[title]
หลังจากอีสปอร์ตได้รับการรับรองได้รับการบรรจุให้เป็นกีฬาอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว ก็ดูเหมือนว่ากระแสอีสปอร์ต รวมไปถึงวงการเกมในประเทศไทยจะดีขึ้นมากเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นรายการเรียลลิตี้แข่งขันอีสปอร์ตอย่าง King of Gamers ที่เข้าฉายทางโทรทัศน์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เรื่อยไปจนถึงซีรีส์ GGEZ เกรียนเมพเทพศาสตร์ ซีรีส์เกี่ยวกับอีสปอร์ตเรื่องแรกในประเทศไทย รวมไปถึงการประกาศจัดงาน PlayStation Experience 2018 มหกรรมเกมสุดยิ่งใหญ่ที่เราจะเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ และล่าสุด กรุงเทพฯ ก็ได้รับเลือกให้เป็น เจ้าภาพรอบแบ่งกลุ่ม Overwatch World Cup ระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน เป็นครั้งแรก พร้อมเพิ่มการพากย์ภาษาไทย เพื่อถ่ายทอดสดพร้อมกันทั่วโลกอีกต่างหาก
Overwatch คือเกมประเภท team-based multiplayer first-person shooter หรือเกมยิงปืนแบบมุมมองบุคคลที่ 1 โดยเล่นในลักษณะเป็นทีม 6 คน โดยเลือกเล่นเป็นฮีโร่ที่มีให้เลือกมาถึง 27 ตัวละครที่ต่างมีเนื้อเรื่อง พลัง และท่าไม้ตายอัลติเมท ที่แตกต่างกัน และต่อสู้กันบนแผนที่กว่า 25 แมพ ซึ่งผู้เล่นสามารถเปลี่ยนตัวฮีโร่กลางแมตช์เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์การแข่งขันได้ตลอดเวลา และตั้งแต่เปิดตัวเกมในปี ค.ศ. 2016 เป็นต้นมา Overwatch กลายเป็นเกมที่มาผู้เล่นมากกว่า 40 ล้านคน รวมทั้งกวาดรางวัล Game of the Year ได้จากกว่า 100 เวที
การเลือกกรุงเทพฯ เป็นเจ้าภาพรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรก ร่วมกับ ลอสแองเจลิส (สหรัฐอเมริกา), อินชอน (เกาหลีใต้) และปารีส (ฝรั่งเศส) ยังเป็นการเน้นยำการเติบโตของตลาดอีสปอร์ตในเมืองไทย รวมไปถึงกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในโลก ตามคำบอกกล่าวของ Paul Chen กรรมการผู้จัดการของ Blizzard Entertainment (ประจำภูมิภาคไต้หวัน ฮ่องกง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ผู้ผลิตเกมเกม Overwatch "เราเลือกเมืองไทย เพราะที่นี่มีแฟนเกมจำนวนมาก และมีอัตราการเติบโตของทั้งผู้เล่นและคนดูอย่างรววดเร็ว เราจึงอยากจัดงานอีเว้นต์ขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับคอมมูนิตี้เกมให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย"
Blizzard Entertainment เองก็เป็นบริษัทผู้ผลิตความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นเกม ภาพยนตร์ อนิเมชั่น อีสปอร์ต และสินค้าเกมต่างๆ โดยนอกจาก Overwatch แล้วยังมีเกมดังอื่นๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น Hearthstone, World of Warcraft, Heroes of the Storm, StarCraft และ Diablo รวมไปถึงช่วยดูแลการผลิตภาพยนตร์ Warcraft (2016) และการก่อตั้ง Blizzard Arena Taipei สนามแข่งที่มีการแข่งขันอีสปอร์ตมากกว่า 140 วัน มีผู้ชมมากกว่า 15,000 คนในสนาม มีชั่วโมงถ่ายทอดสดมากกว่า 1,800 ชั่วโมง และมีผู้ติดตามรายการกว่า 36 ล้านคน รวมไปถึงการก่อตั้งสนามใหม่ Blizzard Arena Los Angeles เมื่อปลายปีที่ผ่านมาอีกด้วย
สำหรับการคัดตัวนักกีฬาทีมชาติของ Overwatch นั้นเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงต้นปี คิดจากคะแนนโดยเฉลี่ยของผู้เล่น 150 อันดับแรกของแต่ละประเทศ โดยประเทศที่มีคะแนนสูงสุด 20 อันดับจะได้มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน (ส่วนเจ้าภาพเข้ารอบโดยอัตโนมัติ) จากนั้นผู้เล่น 150 อันแรกของแต่ละประเทศจะมีโอกาสโหวตเลือกคณะกรรมการจากบุคคลในวงการเกม ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่น โค้ช สตรีมเมอร์ หรือยูทูปเบอร์ 3 คนที่จะทำหน้าที่เลือกตัวแทนทีมชาติอีกที ซึ่งปีนี้ทีมชาติไทยได้สมาชิกหลายคนจากทีมปีก่อนๆ นำทัพโดย Mickie หรือมิกกี้-ปองภพ รัตนแสงโชติ นักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพจากทีม Dallas Fuel ในลีกดิวิชั่นแปซิฟิกของสหรัฐอเมริกา ทำหน้าที่กัปตันในปีนี้ โดยรอบแบ่งกลุ่มทีมชาติไทยจะต้องเจอกับจีน ออสเตรเลีย สวีเดน สเปน และเดนมาร์ก เพื่อคัดเหลือกลุ่มละ 2 ทีมไปแข่งหาแชมป์กันที่งาน BlizzCon 2018 ในเดือนพฤศจิกายนต่อไป
การแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. นั้นเริ่มขายบัตร early bird แล้วในราคา 320 บาท/วัน หรือ 770 บาท/ 3 วัน โดยสามารถซื้อได้ก่อนวันที่ 31 สิงหาคม ส่วนในเดือนกันยายนจะขายบัตรในราคา 420 บาท/วัน หรือ 1,120 บาท/ 3 วัน เพื่อเข้าชมการแข่งขัน แต่ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมด้านนอกเวทีการแข่งขันได้ฟรี โดยมีทั้งการลดลองเล่นเกม Overwatch เรียนรู้เกมจากผู้เล่นระดับมาสเตอร์ ถ่ายรูปกับคอสเพลย์ และซื้อสินค้าจากเกม Overwatch และเกมอื่นๆ ในเครือของ Blizzard Entertainment อย่างจุใจ โดยปีนี้ยังมีการเพิ่มภาษาไทยในการพากย์ถ่ายทอดสดทั่วโลกเป็นครั้งแรก ซึ่งแต่เดิมนั้นมีเพียงอังกฤษ รัสเซีย เกาหลี จีน และฝรั่งเศสเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม | เส้นทางสู่เอเชียนเกมส์ 2022: ถึงเวลาแล้วหรือยังที่อีสปอร์ตไทยจะไปสู่ระดับโลก?