Brian McKnight
Photograph: Courtesy Blue Note | Time Out New York

เตรียมรับลมหนาวเคล้าเสียงแจ๊สกับงาน Thailand International Jazz Festival

พบกับการแสดงครั้งแรกในประเทศไทยของ Brian McKnight และ Joey Alexander เด็กอัจฉริยะผู้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ในวัยเพียง 12 ปี

Sopida Rodsom
เขียนโดย
Sopida Rodsom
การโฆษณา

ในขณะที่เมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ เชียงใหม่ หัวหิน เขาใหญ่ พัทยา มีโอกาสต้อนรับคอนเสิร์ตของศิลปินและวงดนตรีดังระดับโลกมาโดยตลอด เชียงรายดูจะไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของปฏิทินการแสดงดนตรีระดับนานาชาติเลยสักครั้ง แต่ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ไร่สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย จะได้เปิดบ้านต้อนรับครั้งแรกของงานแจ๊สระดับโลก Thailand International Jazz Festival 2018 มหกรรมเพลงแจ๊สที่ขนเอาศิลปินดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ไบรอัน แม็คไนท์ (Brian McKnight) ศิลปินอาร์แอนด์บี แจ๊ส และโซล เจ้าของเพลงฮิต “Back at One” ผู้เคยได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ถึง 16 รางวัล และ โจอี้ อเล็กซานเดอร์ (Joey Alexander) เด็กอัจฉริยะและนักเปียโนแจ๊สชาวอินโดนีเซีย ผู้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่อายุน้อยที่สุดตลอดกาลในวัยเพียง 12 ปีเท่านั้น มาโชว์กันสดๆ ครั้งแรกในเมืองไทยกันท่ามกลางความหนาวและขุนเขาของจังหวัดเหนือสุดแดนสยาม ในวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

สิงห์ปาร์คนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยพื้นที่มากกว่า 8,000 ไร่แล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬ่าต่างๆ รวมไปถึงเทศกาลใหญ่สองเทศกาลหลักๆ อย่าง Farm Festival on the Hill เทศกาลดนตรี งานรวมร้านอาหารอร่อย และงานศิลปะทั่วจังหวัดเชียงรายในเดือนพฤศจิกายน และ International Balloon Fiesta เทศกาลบอลลูนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่หลายๆ คนมีโอกาสไปเยี่ยมชมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ร่วมกับ หนีกรุง คอนเน็ค ได้เปิดตัวเทศกาลดนตรีใหม่ล่าสุดที่รับรองว่าน่าสนใจไม่แพ้งานอื่นๆ ที่ไร่สิงห์ปาร์คเคยจัดมา

จุดเริ่มต้นของงาน Thailand International Jazz Festival 2018 เกิดจากความสำเร็จจากงาน “ดอกไม้ของย่า บทเพลงของพ่อ” ที่จัดขึ้นแทนงาน Farm Festival on the Hill ในปี 2559 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งภายในงานมีการแสดงจากศิลปินชั้นนำของไทย วงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพฯ และเด็กนักเรียนประสานเสียงชาวเชียงรายกว่า 400 ชีวิต รวมไปถึงความตั้งใจที่จะก่อตั้ง music camp ภายในไร่สิงห์ปาร์คในปี 2563

“หากถามว่าทำไม music camp ถึงมี potential ผมว่านักดนตรีแกรมมี่เกินครึ่งเป็นคนเหนือหมด เพราะคนเหนือชอบร้องเพลง (หัวเราะ) ETC. ก็ดี แสตมป์ก็ดี สงกรานต์ AF ก็ดี หรือว่าฟังกลิ้งฮีโร่ เวลามาเล่นบนเวทีนี่อู้คำเมืองกันสนุกสนาน” ชัยภัฏ จาตุรงคกุล กรรมการบริษัท สิงห์ปาร์คเชียงราย จำกัดกล่าว “แจ๊สเป็นอะไรที่ในหลวง [รัชกาลที่ 9] รักมากอยู่ ผมว่ามันน่าจะ popular มากกว่านี้ แต่คนมองยังว่าเป็นแนวดนตรีที่ไกลเกินแตะเหลือเกิน”

นอกจาก ไบรอัน แม็คไนท์ และโจอี้ อเล็กซานเดอร์แล้ว งานนี้ยังได้ศิลปินแจ๊สระดับโลกมาให้ชมกันอีกเพียบตลอดสองวันเต็มไม่ว่าจะเป็น เจเรมี มอนเทโร (Jeremy Monteiro), ซูซาน เดอ จอง (Susan de Jong) และอายะ ทากาซาวะ (Aya Takazawa) รวมไปถึงศิลปินชาวไทยอย่าง โก้ มิสเตอร์แซกแมน, รศ. ดร. ภาธร ศรีกรานนท์ หนึ่งในสมาชิกของวง อ.ส. วันศุกร์ และวงอินฟินิตี้ วงฟิวชั่นแจ๊สวงแรกในประเทศไทยมาร่วมแสดงในงานนี้เป็นพิเศษอีกด้วย

“งานนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ถ้าเจ๊งก็มอบตัวให้คุณสันติ [ภิรมย์ภักดี] เลยครับ แต่อยากทำงานดีๆ และมั่นใจว่าเราทำได้ เจ๊งก็เจ๊งไม่เป็นไร แต่งานนี้ต้องทำประโยชน์ให้สังคมมากกว่านี้” ชัยภัฏกล่าวติดตลกถึงกิจกรรมเวิร์กช็อปภายในตัวงานที่ให้มหาวิทยาลัยที่มีคณะดุริยางคศิลป์ทั่วประเทศไทยพานักเรียนทั้งหมดกว่า 600 ชีวิต มาเข้าสัมมนากับศิลปินระดับโลกฟรีๆ (คนทั่วไปสามารถเข้าร่วมฟังได้ แต่ทุกคนจะต้องร่วมขึ้นดอยทำกิจกรรม CSR เป็นการตอบแทน)  

แน่นอนว่านอกเหนือจากคนไทยแล้ว งานนี้ยังน่าจะดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาชมงานในราคาถูกแสนถูก ซึ่งนั่นก็รวมถึงนักเรียนดนตรีแจ๊สจากประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง จึงถือเป็นการทำเน็ตเวิร์กนักดนตรีไปในตัว และส่งเสริมให้เด็กไทยมีสร้างเพื่อนใหม่ๆ และเพิ่มโอกาสไปเล่นในเวทีระดับโลกมากขึ้นในอนาคต “ผมว่านี่แหละครับคือสิ่งที่ผมอยากเห็นมากกว่าตัวเงิน” ชัยภัฏปิดท้าย

จองบัตรได้แล้วที่ Thai Ticket Major ในราคา 2,500 บาท/ 2 วัน (บัตร early bird 1,800 บาท จองได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคมเท่านั้น)

เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา