Hinoiri Bar

คราฟต์ค็อกเทล ดิจิทัลอาร์ต และอาหารญี่ปุ่น คือ 3 องค์ประกอบที่เราเชื่อว่าจะทำให้ทุกคนชอบ Hinoiri Bar ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของร้าน Mokuzou Juutaku ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเสะและไคเซกิที่เล่าเรื่องผ่านงานดิจิทัลอาร์ต อยู่ในซอยสุขุมวิท 26

Hinoiri (ฮิโนอิริ) แปลว่า พระอาทิตย์ตก บาร์นี้เลยมีพระอาทิตย์ดวงใหญ่ – หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นดวงจันทร์ ลอยเด่นอยู่กลางร้าน ประกอบกับการฉายงานดิจิทัลอาร์ตบนผนัง ซึ่งเป็นภาพวิวขณะพระอาทิตย์กำลังจะตกในเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูง (ในอนาคตอาจจะเปลี่ยนเป็นภาพอื่นๆ และถ้าใครอยากมาฉลองโอกาสพิเศษที่ร้านก็สามารถออกแบบให้เข้ากับงานนั้นๆ ได้ด้วย)

เพดานฝั่งหน้าบาร์ประดับด้วยไฟดวงเล็กๆ เหมือนดวงดาวส่องแสงระยิบระยับ ส่วนโซนบาร์ตกแต่งด้วยผนังโค้งสีทอง มีขวดเครื่องดื่มวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ดูสบายตาผิดกับหลังบาร์หลายๆ ที่ ถ้านั่งหน้าบาร์แล้วมองมาด้านหลังจะเห็นการตกแต่งภาพรวมของร้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังนั่งมองพระอาทิตย์ตก

ที่นี่เน้นเสิร์ฟคราฟต์ค็อกเทล อะไรทำเองได้ก็ทำเองหมด เช่น ไซรัป น้ำผลไม้ และวัตถุดิบสำหรับตกแต่งแก้วก่อนเสิร์ฟ และเพื่อให้เข้ากับร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ด้านล่าง นอกจากคลาสสิกค็อกเทลและซิกเนเจอร์ค็อกเทลแล้ว ที่นี่เลยมีค็อกเทลโอมากาเสะ (ที่อื่นอาจจะเรียกว่าคัสตอมค็อกเทล) ถ้าสั่งหมวดนี้บาร์เทนเดอร์จะคุยกับเราแล้วชงค็อกเทลที่เหมาะกับเราให้ หรือจะบอกไปเลยก็ได้ว่าอยากดื่มแบบไหน มีให้เลือก 2 ราคาคือ 350 บาท และ 450 บาท ขึ้นอยู่กับเบสเครื่องดื่มที่เลือก

ค็อกเทลที่เราอยากแนะนำ มีทั้งหมด 3 แก้ว เป็นซิกเนเจอร์ค็อกเทล 2 แก้ว ได้แก่ After Sunset (400 บาท) ค่ำคืนที่หนักหน่วงหลังพระอาทิตย์ตก แก้วนี้เป็นสปิริตฟอร์เวิร์ด เบสรัมอินฟิวส์วานิลลา และมีคัมพารี ไซรัปกลิ่นมาลัย สเตอร์ให้เข้ากันแล้วรมควันไวท์โอ๊ก ตกแต่งด้วยมะกอกเขียวก่อนเสิร์ฟ เป็นแก้วเข้มๆ น่าจะถูกใจคนชอบเนโกรนี

และ Before Sunrise (400 บาท) ค็อกเทลแนวรีเฟรชชิ่ง ดื่มง่ายที่มีส่วนผสมของสาเกบ๊วย Grand Marnier (ลิเคียวร์กลิ่นส้มจากฝรั่งเศส) ส้มยูสุ ไซรัป และแก้วมังกรแดง ตกแต่งด้วยส้ม เสิร์ฟเป็น 2 เลเยอร์แนะนำให้คนให้เข้ากันก่อนดื่ม

อีกแก้วเป็นค็อกเทลโอมากาเสะที่เราให้โจทย์ไปว่าขอดริงก์ที่ดื่มง่าย แนวจินโทนิก แต่มีความซับซ้อน ได้ออกมาเป็น Purple Forest (450 บาท) ค็อกเทลเบสจิน สีม่วงอ่อนๆ เพราะมีส่วนผสมของไวโอเลตไซรัปที่ทำจากอัญชันและลาเวนเดอร์ รสชาติออกเปรี้ยวจากยูสุ น้ำลิ้นจี่และสับปะรด ความซับซ้อนของแก้วนี้คือกลิ่นซึ่งมาจากเบสอย่าง Gin Mare เป็นเมดิเตอร์เรเนียนจินที่มีกลิ่นไทม์ โรสแมรี่ และเบซิล ผสมผสานกันอย่างลงตัวและให้ความสดชื่น

อาหารหรือ snack bar ที่นี่จะเสิร์ฟทาปาสกลิ่นอายญี่ปุ่นจากครัวของร้าน Mokuzou Juutaku สามารถสั่งมาแชร์กันหลายๆ คนได้ เมนูแนะนำ เช่น ‘Japanese Cold Cut’ ที่นอกจากชีสและแฮมต่างๆ แล้วก็ยังมีแซลม่อนรมควันและหมูชาชูที่ร้านทำเองเสิร์ฟมาด้วย ‘สเต๊กวากิว’ ที่ใช้เนื้อส่วนสตริปลอยด์เสิร์ฟคู่กับเห็ดผัดและมันฝรั่งบด ตัดเลี่ยนด้วยซอสยากินิกุและซอสเห็ด ‘ซากานะทาร์ทาร์’ ทาร์ทาร์ปลา 3 ชนิด ได้แก่ ปลาอากามิ แซลม่อน และปลาฮามาจิ  กินคู่กับสาหร่ายทอด รากโกโบ้ทอด และขนมปังแล้วแต่ชอบ

Hinoiri Bar อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 - 00.00 น.