อรุษ ตันตสิรินทร์
Chatchawan Jaksuwong

อรุษ ตันตสิรินทร์: ตัวตนและความทรงจำที่ประกอบสร้างเป็นโลกแสนอบอุ่นใน Warbie Yama

บทสัมภาษณ์ที่จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับความน่ารักและอบอุ่นทั้งหมดที่พูดไปมากขึ้น

Suriyan Panomai
เขียนโดย
Suriyan Panomai
การโฆษณา

Warbie (วอร์บี้) นกสีเหลืองตัวอ้วนกลม หน้าตาสุดกวน ที่มาพร้อมกับเรื่องราวอบอุ่นหัวใจ คือคาแร็กเตอร์ที่มีฐานแฟนคลับหลากหลายวัยทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังคือ Arut หรือ ‘อรุษ ตันตสิรินทร์’ (Arut Tantasirin) ศิลปินและผู้กำกับแอนิเมชั่นที่เรานัดคุยทางไกล – ผ่านโปรแกรม Zoom ในวันนี้

อรุษ คือศิลปินไทยที่ทำงานประจำอยู่ทั้งที่ลอส แองเจลิสและกรุงเทพฯ นอกจาก Warbie Yama แล้วเขายังมีโอกาสได้ร่วมงานกับ Nickelodeon ช่องโทรทัศน์สัญชาติอเมริกันที่ออกอากาศคอนเทนต์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ และประสบความสำเร็จจนได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัล Emmy Awards สำหรับเรื่อง Wallykazam ละครเด็กในช่องดังกล่าว

ส่วน Warbie Yama คือแอนิเมชั่นว่าด้วยเรื่องราวแสนอบอุ่นของวอร์บี้และยามะตัวละครหลักจาก Cheez...z หนังสั้นเอนิเมชั่นที่ได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังและเอนิเมชั่นต่างๆ มากมาย และยังถูกต่อยอดมาอยู่ในรูปแบบสติ๊กเกอร์ในแอปพลิเคชั่น LINE จนได้รับรางวัล Character of The Year 2019 และ 2021

และนี่คือเรื่องบทสัมภาษณ์ที่จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับความน่ารักและอบอุ่นทั้งหมดที่พูดไปมากขึ้น ผ่านเรื่องราวที่มาและแรงบันดาลใจจากศิลปินผู้อยู่เบื้องหลัง

อรุษ ตันตสิรินทร์
Chatchawan Jaksuwongอรุษ ตันตสิรินทร์

เริ่มทำอะไรก่อนระหว่างร่วมงานกับ Nickelodeon กับ Warbie Yama 

วอร์บี้มาก่อนครับ ไทม์ไลน์คร่าวๆ ก็คือว่าวอร์บี้นี่เป็นหนังสั้นเรื่อง Cheez…z ก่อน นั่นคือปี 2009 ซึ่งเป็นธีสิสตอนที่เรียนปริญญาโทที่อเมริกาครับ เสร็จปลายปี 2009 ปี 2010 ก็เริ่มได้ฉายตามเฟสติวัล พร้อมกับการได้งานที่ Nickelodeon ที่ LA ครับ ก็เลยทำควบคู่กันมาตลอด เวลาว่างนอกงานประจำก็คิดเรื่องต่อ วาดรูปเกี่ยวกับวอร์บี้ต่อ ทำเรื่อยๆ ครับ” 

แรงบันดาลใจของคาแร็กเตอร์แต่ละตัวใน Warbie Yama มาจากไหน

Warbie & Yama – “วอร์บี้มาจากความที่เราชอบคาแร็กเตอร์ที่มันมีความทวิสต์ เหมือนกับว่ามีความน่ารักแต่ก็มีอีกด้านหนึ่งที่มีความกวน ผมรู้สึกว่ามันเหมือนคนทั่วไป เหมือนเราเองบางทีก็อาจจะดูสดใส แต่บางครั้งเราก็มีความกวนๆ ตัววอร์บี้กับยามะนี่มาจากหนังสั้น แล้วจริงๆ คุณยามะมาก่อนด้วยซ้ำ ตอนผมไปเดินเล่นอยู่เจแปนทาวน์ที่ซานฟรานฯ แล้วเจอคุณลุงแก่ๆ ยืนถือกล้องอยู่ แกยิ้มๆ เหมือนเป็นคนที่ตกผลึกในชีวิตมา ก็รู้สึกว่าแกยังยิ้มได้อยู่ ก็น่ารักดี เลยได้คาแร็กเตอร์กลับมาคิดเรื่องแล้วก็เขียนสตอรี่ขึ้นมา”

Warbie Yama
Chatchawan JaksuwongWarbie Yama

“ส่วนตัววอร์บี้นี่ ตอนเด็กๆ จำได้ว่ามีนกตัวหนึ่งที่บินขึ้นมาชนกระจกบ้าน แล้วก็บาดเจ็บผมเลยเลี้ยงไว้ แล้วพอมันหายดีก็ปล่อยมันไป ก็เลยมีความรู้สึกผูกพันกับสัตว์ชนิดนี้”

Warbie Yama
Chatchawan Jaksuwong

Mali – “จะบอกว่าหลังจากหนังสั้น คาแร็กเตอร์ตัวอื่นที่ค่อยๆ ตามมา มันก็เป็นการตกผลึกการเดินทางของชีวิตตัวเองเหมือนกัน เพราะผมรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของคนบางทีก็อาจจะไม่ได้จำเป็นจะต้องโรแมนติกเสมอไป อย่างป้ามะลินี่ เรื่องราวเบื้องหลังก็คือป้ามะลิกับคุณยามะโตมาด้วยกัน เป็นเพื่อนสนิทกัน พอโตขึ้นต่างคนก็ต่างต้องออกไปจากหมู่บ้านที่ตัวเองอยู่เพื่อไปตามฝันแต่สุดท้ายแล้วหลังจากทั้งคู่ผ่านชีวิตกันมาแล้วก็กลับมาเจอกันอีกครั้งที่หมู่บ้านเดิม เหมือนกลับมาสู่รากของตัวเอง ความทรงจำเก่าๆ ก็เลยกลับมา เขาไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ไปมาหาสู่กันฉันเพื่อนที่สนิทกันมากๆ แล้วก็พึ่งพาอาศัยกัน”

 

Warbie Yama
Chatchawan Jaksuwong

Bamboo & Chuchu – “ชูชูนี่สะท้อนคาแร็กเตอร์ของตัวเองผสมเข้าไปเหมือนกัน เพราะว่าตอนเป็นเด็กๆ ชอบซนครับแล้วชูชูก็จะมีความแก่นซน แต่จริงๆ ข้างในลึกๆ แล้ว เป็นคนที่มีจิตใจดีเหมือนกัน แล้วก็เป็นคู่ปรับของวอร์บี้ด้วย เรียกว่าเป็น Friendnemy กัน”

“ส่วนแบมบูเนี่ยจะเป็นหมาของชูชูซึ่งจริงๆ ผมเคยมีหมาตอนเด็กๆ ก็จะมีความผูกพันธ์กับหมาเหมือนกัน แล้วบังเอิญว่าตอนเรียนปริญญาตรีแล้วทำธีสิสจบเป็นแอนิเมชั่นอะ มันมีคาแรกเตอร์ตัวหนึ่งที่เป็นหมาเหมือนแจ็กรัสเซลเหมือนกันที่ตาดำ แล้วพออีกเป็นสิบปีต่อมาผมไปอเมริกาแล้วผมไปรับหมามาเลี้ยงก็ดันไปเจอหมาที่เหมือนกับในหนังสั้นเลย นี่ก็ยังเลี้ยงแล้วก็เอากลับมาเมืองไทยด้วย คือมันเป็นความบังเอิญมากๆ แบมบูก็เลยเกิดขึ้นก็คือเป็นหมา จริงๆ”

“แล้วมันมีสตอรีก็คือว่า แบมบูพลัดหลงกับชูชูแล้วก็ได้มาอยู่ที่บ้านคุณยามะ ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็อยู่ไม่ไกลจากชูชู แต่ชูชูไม่รู้เลยว่าหมาที่พลัดพรากตั้งแต่เด็กๆ อะ อยู่แค่ตรงนี้เอง แบมบูก็เลยต้องเป็นหมาที่เหมือนกับว่าตกระกำลำบากมา แล้วมันก็เลยพัฒนาโหมดปกป้องตัวเองขึ้นมา เป็นโหมดสตรองมากๆ ถ้าดูในการ์ตูนก็จะเห็นร่างที่บึกบึนของแบมบู เหมือนกับว่าถ้ามีภัยมาระรานมันจะแปลงร่างขึ้นมาได้เลย ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นความสนุกของคาแร็กเตอร์แบบหนึ่ง เหมือนกับว่ามีสองบุคลิกอะไรแบบนี้ครับ”

จริงๆ แล้ววอร์บี้คือนกอะไร?

“จริงๆ มันดูไม่ค่อยเหมือนนกเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนที่ผมวาดผมดู reference มาจากนกชื่อ warbler แล้วคำว่า warbie ก็มาจาก warbler เป็นชื่อสายพันธุ์นกที่เป็นสายพันธุ์ใหญ่แล้วก็แตกย่อยลงไปอีก มันเป็นนกที่เห็นได้ทั่วๆ ไปในแถบอเมริกาเหนือ แล้วก็มีสีสันสวยงามครับ”

Warbie Yama
Chatchawan Jaksuwong

ได้เข้าไปคุยกับคุณลุงที่เป็นแรงบันดาลใจให้ตัวละครยามะไหม

“ไม่ได้คุยครับ ประมาณว่าผมเห็นแกแล้วผมก็ยืนดูแกอยู่สักพักหนึ่ง เพราะรู้สึกมันติดตา แล้วหลังจากนั้นไปสักประมาณสองสามอาทิตย์ผมก็กลับไปเขียนเรื่องขึ้นมาครับ คือจริงๆ มันไม่เชิงว่าเอาแกมาเป็นคาแร็กเตอร์ แต่ผมเรียกว่าเหตุการณ์วันนั้นทำให้ผมคิดเรื่องและคาแร็กเตอร์คุณลุงนี้ออก หลายคนฟังแล้วอาจจะเข้าใจผิดว่า ถอดเอาคนจริงๆ มาเป็นคาแร็กเตอร์ จริงๆ ไม่ใช่ครับ เดี๋ยวจะสับสนกัน”

คาแร็กเตอร์ตัวไหนมีความเป็นอรุษมากที่สุด?

"ผมว่าถ้ามากที่สุด... ผมไม่รู้จะพูดยังไง ส่วนใหญ่น่าจะเป็นคนอื่นที่บอกได้ ผมรู้สึกว่าบอกไม่ได้ แต่ถ้าได้วิเคราะห์ ผมรู้สึกว่าทุกตัวมันมีส่วนผสมของตัวเราแต่ละด้านหมดเลย เช่น วอร์บี้ ผมรู้สึกว่าบางคน บางทีในบางอารมณ์ก็จะมีคนบอกว่าผมกวนนะ แล้วก็คุณยามะก็เป็นความใจดีแล้วก็ความสงบ ในความเอ็นจอยชีวิตแบบสงบๆ ก็จะอยู่ในคุณยามะ อย่างชูชูนี่ก็มีความซนแก่นเหมือนเราตอนเด็กๆ มันก็ผสมไปมาซึ่งผมก็อาจจะตอบยากนิดหนึ่ง"

Warbie Yama
Chatchawan Jaksuwong

ในฐานะศิลปิน Warbie Yama มีความหมายต่อคุณอย่างไร

“ผมมีความรู้สึกว่าการได้วาดและคิดเรื่องราวเกี่ยวกับตัวนี้มันเป็นสิ่งเยียวยาจิตใจ มันส่งผลให้ความคิดจิตใจเราดีขึ้น แล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นการฝึกฝนจิตใจตัวเอง มันอาจจะฟังดูลึกซึ้ง ซับซ้อนนิดหนึ่ง แต่สำหรับผมมันเป็นงานศิลปะที่ทำให้ผมมีความสุขแล้วก็รู้สึกอบอุ่นใจ เพราะว่าทุกครั้งที่คิดมันมักจะโยงไปในวัยเด็ก หรือว่าในประสบการณ์ที่ผ่านมา”

“มันเหมือนกับว่าเราคิดแล้วเราย้อนอดีตกลับไปไม่ได้ แต่เรานำเสนอออกมาในรูปแบบของคอมิกส์แทน ให้คนอ่านเห็นเหตุการณ์ที่มันยังไม่เกิดขึ้นกับเขา เขาอาจจะคิดได้ว่าถ้ามันมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา เขาอาจจะแก้ปัญหาได้ดีกว่าหรือเปล่า”

คิดว่าอะไรที่ทำให้คนหลังรัก Warbie Yama

“เหมือนมันไปรีเลตกับตัวเขาเองในบางจุด  หรือรีเลตกับคนในครอบครัวของเขา เช่น คุณลุงยามะปั่นจักรยานเหมือนพ่อฉันเลย หรือเขาเป็นคนใจดีเหมือนกันเลยอะไรอย่างนี้ คือมีคาแร็กเตอร์คล้ายๆ กัน แล้วอีกอย่างการสื่อสารของผมมันอาจจะไม่ได้มีความเด็กมากๆ แบบ pre-school มันยังมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาแล้วมีแนวคิดบางอย่างที่ผมรู้สึกว่าคนที่โตขึ้นหน่อย เขาสัมผัสได้ ก็เลยรู้สึกว่า อันนี้อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มันสามารถเข้าไปได้ที่คนทุกเพศทุกวัย”

Warbie Yama
Chatchawan Jaksuwong
เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา