Lucky Duck

  • Bars
  • เยาวราช
  • 4 จาก 5 ดาว
  • แนะนำ
  1. Lucky Duck
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  2. Lucky Duck
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  3. Lucky Duck
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  4. Lucky Duck
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  5. Lucky Duck
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  6. Lucky Duck
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  7. Lucky Duck
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  8. Lucky Duck
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  9. Lucky Duck
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  10. Lucky Duck
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
การโฆษณา

Time Out พูดว่า

4 จาก 5 ดาว

ค็อกเทลบาร์แห่งแรกจากเครือโรงรส สวยฉ่ำด้วยงานดีไซน์โดย ‘อู้ พหลโยธิน’ และเครื่องดื่มที่ตีความจากหนังจีนเรื่องดัง

จาก ‘โรงรส’ ร้านอาหารไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา สู่ ‘โรงเสบียง’ ร้านอาหารไทยในคอมมูนิตี้สีเขียวอย่าง Sansiri Backyard สุขุมวิท 77 และ ‘โรงสำราญ’ หรือ Contento ร้านอาหารอิตาลีแห่งย่านไชน่าทาวน์ ตอนนี้ Rongros Dining Group ขยายอาณาจักรอีกครั้งด้วยการเปิดค็อกเทลบาร์แห่งแรกของเครือในชื่อ Lucky Duck ซึ่งอยู่บนชั้น 3 ของร้าน Contento

บาร์แห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งมาสเตอร์พีซของ ‘คุณอู้ พหลโยธิน’ ดีไซเนอร์ฝีมือดีผู้ชื่นชอบการออกแบบร้านอาหารและบาร์ และอยากลองเป็นเจ้าของบาร์ดูสักครั้ง พอมีโอกาสเลยตั้งใจลงมือปลุกปั้นเองทุกอย่างตั้งแต่การวางคอนเซ็ปต์ร้าน การออกแบบ ตกแต่ง ไปจนถึงมีส่วนร่วมในการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่ม

คุณอู้ เล่าให้ฟังว่า ชื่อ Lucky Duck เป็นชื่อยอดนิยมของร้านเป็ดย่างที่พบเห็นได้ทั่วไปตามไชน่าทาวน์ในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก แล้วด้วยความตั้งใจที่อยากให้บาร์นี้มีลูกเล่นสนุกๆ แบบบาร์ลับและบาร์ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ของกรุงเทพฯ ก็เลยเอาชื่อร้านเป็ดย่างมาตั้งเป็นชื่อบาร์ พร้อมกับตั้งตู้เป็ดย่างหลอกๆ ที่หน้าร้าน 2 ตู้ ให้ดูเป็นร้านเป็ดย่างจริงๆ

ใครกะจะมาสั่งข้าวหน้าเป็ดผิดหวังแน่นอน เพราะหลังตู้เป็ดย่างคือบาร์สวยฉ่ำสไตล์ Amarican Art Deco แฝงกลิ่นอายความเป็นจีน ซึ่งคุณอู้จินตนาการถึงการตกแต่งอพาร์ตเมนต์ของนักแสดงสาวชาวเซี่ยงไฮ้ในฮอลลีวูดช่วงยุค 1920 แล้วถอดแบบออกมา กลายเป็นบาร์ที่มีทั้งความวินเทจ เปรี้ยวและเย้ายวนอยู่ในที ถ่ายทอดสไตล์อันเป็นอกลักษณ์ของคุณอู้ไว้ได้อย่างไร้ที่ติ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะ และของตกแต่งในร้านส่วนใหญ่ก็มาจากคอลเล็กชั่นส่วนตัวของคุณอู้ที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง

เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของที่นี่ก็ไม่หนีจากความเป็นจีน เพราะแรงบันดาลใจมาจาก Chinese Cinema ซึ่งคุณอู้ได้ร่วมกับ ‘คุณปอ-ไพศาล วรรณศิริวิไล’ บาร์เทนเดอร์ ตีความหนังจีนเรื่องดังให้เป็นค็อกเทล

จิบแรกของค่ำคืนนี้ เราได้สัมผัสรสชาติของความรักผ่าน In the mood (380 บาท) ค็อกเทลแนวรีเฟรชชิ่งที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก In the mood for love (ห้วงรักอารมณ์เสน่หา) หนังโรแมนติก-ดราม่า ของผู้กำกับ ‘หว่อง กา ไว’ แทนความรักแสนหวานด้วยจินอินฟิวส์กลีบกุหลาบ ตามด้วยสตรอว์เบอร์รีชรับ เหล้าสมุนไพรอิตาลีและไวน์หวาน รสชาติและกลิ่นของแก้วนี้จึงออกโทนฟลอรัลและฟรุตตี้ กินคู่กับเค้กนุ่มๆ ฟูๆ ที่เสิร์ฟมาคู่กัน

ต่อด้วย Kung Fu Hustle (340 บาท) ค็อกเทลชื่อเดียวกับหนังกังฟูของ ‘โจว ซิงฉือ’ ที่ทั้งกำกับและแสดงนำ หรือชื่อไทยคือ ‘คนเล็กหมัดเทวดา’ แก้วนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘เจ๊สี่’ ตัวละครที่มีภาพจำในลุคใส่ชุดนอน มีโรลม้วนผมเต็มหัว และสูบบุหรี่ตลอดเวลา แต่มีทักษะกังฟูชั้นเซียน

คุณอู้และคุณปอออกแบบแก้วนี้ให้เด่นที่กลิ่นสโม้กโดยนำเบคอนเจียวหอมๆ ไปผ่านกรรมวิธีแฟตวอชกับวอดก้าเพื่อกำจัดความมันออกให้เหลือเฉพาะกลิ่นและเหล้าใสๆ เสริมด้วยลิเคียวชิลีที่เด่นเรื่องกลิ่นสโม้กและสมุนไพร และเพิ่มรสชาติแนวรีเฟรชชิ่งด้วยเมล่อนและมะนาว เสิร์ฟคู่กับขนมปังแท่งคล้ายบุหรี่

และ Concubine (420 บาท) จากหนังเรื่อง Farewell My Concubine (หลายแผ่นดิน แม้สิ้นใจ ก็ไม่ลืม) ของผู้กำกับ ‘เฉิน ข่ายเกอ’ ที่เล่าเรื่องของเด็กผู้ชายในโรงงิ้วที่ถูกบังคับให้รับบทนางสนมตั้งแต่เด็ก จนเขาหลงรักนักแสดงชายที่รับบทเป็นพระราชา

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่หนังรักสมหวัง แก้วนี้จึงเข้มขึ้นมาหน่อยแต่ยังไม่ใช่ค็อกเทลที่ดื่มยาก เบสเหล้าของ Concubine จะใช้เมสคาล เหล้าส้ม ผสมกับน้ำส้ม เอลเดอร์ฟลาวเวอร์ และมะนาว ขอบแก้วครึ่งหนึ่งเคลือบด้วยผงรสชาติออกเผ็ดๆ เฝื่อนๆ เหมือนความรักที่ร้อนแรงอมขมขื่น แต่ถ้าจิบฝั่งที่ไม่ได้เคลือบก็จะได้สัมผัสรสชาติของความรักอีกแบบหนึ่ง 

สุดท้ายคือ Lucky Duck (420 บาท) ค็อกเทลชื่อเดียวกับบาร์และไม่ได้มีแรงบันดาลใจมาจากหนังจีนเรื่องใด แต่เป็นเครื่องดื่มที่บ่งบอกคาแร็กเตอร์ของร้านได้เป็นอย่างดี ใครผิดหวังที่ไม่มีข้าวหน้าเป็ดให้สั่ง แก้วนี้อาจพอทดแทนได้เพราะนอกจากเบสเหล้าอย่างจิน ลิเคียวร์เสาวรส และเวอร์มุธแล้ว Lucky Duck ยังมีส่วนผสมของเครื่องเทศบางชนิดที่ใช้หมักเป็ดย่าง จิบแล้วจะได้กลิ่นบางๆ เสิร์ฟคู่กับคุกกี้รูปเป็ดตัวจิ๋ว

เอาจริงๆ ถึงจะไม่มีข้าวหน้าเป็ดให้สั่ง แต่ที่ร้านก็มีอาหารอย่างอื่น แต่จะเน้นเป็นแนวกับแกล้ม ฟิงเกอร์ฟู้ด กินเพลินๆ เช่น เป็ดรมควัน ครีบปลากระเบนทอด ปลาหมึกทอด เนื้อสันในหรือหอยเสียบย่าง ฯลฯ ราคาเริ่มต้นจานละ 150 บาท

และอีกหนึ่งไฮไลต์คือเสียงเพลงภายในร้านซึ่งมีทั้งเครื่องเล่นแผ่นเสียงไวนิลแบบโอลด์สคูลและดีเจรุ่นใหม่ที่จะมาสร้างความบันเทิงด้วยจังหวะดิสโก้ยุค 70 ร่วมกับดนตรีแจ๊ส ฮิปฮอป แซมๆ ด้วยเพลงไทยตามมู้ดของลูกค้า ซึ่งรวมๆ แล้ว Lucky Duck ก็คือบาร์ที่เน้นสนุก ร้องได้ นั่งโยกตามได้

Lucky Duck อยู่บนชั้น 3 ของ Contento ถนนไมตรีจิตต์ เปิดทุกวันพุธ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่ 19.00 - 01.00 น. สำรองที่นั่งล่วงหน้า โทร. 090 898 2397

Suriyan Panomai
เขียนโดย
Suriyan Panomai

รายละเอียด

ที่อยู่
472-476 Maitri Chit Rd Bangkok
Bangkok
10110
ข้อมูลติดต่อ
ดูเว็บไซต์
090 898 2397
เปิดบริการ
เปิดทุกวัน 19:00 - 01:00 น.
การโฆษณา
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ