ปี 2019 มีหนังอะไรดูบ้าง? มัดรวมภาพยนตร์กว่า 30 เรื่องที่คุณไม่ควรพลาดในปีหน้า

Sopida Rodsom
เขียนโดย
Sopida Rodsom
การโฆษณา

หลายปีมานี้นับเป็นปีทองของคอภาพยนตร์ เพราะค่ายหนังต่างพากันส่งหนังดีๆ มาให้ดูกันเพียบ และแน่นอนว่าปี ค.ศ. 2019 ก็มีภาพยนตร์จ่อคิวเข้าโรงกันเพียบ ไม่ว่าจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ หนังภาคต่อ หนังสยองขวัญ หนังดัดแปลงจากเกมหรือการ์ตูน รวมไปถึงหนังต่างๆ อีกมากมายหลายเรื่อง งานนี้เราจึงได้รวบรวมภาพยนตร์เด็ดๆ ที่คุณไม่ควรพลาดไปดูในโรงเป็นอันขาด

Superhero Movies

เรียกว่าเยอะจนต้องขอมัดรวมเป็นหัวข้อเดียวสำหรับหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ทุกค่ายพร้อมใจกันเข็นออกมาให้ดูกัน โดยประเดิมเรื่องแรกของปีกับ Spider-Man: Into the Spider-Verse (10 มกราคม) ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ภาพสวยราวกับหลุดมาจากการ์ตูนคอมิกส์จากค่ายโซนี่ที่พาเราไปพบกับสไปเดอร์แมนจากจักรวาลคู่ขนานต่างๆ นำทีมโดย Miles Morales เด็กชายวัยรุ่นที่มีพลังแบบสไปเดอร์แมน สมทบด้วย Peter Parker, Gwen Stacey รวมไปถึงตัวละครใหม่ๆ ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน

ทางฝั่งค่ายมาร์เวลก็ไม่น้อยหน้าส่งมาเอาใจแฟนๆ กัน 2 เรื่องคือซูเปอร์ฮีโร่สาวสุดแกร่ง Captain Marvel (6 มีนาคม) และ Avengers: Endgame (24 เมษายน) บทสรุปของมหาสงครามใน Avengers: Infinity War ซึ่งหลังจากเฉลยแล้วว่าใครตายใครรอดบ้าง เราก็น่าจะได้เห็นรายชื่อหนังเรื่องอื่นๆ ตามมาในภายหลัง ส่วนภาพยนตร์ Spider-Man: Far From Home (3 กรกฎาคม) อันเป็นความร่วมมือระหว่างค่ายดิสนีย์กับค่ายโซนี่นั้นยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอะไรมากนัก นอกจากจะได้นักแสดงเจ้าบทบาท Jake Gyllenhaal มารับบทวายร้าย Mysterio เท่านั้น

ด้านคู่แข่งอย่างค่ายดีซีนั้นพร้อมส่งภาพยนตร์ลำดับที่ 7 ของแฟรนไชส์อย่าง Shazam! (4 เมษายน) ที่เด็กวัยรุ่น Billy Batson ได้รับพลังพิเศษและโตเป็นซูเปอร์ฮีโร่สุดฮาได้ ในขณะที่ฝั่งมนุษย์กลายพันธุ์ก็ไม่น้อยหน้าพร้อมปล่อยภาพยนตร์ 2 เรื่อง Dark Phoenix (6 มิถุนายน) บอกเล่าเรื่องราวของ Jean Grey หลังจากเหตุการณ์ใน X-Men: Apocalypse ที่ได้นักแสดงชุดเดิมมาอย่างครบถ้วน ตามมาด้วย The New Mutant (1 สิงหาคม) ที่พาเราไปรู้จักกับมนุษย์กลายพันธ์กลุ่มใหม่ 5 คนอย่าง Magik, Wolfsbane, Cannonball, Sunspot และ Mirage

Sequel Movies

บอกจริงๆ ไม่รู้ว่าจะจัดเรื่อง Glass (16 มกราคม) เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ (ที่ท่าทางจะเป็นหนังรวมวายร้ายมากกว่า) ดีหรือไม่ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังระทึกขวัญภาคต่อของ Unbreakable (2000) และ Split (2016) ที่ผู้กำกับหนังสยองขวัญ M. Night Shyamalan จับเอาตัวละคร David Dunn ชายผู้มีพลังเหนือมนุษย์ที่ออกตามหา Kevin Wendell Crumb ชายผู้มี23 บุคลิก และได้พบกับ Elijah Price วายร้ายผู้ปาดเปรื่องที่รู้ความลับของชายทั้งสองคน

ปีนี้ยังมีหนังภาคต่อที่แฟนรอคอยกันอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ภาคจบ How to Train Your Dragon: The Hidden World (31 มกราคม), ภาพยนตร์สุดฮา The Lego Movie 2: The Second Part (7 กุมภาพันธ์), หนังบู๊สุดมัน John Wick 3: Parabellum (16 พฤษภาคม), หนังลำดับที่ 3 ของแฟรนไชส์มอนสเตอร์ Godzilla: King of the Monsters (30 พฤษภาคม), หนังอนิเมชั่นขวัญใจเด็กๆ และผู้ใหญ่ทั่วโลกอย่าง Toy Story 4 (20 มิถุนายน) รวมไปถึงการกลับมาของตัวตลกสุดหลอน Pennywise ในภาพยนตร์ It: Chapter 2 (5 กันยายน)

Disney Classics

หลังจากการนำการ์ตูนคลาสสิก Beauty and the Beast มารีเมคให้กลายเป็นภาพยนตร์คนแสดงประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ค่ายดิสนีย์จึงนำการ์ตูนเก่านำไปปัดฝุ่นใหม่ โดยในปีนี้จะมีภาพยนตร์เข้าพร้อมกันถึง 3 เรื่องเริ่มต้นกันที่ Dumbo (28 มีนาคม) เรื่องของช้างมหัศจรรย์ที่บินได้ ส่วนในช่วงกลางปีเตรียมพบกับเรื่องราวการผจญภัยใน Aladdin (23 พฤษภาคม) ก่อนปิดท้ายด้วยการ์ตูนสุดคลาสสิกอย่าง The Lion King (18 กรกฎาคม) ที่ได้ดาราชื่อดังมากมายมาร่วมพากย์เสียงไม่ว่าจะเป็น Donald Glover, Seth Rogen, Chiwetel Ejiofor และ Beyoncé เป็นต้น

Reboot & Adaptation

ปีนี้ยังมีภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสือ เกมส์ และการ์ตูนอีกหลายเรื่อง เริ่มต้นกันที่ Alita: Battle Angel (14 กุมภาพันธ์) ภาพยนตร์แนวไซเบอร์พังก์ที่ดัดแปลงจากการ์ตูนมังงะ Battle Angel Alita ของ Yukito Kishiro เรื่องราวของหุ่นไซบอร์กที่สูญเสียความทรงจำ ผลงานการอำนวยสร้างโดย James Cameron ที่แค่ชื่อก็รับประกัน CG สวยๆ และเนื้อเรื่องมันส์ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมี Pokémon Detective Pikachu (9 พฤษภาคม) ภาพยนตร์โปเกม่อนผลงานการสร้างโดยฮอลลีวู้ดครั้งแรกที่ได้นักแสดงสุดกวน Ryan Reynolds มารับพากย์เสียง ก่อนปิดท้ายปีด้วย Artemis Fowl (8 สิงหาคม) ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่องดังของ Eoin Colfer บอกเล่าเรื่องราวของ Artemis Fowl II เด็กชายวัย 12 ผู้ฉลาดปราดเปรื่องที่ออกตามหาเหล่าแฟรี่ในดินแดนสุดมหัศจรรย์ เพื่อตามหาปริศนาเกี่ยวกับพ่อของเขา

นอกเหนือจากการดัดแปลงภาพยนตร์แล้ว ปีนี้หลายแฟรนไชส์หนังก็ได้มีการรีบู้ตใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Hellboy (11 เมษายน) ฮีโร่พันธุ์นรกที่เปลี่ยนผู้กำกับ Guillermo del Toro เป็น Neil Marshall หนึ่งในผู้กำกับจากซีรีส์ดัง Game of Thrones, Hannibal และ Westworld และได้ David Harbour นายอำเภอจากซีรีส์ Stranger Things มารับบท Hellboy แทน Ron Perlman ที่ถอนตัวออกไป ส่วนภาพยนตร์อีกเรื่อง Men in Black International (13 มิถุนายน) ถือจะไปตามติดเจ้าหน้าที่ทีมลอนดอน Agent H และ M นำแสดงโดยเทพเจ้าสายฟ้า Chris Hemsworth และ Tessa Thompson ที่กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งหลังจาก Thor: Ragnarok

Biography Films

เริ่มปีใหม่ด้วยหนังชีวประวัติที่เข้าพร้อมกัน 2 เรื่องในวันที่ 17 มกราคมอย่าง Hurry Go Round สารคดีเกี่ยวกับชีวิตของ Hide หรือ Hideto Matsumoto มือกีต้าร์ของวงเฮฟวี่เมทัลชื่อดังของญี่ปุ่น X Japan ที่เสียชีวิตเมื่อ 20 ปีก่อนผ่านนักแสดง Yumoto Yuma ที่ออกเดินทางสัมภาษณ์บุคคลใกล้ชิดกับตัวนักดนตรีด้วยตัวเอง ส่วนภาพยนตร์ Beautiful Boy ดัดแปลงจากหนังสือขายดีของ David Sheff บอกเล่าเรื่องราวของเขากับลูกชาย Nicholas ที่ติดสารเสพย์ติด โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ Steve Carell และขวัญใจแม่ยก Timothée Chalamet ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกครั้งในบทนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และกำลังลุ้นว่าจะมีชื่อเข้าชิงออสการ์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันหรือไม่หลังจากปีที่แล้วเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง Call Me by Your Name และเป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดในรอบ 80 ปีที่ได้เข้าชิงรางวัลสาขานี้อีกด้วย

นอกจากนี้ปีนี้ยังมีภาพยนตร์แนวพีเรียดถึง 2 เรื่องเริ่มจาก The Favourite (21 กุมภาพันธ์) บอกเล่าความสัมพันธ์ของ Queen Anne ราชินีแห่งอังกฤษ สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์ ระหว่างปี ค.ศ. 1702-1714 กับ Sarah Churchill พระสหายคนสนิทที่กลายเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอังกฤษ แต่มิตรภาพของทั้งคู่กลับสั่นคลอนเมื่อ Abigail Masham ลูกพี่ลูกน้องของ Sarah ที่เข้ามามีบทบาทในวัง จนทำให้ผู้หญิงทั้งสองต้องสู้กันเพื่อเป็นคนโปรดของพระราชินีให้ได้ ส่วนอีกเรื่องคือ Mary Queen of Scots (28 มีนาคม) คือภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่หลายคนรอคอยกับการเฉือนเชือนฝีมือของนักแสดงดีกรีเข้าชิงออสการ์ระหว่าง Saoirse Ronan นักแสดงสาวชาวไอริชในบท Queen Mary ราชินีแห่งสก็อตแลนด์ และ Margot Robbie นักแสดงสาวชาวออสเตรเลียในบท Queen Elizabeth ราชินีแห่งอังกฤษ และไอร์แลนด์ จากความเป็นเครือญาติ ไปสู่ความเกลียดชัง และสงครามเพื่อชิงความเป็นใหญ่และบังลังก์ของ 2 ราชินีที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์อังกฤษ 

นอกเหนือจากภาพยนตร์ข้างต้นแล้ว ปลายปีนี้ยังมีภาพยนตร์อีกหลายเรื่องที่แฟนๆ รอคอยแต่ยังไม่มีกำหนดเข้าฉายในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ตอนพิเศษต่อจากซีรีส์ดัง Downton Abbey ที่ได้นักแสดงชุดเดิมกลับมาทั้งหมด รวมไปถึงภาพยนตร์วายร้ายภาคแยกที่ไม่เกี่ยวกับจักรวาลดีซีอย่าง Joker ที่ได้ Joaquin Phoenix มารับนักแสดงตลกตกอับที่กลายเป็นฆาตกรโรคจิต นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์รีบู้ต Charlie's Angels ที่จะได้ Kristen Stewart มารับบทเป็นหนึ่งในนางฟ้าชาร์ลี และปิดท้ายด้วย Death on the Nile ภาพยนตร์นักสืบภาคต่อจาก Murder on the Orient Express และปิดฉากมหาสงครามจักรวาลกับ Star Wars: Episode IX ที่ตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อตอนหรือรายละเอียดแต่อย่างใด

 

อ่านเพิ่มเติม | ไม่อยากรอแล้วจ้ะพี่จ๋า ค่าย Disney เตรียมเข็นหนัง 10 เรื่องหลายอารมณ์ชนโรงตลอดปีหน้า

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา