[title]
ขึ้นชื่อว่าโชยุ – ซอสปรุงรสเพิ่มความอร่อยให้มื้ออาหารที่ไม่ว่าใครๆ น่าจะมีไว้ติดบ้าน
แต่มีโชยุที่ดูแตกต่างออกไปอย่างยี่ห้อ Shokunin Shoyu คือโชยุนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยช่างฝีมือตัวจริงทั่วญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมาถึง 28 รุ่น และพิถีพิถันในกรรมวิธีการหมักมาเป็นร้อยๆ ปี ซึ่งโชคุนินโชยุมีทั้งหมด 6 ชนิด รวมโชยุชนิดพิเศษอีกกว่า 3 ชนิด แต่ละชนิดจะมีโชยุอีกกว่า 100 แบบเพื่อเหมาะกับการกินในมื้ออาหาร กระทั่งบางแบบยังนำไปจิ้มกับของหวานอย่างขนมปังปิ้งหรือไอศกรีมก็ยังได้

โชคุนินโชยุ มาจากความตั้งใจของ ทาคาฮาชิ มันทาโระ ชายหนุ่มผู้หลงใหลในโชยุที่ก่อตั้ง บริษัท Dento Design Kobo โดยก่อนหน้าเขาทั้งเยี่ยมชมโรงงานและชิมโชยุด้วยตัวเองกว่า 400 โรงงาน จนนำมาสู่รูปแบบการบรรจุขวดและช่วยประชาสัมพันธ์โชยุแก่ผู้ผลิตรายเล็กในท้องถิ่นนั้นๆ ด้วย

แรกเริ่มเขามีไอเดียอยากให้โชยุเป็นซอสปรุงรสที่กินได้กับอาหารทุกประเภท (ถ้าเป็นไปได้) ซึ่งความจริงแล้ว โชยุญี่ปุ่นมีด้วยกัน 5 ชนิด แต่คนส่วนใหญ่มักใช้โชยุเพียงชนิดเดียว ทำให้ผู้ผลิตลดฮวบฮาบ จาก 6,000 ราย เหลือ 1,200 ราย ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา

เขาเลยจับคู่โชยุกับมื้ออาหารให้กลายเป็นเรื่องปกติซะเลย เพื่อแนะนำรสชาติของโชยุไปในตัว แล้วพัฒนาแบรนด์ ‘โชยุรสโปรด’ ของ Dento Design Kobo ที่เพิ่มความน่ารักด้วยการวาดภาพประกอบอาหารมื้อโปรดของชาวญี่ปุ่นบนขวดโชยุไปด้วย ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเลือกโชยุที่ตรงกับมื้ออาหารนั้นได้

ปรากฏว่าโชคุนินโชยุขายออกได้ถึง 17,000 ขวด ภายใน 10 เดือน ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมของร้านค้าที่จำหน่ายโชยุเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 240% และยังช่วยให้ยอดขายของโชกุนินโชยุเพิ่มขึ้น 308% ส่งผลให้ผู้ขายรายย่อยฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 มากไปกว่านั้นแบรนด์ยังเคยได้รับรางวัลในงานด้านครีเอทีฟระดับโลกอย่าง Cannes Lions เมื่อปี 2022 อีกด้วย

ส่วนประเภทของโชยุจะแบ่งออกเป็น 6 ชนิด ได้แก่ Shiro Usukuchi Amakuchi Koikuchi Saishikomi และ Tamari ที่มีระยะการหมักตั้งแต่ 6 เดือนถึง 3 ปีเลยทีเดียว โดย Shiro และ Usukuchi จัดอยู่ในกลุ่มสีขาว เป็นโชยุสีอ่อน เหมาะกับอาหารรสอ่อน เช่น ซุป เต้าหู้ หรือปลา ฯลฯ ถัดมาเป็น Amakuchi และ Koikuchi จัดอยู่ในกลุ่มสีส้ม เป็นโชยุอเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้งซูชิ ข้าว ไข่ดาว ของทอด ฯลฯ สุดท้ายคือ Saishikomi และ Tamari จัดอยู่ในกลุ่มสีแดง เป็นโชยุเข้มข้น มีความอูมามิ เหมาะกับอาหารประเภทเนื้อและปลาเนื้อแดงที่มีไขมันเยอะ

ไม่เพียงแค่นั้นยังมีโชยุรสชาติพิเศษของแต่ละโรงหมัก เช่นโชยุหมักด้วยถังไม้ที่เหลือไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ของตลาดโชยุในโลก หรือโชยุที่ทำมาเพื่อกินคู่กับเมนูอาหารโดยเฉพาะ เหมาะกับคนที่อยากลองโชยุคู่กับเมนูใหม่ๆ เช่น โชยุสำหรับขนมปังปิ้ง โชยุสำหรับอะโวคาโด้ โชยุสำหรับเต้าหู้เย็น โชยุสำหรับชีส หรือแม้แต่โชยุสำหรับข้าวโพดปิ้งยังมี! เห็นแค่นี้ไม่น่าเชื่อว่า ท้องร้องโครกครากได้เลย
ลองไปทักทาย Shokunin Shoyu Thailand ได้ที่งาน Nippon Haku Bangkok 2025 วันที่ 29-31 สิงหาคม ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา 10.00 - 20.00 น.