Cuisine de Garden

หลายปีมาก่อนตอนที่ชาวกรุงเทพฯ ได้ลิ้มลองอาหารโมเลกุลเป็นครั้งแรก ชาวเชียงใหม่ก็มีร้านอาหารโมเลกุลเป็นของตัวเองแล้ว ในชื่อ Cuisine de Garden ร้านอาหารที่ผสมผสานเทคนิคสุดสร้างสรรค์เข้ากับอาหารที่ใช้ไนโตรเจนเหลวมาเป็นส่วนประกอบ การที่นำเอาคอนเซ็ปต์แบบวัตถุดิบส่งตรงมาจากฟาร์มรวมเข้ากับวิทยาศาสตร์ ทำให้ Cuisine de Garden เป็นหนึ่งในร้านอาหารชื่อดังของทางภาคเหนือ และสาขาที่กรุงเทพฯ นี้ก็เป็นสาขาที่สองของทางร้าน

ที่ตั้งของร้านเคยเป็นตูดยุงแกลเลอรีและแกลเลอรีศิลปะแพนดอร่าที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นร้านอาหาร มีการใช้ปูนเปลือย ควอตซ์สีดำ ไม้สักและแสงไฟที่ดูนุ่ม สบายตาในการตกแต่งร้าน และเพื่อให้สมกับคอนเซ็ปต์ "แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ" ของอาหารที่นี่ ต้นไม้แห้งหลายต้นก็ถูกนำมาประดับตกแต่งไว้ในร้านเช่นเดียวกัน

เชฟลีลวัฒน์ มั่นคงติพันธ์ หัวหน้าเชฟผู้สร้างสรรค์เมนูอาหารโมเลกุลที่สาขาเชียงใหม่ได้คิดคอร์สเมนู 4 คอร์ส (1,590 บาท) ให้กับสาขากรุงเทพฯ (ที่ชวนให้นึกถึงร้านเลอ ดูเล็กน้อย) โดยที่เรามีตัวเลือก 3 ตัวเลือกในแต่ละคอร์ส ก่อนมื้ออาหารจะเริ่มต้นขึ้นอาหารว่างเรียกน้ำย่อยที่เป็นเหมือนกับโชว์เคสของการทำอาหารแบบโมเลกุลในการปรุงมะกรูดให้ออกมาเป็น ของเหลว โฟมและชัทนีย์ เมนูเริ่มต้นด้วยฟักแม้ว ซอนพอนสึและสาหร่ายเคลป์สีแดงที่จับคู่มากับหอยเชลล์ฮอกไกโด กลายเป็นเมนูที่มีทั้งรสหวานตามธรรมชาติและรสเค็มแบบเบาๆ ส่วนจานหลักที่ตกแต่งมาอย่างสวยงาม มีไข่ที่ถูกสโลว์คุ้กบนเส้นหมี่กรอบสีเหลืองทอง เนื้อไก่ เห็ดพอร์ชินีและน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล สำหรับของหวานแพนนา คอตต้าที่ทำจากนมแพะ เสิร์ฟคู่กับน้ำผึ้งดอกแมคคาเดเมีย ในนมสโนว์และชิปส์ที่ทำจากฟองนม 

นอกจากไวน์แล้ว Cuisine de Garden ยังมีค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัตถุดิบของไทย เช่น The Kaffir Lime ที่เป็นจินและเกรปฟรุตกับไซรัปมะกรูด ท็อปด้วยฟองเบียร์ชาละวัน (290 บาท)