Dusit Central Park
Photograph: Dusit Central Park
Photograph: Dusit Central Park

8 มุมเด็ดที่ห้ามพลาดในสวนดุสิตอรุณ

สำรวจสวนลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผ่านโซนไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด

Fitri Aelang
การโฆษณา

สวนรูฟท็อปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ดุสิตอรุณ เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงเดือน แต่ก็กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่ชาวกรุงเทพฯ พากันแวะมาเช็กอินกันไม่ขาดสาย แม้คนจะแน่นไปหน่อยในช่วงนี้ แต่อากาศบนสวนกลับสดชื่นไม่แพ้สวนไหนๆ ในเมือง

พื้นที่กว่า 7 ไร่ของสวนลอยฟ้าแห่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้สูงอายุ ผู้ใช้รถเข็น เด็กๆ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงสี่ขา ที่นี่คือโอเอซิสกลางเมืองที่เปิดกว้างให้คนทุกไลฟ์สไตล์ จะมานั่งพักผ่อน เติมพลังใจ หรือสูดอากาศสดใหม่หลังเลิกงานก็ดี ถ้าคุณยังลังเลอยู่ว่าจะคุ้มค่าแค่ไหน ให้เราลองพาสำรวจว่า Dusit Arun @ Dusit Central Park มีโซนเด็ดและมุมห้ามพลาดอะไรบ้าง

วิธีมาก็สะดวกสุดๆ แค่ขึ้นมาที่ Central Park Mall ชั้น 6 ซึ่งมีทางเชื่อมตรงเข้าสวนได้เลย จากนั้นคุณจะได้เดินผ่านทางเดินที่รายล้อมด้วยพืชพรรณไทยตลอดทั้งพื้นที่ ตั้งแต่ชั้น 4 จนถึงชั้น 7 อีกทั้งคุณยังจะพบกับ 8 จุดไฮไลต์ที่สายรักธรรมชาติและสายคอนเทนท์ต้องชอบ

1. จุดชมวิวระเบียงรังนก

เมื่อเดินผ่านทางเดินในชั้นล่างสักพักคุณจะพบกับจุดชมวิวแบบพาโนรามาที่ให้วิวที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯและยังเป็นหนึ่งในมุมถ่ายรูปที่สวยที่สุดของสวน ตรงนี้คือจุดที่ ดุสิตอรุณและ สวนลุมพินี เชื่อมต่อกันเป็นโอเอซิสกลางเมืองขนาดใหญ่ จากมุมนี้คุณจะได้เห็นเส้นขอบฟ้ากับธรรมชาติไหลรวมกันอย่างลงตัว จะใช้เป็นมุมสงบๆ ท่ามกลางความเขียวขจี หรือจะพักเพื่อเก็บช็อตเด็ดก็ได้ ในยามเช้าแสงทองอ่อนๆ สวยราวต้องมนตร์ ส่วนตอนกลางคืนวิวตรงหน้าก็เสมือนกับเมืองทั้งเมืองได้กลายเป็นฉากหลังที่ระยิบระยับ

2. อัฒจันทร์ดุสิตพินี

คิดซะว่านี่คือ ห้องนั่งเล่นกลางแจ้ง ของสวนแห่งนี้ คุณจะเจอกับที่นั่งเสมือนกับอัฒจันทร์ที่ทอดยาวลงมา พร้อมลานกว้างด้านหน้า ที่สามารถปรับเปลี่ยนบรรยากาศได้สารพัด ไม่ว่าจะใช้จัดเวิร์กช็อป เล่นดนตรี เปิดการแสดงศิลปะ หรือแค่มานั่งชิลกับเพื่อนๆ วิวตรงหน้าคือสวนลุมพินีและเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ ที่สวยสะกดตาแบบไม่ต้องปรุงแต่ง บันไดแต่ละขั้นไม่ได้เป็นแค่ที่นั่งเล่นเท่านั้น แต่ยังพร้อมเปลี่ยนเป็นเก้าอี้คอนเสิร์ตกลางฟ้าได้ทุกเมื่อ

การโฆษณา

3. จุดชมวิวสวัสดีบางกอก

ถ้าอยากเห็นกรุงเทพฯ ในมุมที่ถูกโอบล้อมด้วยความเขียวขจี ต้องไม่พลาด จุดชมวิวสวัสดีบางกอก มุมนี้จะเปลี่ยนภาพความวุ่นวายของเมือง ให้กลายเป็นทิวทัศน์ที่ชวนให้นึกถึงหุบเขา ทั้งที่จริงๆ แล้วเราอยู่ใจกลางเมือง สำหรับนกที่เช้า บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะนี่คือจุดที่เหมาะที่สุด ที่จะนั่งจิบกาแฟร้อนๆพร้อมรับแสงแรกของวัน แถมยังมีโต๊ะให้นั่งเพลินๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศได้อย่างสบายๆ

4. ม่านน้ำ 2513

ธารน้ำตกในบริเวณนี้ราวกับหลุดออกมาจากความฝัน ซึ่งมันได้รับแรงบันดาลใจมาจาก น้ำตกสวรรค์ 9 ชั้น ในตำนานของโรงแรมดุสิตธานีเมื่อปี 2513 ตัวน้ำตกถูกรายล้อมไปด้วยพืชน้ำเขียวชอุ่ม และมาพร้อมกับสายลมธรรมชาติที่ช่วยคลายร้อนได้ แค่ได้ฟังเสียงน้ำตก ก็เหมือนความเครียดจากงานถูกชะล้างหายไป

การโฆษณา

5. เดอะ เทอเรส

โซนกิจกรรมสุดคึกคัก ที่อยู่ติดกับ Food Passage และ Central Park Offices จุดนี้มีพื้นกระเบื้องสีเทาที่ตัดกับกระจกสีฟ้า และน้ำพุเล็กๆ ที่ทำให้บรรยากาศมีความเท่และถ่ายรูปขึ้นสุด ๆ เป็นมุมที่เหมาะจะเจอเพื่อนก่อนกินข้าวเย็น หรือโพสต์ภาพบอกโลกว่า ‘ฉันอถึงสวนลอยฟ้าแล้วนะ!’

6. เดอะ พลาซ่า

จุดนี้นี่คือโซนแฮงเอาต์สีเขียวขนาดใหญ่ของสวนเลยก็ว่าได้ คุณสามารถเดินเล่น นั่งชิล ทำกิจกรรมสนุกๆ หรือจะเอนกายพักผ่อนซึมซับบรรยากาศธรรมชาติได้เต็มที่ ที่พิเศษคือม่านหมอกจาก ม่านน้ำ 2513 ที่ช่วยเพิ่มความเย็นสดชื่น ทำให้คุณสามารถใช้เวลาทั้งบ่ายตรงนี้ได้แบบเพลินๆ จนไม่ทันรู้ตัว

การโฆษณา

7. ดี การ์เด้น

โซนนี้จะพิเศษหน่อย เพราะเปิดให้เฉพาะผู้อยู่อาศัยที่ The Residences at Dusit Central Park และแขกของโรงแรมเท่านั้น เหมาะสำหรับการเดินเล่นอย่างสงบท่ามกลางหมู่ดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ทั้งสีสันและกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว และถ้าขึ้นไปยังชั้นบนสุด คุณจะได้พบกับจุดชมวิวที่แตกต่างและไม่ซ้ำใครจากส่วนอื่นของสวนเลย

8. เดอะ คอร์ดยาร์ด

มุมโคซี่ๆ อีกแห่งที่ซ่อนตัวอยู่ใน ดี การ์เด้น เดอะ คอร์ดยาร์ด เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นการนัดแฮงเอาต์เบาๆ หรือจะนั่งพักผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติแบบชิลๆ เป็นกันเองก็ได้

สวนเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-22.00 น.

เรื่องเด่น
    การโฆษณา