รวมคาเฟ่น่าเช็กลิสต์ในมาเก๊า ชิมกาแฟรสเข้มและขนมอบหอมฟูช่วงบ่ายได้ตลอดทั้งทริป

หากเรียกที่นี่ว่าเป็นแค่คาเฟ่ก็คงผิด เพราะ Bamboo เป็นทั้งคาเฟ่ในตอนกลางวัน ร้านอาหารหรูในตอนเย็น แถมยังเปิดคาราโอเกะในตอนกลางคืน เรียกได้ว่ามาที่เดียวก็สามารถอยู่ได้ยาวๆ ตั้งแต่พระอาทิตย์อยู่กลางหัวจนถึงดึก ซึ่งแน่นอนว่าความพิเศษไม่ใช่เพียงความหลากหลาย แต่ที่นี่ยังเน้นความอร่อยในทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็น กาแฟดัลโกน่าฟองนุ่ม ลาเต้พิสตาชิโอ โทสต์เสาวรส ทาร์ตไข่คาราเมล พิซซ่ามาร์การิตาสไตล์นาโปลีคลาสสิก และโดยเฉพาะคาโบนาร่าที่ใช้กวันชาเลแบบดั้งเดิม โดยทุกคนจะได้ลิ้มรสอร่อยของเมนูเหล่านี้ ท่ามกลางการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น นั่งบนเฟอร์นิเจอร์สั่งทำพิเศษ และหากอยู่ยาวถึงช่วงค่ำ เราจะได้เห็นการเปลี่ยนของแสงไฟภายในร้านในแต่ละช่วงเวลา ที่ Bamboo Bistro & Bar เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.30 - 02.00 น.

สำหรับคนชอบอ่านหนังสือที่อยากนั่งอ่านหนังสือเล่มโปรดแบบชิลๆ พร้อมสูดกลิ่นกาแฟหอมๆ ต้องห้ามพลาดคาเฟ่นี้ เพราะที่นี่เป็นคาเฟ่ 3 ชั้น ซึ่งประกอบไปด้วย ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานของศิลปินและดีไซน์เนอร์ เดินลงมาจะเจอกับร้านกาแฟและร้านหนังสือที่เน้นแนวศิลปะ วัฒนธรรม รวมถึงธุรกิจ และชั้นใต้ดินที่เป็นพื้นที่สำหรับของเก่าและบาร์ที่เปิดให้บริการเฉพาะอีเวนต์ส่วนตัวเท่านั้น โดยในแต่ละวันจะมีอีเวนต์แตกต่างกันไป นอกจากกาแฟและผลงานที่จัดวางให้เราได้เสพกันแบบเต็มอิ่ม ทางร้านยังเสิร์ฟอาหารจานพิเศษอีกมากมาย โดยมีพาสต้าและไก่ย่างฝรั่งเศสเป็นตัวชูโรง ที่ Bookand เปิดให้บริการทุกวัน เวลา เที่ยงวัน - เที่ยงคืน

คาเฟ่สไตล์ตะวันตกในย่านเซ็นทรัลพาร์กของเกาะไทปา สิ่งแรกที่เราจะได้เห็นเมื่อไปเยือนที่นี่คือประตูและหน้าต่างบานใหญ่ มาพร้อมการตกแต่งสไตล์ลอฟต์ผสมไม้ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่น และสามารถนั่งจิบกาแฟได้แบบไม่รีบร้อน หากใครมีโอกาสได้ไปร้านนี้ เราแนะนำให้สั่งทีรามิสุลาเต้ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังกับรสเข้มของกาแฟและความนัวของนมที่เข้ากันเป็นอย่างดี แถมยังมีเมล็ดกาแฟจากภูมิภาคต่างๆ มาให้คอกาแฟได้เลือกกันตามใจชอบ ส่วนใครที่ไม่ใช่สายกาแฟก็ยังมีสมูธตี ชา และน้ำผลไม้สดให้เลือกดื่ม โดยในช่วงเย็นจะเปลี่ยนจากคาเฟ่แสนอบอุ่นเป็นร้านดินเนอร์สุดหรู เสิร์ฟอาหารตะวันตกที่มีทั้งสลัด เบอร์เกอร์ พิซซ่า และไวน์ชั้นเลิศ ที่ Common Table เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 - 21.00 น.

เชื่อว่าใครที่กำลังแพลนเที่ยวมาเก๊า จะต้องมีร้านนี้อยู่ในลิสต์กันแน่นอน เพราะเป็นร้านทาร์ตไข่ต้นตำรับเจ้าดังบนเกาะโคโลอานที่เปิดมากว่า 30 ปี แป้งทาร์ตมีความกรอบ หอมกลิ่นเนยเบาๆ เนื้อสัมผัสของไข่ด้านในคล้ายคัสตาร์ดนุ่มเด้ง รสชาติหวานกำลังดี ซึ่งนอกจากทาร์ตไข่ที่ทุกคนห้ามพลาด ยังมีขนมอบสไตล์ตะวันตกหลากหลายเมนู อาหารเช้าที่เสิร์ฟตลอดทั้งวัน ซุป สลัด แซนด์วิช มันฝรั่งอบ รวมถึงชายามบ่ายอีกหลายรสชาติ และเชื่อว่าหลายคนอาจคาดไม่ถึงว่าที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะแกงเขียวหวาน ทอดมันปลา และทอดมันกุ้ง แถมยังเป็นร้าน pet-friendly ที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้อีกด้วย ที่ Lord Stow’s Garden Cafe เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคาเฟ่ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย คือ คาเฟ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวสด โดยเฉพาะ Lucky Tree Coffee ที่ไม่ได้เป็นเพียงร้านกาแฟ แต่ยังเป็นร้านดอกไม้และของขวัญงานแต่ง โดยร้านนี้มีทั้งพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง มาพร้อมขนาดกว้างขวางให้ทุกคนได้เข้ามาพักผ่อนกันได้เต็มที่ ไฮไลต์ของที่นี่คือเราสามารถชงกาแฟด้วยตัวเองได้ สำหรับใครที่อยากลอง แต่ไม่เคยชงเองมาก่อน ก็ให้พนักงานในร้านให้คำแนะนำได้ และเราขอนิยามว่าคาเฟ่นี้เป็นมิตรสำหรับนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะมีบริการรับฝากกระเป๋าเดินทางฟรี 2 ชั่วโมงเมื่อสั่งกาแฟ แถมยังเป็นร้าน pet-friendly และมีเจ้าสี่ขาประจำคาเฟ่ให้ได้เข้าไปเติมแมวระหว่างทริป ที่ Lucky Tree Coffee เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

สำหรับปี 2025 สิ่งที่มาแรงกว่ากาแฟก็หนีไม่พ้นมัตฉะ เราจึงอยากแนะนำคาเฟ่ที่มีเมนูมัตฉะเป็นซิกเนเจอร์มาให้ทุกคนได้ไปตามเก็บกัน นั่นก็คือเมนู Coconut Matcha Cloud เป็นการผสมผสานระหว่างความหอมเข้มเป็นเอกลักษณ์ของมัตฉะ และความหอมหวานของน้ำมะพร้าว รับรองว่าสั่งแก้วนี้แล้วจะได้ความสดชื่นแบบเต็มแม็กซ์ ส่วนใครที่เป็นสายโฮจิฉะก็แนะนำให้สั่ง Coconut Hojicha Cloud นอกจากนี้ทางร้านยังเสิร์ฟเมนูอาหารเช้าตลอดทั้งวัน และเซตอาหารกลางวันในช่วงวันธรรมดา มีทั้งพาสต้า โทสต์ เบเกิล รวมถึงเมนูสไตล์ญี่ปุ่นแสนอร่อย ที่ Ora Coffee เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.30 - 20.00 น.

คาเฟ่สไตล์ย้อนยุคที่ตั้งอยู่บนทางลาดไปสู่จัตุรัสเซนต์ออกัสติน อดีตเป็นที่ตั้งของสมาคมนักร้องโอเปร่า เมื่อเข้าไปด้านในจะเห็นว่ามีเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่ตั้งอยู่มากมาย ทั้งยังคงไว้ซึ่งกระเบื้องลายตารางสีเขียวและหน้าต่างกรอบโลหะ แต่เพิ่มความโมเดิร์นด้วยไม้และแสงไฟ ให้ความรู้สึกแบบ neo-nostalgic ที่นี่เสิร์ฟเมนูทั่วไปไม่หวือหวา เช่น กาแฟดำ ลาเต้ ชาเย็น ค็อกเทล ช็อกโกแลตร้อน พร้อมด้วยเมนูอาหารและทีรามิสุโฮมเมด แต่ทุกคนจะประทับใจในรสชาติ บรรยากาศ และราคาที่สามารถจับต้องได้ แถมแต่ละเมนูยังตกแต่งจานมาแบบสวยงาม ถูกใจสาย instagrammable อย่างแน่นอน ที่ Shanshang Coffee เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.30 - 21.30 น.

หากในแพลนเที่ยวมาเก๊ามีห้องสมุดเซอร์โรเบิร์ตโฮตุง โบสถ์เซนต์ออกัสติน โบสถ์เซนต์โจเซฟ หรือโรงละครดอมเปโดรที่ 5 และกำลังมองหาจุดพักเหมาะๆ สักที่ ต้องไม่พลาด Shuxia Coffee ที่นี่เป็นคาเฟ่ที่รู้จักกันส่วนใหญ่ในกลุ่มคนท้องถิ่นและพนักงานออฟฟิศบริเวณใกล้เคียง มองเผินๆ อาจเป็นเพียงคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยว แต่ร้านนี้มีไฮไลต์เป็นหน้าต่างบานใหญ่ วิวจัตุรัสออกัสตินที่ไม่ว่าจะนั่งมุมไหนของร้านก็ยังมองเห็น โดยสามารถสั่งเมนูกาแฟสุดคลาสสิกหรือชาหอมๆ มาจิบไปพร้อมกันได้ แถมยังมีเมนูนานาชาติอย่างดงบุริ อูด้ง โซบะ และแร็ปเม็กซิกันให้ทานกันแบบอิ่มอร่อยอีกด้วย ที่ Shuxia Coffee เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 - 19.00 น.

หนึ่งในถนนที่คึกคักที่สุดของมาเก๊าคือ Rua da Palha เมื่อพูดถึงถนนเส้นนี้ หลายคนคงนึกถึงขนมปังหน้าหมูและร้านต่างๆ ที่เรียงรายให้เราเข้าไปช็อปปิง แต่ที่นี่ยังมีคาเฟ่น่าสนใจตั้งอยู่อีกด้วย โดยร้านนี้ตกแต่งอย่างเป็นเอกลักษณ์ด้วยสีดำและขาว สื่อถึงกาแฟและนม ซึ่งเป็นหัวใจหลักของคาเฟ่แห่งนี้ สำหรับเมนูแนะนำคือดาร์กลาเต้และเฟรนช์โรสลาเต้ แต่หากใครไม่ใช่สายกาแฟก็แนะนำให้ลองช็อกโกแลตผู่เอ๋อ เมนูที่ผสมผสานระหว่างช็อกโกแลตกับชาผู่เอ๋อให้เข้ากันอย่างลงตัว และสามารถไปถ่ายรูปเช็กอินแบบสวยๆ ตรงระเบียงชั้นสองได้ ที่ Soul of Speed เปิดให้บริการวันพฤหัสบดี - อังคาร (ปิดวันพุธ) เวลา 13.00 - 18.00 น.

หากเสิร์ชหาร้านกาแฟในมาเก๊า จะต้องเจอร้าน Terra กันอย่างแน่นอน เพราะร้านนี้เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มคนรักกาแฟ ทั้งยังมีถึง 3 สาขาทั่วเมือง ที่นี่เสิร์ฟอาหารฟิวชันสไตล์อิตาเลียนและเอเชีย โดยเฉพาะเมนูยอดฮิตอย่างบรันช์และสลัด และแน่นอนว่าเมนูกาแฟของที่นี่ต้องพิเศษไม่แพ้ร้านอื่น โดยเฉพาะกาแฟเย็นที่ผสมผลไม้หลายชนิด เช่น Calico Cat (ส้มและกาแฟ) Lemonshake (มะนาวสดและเอสเปรสโซ่) Applecino (แอปเปิลและคาปูชิโน่) และห้ามพลาดกับ Santa Wreath หรือลาเต้รสพิสตาชิโอ ยิ่งปิดจบด้วยทีรามิสุ ชีสเค้ก และบราวนี่สูตรเฉพาะของทางร้าน ยิ่งถือเป็นการคอมพลีตกาแฟมื้อบ่ายได้เป็นอย่างดี ที่ Terra เปิดให้บริการทุกวัน วันธรรมดา เวลา 07.30 - 19.00 น. และวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 11.00 - 19.00 น.

จากแหล่งพิมพ์เสื้อยืดสู่คาเฟ่ร้านโปรดของคนในท้องถิ่นบนเกาะไทปา ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องวาฟเฟิลที่มีให้เลือกทั้งแบบคาวและหวาน โดยเฉพาะเมนูวาฟเฟิลช็อกโกแลตโมจิ และวาฟเฟิลเบคอนหัวหอมชีส ส่วนเครื่องดื่มยอดนิยมคือกาแฟดำรสเข้มข้น กลิ่นหอม ส่วนเมนูอื่นๆ ก็มีทั้งช็อกโกแลต มัตฉะลาเต้ ชา และโซดารสต่างๆ มาพร้อมเมนูพิเศษที่เปลี่ยนทุกสามเดือน นอกจากนี้ยังมีเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้เลือกช็อปแบบสบายๆ และหากได้ไปเยือนต้องไม่พลาดที่จะขึ้นไปชมวิวหมู่บ้านที่ชั้นดาดฟ้า ที่ The Rooftop Macau เปิดให้บริการทุกวัน เวลา เที่ยงวัน - 20.00 น.