain to climb Pae isn’t someone you can pin down to one job description. Singer, actor, director – each title could be its own full-time career, yet he insists on doing all three. Not out of some restless inability to choose, but because every role offers him a new kind of friction to wrestle with. And he seems to enjoy the fight. What links these identities is a stubborn urge to not simply meet expectations but to vault quietly over them. As an actor, he’s always battling that silent question: how do you satisfy the director, the writer or the creative who hired you? Sometimes their request is modest, almost underwhelming. Yet Pae wants to push further, or at the very least match the depth of what they had in mind. When he switches to music, the challenge shapeshifts. He asks himself: how
เป้–อารักษ์ อมรศุภศิริ : จากชีวิตร็อกแอนด์โรลสู่ผู้กำกับผู้ท้าทายทุกบทบาท

เป้–อารักษ์ อมรศุภศิริ : จากชีวิตร็อกแอนด์โรลสู่ผู้กำกับผู้ท้าทายทุกบทบาท

เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ เชื่อว่าแทบไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ เพราะเขาคือบุคคลที่เรียกได้ว่าอยู่มาทุกยุค ผ่านมาแล้วหลายบทบาท เริ่มต้นจากการเป็นมือกีตาร์วงร็อกแอนด์โรลอย่าง Slur ในปลายยุค 90s จนก้าวเข้าสู่เส้นทางการเป็นศิลปินเดี่ยวควบคู่กับการเป็นนักแสดงทั้งละครและภาพยนตร์ ก่อนจะขยับสู่บทบาทใหม่ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ ที่หลายคนคาดไม่ถึงกับผลงานหนังเรื่องแรกของเขา ‘The Stone พระแท้ คนเก๊’ ซึ่งไม่เพียงสร้างเสียงฮือฮาในไทย แต่ยังพาเขาไปไกลถึงเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติต่างแดน ระหว่างการถ่ายทำบทสัมภาษณ์สุดพิเศษนี้ เราได้ยกกองไปยัง REC.Bangkok บาร์น้องใหม่สุดหรูใจกลางถนนวิทยุ ซึ่งมุมแสงและบรรยากาศภายในร้านช่วยสะท้อนตัวตนของเป้ออกมาได้ครบทุกมิติ ตั้งแต่ความเท่ ความจริงจัง ไปจนถึงความสนุกสนานขี้เล่นตามสไตล์ของ เป้ อารักษ์   Photograph: STYLEdeJATE ความท้าทายในทุกตัวตน ไม่ว่าจะในฐานะนักร้อง นักแสดง หรือผู้กำกับ แต่ละหมวกที่ เป้ อารักษ์ สวมใส่ล้วนมาพร้อมความท้าทายที่ไม่เหมือนกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันเสมอคือความมุ่งมั่นที่จะทำให้งานออกมาดีกว่าที่ใครคาดหวังไว้ อย่างบทบาทของการเป็นนักแสดงเขาเล่าว่า ความท้าทายคือการทำยังไงให้ผู้กำกับหรือคนสร้างงานพอใจ ผู้สร้างอาจต้องการแค่ระดับหนึ่ง แต่เป้ยืนยันว่าใจจริงแล้วก็อยากทำให้เขาได้มากกว่านั้น หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องได้เท่าที่เขาคาดหวังไว้ แต่พอเปลี่ยนมาเป็นนักดนตรี ความท้าทายคือการทำยังไงให้เพลงที่ตัวเองชอบคนอื่นชอบด้วย เพราะเขาเองไม่ได้ทำเพลงแบบอาร์ตเฮ้าส์ แต่ทำเพลงป๊อปปูลาร์มิวสิก เพราะฉะนั้นจึงต้องบาลานซ์ทั้งสิ่งที่รักกับสิ่งที่คนฟังอยากฟังให้ไปด้วยกัน  ส่วนการเป็นผู้กำกับ (บทบาทที่ซับซ้อนที่สุด) เป้ อธิบายเป็นพิเศษว่า มันมีความท้าทายหลายข
รวมบาร์เปิดใหม่รอบกรุงเทพฯ ในปี 2568

รวมบาร์เปิดใหม่รอบกรุงเทพฯ ในปี 2568

พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ Time Out เลือก ‘ไปค่ะไป’ มาร่วมทำคู่มือพิเศษเกี่ยวกับบาร์เปิดใหม่ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ เพราะจุดเริ่มต้นของเรานั้นเรียบง่ายมากจริงๆ มันเริ่มจากกิจกรรมเล็กๆ หลังเลิกงาน เพียงการนัดเพื่อนออกไปนั่งดื่มด้วยกัน และไม่นานก็มีคำถามซ้ำๆ จากเพื่อนๆ ว่า บาร์ที่ไปคือที่ไหน บรรยากาศดีไหม เครื่องดื่มอร่อยหรือเปล่า คำถามเหล่านี้กลายเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เราสร้างคอมมูนิตี้เล็กๆ ขึ้นมาในชื่อ ‘ไปค่ะไป’ เพื่อแบ่งปันเรื่องราวร้านที่เราชอบให้คนอื่นได้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง วิธีการคัดเลือกบาร์ของเราก็ออร์แกนิกมากๆ ไม่ได้อาศัยข้อมูลวงในหรือทิปจากใคร แต่ใช้สองเท้าในการเดินสำรวจเมือง คอยสังเกตซอกซอยที่กำลังปรับปรุงอาคาร และเมื่อบาร์เหล่านั้นเปิด เราก็จะลองเข้าไปในฐานะลูกค้าคนหนึ่งเสมอ เรามักเริ่มต้นด้วยการสั่งเครื่องดื่ม นั่งซึมซับบรรยากาศ และเมื่อมั่นใจว่านี่คือสถานที่ที่อินจริงๆ ถึงจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพและแชร์ออกไปให้โลกได้รู้ การบันทึกแต่ละครั้งจึงไม่ได้เกิดจากหน้าที่ แต่เกิดจากความรู้สึกที่อยากบอกต่อจริงๆ สำหรับเรา การไปบาร์ไม่ใช่งาน แต่มันคือไลฟ์สไตล์ที่อยู่ในทุกจังหวะชีวิต บางวันอารมณ์ดีอยากสังสรรค์ บางวันเหนื่อยล้าหรือเหงาอยากได้ที่พักใจ บาร์มักจะเป็นคำตอบที่ทำให้เราได้พบผู้คนใหม่ๆ และได้เรียนรู้เรื่องราวของพวกเขา ทั้งจากบาร์เทนเดอร์ที่ตั้งใจปรุงในทุกๆ แก้วของตัวเอง พนักงานที่คอยดูแลเอาใจใส่ ไปจนถึงลูกค้าที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งต่างคนก็ต่างมีเรื่องราวไม่เหมือนกัน บรรยากาศในบาร์จึงเปรียบเสมือนค็อกเทลที่อยู่ในเชกเกอร์ และค่อยๆ คลุกเคล้าเรื่องราวหลากหลายเข้าด้วยกัน สิ่งที่ทำให้เราหลงรักการไปบาร์คือความรู้สึกว่าเราไม่เคยอยู่ลำพัง สถานที่เหล่านี้รายล้อมไปด้วยเพื่

News (48)

ชวนอ่านเรื่องราวความสัมพันธ์จากปลายปากกานักเขียนหญิงตลอดทศวรรษ ใน ‘Read Me 10 ปี P.S.’

ชวนอ่านเรื่องราวความสัมพันธ์จากปลายปากกานักเขียนหญิงตลอดทศวรรษ ใน ‘Read Me 10 ปี P.S.’

เพราะทุกความสัมพันธ์ที่ P.S. ถ่ายทอด ล้วนเป็นถ้อยคำที่ทำให้ใครหลายคน ‘รู้สึกรู้สา’ และเข้าใจว่าในทุกบทของชีวิต ‘ความรัก’ ไม่เคยมีเพียงแบบเดียว หากกล่าวถึงสำนักพิมพ์ที่โดดเด่นด้านการเล่าเรื่องความสัมพันธ์หลากหลายมิติ ทั้งรักผลิบาน รักร้างลา รักไม่สมหวัง รักรอคอย หรือรักข้างเดียว ชื่อของ P.S. Publishing ย่อมผุดขึ้นมาในใจของนักอ่านจำนวนมากเสมอ นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างคนรักแล้ว หนังสือของสำนักพิมพ์นี้ยังขยายขอบเขตไปถึงเรื่อง การเติบโต (Coming of Age), มิตรภาพ, เซ็กซ์ รวมถึงความสัมพันธ์แบบที่สังคมอาจไม่พูดถึงบ่อยนักบนหน้าหนังสือ ถ่ายทอดผ่านปลายปากกาของนักเขียนหญิงหลากรุ่นในภาษาที่มีกลิ่น สี และรสชาติต่างกันออกไป Photograph: P.S. Publishing และในวาระครบรอบ 10 ปีของ P.S. Publishing ปีนี้ สำนักพิมพ์จึงขอชวนทุกคนมาร่วมสำรวจพื้นที่แห่งความสัมพันธ์และการเติบโตอีกครั้งในงาน‘Read Me นิทรรศการ 10 Years P.S. #สำนักพิมพ์ที่เธอชอบครบรอบ 10 ปีแล้วนะ’ งานที่พาทุกคนย้อนกลับไปทำความรู้จักกับสำนักพิมพ์ที่สร้างสรรค์หนังสือเล่มเล็กขนาดพอดีมือ เต็มไปด้วยตัวอักษรที่ทำให้เราได้รู้จักตัวเองและคนอื่นมากขึ้น พร้อมการจัดแสดงปกและเรื่องราวจากหนังสือเกือบ 100 เล่ม ไฮไลต์ภายในงาน Talk & Speed Dating ชวนขยับความสัมพันธ์จากนักอ่านและนักเขียนให้ใกล้กันขึ้นอีกนิด ผ่านวงสนทนาและกิจกรรมที่ทั้งอบอุ่นและเขินอายเล็กน้อย Speed Dating : Date Me, I’ll Write Youเดตสั้นๆ 2 นาที กับนักเขียน 7 คน ตาสบตา พูดคุย แลกเปลี่ยน และรับข้อความหรือภาพวาดกลับบ้าน Talk : Sad but Memeingเมื่อเรื่องเศร้าเท่ากับมุกในวงเหล้า ล้อมวงคุยกับ 4 นักเขียนที่ถนัดเล่าเรื่องเศร้าให้กลายเป็นเสียงหัวเราะ Talk : Toxic Relationship 101 – รักยังไงให้เ
ไทยเบรกคาสิโน อนุทินย้ำต่อ สี จิ้นผิง การพนันไม่ใช่อนาคตของไทย

ไทยเบรกคาสิโน อนุทินย้ำต่อ สี จิ้นผิง การพนันไม่ใช่อนาคตของไทย

นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ดูเหมือนจะดึงผ้าเบรกแผนเปิดคาสิโนในประเทศอย่างจริงจัง หลังกล่าวกับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ประจำประเทศจีนว่า การพนันจะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเรื่องราวการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย ทั้งสองผู้นำได้พบกันระหว่างการประชุมสุดยอด APEC ที่เมืองคย็องจู ประเทศเกาหลีใต้ โดยนายกอนุทินยืนยันว่ารัฐบาลของเขาได้ระงับการออกกฎหมายคาสิโนทั้งหมดที่เคยถูกเสนอไว้แล้ว พร้อมระบุว่าการเติบโตของไทยจะมาจาก ‘คนของเรา สินค้าของเรา และเทคโนโลยีของเรา’ — สะท้อนให้เห็ยจุดแข็งของประเทศในด้านการท่องเที่ยว เกษตรกรรม และการผลิต โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวชื่นชมการตัดสินใจดังกล่าว โดยมองว่าเป็นก้าวที่ดีในการต่อต้านการพนันข้ามพรมแดน เพราะจีนเองระมัดระวังมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการที่พลเมืองของตนเดินทางไปเล่นคาสิโนในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งบางเมืองถึงกับสร้างขึ้นรอบๆ ธุรกิจพนันโดยเฉพาะ และการที่ไทยปิดประตูคาสิโนอย่างเป็นทางการในตอนนี้ จึงถือเป็นการส่งสัญญาณว่าปักกิ่งได้พันธมิตรที่พร้อมร่วมมือในการจัดการปัญหาสังคมนี้แล้ว ทางเดินต่อไป การพบกันครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่การแสดงจุดยืนทางศีลธรรมเท่านั้น เพราะทั้งสองประเทศยังตกลงที่จะเพิ่มความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว การค้าดิจิทัล และเกษตรกรรม โดยจีนตกลงจะซื้อข้าวไทย 500,000 ตัน ภายใต้ข้อตกลงใหม่ และทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันผลักดันให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับไปสู่ระดับเดิมก่อนการแพร่ระบาดของโควิด ประเทศไทยยังคงเข้าร่วมกับจีนในการให้คำมั่นว่าจะปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์และมิจฉาชีพออนไลน์ที่มุ่งเป้าไปยังชาวจีนอีกด้วย สำหรับประเทศไทย การประกาศจุดยืน ‘ไม่เอาคาสิโน’ ในครั้งนี้สะท้อนการเปลี่ยนทิศทางอย่างชัดเจน เพราะรัฐบาลหลายยุคก่อนเคยมีแนวคิดเร
Time Out Bangkok จับมือ Koktail Thailand เปิดฉากงาน The Ultimate Street Food Festival 2025 อย่างยิ่งใหญ่

Time Out Bangkok จับมือ Koktail Thailand เปิดฉากงาน The Ultimate Street Food Festival 2025 อย่างยิ่งใหญ่

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา Time Out Bangkok จับมือกับ Koktail Thailand เปิดตัวงาน The Ultimate Street Food Festival ครั้งแรก ณ เกษร อมรินทร์ (Gaysorn Amarin) โดยงานนี้จะจัดขึ้นไปจนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน เวลา 08.00 - 22.00 น.วันแรกของพิธีเปิดเริ่มต้นด้วยความคึกคัก โดยมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน พร้อมการแสดงสุดพิเศษจากศิลปินแนว Neo-Bannaok และกว่า 20 ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่มาร่วมออกบูธกันอย่างจุใจ   Photograph: Time Out Thailand ตลอดสามวันของงาน เหล่าบรรดาคนรักสตรีตฟู้ดจะได้อิ่มอร่อยกับเมนูพิเศษจากร้านดังทั่วกรุงเทพฯ ที่มาร่วมสร้างสรรค์เมนูสตรีตฟู้ดสไตล์ใหม่ในราคาสบายกระเป๋า เริ่มต้นเพียง 100-200 บาท และที่สำคัญเปิดให้เข้าชมแบบฟรีๆ โดยงานนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Gaysorn Village, Wine Now, Sake Merchant, Merai Thailand และพันธมิตรสื่ออย่าง ไทยรัฐออนไลน์, ไทยรัฐพลัส, Mirror, CNN และ Gastrofilmพร้อมแขกคนสำคัญที่มาร่วมงาน ได้แก่ คุณนิค-จิตสุภา วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ไทยรัฐทีวีและไทยรัฐออนไลน์ และ คุณแนต-ธนวลัย วัชรพล ผู้ก่อตั้ง Mirror Thailand รวมถึงตัวแทนจาก Merai Thailand   Photograph: Time Out Thailand บรรยากาศภายในงานยังอบอวลไปด้วยความยินดีจากการเข้าร่วมของ คุณทวีเดช ทองอ่อน ผู้อำนวยการกองส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้แทนของ คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. โดยงานนี้คุณทวีเดชได้กล่าวภายในงานไว้ว่า ‘ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ร่วมสนับสนุนงานในวันนี้ ซึ่งช่วยยกระดับอาหารสตรีตฟู้ดไทยให้ยังคงความดั้งเดิมและเข้าถึงง่าย อาหารไทยได้รับการยอมรับไปทั่วโลก และในประเทศของเราเอง อาหารยังคงเป็นหัวใจของอัตลักษณ์
สงครามหั่นด่วน! แอปฟู้ดเดลิเวอรี่เปิดศึกลดค่าธรรมเนียมต้อนรับ คนละครึ่งพลัส

สงครามหั่นด่วน! แอปฟู้ดเดลิเวอรี่เปิดศึกลดค่าธรรมเนียมต้อนรับ คนละครึ่งพลัส

ใครว่าศึกชิงลูกค้าอยู่แค่หน้าร้าน ตอนนี้โลกออนไลน์ก็เดือดไม่แพ้กันเมื่อรัฐบาลเปิดให้ประชาชนเริ่มใช้สิทธิ์โครงการ ‘คนละครึ่งพลัส’ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา แอปฟู้ดเดลิเวอรี่เจ้าดังในไทยต่างรีบขยับหมากประกาศลดค่าธรรมเนียม (GP) แข่งกันสนั่น หวังดึงร้านอาหารเข้าร่วมโครงการในฝั่งตัวเองให้ได้มากที่สุด Line Man Wongnai ประเดิมก่อนใคร ปรับลดค่าคอมมิชชันเหลือเพียง 7-9% เท่ากับที่ Grab เสนอให้ร้านที่เข้าร่วมโครงการ โดยร้านที่สมัครภายในวันที่ 3 พฤศจิกายน จะได้เรตพิเศษสุดที่ 7% ส่วนหลังจากนั้นจะขยับเป็น 9% เช่นเดียวกับแคมเปญ ‘GrabFood x คนละครึ่งพลัส: 9-Fold Sales Boost’ ที่เปิดตัวก่อนหน้าในแนวทางเดียวกัน ฝั่ง Robinhood ก็ไม่น้อยหน้า ขอลงสนามแบบใจป้ำด้วยการลด GP เหลือ 0% สำหรับทุกออเดอร์ ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน – 19 ธันวาคมนี้ แต่จำกัดสิทธิ์เฉพาะ 5,000 ร้านแรก เท่านั้นที่สมัครเข้าร่วมในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ ShopeeFood ก็โผล่มาแจมวง ลด GP เหลือ 0% สำหรับร้านค้าที่ลงทะเบียนในวันที่ 3 พฤศจิกายน เรียกได้ว่าศึกนี้ไม่มีใครยอมใคร ไม่เพียงแต่ลด GP เท่านั้น ทั้ง Grab และ Line Man Wongnai ยังทุ่มงบรวมกว่า 400 ล้านบาท เพื่อจัดแคมเปญโปรโมตต่อยอดโครงการคนละครึ่งพลัสหวังกระตุ้นยอดขายและสร้างแรงดึงดูดให้ร้านค้าเลือกเข้าร่วมแพลตฟอร์มของตัวเอง เพราะอย่าลืมว่ากติกาของคนละครึ่งพลัสกำหนดให้ร้านค้าเลือกได้เพียงแค่หนึ่งแพลตฟอร์ม เท่านั้น ท่ามกลางสนามรบที่เต็มไปด้วยโปรลดแรงแซงทุกดีลแบบนี้ สุดท้ายแล้วร้านอาหารจะเลือกเข้าร่วมกับใคร และใครจะอยู่รอดในสงครามเดลิเวอรี่รอบใหม่นี้ คงต้องรอติดตามต่อไป
นายกฯ ดันขยายเวลาปิดผับถึงตี 4 และเตรียมยกเลิกกฎห้ามขายเหล้าตอนบ่าย

นายกฯ ดันขยายเวลาปิดผับถึงตี 4 และเตรียมยกเลิกกฎห้ามขายเหล้าตอนบ่าย

ข่าวดีสำหรับสายกลางคืน ดูเหมือนว่าการสั่งปิดร้านตอนตีสองอาจกลายเป็นอดีต เพราะ นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล กำลังผลักดันนโยบายใหม่ในการยกเลิกระบบโซนจำกัดเวลาจำหน่ายแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ เป็นขยายเวลาปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 และยกเลิกข้อห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงบ่าย 2 โมงถึง 5 โมงเย็น โดยหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน การเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มใช้ในเดือนมกราคม ปี 2569 ปัจจุบัน มีเพียงบางพื้นที่เท่านั้นที่สามารถเปิดเกินตีสองได้ เช่น สีลม, RCA และ รัชดาภิเษก ในกรุงเทพฯ รวมถึง ภูเก็ต, เชียงใหม่, ชลบุรี และเกาะสมุย ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะต้องปิดเวลาตีสองแบบไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งระบบนี้ถูกประชาชนหลายคนวิจารณ์มานานว่าล้าสมัย และไม่ยุติธรรม ภายใต้แผนปฏิรูปใหม่นี้ รัฐบาลตั้งใจจะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันสำหรับทุกฝ่าย ทั้งร้านอาหาร บาร์ หรือสถานที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ต้องวิ่งเต้นขอใบอนุญาตสถานบันเทิงแบบเดิม แต่สามารถลงทะเบียนตรงกับกระทรวงมหาดไทยได้ในฐานะร้านจำหน่ายสุราภายใต้ระบบที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมามากขึ้น แน่นอนว่าแรงจูงใจของรัฐบาลไม่ได้มีแค่เรื่องความสะดวก แต่ยังรวมถึงเม็ดเงินด้วย เพราะการขยายเวลาเปิดและลดข้อจำกัดต่างๆ คาดว่าจะช่วยเพิ่มตัวเลขการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ภาษี หลายแสนล้านบาทต่อปี ตอนนี้ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข กำลังหารือกันถึงแนวทางปฏิบัติจริงว่าจะยกเลิกข้อบังคับโซนเหล่านี้ผ่านช่องทางกฎหมายใดได้บ้าง แม้ยังอยู่ในขั้นต้น แต่ถ้าครม. เห็นชอบจริง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสถานบันเทิงของไทย (รวมถึงทุกคนที่เคยหงุดหงิดกับกฎ ห้ามขายเหลาตอนบ่าย) อาจได้เฮกันในปีหน้า ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบาร์ที่มองเห็นโอกาสรายได้เพิ่ม หรือแค่คนที่คิดว่าการดื่มเบียร์ตอนบ่ายสามไม่ควรถูกนับเป
เผยไลน์อัปสุดยิ่งใหญ่ในงาน The Ultimate Street Food Festival 2025

เผยไลน์อัปสุดยิ่งใหญ่ในงาน The Ultimate Street Food Festival 2025

การร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ระหว่าง Time Out Bangkok และ Koktail Thailand ชวนคนรักอาหารมาสนุกเต็มอิ่มตลอด 3 วัน พร้อมเผยรายชื่อร้านอาหารเด็ดและวงดนตรีสุดปังที่จะมาเสิร์ฟความอร่อยแบบเต็มๆ! ตั้งแต่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน พบกับพื้นที่ของคนรักอาหาร ที่ The Forum, Gaysorn Amarin คอนเซ็ปต์เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา เพราะเราท้าให้ร้านอาหารชั้นนำของกรุงเทพฯ สรรค์สร้างเมนูสตรีตฟู้ดสุดพิเศษในราคาจับต้องได้ เพียง 100–200 บาทต่อจาน และที่สำคัญ เข้าฟรี! จะมีร้านไหนที่จะมาเสิร์ฟความอร่อยบ้าง ไปดูกัน รายชื่อร้านอาหารที่ห้ามพลาด เตรียมท้องให้พร้อมแล้วมาพบกับสุดยอดร้านอาหารจากทุกมุมเมือง Blue Elephant – อาหารไทยสุดคลาสสิก UNOMAS – ร้านอาหารสเปนฟิวชั่นสุดอลัง Punjab Grill – รสชาติอินเดียจัดเต็ม Nara Thai Cuisine – ไทยคอมฟอร์ทฟู้ดแท้ Nila – สัมผัสความอร่อยจากทุกภูมิภาคของอินเดีย  NAA Restaurant – รสไทยโมเดิร์น Co Limited – เมนูเด็ดรสจัดจ้าน Sorsi and Morsi – อิตาเลียนสุดใจ Dolcetto Bangkok และ 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt – ของหวานพิถีพิถันและชาสุดพิเศษ Silver Waves by Boon – อาหารจีนโมเดิร์น Albricias – อาหารเมดิเตอร์เรเนียน Plant Passion และ Kynd Kulture – Plant-Based สุดสร้างสรรค์ ร้านเปิดใหม่ Jenn’s และ Raynue – และเมนูต้องลอง ดนตรีสดเติมเต็มมื้ออาหาร เทศกาลนี้จะสมบูรณ์ไม่ได้ถ้าไม่มีเพลงมันส์ๆ ทาง Neo-Baannok ได้จัดไลน์อัปวงดนตรีสดสุดเจ๋งตลอดสุดสัปดาห์ ทั้งอินดี้ร็อก โฟล์กละมุนๆ และการผสมผสานระหว่างเครื่องดนตรีไทยกับอิเล็กทรอนิกส์ ไลน์อัปที่คุณไม่ควรพลาด วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 13.00 – 14.00 น. : Zeedox – อินดี้ป๊อป ฟอล์ก และไซเคเดลิกร็อก ฟังสบายๆ ตอนบ่าย วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 18.00 - 19.00
คอหนังสารคดีห้ามพลาด! Taiwan Documentary Film Festival 2025 กลับมาอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้

คอหนังสารคดีห้ามพลาด! Taiwan Documentary Film Festival 2025 กลับมาอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหนังสารคดี ได้หลุดพ้นจากกรอบของความเป็นหนังเฉพาะกลุ่ม และก้าวขึ้นมาอยู่ในกระแสหลักที่ผู้ชมให้ความสนใจมากขึ้น จากที่เคยถูกมองว่าเรียบง่ายหรือจริงจังเกินไป ในทุกวันนี้สารคดีกลับเข้าถึงผู้คนในวงกว้างได้มากขึ้น หลายคนอาจเคยเห็นผ่านตาผ่านแพลตฟอร์มยอดฮิตอย่าง Netflix และ Documentary Club ที่เปลี่ยนการเล่าเรื่องจริงให้กลายเป็นศิลปะแห่งความบันเทิง สารคดีดีๆ สักเรื่องในตอนนี้สามารถสร้างแรงกระแทกทางอารมณ์ได้ไม่แพ้หนังฟอร์มยักษ์ และพิสูจน์ให้เห็นว่าความจริงเมื่อนำเสนอด้วยมุมมองที่ลึกซึ้งและความตั้งใจ ก็ตรึงคนดูได้ไม่ต่างจากเรื่องแต่งเลยทีเดียว   จากที่เคยฉายอยู่เพียงในโรงหนังอาร์ตเฮาส์หรือห้องบรรยายในมหาวิทยาลัย วันนี้สารคดีหลายเรื่องได้กลับมาฉายขนาบข้างอยู่บนจอเดียวกับหนังฮอลลีวูดอีกครั้ง เราอาจเห็นสารคดีเกี่ยวกับธรรมชาติฉายเคียงข้างหนังซูเปอร์ฮีโร่ หรือสารคดีทดลอง ฉายอยู่ข้างหนังโรแมนติกคอมเมดี้ และด้วยแนวทางใหม่นี้เอง ทำให้สารคดีมีบทบาทในวงการวัฒนธรรมไทย ผ่านเทศกาลภาพยนตร์ งานเสวนา และเวิร์กช็อปที่เปิดพื้นที่ให้ผู้สร้างและคนดูได้มาเจอกันอย่างใกล้ชิด Photograph: Taiwan Documentary Film Festival in Thailand Photograph: Taiwan Documentary Film Festival in Thailand หนึ่งในเทศกาลที่ไม่ควรพลาดประจำเดือนพฤศจิกายนนี้คือ Taiwan Documentary Film Festival เทศกาลภาพยนตร์สารคดีจากไต้หวันที่ แม้จะยังนับเป็นงานใหม่ในปฏิทินภาพยนตร์ แต่กลับกลายเป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญที่คนรักหนังสารคดีตั้งตารอทุกปี เทศกาลนี้ไม่ได้อาศัยความยิ่งใหญ่หรือเสียงดังเพื่อดึงดูดผู้ชม แต่เลือกจะเชื้อเชิญอย่างละเมียดละไม ผ่านเรื่องราวของผู้คนในไต้หวันที่สะท้อนทั้ง ความใกล้ชิดและระยะห่างได้อย่างงดงามในเวล
สัมผัสมนต์เสน่ห์คริสต์มาสสไตล์ยุโรป กลางกรุงเทพฯ ที่ German Christmas Market

สัมผัสมนต์เสน่ห์คริสต์มาสสไตล์ยุโรป กลางกรุงเทพฯ ที่ German Christmas Market

เผลอแป๊บเดียว ปลายปี 2568 ก็มาถึงอีกครั้ง! รู้สึกเหมือนเพิ่งสาดน้ำสงกรานต์ไปไม่นาน ตอนนี้ก็ถึงฤดูกาลแห่งความสุขที่หลายคนรอคอย นั่นก็คือเทศกาลวันคริสต์มาส! แม้กรุงเทพฯ จะไม่มีหิมะโปรยปราย แต่เมืองนี้ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวในการต้อนรับเทศกาลปลายปีได้อย่างอบอุ่นไม่แพ้ที่ไหน ทั้งต้นคริสต์มาสระยิบระยับตามมุมเมือง โรงแรมและคาเฟ่ที่เตรียมพร้อมต้อนรับเทศกาล และแน่นอน หนึ่งในงานประจำฤดูกาลที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ German Christmas Market เทศกาลคริสต์มาสสไตล์เยอรมันที่หลายคนตั้งตารอมาทุกปี จัดโดย Goethe-Institut Thailand งานนี้จะพาทุกคนดื่มด่ำกับมนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาวแบบยุโรปใจกลางกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 29 – 30 พฤศจิกายน ตั้งแต่เที่ยงวันถึงสี่ทุ่ม เต็มอิ่มไปกับสองวันแห่งความสุข อบอวลด้วยกลิ่นหอมของอาหาร เครื่องดื่ม และเสียงดนตรีสุดครึกครื้น ในงานจะได้พบกับเมนูเยอรมันแท้ๆ ที่ขนกันมาเสิร์ฟถึงที่  ทั้งไส้กรอกเยอรมันรสจัดจ้าน, เพรทเซลอบร้อน, ถั่วคั่วหอมๆ, ขนมปังขิง และ ไวน์ร้อน (Mulled Wine) กลิ่นหอมละมุน ที่จะพาให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในตลาดคริสต์มาสกลางเบอร์ลินหรือมิวนิกเลยทีเดียว นอกจากของกินสุดฟิน ยังมีร้านค้าทั้งไทยและต่างชาติที่ยกขบวนสินค้าทำมือและของตกแต่งเทศกาลสไตล์อาร์ติซานมาให้เลือกช็อปกันแบบจุใจ พร้อมดนตรีสด เวิร์กช็อปสนุกๆ และบรรยากาศอันแสนอบอุ่นของซุ้มไม้แบบยุโรป ท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับสุดโรแมนติก German Christmas Market (Weihnachtsmarkt) ถือเป็นหนึ่งในประเพณีเก่าแก่ที่เปี่ยมด้วยมนต์ขลังของความสุขและความอบอุ่นที่ส่งต่อกันมาหลายศตวรรษ และในปีนี้ กรุงเทพฯ ของเราก็พร้อมจะกลายเป็นหมู่บ้านแห่งคริสต์มาสอีกครั้ง ที่ซึ่งแสงไฟคริสต์มาสจะส่องประกายท่ามกลางสายลมอุ่นของเมืองร้อน เตรียมตัวให้พร้อม แล้ว
ค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS ในกรุงเทพฯ… อาจจะถูกลง หรือแพงขึ้นก็ได้

ค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS ในกรุงเทพฯ… อาจจะถูกลง หรือแพงขึ้นก็ได้

ก่อนหน้านี้ หลายคนอาจดีใจกับข่าวรถไฟฟ้าทุกสายถูกปรับลดให้เหลือราคาเดียวเพียง 20 บาท ที่รัฐบาลเคยพูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ล่าสุดดูเหมือนความฝันนี้อาจยังไม่เกิดขึ้นจริงในเร็วๆ นี้ แถมตอนนี้มีอัปเดตใหม่ว่า ค่าโดยสาร BTS สายสีเขียวบางเส้นกำลังจะปรับขึ้นราคา ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กรุงเทพฯ ต้องควักเงินหลายพันล้านบาทต่อปีเพื่อช่วยจ่ายส่วนต่างค่าเดินรถของสายสีเขียว โดยเฉพาะส่วนต่อขยาย เพื่อให้รถไฟฟ้ายังวิ่งได้ตามปกติ ล่าสุดทางกรุงเทพฯ ได้อนุมัติแผนชำระหนี้แล้ว ทำให้สามารถปรับโครงสร้างค่าโดยสารใหม่ได้ ตามระบบใหม่นี้ ค่าโดยสารสูงสุดจะไม่เกิน 65 บาท แต่ข่าวดีคือ สำหรับคนที่นั่งระยะสั้น ราคาบางช่วงอาจถูกลงกว่าเดิม เช่น จากอโศกไปพร้อมพงษ์ ที่เคยเสีย 17 บาท อาจเหลือแค่ประมาณ 3-4 บาทเท่านั้น ส่วนคนที่นั่งยาวๆ หลายสถานี ราคาจะขยับขึ้นเล็กน้อยตามระยะทาง โดยเริ่มต้นที่ 17 บาท และเพิ่มตามจำนวนสถานี รถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งรวมทั้งสายสุขุมวิท (สีเขียวอ่อน) และสายสีลม (สีเขียวเข้ม) ถือเป็นเส้นทางหลักของการเดินทางในกรุงเทพฯ ที่เชื่อมย่านสำคัญ แหล่งช็อปปิ้ง และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งเข้าไว้ด้วยกัน การปรับราคาครั้งนี้เลยมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะคนที่นั่งใกล้อาจจ่ายน้อยลง แต่คนที่นั่งไกลอาจต้องเตรียมควักกระเป๋าสตางค์จ่ายเงินเพิ่มอีกนิด แม้ค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย จะยังเป็นเพียงความฝันและยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่ระบบใหม่นี้ก็พยายามหาจุดสมดุลระหว่างราคาที่เข้าถึงได้ กับการเดินรถที่ยั่งยืน เพราะสุดท้ายแล้ว รถไฟฟ้าสายสีเขียวก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของกรุงเทพฯ ที่ทำให้ทุกย่านยังใกล้กันแค่ไม่กี่สถานี
Melody Of Life 16 เทศกาลดนตรีรักโลกสุดยิ่งใหญ่ประจำปี

Melody Of Life 16 เทศกาลดนตรีรักโลกสุดยิ่งใหญ่ประจำปี

เริ่มแล้ววันนี้ Melody Of Life 16 เทศกาลดนตรีรักโลกสุดยิ่งใหญ่ประจำปี กลับมาสร้างความสุขอีกครั้ง ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันนี้ – 19 ตุลาคมนี้ กับคอนเสิร์ตฟรี 3 วันเต็ม รวมศิลปินกว่า 100 ชีวิต ให้แฟนเพลงได้อินกันตั้งแต่เที่ยงวันยันค่ำ บอกเลยว่าสุดสัปดาห์นี้ไม่ต้องไปไหนไกล เพราะที่นี่รวมครบทั้งเสียงเพลง บรรยากาศดี และกิจกรรมสุดมันส์ไว้หมดแล้ว ภายในงานจัดเต็มด้วยหลายโซนสุดชิคให้เดินเล่นได้ทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น Music Market ที่รวบรวมของดีจากศิลปินและดีไซเนอร์สุดเท่ พร้อมเสียงเพลงจากบูธดีเจให้เดินเพลินทั้งวัน ใครมากับเพื่อนต้องไม่พลาดเล่นเกม Music Personal Test ที่จะช่วยค้นหาเพลย์ลิสต์ที่ เป็นคุณที่สุด และอย่าลืมแวะ Photo Booth ฟรี เก็บภาพโมเมนต์สุดพิเศษไว้เป็นที่ระลึกก่อนกลับบ้านไป   Photograph: Melody Of Life Music Festival ภายในงานพบกับเวทีใหญ่ Outdoor Stage เตรียมตัวรับความมันส์แบบจัดเต็มได้เลย เพราะงานนี้ขนศิลปินเบอร์ใหญ่เบอร์ดังมาแบบไม่ยั้ง ทั้ง New Country, The Rube X Bank Sornram, Asia7, Yourmood, Dept, D Gerrard, Mean Band, Nap A Lean, Season Five, Wanyai, Whal & Dolph เป็นต้น  ส่วนใครอยากพักใจในบรรยากาศอบอุ่นขึ้นอีกนิด ต้องไปที่ Indoor Stage ที่รวมโชว์สุดละมุนให้คุณได้ซึ้งไปกับศิลปินอย่าง One&One, MVL, 2ectasy, I.Jeffy Kakagoesbackhome, Oabnithi, Wan Thanakrit, Lula, Mobye, La-Ong-Fong, Guncharl E Feat. Fronc เป็นต้น    Photograph: Melody Of Life Music Festival วัยรุ่นอินดี้ไม่ต้องน้อยใจ เพราะที่นี่มี Indy Stage ให้ได้ปล่อยใจไปกับดนตรีหลากหลายแนว จากศิลปินหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Lower Mansion, Adora, De Flamingo, The Jukks, Nineokmai, Cornbol, The Birthday Party
เดินช็อป ดูหนังย้อนยุค ในงาน Holiday Pop Fest  ใจกลางสวนหลวงสแควร์

เดินช็อป ดูหนังย้อนยุค ในงาน Holiday Pop Fest ใจกลางสวนหลวงสแควร์

สุดสัปดาห์นี้ใครยังไม่มีแพลน แนะนำให้ปักหมุดมาที่ Holiday Pop Fest ถนนคนเดินใจกลางสวนหลวงสแควร์ ที่พาทุกคนย้อนเวลากลับไปยุค 70s–90s แบบเต็มอารมณ์ ทั้งแฟชั่นวินเทจสุดชิค เสียงเพลงกลิ่นอายเรโทร และของกินของช็อปแน่นทั้งถนน รวมร้านเด็ดร้านดังจากโซเชียลมาไว้ที่เดียว ไม่ว่าจะสายกิน สายแฟ สายคราฟต์ หรือสายแชะรูป ก็มีให้ครบทุกโซน เดินช็อปจนฟินก็อย่าพลาดโซนหนังกลางแปลงสุดอบอุ่นที่ยกบรรยากาศโรงหนังมาไว้กลางเมือง พร้อมเสิร์ฟป๊อปคอร์นฟรีให้อร่อยกันเพลินๆ ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ เตรียมตัวไปผจญภัยในป่าดงดิบกับภาพยนตร์เรื่อง ‘Jumanji’ รอบฉายเวลา 17.30 น. ก่อนจะต่อด้วยหนังในตำนานสุดคลาสสิก ‘Back to the Future’ รอบฉายเวลา 20.00 น. ดูหนังไปด้วย ลมเย็นๆ พัดมาเบาๆ บอกเลยว่าโรแมนติกสุดๆ ยังไม่หมด ใครที่ชอบขยับแข้งขา ชวนมาปล่อยพลังกันต่อในโซน Dance Floor ที่เปิดฟลอร์โยกแบบกรูฟๆ กับ Swing Dance by KU Swing Jazz Club ไปกับบรรยากาศแสงไฟยามค่ำที่อบอวลด้วยความสุข เริ่มเวลา 18.00 – 20.00 น. รับรองว่างานนี้ทั้งอบอุ่น ทั้งน่ารักในเวลาเดียวกัน และสำหรับสายแดนซ์ที่อยากเพิ่มจังหวะอีกนิด ไปต่อที่โซน DJ Set ที่จะพาทุกคนหลุดเข้าโลกดนตรีสุดชิลไปกับเพลย์ลิสต์ดีๆ จาก DJ DUANGZ จัดเต็มทั้งแนว 70s–90s, City Pop, Jazz และ Disco ฟังเพลิน เดินเพลิน เต้นเพลินแน่นอน สุดสัปดาห์นี้ไม่ต้องไปไหนไกล แค่ชวนเพื่อน ชวนแฟน หรือชวนแก๊งมา Holiday Pop Fest ก็เหมือนได้พักใจไปเที่ยวคนละโลก ที่ จุฬา ซอย5 (สวนหลวงสแควร์) ไม่มีค่าเข้างาน วันนี้ - 19 ตุลาคม เวลา 15.00 - 23.30 น.
Bangkok Bar Show Awards 2025 เผยรายชื่อบาร์ยอดเยี่ยมในไทยประจำปี

Bangkok Bar Show Awards 2025 เผยรายชื่อบาร์ยอดเยี่ยมในไทยประจำปี

ซีนบาร์ของประเทศไทยยังคงร้อนแรงไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นสปีคอีซี่สุดลับหรือบาร์ในโรงแรมที่เสิร์ฟค็อกเทลระดับโลก แต่สุดท้ายก็มีเพียงหนึ่งเดียวที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในประเทศในทุกปี Bangkok Bar Show Awards & Thailand’s 20 Best Bars จะจัดอันดับและมอบรางวัลให้กับบาร์ที่ทำเครื่องดื่มได้ยอดเยี่ยมที่สุดในไทย งานนี้จัดขึ้นโดยสองคนสำคัญในวงการบาร์ ณิกษ์ อนุมานราชธน เจ้าของ Asia Today, Independence Bar, Teens of Thailandและ G.O.D. ร่วมกับ Colin Chia จากสิงคโปร์ ผู้ก่อตั้ง Nutmeg & Clove, Last Word และบาร์ชื่อดังในกรุงเทพฯ อย่าง #FindTheLockerRoom และ #FindThePhotoBoothทั้งคู่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง Bangkok Bar Show งานที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรมค็อกเทลของไทยอย่างเต็มรูปแบบ ผลรางวัลปีนี้ประกาศไปเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา และเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ Dry Wave Cocktail Studio กวาดรางวัลใหญ่ไปครองแบบไม่ยั้ง บาร์แห่งนี้คว้า Best Bar in Bangkok, Best Bar in Thailand และ Bar Team of the Year ส่วนหัวหน้าบาร์เทนเดอร์อย่าง ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ ก็ได้รางวัล Bartender of the Year ไปด้วยเช่นกัน ส่วนบาร์อันดับอื่นๆ ที่ติดท็อป 4 ได้แก่ ลำดับที่ 2 Bar Us ลำดับที่ 3 G.O.D. และ ลำดับที่ 4 Opium ส่วนบาร์เปิดใหม่อย่าง Wasteland ก็โชว์ฟอร์มดีคว้า Best New Bar ไปครอง และ Fnkytown ก็ยังรักษาตำแหน่ง Best Restaurant Bar ได้อีกปี และในปีนี้บาร์ต่างจังหวัดก็มาแรงเช่นกัน Bar.San ได้รางวัล Best Bar in Chiang Mai และ The Fool Speakeasy Phuket คว้า Best Bar in Phuket/Samui ไปได้สำเร็จ ส่วนปีนี้ยังมีหมวดใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่าง Best Wine Bar โดยผู้ชนะคนแรกคือ Mod Kaew Wine Bar  รายชื่อผู้ชนะทั้งหมดจาก Thailand 2