ย้อนดูสารานุกรมอสูรกายใน Stranger Things ซีซัน 1-4 ก่อนเข้าสู่บทสุดท้าย

เจ้าลูกอ๊อดประหลาดที่กลายเป็นเพื่อน (และภัย) ในภายหลัง ของดัสติน ปรากฏตัวครั้งแรกในซีซัน 2 เมื่อดัสตินเก็บมันมาจากถังขยะและตั้งชื่อว่า D’Artagnan หรือ ‘ดาร์ต’ เพราะมันชอบกินช็อกโกแลต 3 Musketeers อย่างน่าเอ็นดู แต่ความน่ารักนี้ก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะเจ้าสัตว์ตัวจิ๋วนี้เติบโตเร็วผิดปกติ กินทุกอย่างที่ขวางหน้า รวมถึง ‘มิวส์’ แมวของดัสติน ก่อนที่จะกลายร่างเป็น Demodog ที่ทั้งว่องไวและกระหายเลือด เป็นตัวอย่างคลาสสิกของสิ่งมีชีวิตจาก Upside Down ที่เริ่มจากความน่ารักก่อนกลายเป็นฝันร้ายของใครหลายคน

ร่างวัยรุ่นของ Demogorgon หรือเรียกได้ว่าหมาปีศาจจากโลกกลับด้าน ปรากฏตัวในซีซัน 2 มันคือสิ่งมีชีวิตสี่ขาที่เคลื่อนไหวเร็ว มีผิวหนังเปียกชื้น และหัวคล้ายกลีบดอกไม้ ทำงานเป็นฝูงและโจมตีพร้อมกันอย่างแม่นยำ มันสามารถขุดอุโมงค์ใต้ดินได้ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังฉากสุดสะเทือนใจเมื่อมันฆ่า ‘บ็อบ นิวบี้’ แฟนของจอยซ์ ไบเออร์ส ในซีซัjนที่ 2 ความดุร้ายระดับนี้จึงทำให้ Demodog ขึ้นแท่นสัตว์ร้ายที่แฟนๆ จำไม่ลืม

ต้นกำเนิดความสยองของซีรีส์ที่เปิดฉากทั้งหมดในซีซัน 1 ‘Demogorgon’ คืออสูรกายจาก Upside Down ลักษณะทางกายภาพคือรูปร่างเหมือนคน ไร้ใบหน้า มีหัวเป็นกลีบดอกไม้บานออกเผยให้เห็นปากที่เต็มไปด้วยฟันแหลมคม มันล่าเหยื่อจากกลิ่นและเสียง เพราะไม่มีดวงตา Demogorgon สามารถเดินข้ามมิติได้ ระหว่างโลกจริงกับ Upside Down ทำให้มันสามารถโผล่มาในเมืองฮอว์กินส์ได้ทุกเมื่อ จุดอ่อนของมันคือไฟและความร้อน แต่ด้วยความแข็งแกร่งและความเงียบในการล่า ทำให้มันกลายเป็นสัญลักษณ์แห่ง Stranger Things ไปโดยปริยาย

นี่อาจจะไม่ใช่สัตว์ประหลาดแต่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในโลกกลับด้านที่มีพลังทำลายล้างเยอะเหมือนกัน โดยเจ้าเถาวัลนี้คือสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายพืชแต่เคลื่อนไหวได้เหมือนงู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจิตใจของ Mind Flayer ที่อยู่ในโลก Upside Down เถาวัลย์เป็นตัวกลางที่เชื่อมโลกทั้งสองมิติ ทำให้ Mind Flayer และ Vecna สามารถส่งอิทธิพลมายังโลกจริงได้ โดยเถาวัลย์มรณะนี้สามารถโผล่ออกมาจากประตูมิติ และเข้ามาในโลกจริง เช่น ในอุโมงค์ใต้เมือง Hawkins ที่มันกลายเป็นภัยคุกคามจริงจังต่อผู้ที่เข้าไปสำรวจ ส่วนสกิลและจุดแข็งของมันก็คือ สามารถจับยึด บีบรัด และสังหารมนุษย์ได้ ส่วนจุดอ่อนคือ ความร้อนและไฟเท่านั้นที่จะทำร้ายพวกมันได้

ผู้อยู่เบื้องหลังทุกสิ่งในโลก Upside Down ‘Mind Flayer’ ปรากฏตัวครั้งแรกในซีซันที่ 2 เป็นเงามืดขนาดมหึมาที่ลอยอยู่เหนือเมืองฮอว์กินส์ มันคือปีศาจจอมบงการที่ควบคุมความคิดของสิ่งมีชีวิต รวมถึง ‘วิล ไบเออร์ส’ ที่ถูกมันเข้าสิง
Mind Flayer ไม่เคยปรากฏตัวในรูปร่างที่ชัดเจน แต่มันคือพลังแห่งจิตสำนึกชั่วร้ายที่คอยควบคุมเถาวัลย์ Demodog และ Vecna ในภายหลัง มันก็ถือเป็นบอสใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังทุกฤดูกาล และคาดว่าจะกลับมามีบทบาทสำคัญในซีซัน 5 อย่างแน่นอน

The Spider Monster สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่เกิดจากการรวมร่างของคน และสัตว์ในเมืองฮอว์กินส์ ปรากฏตัวครั้งแรกในซีซัน 3 เมื่อ Mind Flayer ใช้พลังควบคุมจิตใจของผู้คนให้หลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน ลักษณะของมันคือแมงมุมยักษ์ที่มีความสูงกว่า 9 เมตร ผิวหนังเหี่ยวยุ่ยและเต็มไปด้วยเศษกระดูกของคนที่ถูกมันกลืนกิน

และเป็นอีกหนึ่งตัวการสังหาร ‘บิลลี่’ พี่ชายของแม็กซ์ ในฉากสุดสะเทือนใจกลางห้าง Starcourt โดยจุดแข็งของมันก็คือความมหึมาและความแข็งแกร่ง แต่จุดอ่อนก็ยังคงเป็นไฟและความร้อนเช่นเดิม

Demobats ค้างคาวปีศาจที่โผล่มาในซีซัน 4 ลูกสมุนของ Vecna ทำหน้าที่เป็น ‘ดวงตาและหู’ ของโลก Upside Down ด้วยจำนวนมหาศาลและการบินที่รวดเร็ว จึงทำให้มันสามารถตรวจจับผู้บุกรุกและโจมตีพร้อมกันได้
Demobats เป็นสิ่งมีชีวิตที่บินได้ชนิดเดียวในจักรวาล Upside Down และแม้จะดูตัวเล็กแต่ความร้ายแรงไม่ธรรมดา ฉากที่ ‘เอ็ดดี้ มันสัน’ ต้องสละชีวิตและต่อสู้กับพวกมัน ได้กลายเป็นหนึ่งในฉากสุดไอคอนิกที่แฟน Stranger Things จดจำมากที่สุดในซีซันที่ 4 เลยทีเดียว

ศัตรูตัวฉกาจแห่งซีซัน 4 ผู้บงการเบื้องหลังทุกเหตุการณ์ในเมืองฮอว์กินส์ ‘Vecna’ เดิมชื่อ เฮนรี ครีล หรือ 001 เด็กชายพลังจิตคนแรกที่ถูก ดร. เบรนเนอร์ จับทดลอง ก่อนจะหลุดเข้าไปใน Upside Down และกลายเป็นปีศาจผู้ครอบงำทุกสรรพสิ่ง

จุดเด่นของมันคือมีพลังในการควบคุมจิตใจ และเข้าถึงความกลัวของเหยื่อผ่านภาพหลอน ก่อนจะสังหารอย่างโหดเหี้ยม เรียกได้ว่านี่คือ Last Boss และจอมบงการแห่งฝันร้ายตัวสำคัญที่เชื่อมโยงกับ Mind Flayer โดยตรง และแน่นอนว่าในซีซันสุดท้ายนี้ Vecna จะกลับมาอีกครั้งเพื่อปิดบัญชีทุกอย่างในตอนจบของซีซันที่ 5

เตรียมตัวให้พร้อม เพราะสงครามสุดท้ายระหว่างฮีโร่แห่งฮอว์กินส์กับอสูรกายจาก Upside Down กำลังจะมาถึงใน Stranger Things  ซีซันที่ 5 เริ่มออกอากาศทาง Netflix โดยแบ่งเป็น 3 พาร์ท โดยพาร์ทแรก เริ่มวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 พาร์ทที่ 2 เริ่มวันที่ 26 ธันวาคม 2568 และตอนจบของซีซันจะปล่อยวันที่ 1 มกราคม 2569 ซีซันสุดท้ายนี้มีทั้งหมด 8 ตอน และจะเป็นบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด