[title]
Sheepshank Public House สะท้านวงการนักกินดื่มด้วยบรรยากาศการตกแต่งร้านที่ดูแปลกใหม่ ใช้พื้นที่ซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นอู่ต่อเรือมาปรับเปลี่ยนให้เป็นร้านอาหารซึ่งออกแบบให้อิงกับโครงสร้างตึกเดิมแบบอินดัสเทรียล ด้วยการใช้ตะขอต่อเรือมาคล้องเกี่ยวกับโคมไฟ มีเครื่องไม้เครื่องมือของจริงทั้งเรดาร์เดินเรือ รอก และเครนยกของติดตั้งประดับตกแต่งระโยงระยางอย่างกลมกลืน พร้อมเปิดโชว์โครงเหล็กเปื้อนสนิมเกรอะกรังและแผ่นไม้ให้ดูเข้ากับบรรยากาศโดยรอบ โดยรวมจึงให้อารมณ์แบบดิบเท่และน่านั่งเอามากๆ บวกกับลูกค้าที่ได้ลองมาลิ้มรสอาหารจนถูกใจและแนะนำกันปากต่อปาก จึงไม่แปลกใจที่ SheepshankPublic House จะมาแรงแซงโค้งสำหรับบรรดาขาแฮงเอาต์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกันแบบชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว
ด้วยความที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ หุ้นส่วนร้านทั้ง 5 คนจึงตกลงปลงใจให้เมนูอาหารออกมาเป็นแบบเมดิเตอร์เรเนียน ผสมผสานทั้งอิตาลี ฝรั่งเศส สเปน และตุรกี โดยจะเน้นใช้วัตถุดิบซีฟู้ดสดใหม่มากคุณภาพ ในขณะที่ก็จะมีเมนูอาหารตะวันตกแบบ New American เป็นตัวยืนพื้น ซึ่งเชฟโจ๊ก-สมเกียรติ ไพโรจน์มหากิจ หนึ่งในหุ้นส่วนเป็นคนลงแรงคิดสูตรเอง ทว่ายังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายความคลาสสิกของยุค 50’s และ 60’s ให้พอหอมปากหอมคอด้วยเช่นกัน
เมนูแนะนำที่ต้องลองมีทั้ง Salmon Mint Tartare with Crusty Sourdough Croutons แซลมอนทาร์ทาร์เสิร์ฟเคียงกับขนมปังกรอบ ต่อด้วยเมนูขายดีอย่าง Sizzling Razor Clams with Pancetta and Fennel Butter Sauce ที่ใช้หอยหลอดตัวใหญ่จากนอร์เวย์นำมาผัดคลุกเคล้ากับซอสมะเขือเทศ ตัดกับรสเค็มหน่อยๆ ของ Pancetta จนกระทั่งได้รสชาติที่กลมกล่อมถูกปากคนไทย ถัดมาเป็น Crab and Green Apple Salad with Dijon Mustard Dressing สลัดเนื้อปูเน้นๆ คลุกกับแอปเปิลเขียวกรุบกรอบราดซอสมัสตาร์ด ก่อนจะตบท้ายด้วย Our Style Seafood Paella with Spanish Saffron ข้าวผัดสเปนหอมหญ้าฝรั่นที่มาพร้อมกับซีฟู้ดรสจัดจ้านได้ใจ
ส่วนเครื่องดื่มที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลาย แต่เมื่อได้ชื่อว่าเป็น Public House ครั้นจะให้ปล่อยผ่านเมนูค็อกเทลรสชาติเข้มข้นแบบโอลด์สกูล เราขอให้ลอง Old Fashioned คลาสสิกค็อกเทลแก้วนี้ดู หน้าตาอาจจะธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแรงไม่เบา เอาเป็นว่านอกจากอาหารจะถูกปากแล้ว บรรยากาศก็ยังถูกใจอีกด้วย ฉะนั้นใครที่กำลังมองหาที่นั่งดริงค์เราบอกเลยว่าไม่ควรพลาด!