The Mustang Blu

  • Hotels
  • เยาวราช
  • 5 จาก 5 ดาว
  • แนะนำ
  1. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  2. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  3. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  4. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  5. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  6. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  7. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  8. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  9. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  10. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  11. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  12. The Mustang Blu
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
การโฆษณา

Time Out พูดว่า

5 จาก 5 ดาว

ภาพการตกแต่งภายในที่เต็มไปด้วยของวินเทจและสัตว์สตัฟฟ์ คือสิ่งที่ดึงดูดให้หลายคนหันมาสนใจตึกโคโลเนียลเก่าๆ บนถนนไมตรีจิต แห่งนี้ แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อน ที่นี่ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมากไปกว่าตึกเก่าโทรมๆ ที่เปิดเป็นอาบอบนวด บางคนอาจจะเคยผ่านหูผ่านตาบ้างตอนขับรถไปเยาวราชหรือสำเพ็ง เช่นเดียวกับ จอย-อนันดา ฉลาดเจริญ โชว์ไดเรกเตอร์ เทสต์ดีแห่งวงการแฟชั่นไทย ที่ภายหลังได้กลายมาเป็นผู้แปลงโฉมตึกนี้ให้กลายเป็น The Mustang Blu โรงแรมสุดวินเทจที่ใครๆ ก็พูดถึง

หลังจากประสบความสำเร็จกับโรงแรมแห่งแรกชื่อ The Mustang Nero ย่านพระโขนง จอยก็เริ่มมองหาที่ทางเพื่อขยับขยายธุรกิจ โดยเดินทางไปสำรวจอาคารนับร้อยแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะปักหลักที่กรุงเทพฯ เพราะเป็นพื้นที่ที่ถนัดที่สุด จนได้มาเจอตึกนี้ที่ลงตัวทั้งเรื่องของพื้นที่ รูปทรง และข้อตกลงต่างๆ

ประวัติคร่าวๆ เท่าที่จอยรู้เกี่ยวกับตึกนี้คือ เมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้วเคยเป็นที่ตั้งของธนาคาร Bank of China ก่อนจะกลายเป็นอาบอบนวดตั้งแต่ประมาณ 60 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบตึกเก่าอยู่แล้ว อายุกว่าร้อยปีและประวัติของตึกจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับจอย แถมยังยินดีที่จะเข้ามาเป็นคนบูรณะตึกแห่งนี้ ดีกว่าปล่อยให้เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาแล้วโดนรื้อทิ้ง ทั้งๆ ที่ตึกมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม ที่สำคัญคือเป็นการลดการก่อสร้างใหม่ด้วย

ช่วง 5-6 เดือน ของการรีโนเวต ถ้ามีคนเดินเข้ามาในอาคาร ไม่ว่าจะคนรู้จักหรือไม่รู้จัก ทุกคนจะพูดกับจอยทำนองว่าที่นี่คือแหล่งอโคจรบ้าง โครงสร้างผุพังบ้าง หรือไม่ก็พูดไปทางเรื่องไสยศาสตร์ แต่พอทำเสร็จ คำพูดจะเปลี่ยนเป็น “ทำยังไงถึงเจอที่นี่” ก็ยิ่งทำให้จอยเชื่อมั่นว่าคำว่า ‘อโคจร’ หรืออะไรต่างๆ นานา ไม่มีผลอะไรเลย เพราะตึกนี้ไม่เกี่ยว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสิ่งที่มนุษย์เอาเข้ามาทำต่างหาก

ตอนที่เป็นอาบอบนวด หน้าต่างทุกบานของตึกถูกปิดหมด ไม่มีแสงแดดเข้ามาในอาคารนานถึง 60 ปี บางส่วนของอาคาร เช่น ยอดเสา คิ้วบัว ผนังโค้ง หรือโดมที่เป็นช่องแสงจากหลังคาเชื่อมทะลุลงมาจนถึงชั้นล่างก็ถูกปิดอยู่ใต้ฝ้าและผนังเบา ทุกอย่างเปรียบเหมือนความเจ็บปวดของตึก แต่วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ตึกจะได้เปิดเผยความงามที่แท้จริงให้ทุกคนได้เห็น และจอยก็เลือกที่จะไม่ปิดบังร่องรอยของกาลเวลารวมถึงทุกสิ่งที่ตึกนี้เคยผ่านมา เพราะจอยมองว่าสิ่งเหล่านั้นคือ ‘ความเจ็บปวดที่งดงาม’

The Mustang Blu เป็นการตั้งชื่อให้พ้องกับ The Mustang Nero เดิมทีใช้คำว่า Blues ที่หมายถึงเพลงบลูส์ หรือ ‘เพลงเศร้า’ แต่ระหว่างก่อสร้างพบปัญหาค่อนข้างเยอะ ด้วยความเชื่อแบบไทยๆ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Blu ที่หมายถึงสีฟ้า ซึ่งเป็นสีที่สว่าง เพื่อให้อะไรๆ ดีขึ้น (อย่างน้อยก็ช่วยได้ในด้านจิตใจ) และถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่ามีสีฟ้าแซมอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ของโรงแรม

พูดถึงเรื่องสไตล์การตกแต่ง ในฐานะคนที่ลงมือทำเองทุกขั้นตอน จอยเรียกมันว่า ‘วินเทจรีมิกซ์’ เพราะเป็นการรวมความวินเทจหลากหลายสไตล์ไว้ด้วยกัน มีทั้งของวินเทจจริงๆ และของใหม่ที่ออกแบบให้ดูเป็นวินเทจ เช่น เคาน์เตอร์ลงทะเบียนบริเวณทางเข้า ที่มองแทบไม่ออกว่าเป็นของใหม่ เพราะจอยให้ความสำคัญกับการเลือกใช้สีและวัสดุเพื่อให้ดูกลมกลืนกับของเก่ามากที่สุด ส่วนสัตว์สตัฟฟ์หลายตัวที่ดูราวกับมีชีวิต จอยได้มาจากเพื่อนที่เป็นคนนำเข้าสัตว์สตัฟฟ์และบางตัวก็เคยใช้เป็นพร็อปในการถ่ายแฟชั่นมาแล้วด้วย 

The Mustang Blu มีพื้นที่ทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นล็อบบี้ และจุดทานอาหารเช้าของแขกที่เข้าพัก ส่วนชั้น 2-3 จะเป็นพื้นที่ของห้องพัก มี 2 ขนาดคือ 30 ตารางเมตร กับ 60 ตารางเมตร ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 4,500 บาทต่อคืน มีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนเข้ามาพัก และเร็วๆ นี้เราอาจได้เห็นคาเฟ่สวยๆ ที่ชั้น 1 ของโรงแรมด้วย

Suriyan Panomai
เขียนโดย
Suriyan Panomai

รายละเอียด

ที่อยู่
721
ถนนไมตรีจิต
แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
กรุงเทพฯ
ข้อมูลติดต่อ
ดูเว็บไซต์
062 293 6191
ราคา
เริ่มต้น 4ม500 บาทต่อคืน
การโฆษณา
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ