10 ร้าน 10 ไอเดียอาหารเมนูพิเศษ ฉลองวาเลนไทน์หวานๆ ตลอดทั้งวัน ที่เซ็นทรัลเวิลด์

สำหรับคนที่ต้องการสร้างความประทับใจให้คนพิเศษในวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ ต่อให้ไม่ใช่เดตแรกๆ เราเชื่อว่าก็ยังเป็นเรื่องที่หลายคนคิดหนักอยู่ดีว่าจะพาคนรักไปร้านไหน และเพื่อจบปัญหา ให้ทุกคน Time Out ได้รวบรวมร้านอาหารและคาเฟ่ในเซ็นทรัลเวิลด์ที่เหมาะกับการควงคู่ไปเติมความหวานในช่วงวาเลนไทน์นี้มาให้เลือกถึง 10 ร้าน

1. iO Italian Osteria

ชั้น 1 โซน Groove

ร้านอาหารอาตาเลียนสไตล์ต้นตำรับ เปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่โซน Groove CentralWorld ดูแลโดยเชฟ Anna Borrasi เชฟชาวอิตาลีมากความสามารถที่เติบโตในครอบครัวธุรกิจร้านอาหาร และยังมีร้านอาหารของตัวเองหลายแห่งในยุโรป โดยทางร้านต้องการนำเสนอ เมนูอาหารอิตาลีจากแค้วนต่างๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักนักให้ทุกคนได้ลองกัน วาเลนไทน์นี้ทางร้านก็ชวนคู่รักมาชิมเมนูพิเศษสำหรับช่วงวาเลนไทน์ ได้แก่ Buttuto Di Fassona สเต็กทาร์ทาร์ เสิร์ฟกับเฟนเนลกรอบและเห็ดทรัฟเฟิล; Lumberjake Carpaccio ปลาสาลีน้ำลึกแล่บาง เสิร์ฟกับซอสมายองเนสสตรอวเบอร์รี่ มะม่วงและหน่อไม้ฝรั่ง; Strawberry Risotto ริซอตโต้สรอว์เบอร์รี่หน้าตาสวยหวานเข้ากับเทศกาลแห่งความรัก เสิร์ฟพร้อมชีสพาเมซานและแชมเปญ Green Gazpacho ซุปผักเย็น เสิร์ฟกับกุ้งและขนมบังกรอบ หรือเลือกเป็น; Beef Tenderlion in Mustard Crust เนื้อสันในเคลือบมัสตาร์ดเสิร์ฟกับซอสช็อกโกแลต มันฝรั่ง เห็ดพอโดเบลโลและหน่อไม้ฝรั่ง และเติมความหวานด้วยพานาคอตตา เสิร์ฟกับมะม่วง เบอร์รี่ และซอสคาราเมล ทั้งหมดในราคา 1,490++ บาท ต่อคน

2. Roast

ชั้น 1 โซน CENTRAL @ centralwOrld

ร้านเชน brunch spot ยอดฮิตของคนกรุงเพิ่งจะเปิดตัวไปหมาดๆ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ในสไตล์ all day dining เสิร์ฟอาหารตะวันตกกับกาแฟคุณภาพเยี่ยมในบรรยากาศสบายๆ ไม่พลุกพล่าน

ช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก เมนูแนะนำของ Roast คือ Truffle Alfredo (340 บาท) พาสต้าซอสขาวที่ผสมผสานเบคอน เห็ด และความครีมมี่ของซอสขาวได้อย่างลงตัว ท็อปด้วยเห็ดทรัฟเฟิลที่ทำให้พาสต้าจานนี้หอมขึ้นไปอีกในทุกคำที่กิน อีกจานคือ Charred Salmon (450 บาท) เนื้อปลาแซลมอนที่นาบบนกระทะร้อนจนผิวกรอบแต่เนื้อยังฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมสลัดและซอสครีมมะนาวรสเปรี้ยวที่เข้ากั๊นเข้ากันกับปลา ส่วนของหวานปิดท้ายที่ต้องสั่ง Strawberry Waffle (320 บาท) วาฟเฟิลหอมๆ ที่มาคู่กับครีมเนื้อเบา สตรอว์เบอร์รี่สด และไอศกรีมที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศความหวาน

3. Paris Mikki

ชั้น 1 โซน Beacon

คงไม่มีร้านไหนเหมาะกับคำว่า “เติมความหวานให้กัน” ไปมากกว่า Paris Mikki ร้านเค้กสไตล์ฝรั่งเศส สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหอม หวาน ของเค้กนานาชนิดที่ใครได้ชิมก็ต้องติดใจ สำหรับวาเลนไทน์นี้ก็มีเค้กหน้าตาสวยงาม รสชาติดีรอเสิร์ฟอยู่หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น  Lady Pinske (190 บาท) เค้กเนื้อนุ่ม เคลือบครีมบางๆ สอดไส้ลิ้นจี่ ได้รสเปรี้ยวหวานและหอมกลิ่นกุหลายเข้ากันดี Orangette (200 บาท) เค้กหน้าตาเหมือนส้ม ข้างในเป็นช็อกโกแล็ตมูสและเนื้อส้ม เคลือบช็อกโกแลต รสชาติหวานกำลังดี Tart Cherry Pistachio (245 บาท) ทาร์ตเชอร์รี่เสิร์ฟมาพร้อมกับครีมพิสตาชิโอแน่นๆ รสชาติละมุนลิ้น

รวมถึงเมนูซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง Millefeuille (235 บาท) แป้งพัฟกรอบบางแทรกด้วยครีมวานิลลาหอมๆ เป็นชั้นๆ และ Phillip 70 215 ที่ทำจากดาร์กช็อกโกแลต เนื้อสัมผัสนุ่มๆ รสชาติเข้มข้น สมกับที่เป็น 2 เมนูขายดีของร้าน

4. Twinings

ชั้น 1 โซน Atrium

ชวนคนรู้ใจมาจิบชาที่ Twinings ร้านชายอดนิยมจากลอนดอนที่ตกแต่งราวกับยกร้านต้นกำเนิดมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเมื่อสั่งเซ็ต Afternoon Tea (720 บาท) ที่จะเสิร์ฟชาร้อนๆ มาในกาสีขาว พร้อมกับขนมนานาชนิดที่เหมาะกับการกินคู่กับชาหอมๆ อาทิ มาการอง ครัวซองต์ และสโคนที่ถูกจัดมาบนชั้นสีทองดูหรูหรา และยังเพิ่มความหอมหวานด้วยขนมหวานหน้าตาน่ารักอย่าง Primrose Hill (150 บาท) และเครื่องดื่มสีชมพูเข้ากับเทศกาลแห่งความรักอย่าง Passion Pearl (195 บาท) ก็จะยิ่งเติมเต็มช่วงเวลาดีๆ ให้น่าจดจำยิ่งขึ้น

5. Red Diamond Cafe

ชั้น 7 โซน Atrium

ร้านกาแฟสเปเชียลตี้บนชั้น 7 ของเซ็นทรัลเวิลด์ ดูจะเป็นตัวเลือกที่ไม่ยากของคู่รักสายกาแฟ แต่นอกเหนือจากความเป็นร้านกาแฟสเปเชียลตี้แล้ว ที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ยังมีอาหารเสิร์ฟด้วย แถมยังเป็นเมนูใหม่แกะกล่องที่เราอยากให้ทุกคนไปชิมด้วยตัวเอง เช่น Mexican Pulled Pork Taco ทาโก้หมูเสิร์ฟมาเป็นคู่และมีรสชาติเปรี้ยวหวานเผ็ดสไตล์เม็กซิกัน และ Scrambled Eggs Croissant ครัวซองต์แซนวิชที่แทรกด้วยไข่กวนนุ่มๆ และเบคอนกรอบๆ เหมาะจะเกี่ยวแขนคนรักไปลองกันในมื้อสาย

สำหรัยเมนูเมนูยอดนิยมที่เราอยากแนะนำก็อย่างเช่น Sex Bomb (140 บาท) กาแฟหอมหวานกลมกล่อมจากนมและช็อกโกแลต หรือ Virgin Dirty (160 บาท)  อีกเมนูกาแฟนมดื่มง่ายที่ผสมช็อกโกแลตลงไป พร้อมโรยดาร์คช็อกโกแลตเฟลก์ด้านบนอีกที 

6. Paul

ชั้น 2 โซน Groove 

ร้านเฟรนช์เบเกอรี่ยอดฮิตบนชั้น 2 ชวนคู่รักคนชอบขนมอบแบบฝรั่งเศสมาชิมเมนูพิเศษที่มีขายเฉพาะช่วงเทศกาลวาเลนไทน์นี้ 2 เมนู คือ Salted Caramel Chocolate Mousse (185 บาท) มูสเคลือบช็อกโกแลตรูปหัวใจ และ Chocolate Palmier (100 บาท) หรือขนมอบรูปผีเสื้อ (อีกมุมหนึ่งก็คล้ายรูปหัวใจ) เคลือบด้วยช็อกโกแลตเพิ่มความหวานปนขม เราแนะนำว่าให้สั่งเครื่องดื่มเปรี้ยวหวานสดชื่นอย่าง Yuzu Mango Iced Tea (120 บาท) มาทานคู่กัน

7. Wine Connection

ชั้น 1 โซน Groove

ด้วยบรรยากาศสบายๆ และเมนูตะวันตกกินง่าย ทำให้ Wine Connection คือหนึ่งในร้านอาหารยอดนิยมของใครหลายคน โดยในเดือนแห่งความรักนี้ Wine Connection เปิดตัวเมนูใหม่ที่เราอยากให้ทุกคนมาลอง อย่างเช่น Canadian Lobster Spaghetti (499฿) สปาเกตตีเส้นนุ่มๆ อัลเดนเต้ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับล็อบสเตอร์ตัวโต; Truffle & Chorizo Pizza (350฿) พิซซ่าแป้งบางขอบกรอบ หน้าไส้กรอกโชริโซ ตบท้ายด้วยน้ำมันทรัฟเฟิลที่หอมเรียกน้ำย่อย

หรือถ้าใครมองหาเมนูเบาๆ ต้องลอง Avocado Mushroom Brushetta (220฿) ขนมปังบรูสเก็ตตาหน้าอโวคาโดบด เห็ด และตัดด้วยรสเปรี้ยวจากมะเขือเทศ; ส่วนเมนูของหวานที่แนะนำให้สั่งมากินด้วยกันคือ Chocolate Mousse Crunch (220฿) ที่ทางร้านใช้ดาร์คช็อกโกแลตเข้มข้น 70% มาทำเป็นมูส กินกับช็อกโกแลตครันช์กรุบกรอบได้อารมณ์

8. Coffee Beans by Dao

ชั้น 2 โซน Eden

ร้านอาหารที่หลายคนยกให้เป็นร้านประจำ เพราะมีครบทั้งอาหารไทยปนฝรั่ง และเค้กที่ใครกินก็ติดใจ โดยเมนูที่เราอยากแนะนำในช่วงเทศกาลวันแห่งความรักนี้ คือ สลัดแซลมอนโซบะ (430 บาท) ส่วนผสมที่ลงตัวของเส้นโซบะเย็นและแซลมอนหนังกรอบ เติมความอิ่มแบบพอดีไม่หนักท้อง หรือจะเป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบอย่าง มักกะโรนีผัดกุ้งใส่ไข่ (250 บาท) เมนูผสมผสานไทยเทศที่ชวนให้เราคิดถึงจานโปรดในวัยเด็ก

9. Greyhound Café

ชั้น 2 โซน Groove

ร้านอาหาร modern and contemporary ยอดนิยมของหลายคู่รักและหลายครอบครัว ปีนี้มีเมนูวาเลนไทน์ที่เอาใจคู่รักสายสุขภาพ เช่น Grilled Salmon Steak on Green Bed (360฿) สเต็กแซลม่อนย่าง เสิร์ฟพร้อมผักสลัดราดน้ำสลัดแอนโชวี่ และ Simple Grilled Sea Bass (450฿) ปลากะพงขาวย่างเสิร์ฟกับหน่อไม้ฝรั่ง มะเขือเทศ มันฝรั่งบด และเลมอน

สำหรับของหวานที่ Greyhound ไม่เคยพลาดจะทำให้หลายคนติดใจ แนะนำเป็น Mixed Berries Crepe Cake (190 บาท) เครปเนื้อบางนุ่มเรียงสลับชั้นกับเบอร์รี่หลากชนิด ซอสเบอร์รี่รสเปรี้ยม และครีมสดที่ให้รสหวานละมุนอมเปรี้ยวนิดๆ และ Sea Salt Caramel Chocolate with Vanilla Cream (160 บาท) เค้กช็อกโกแลตฟัดจ์เนื้อแน่นและคาราเมลผสมเกลือทะเลเค็มอ่อนๆ ให้รสกลมกล่อม ตัดด้วยสตรอว์เบอร์รี่สดและวิปครีม หรือจะเพิ่มไอศกรีมวานิลลาได้ตามชอบใจ และปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มสมูธตี้และน้ำผลไม้ (130 บาท) ที่มีส่วนผสมของผลไม้หลากชนิด

10. Red Sky

ชั้น 55 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

เติมความพิเศษให้ค่ำคืนวาเลนไทน์ด้วยวิวกรุงเทพฯ แบบ 360 องศาที่ Red Sky รูฟท็อปบาร์และร้านอาหารบนชั้น 55 ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กับเมนูแนะนำอย่าง Maine Lobster Salad ที่ส่งตรงล็อบสเตอร์จากรัฐเมน ประเทศสหรัฐฯ มาจับคู่กับสลัดผักสดราดน้ำสลัดทรัฟเฟิล เสิร์ฟคู่ซอสมะเขือเทศเข้มข้น และ Seared Sarlat Duck Foie Gras ฟัวกราส์ชิ้นใหญ่ (มาก) ที่ชวนให้เราจินตนาการคือโมเมนต์ค่อยๆ ละลายในปาก เสิร์ฟคู่กับสตรอว์เบอร์รี่ป่าคาราเมไลซ์และผักชิโครี่สีแดงที่นอกจากจะช่วยตัดเลี่ยนได้ดีแล้วยังทำให้หน้าตาอาหารจานนี้เหมาะจะเป็นเมนูสื่อรักมากยิ่งขึ้น และชวนปิดท้ายด้วยขนมหวานอย่าง Passion Fruit Baba ความเปรี้ยว หวาน หอม อย่างลงตัวของไอศกรีมมะพร้าว ครีมเสาวรส และมาลิบูเจลลี่

แต่ถ้าอยากได้ความพิเศษแบบจัดเต็ม เราแนะนำโปรโมชั่นวาเลนไทน์ ราคา 5,999 บาทสุทธิต่อคู่ ที่มาพร้อมกับตัวเลือกเมนูจากวัตถุดิบชั้นเลิศมาให้เลือกทั้งกุ้งแลงกูสทิน ปลาตาเดียว แอตแลนติก เนื้อวากิว รวมถึง Champagne Granita และ Ivoire Valrhona Chocolate Parfait

ไม่เพียงแค่อาหารมื้อพิเศษเท่านั้น วาเลนไทน์นี้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆ ที่รอให้ทุกคนมาถ่ายรูปเช็กอินพร้อมเก็บภาพความทรงจำดีๆ และยังมีที่จอดรถกว่า 5,500 คัน ให้บริการจอดฟรี 6 ชั่วโมงไว้คอยอำนวยความสะดวกให้คุณฉลองวันแห่งความรักได้อย่างมีความสุขที่สุด