Cup Noodles Museum
Supachai Panyaviwat / Shutterstock.com

11 พิพิธภัณฑ์แปลก (แต่น่าสนใจ) จากทั่วโลก ชวนอยากเดินทางไปชมเองกับตา

ลองคิดภาพว่าคุณกำลังเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์เส้นผม หรือไปเดตที่พิพิธภัณฑ์ปรสิตดูสิ

Kenika Ruaytanapanich
เขียนโดย
Kenika Ruaytanapanich
การโฆษณา

โลกนี้มีมิวเซียมที่สวยงามอยู่หลายแห่ง นักเดินทางจะเข้าใจดีว่าแต่ละเมืองก็จะมีพิพิธภัณฑ์ที่บันทึกประวัติศาสตร์และสะท้อนศิลปวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ที่น่าชื่นชมต่างกันไป ซึ่งนั่นรวมถึงมิวเซียมสุดแปลกที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก และยังอาจจะเคยคิดๆ ถึงที่มาที่ไปเหตุผลของการก่อตั้งมิวเซียมเหล่านี้ หรือกระทั่งมันจะแปลกที่สุดได้มากแค่ไหนกันนะ

วันนี้เราเลยอยากไปทุกคนเดินทางไปดูกันว่าในแต่ละประเทศจะมีพิพิธภัณฑ์แปลกๆ รูปแบบไหนบ้าง ที่หากเดินทางไปเที่ยวแล้วก็ควรค่าแก่การแวะไปชมดูสักหน่อย เราจะพาทุกคนไปรู้จักตั้งแต่ มิวเซียมสัตว์ลี้ลับ ไปจนถึงมิวเซียมโรคผิวหนังที่สมจริงจนไม่แน่ใจเลยว่าจะเดินชมจนครบทุกชิ้นรึเปล่า

พิพิธภัณฑ์แปลกแต่น่าสนใจที่เราอยากแนะนำวันนี้จะมีที่ไหน ประเทศอะไรบ้าง รีบมาดูกันเลยดีกว่า

11 พิพิธภัณฑ์แปลกทั่วโลก

ที่นี่คือ “พิพิธภัณฑ์ของคนอกหัก” ตั้งอยู่ในเมืองซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำสิ่งของของคู่รักที่เลิกรากันไปมาจัดแสดง พร้อมมีโน้ตสั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งของชิ้นนั้นไว้ให้เราอ่านเรื่องราวอันเจ็บปวดกันด้วย โดยสิ่งของที่นำมาจัดแสดงก็มีตั้งแต่ แหวนแต่งงาน ตุ๊กตา เสื้อผ้า ขวาน แจกัน รองเท้า

และพิพิธภัณฑ์นี้ก็ไม่ได้เปิดขึ้นมาเพื่อความแปลกใหม่อย่างเดียวนะ เพราะตั้งใจเปิดมาเพื่อให้ทุกคนที่เผชิญอาการ ‘อกหัก’ ได้มาแชร์เรื่องราว และรู้ไว้ว่าคุณไม่ได้กำลังอกหักอยู่คนเดียว

ราคาบัตร: 40 คูนา (ประมาณ 210 บาท)

สถานที่: https://g.page/brokenships?share 

ในเมื่อเป็นสถานที่ที่ให้กำเนิดเมนู ‘บะหมี่ถ้วยกึ่งสำเร็จรูป’ ขึ้นมา ก็ต้องยกให้เมืองอิเคดะ จังหวัดโอซากา เหมาะจะเป็นเมืองที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์บะหมี่ถ้วย” มากที่สุดนั่นล่ะ โดยพิพิธภัณฑ์จะเล่าประวัติให้ฟังตั้งแต่คุณโมโมฟุกุ อันโดะ ผู้ก่อตั้งแบรนด์นิสชิน คิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปราเม็งไก่ ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1958 เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนอาหารหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนฮิตติดลม และพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นวัฒนธรรมอาหารยอดฮิตไปทั่วโลก — จนถึงนอกโลก (Space Ramen)

พิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงและกิจกรรมน่าสนุกได้เข้าร่วมหลายโซนมาก และนอกจากนี้ หากใครได้ไปที่มิวเซียมก็จะได้ลองทำบะหมี่ถ้วยพร้อมฉลากเป็นของตัวเองด้วยนะ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่การทำเส้นไปจนถึงขั้นตอนการแพ็คเลย

ราคาบัตร: เข้าชมฟรี เสียเฉพาะค่ากิจกรรม เริ่มต้น 400 - 800 เยน (ประมาณ 120 - 240 บาท)

สถานที่: https://goo.gl/maps/FdfjH4y2r3PYM8uP7 

การโฆษณา

แม้จะแอบดูน่ากลัวไปนิดนึง เพราะลองคิดภาพตอนเดินเข้าไปแล้วรู้สึกว่ามีสายตานับร้อยคู่จ้องเราอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น ที่นี่ก็เป็นอีกพิพิธภัณฑ์ของสะสมที่น่าสนใจมากเลย เพราะ “พิพิธภัณฑ์หุ่นกระบอก” หรือ หุ่นเชิดพากษ์เสียง Vent Haven Museum ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐเคนทักกี ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นมิวเซียมหุ่นพากษ์เสียงแห่งเดียวในโลก โดยมีตุ๊กตาหุ่นกระบอกจัดให้เราชมอยู่มากถึง 900 ตัว ทั้งหมดเป็นของสะสมส่วนตัวที่จะเปิดให้เข้าชมตามการนัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น 

พิพิธภัณฑ์ที่มีค่าเข้าชมที่ชัดเจน แต่จะมีขั้นต่ำการบริจาคเพื่อบำรุงและดูแลพิพิธภัณฑ์กำหนดไว้ อีกทั้ง หากใครแวะไปก็ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเดินคนเดียว เพราะพิพิธภัณฑ์จะมีพนักงานผู้รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับหุ่นเหล่านี้พาเราเดินชมด้วย

ราคาบัตร: 10 ดอลล่าร์ (บริจาคขั้นต่ำ ประมาณ 330 บาท)

สถานที่: https://goo.gl/maps/PT9xyFWNtwfnwDb69 

หากดูเผินๆ หลายคนอาจคิดว่านี่คือซากสถาปัตยกรรมจากยุคโบราณ แต่ที่จริงแล้ว MUSA เป็น “พิพิธภัณฑ์ศิลปะใต้น้ำ” ที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ผสมธรรมชาติ อยู่ในเมืองแคนคูน ประเทศเม็กซิโก พิพิธภัณฑ์เป็นขององกรณ์ไม่แสวงหาผลกำไรที่อยากชวนทุกคนมาช่วยกันอนุรักษ์ปะการังและโลกใต้ทะเล โดยทุกคนจะชมชิ้นงานต่างๆ ได้ก็ต่อเมื่อสวมสน็อกเกิ้ลและดำน้ำลงไป งานแต่ละชิ้นจะเป็น ‘สถาปัตยกรรมแกะสลัก’ มีให้เลือกชมหลายโซน แบ่งตามระดับความลึกของน้ำ ส่วนชิ้นงานทั้งหมดที่มีให้ชมก็มากกว่า 500 ชิ้น

ราคาบัตร: 70 ดอลล่าร์ (ประมาณ 2,400 บาท)

สถานที่: https://goo.gl/maps/EKZ7DGKPqhyNbUqJ6 

การโฆษณา

“สุสานใต้ดินคาปูชิน” แห่งนี้อยู่บนเกาะซิซิลี ประเทศเทศอิตาลี น่าจะเป็นสถานที่ที่หลายคนเคยรู้จักมาบ้างแล้ว เพราะสุสานเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมสถานที่เก็บศพและมัมมี่กว่าพันศพได้แบบใกล้ชิดมากๆ หลายร่างถูกแขวนให้ชมอยู่บนฝาผนัง หรือบ้างก็อยู่ในกล่องเก็บศพ…

โดยที่แห่งนี้มีอายุหลายร้อยปีแล้ว ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1700 ตอนนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บศพที่ใช้วิธีรักษาแบบมัมมี่ ซึ่งมีให้ชมหลายขั้นตอนเลยด้วย

ราคาบัตร: 3 ยูโร (ประมาณ 120 บาท)

สถานที่: https://goo.gl/maps/E1M8nK53je258CMcA 

ไม่น่าเชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์ปรสิต” ในเมืองเมงุโระ กรุงโตเกียว จะเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวบนโลกที่จัดแสดงเกี่ยวกับ ‘ปรสิต’ โดยเฉพาะ แต่คิดดูอีกทีก็ไม่น่ามีใครอยากทำงานกับเจ้าปรสิตเหล่านี้ในทุกๆ วันอยู่แล้ว โดยพิพิธภัณฑ์นี้เกิดขึ้นจากผลงานค้นคว้าวิจัยของแพทย์ชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 1953 ก่อนจะนำมาจัดแสดงให้ทุกคนเข้ามาชมความหลากหลาย ความน่าสนใจ และความน่ากลัวของปรสิตที่ตาเรามองไม่เห็นเหล่านี้ได้

พิพิธภัณฑ์จะมีทั้งหมด 2 ชั้น ไฮไลท์ของมิวเซียมนี้คือ พยาธิตัวตืดขนาด 9 เมตร และพื้นของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลที่จะเกิดหากปรสิตเหล่านี้เข้าไปอยู่ในตัวของเรา ส่วนอีกเรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็คือ ที่นี่เป็นอีกสถานที่เดตยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นด้วยนะ

ราคาบัตร: เข้าชมฟรี (สามารถบริจาคได้)

สถานที่: https://goo.gl/maps/qFkvdZ3opgL2aCQH7 

การโฆษณา

แม้จะไม่ใช่อาหารหลักของประเทศเรา แต่ก็เชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์ขนมปัง” ก็ยังน่าสนใจอยู่ดี เพราะก็ชวนสงสัยเหมือนกันว่า กว่าจะกลายมาเป็นขนมปังที่เรากินอยู่ทุกวันนี้ได้ คนในยุคโบราณที่ไม่มีเครื่องมือหรือความรู้เช่นในสมัยนี้ พวกเขาสามารถค้นพบขนมปัง และหามีวิธีทำขนมปังได้อย่างไร เรียกได้ว่าที่นี่อาจเป็นอีกหนึ่งมิวเซียมที่สำคัญต่อวัฒนธรรมอาหารของมนุษย์เลยก็ได้นะ

ทุกคนจะได้ชมประวัติศาสตร์การทำขนมปังย้อนกลับไปถึง 6,000 ปีเลย โดยมิวเซียมนี้จะตั้งอยู่ที่เมืองอีเบอร์ก็อตเซน (Ebergötzen) ประเทศเยอรมนี

ราคาบัตร: 6 ยูโร (ประมาณ 240 บาท)

สถานที่: https://goo.gl/maps/DQhheNBSTvA5vaeH8 

พิพิธภัณฑ์นี้เปิดอยู่ในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ ประเทศลิทัวเนีย ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์หลักที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยด้านในก็จะมี “พิพิธภัณฑ์ซาตาน” ที่เต็มไปด้วยของสะสมของศิลปินคนหนึ่งผู้ชื่อว่า Antanas Žmuidzinavičius เขาเริ่มสะสมสิ่งของเกี่ยวกับซาตานเหล่านี้ตั้งแต่ยุคสมัยที่สหภาพโซเวียตมีการสั่งห้ามจัดแสดงหรือครอบครองวัตถุเกี่ยวกับศาสนา

พิพิธภัณฑ์ซาตานแห่งนี้ เริ่มเปิดให้เข้าชมมาตั้งแต่ปี 1966 ด้านในเต็มไปด้วยสิ่งของเกี่ยวกับซาตานกว่า 3,000 ชิ้น แถมใครดูเสร็จแล้วก็ยังมีมิวเซียมอื่นๆ ให้เดินเล่นชมอีกเพียบ

ราคาบัตร: 5 ยูโร (ประมาณ 200 บาท)

สถานที่: https://g.page/CiurlionioDailesMuziejus?share

การโฆษณา

มิวเซียมนี้เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวที่จัดแสดงและศึกษาเกี่ยวกับ ‘สัตว์ลี้ลับ’ หรือสัตว์สายพันธุ์ที่ไม่เคยมีการค้นพบมาก่อน ซึ่งจะใช้คำว่าสัตว์ประหลาดเลยก็ได้ อย่างเช่น เยติ บิ๊กฟุต นางเงือก สัตว์ประหลาดใต้ทะเล สัตว์ในตำนานต่างๆ โดย “พิพิธภัณฑ์สัตว์ลี้ลับ” แห่งนี้เกิดจากการศึกษาค้นคว้าของทีมวิจัยมานานกว่า 50 ปี ก่อนจะเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เราเข้าชมอยู่ที่เมืองเมน ประเทศพอร์ตแลนด์

นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ก็ยังศึกษาเกี่ยวกับสัตว์สายพันธุ์ใหม่ๆ ที่เพิ่งค้นพบเป็นครั้งแรกด้วยนะ อย่างเช่น ปลาซีลาแคนท์ โอกาปี ปลาฉลามเมกาเมาท์ ไจแอนท์แพนด้า หรือโกริลล่าภูเขา

ราคาบัตร: 10 ดอลล่าร์ (ประมาณ 340 บาท)

สถานที่: https://goo.gl/maps/LCVG198WxfjnBQ8t5 

ที่นี่ก็น่าสนใจไม่หยอก “พิพิธภัณฑ์โรคผิวหนัง” ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งของกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส แน่นอนว่าด้านในก็รวมไว้แทบทุกโรคเกี่ยวกับผิวหนังจริงๆ และนำมาจัดแสดงให้เราได้ชมกันอย่างสมจริงเลยอีกด้วย มีทั้งหุ่นขี้ผึ้งลงสีเสมือนจริง หุ่นผิวติดเชื้อแบบสามมิติ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งที่นี่ไม่เป็นเพียงพิพิธภัณฑ์ให้คนทั่วไปเข้าชมนะ เพราะยังเป็นสถานที่ให้นักศึกษาแพทย์ได้มาเดินหาความรู้กันด้วย

ราคาบัตร: -

สถานที่: https://goo.gl/maps/SQBg6e2LaupzETqu7

การโฆษณา

หากจะมองว่าพิพิธภัณฑ์นี้น่ากลัวก็คงน่ากลัว แต่หากจะมองว่าเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจก็คงใช่เหมือนกัน เพราะนี่คือ “พิพิธภัณฑ์เส้นผม” ที่สร้างขึ้นมาโดยช่างปั้นดินเผาชาวตุรกีคนหนึ่ง นามว่า Chez Galip ซึ่งเรื่องทั้งหมดเริ่มจากเพื่อนของเขาจากเมืองนี้ไปโดยไม่บอกกล่าวว่าจะไปอยู่ที่ไหน และทิ้งไว้ให้เพียงเส้นผมของเธอ หลังจากนั้นเมื่อมีลูกค้าแวะเวียนมาและได้ยินเรื่องราวนี้ พวกเธอก็ตัดผมตัวเองและมอบให้ช่างปั้นดินเผาไว้เช่นกัน จนรู้ตัวอีกที Chez Galip ก็มีเส้นผมของผู้หญิงเก็บไว้มากกว่า 16,000 ช่อแล้ว และมันก็มากพอที่จะนำมาเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เราได้ชมกันนี่ล่ะ

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดอยู่ที่เมืองแคปพาโดเชีย ประเทศตุรกี เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่ขึ้นชื่อว่าทิวทัศน์สวยมากเลยทีเดียว หากใครได้ไปก็อย่าลืมแวะลงไปดูมิวเซียมนี้กันหน่อยนะ เพราะเปิดอยู่ในถ้ำใต้ดิน หรือจะซื้อเครื่องปั้นของช่างคนนี้กลับไปเป็นที่ระลึกหน่อยก็ได้

ราคาบัตร: เข้าชมฟรี

สถานที่: https://g.page/chez-galip-hair-museum?share 

เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา