เพลย์ลิสต์เพลงผีบอก เซฟไว้เปิดฟังวันปล่อยผี

‘พี่แจ็คครับ ประมาณตี 01:15 ฝนตก ผมนอนอยู่บ้านครับ
เผอิญบ้านผมอยู่ใกล้วัด ผมได้ยินเสียงหมาหอนข้างๆ จากบ้านพัก..’

ฮาโลวีนนี้โดนผีหลอกอาจไม่เจ็บเท่าโดนคนหลอก อีกหนึ่งเพลงที่คนอกหักต้องอินแน่! ต้อนรับเทศกาลแห่งความหลอนด้วยผลงานล่าสุดจากศิลปินขวัญใจวัยรุ่นเจนซี Tattoo Colour ที่ครั้งนี้มาพร้อมคอนเซ็ปต์สุดครีเอทีฟในแบบฉบับ ‘Ghost Pop’ ฟังชื่อก็น่าขนลุกแล้ว โดยเฉพาะการร่วมงานกับ พี่แจ็ค The Ghost Radio เจ้าพ่อเรื่องผี เพลงนี้ผสมความเศร้าและความหลอนเข้าด้วยกันอย่างมีชั้นเชิง ทั้งแปลกใหม่และยังคงกลิ่นอายความเป็นแทททูได้ครบทุกจังหวะ 

โดดเด่นทั้งเรื่องคอนเซ็ปต์เพลงที่แสนจะครีเอทีฟ ซาวด์กีตาร์นัวๆ ที่มอบรสชาติใหม่ๆ แต่ยังคงความเป็นแทททูได้แบบไม่ทิ้งลาย จนชาวนัวคอนเฟิร์มเป็นเสียงเดียวกันว่าสมศักดิ์ศรีแบบสุดๆ ยิ่งได้ท่อนแร็ปของมือกีตาร์ขวัญใจเด็กดื้ออย่าง รัซซี่ AKA (Father of Yorks) มาประกบกับเสียงร้องอบอุ่นของดิมเรียกได้ว่าเป็นอีกมู้ดหนึ่งที่อาจจะไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ

‘ฝากเอาไว้ในกายเธอ ให้เธอรับไออุ่น 
นำไอละมุนไปจากฉัน เพราะมันจะคอยติดตาม
ไปกับตัวเธอนั้น นานเท่านานที่เธอไกล’

ช่วงที่เพลงประกอบภาพยนตร์นี้เพิ่งออกมาใหม่ๆ เชื่อว่าหลายคนที่ได้ฟังก็คงลืมเวอร์ชั่นต้นฉบับของ พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ไปโดยปริยาย และเชื่อว่าเนื้อเพลงท่อนนี้คงยังติดหูใครหลายคนมาจนถึงทุกวันนี้ กับเพลง ‘ฝากไว้ (Cover Version)’ ในเวอร์ชั่นของ วิโอเลต วอเทียร์ ที่ถูกใช้เป็นเพลงประกอบหนังสยองขวัญชื่อดัง ‘ฝากไว้..ในกายเธอ’ จากค่าย GTH ซึ่งในตอนนั้นถือเป็นการแจ้งเกิดครั้งสำคัญของวี หลังจากเพิ่งผ่านเวที The Voice Thailand มาไม่นาน

ความพิเศษของเพลงนี้คือความหลอนแบบนุ่มละมุน ถ้าฟังเฉพาะเสียงร้องจะให้ความรู้สึกเย็นวาบ เหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในถ้อยคำ แต่เมื่อผสานกับทำนองและดนตรีที่อบอุ่น เพลงนี้ก็กลับกลายเป็นบทเพลงรักเศร้าๆ ที่มีความหลอนซ่อนอยู่ในทุกคำร้อง ฟังแล้วทั้งเศร้า ทั้งขนลุกในเวลาเดียวกัน

‘ฉันจะเก็บเอาไว้ในตู้เย็น พร้อมจะเปิดอีกครั้งให้ได้กลิ่น 
ของเธอ ของเธอ อีกครั้ง…’

บทเพลงจากวงอินดี้ซาวด์ฟุ้งสุดละมุน Plasui Plasui อาจเพลงที่หากใครได้ฟังตอนแรกอาจเผลอยิ้ม เพราะคิดว่าเป็นเพลงรักโรแมนติกหวานๆ ฟีลอบอุ่นหัวใจตามชื่อเพลง แต่เมื่อตั้งใจโฟกัสกับความหมายของเนื้อเพลงที่แฝงอยู่ดีๆ แล้ว ล่ะก็ อาจจะทำให้ความโรแมนติกนั้นพังครืนกลายเป็นความหลอนขั้นสุด 

เพราะแรงบันดาลใจที่แท้ของเพลงนี้มาจาก ‘หนังฆาตกรรม’ ใช่แล้วคุณฟังไม่ผิด... หนังฆาตกรรมจริงๆ โดยเฉพาะท่อน ‘ฉันจะเก็บเอาไว้ในตู้เย็น…’ ที่ฟังตอนแรกอาจดูน่ารัก แต่จริงๆ แล้วเป็นการอ้างอิงถึง ‘ฉากยัดตู้เย็น’ ในภาพยนตร์ นี่อาจจะเป็นเพลงที่ฟังรอบแรกแล้วพอมีฟีลให้ยิ้มได้ แต่ถ้าฟังรอบสองบอกเลยว่าน่าจะทำให้ใครหลายคนไม่กล้าเปิดตู้เย็นตอนกลางคืนอีกต่อไป

‘ฮะ เนี่ยมึงยืนยิ้มในกระจก (ฮะ) 
เนี่ยมึงยืนยิ้มในกระจก (มึงแต่กูไม่ได้ยิ้ม)
มึงคนมาดูไลฟ์เราพันหก (โอ้ย) 
เงาสะท้อนเรากลายเป็นศพ (ฮะไหน เชี่ย)’

กลับมาทวงบัลลังก์เจ้าพ่อแร็ปโหดสุดหลอนอีกครั้งกับ TangBadVoice ในเพลง ‘โกสมูฟวี่’ ที่ขยี้ความสยองให้กลายเป็นหนังสั้นสุดหลอนในรูปแบบเพลงแร็ปสุดโหด งานนี้เรียกได้ว่าเป็นการอัปเลเวลจากทุกเพลงก่อนหน้าแบบจัดเต็ม ทั้งจังหวะ โฟลวที่ดุดัน เนื้อหาเข้มข้น และท่อนแร็ปเด็ดที่ทั้งขำทั้งหลอนในเวลาเดียวกัน สมกับเป็นเจ้าพ่อ Storytelling แห่งวงการฮิปฮอปไทยจริงๆ

หากพูดถึงเนื้อหาสุดบรรเจิดในเพลงนี้ คือการเล่าเรื่องราวของแก๊งเพื่อนที่บุกบ้านผีสิงเพื่อทำคอนเทนต์เรียกยอดไลก์ แต่ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ เรื่องก็เริ่มบานปลายและชวนระทึกจนแทบวางหูฟังไม่ลง ด้วยสไตล์การเล่าของตะวันวาด ทำให้เราเหมือนเรากำลังดูหนังผีในรูปแบบเพลง ที่เต็มไปด้วยตัวละคร เหตุการณ์ และจุดพีคที่หักมุมชนิดที่ต้องอ้าปากค้างไปพร้อมๆ กัน

‘ผมมาตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งที่ฟังนั้นเธอพักอยู่ ชั้นบน ห้องสุดท้าย..’ 

เพียงแค่ประโยคเปิดก็ทำให้ขนลุกซู่ได้ทันที สำหรับเพลง ‘ห้องสุดท้าย’ จาก เอ้ รงค์ สุภารัตน์ บทเพลงในตำนานที่ยังคงหลอกหลอนใจผู้ฟังมาหลายยุคหลายสมัย จนกลายเป็นหนึ่งในเพลงสยองขวัญคลาสสิกที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังถูกพูดถึงอยู่เสมอ เพลงนี้เป็นบทเพลงลำดับที่สองจากอัลบั้ม ‘เรา’ 

มีความโดดเด่นด้วยการเล่าเรื่องแนวสยองผ่านภาษาที่เรียบง่าย แต่กลับชวนขนหัวลุกอย่างบอกไม่ถูก เนื้อเพลงกล่าวถึงชายหนุ่มหนึ่งที่ออกตามหาผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งพบกันไม่นาน ทุกอย่างดูอบอุ่นและโรแมนติก จนกระทั่งความจริงถูกเปิดเผยว่าเธอคนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว และห้องที่เขาตามหาเธอก็อาจไม่ได้มีใครอยู่มานานแล้วเช่นกัน ฟังแล้วทั้งเศร้า ทั้งเย็นวาบในเวลาเดียวกัน

‘พี่เขาสวดคาถาเป็นภาษาบาลี ผมไม่อยากขัดเขาเลยนั่งต่อเป็นพิธี 
พอเดินออกจากห้องผมก็อ๋อทันที นึกว่า 705 ที่แท้ 704 ว่ะ..’

บทสดุดีและต่อยอดตำนานเพลงผีฮิปฮอปสุดคลาสสิก ‘704’ ของ ดาจิมแร็ปไทย ที่เล่าเรื่องผีผู้หญิงผมยาวในห้องโรงแรมต่างจังหวัด แต่ครั้งนี้ถูกตีความใหม่ในมุม Side Story เฉลยให้เห็นเบื้องหลังความหลอน ว่าผีที่ดาจิมเจอแท้จริงแล้วคือใคร เรียกได้ว่าเป็นการเล่าเรื่องที่อัจฉริยะมากๆ โดยความสนุกของเพลงนี้อยู่ที่การคลายปมปริศนา และพาเราย้อนกลับไปดูเรื่องราวจากอีกมุมที่ผู้ฟังเพลง 704 ไม่เคยได้รู้มาก่อน

เหมือนเป็นการเปิดเผยความลับหลังฉากของตำนานเพลงผีที่หลายคนอาจกลัวมาตลอดหลายสิบปี ซึ่งทำให้ผู้ที่เคยฟังคาดไม่ถึงในความครีเอทีฟว่า เห้ย! พี่คิดได้ไง.. จนต้องเซอร์ไพรซ์และหัวเราะไปพร้อมกัน ใครยังไม่เคยฟัง แนะนำให้เริ่มจากเพลง 704 ของ ดาจิม ก่อน แล้วตามด้วย 705 ของ TangBadVoice เพื่อสัมผัสความสนุกทั้งความหลอนและความครีเอทีฟในแบบฉบับของ TangBadVoice แร็ปเปอร์ที่ถ่ายหนังได้นิดหน่อย

ตำนานดาจิมแร็ปไทย สุดยอดผลงานเพลงเล่าเรื่องผีขึ้นหิ้งที่ใครๆ ก็ต่างต้องคาราวะ หากให้เลือกเพลงผีบอกอันดับหนึ่งคงหนีไม่พ้นเพลง 704 - ดาจิม ที่เจ้าตัวออกมาเล่าว่าเพลงนี้แต่งขึ้นมาจากเรื่องจริง และนี่คือเพลงจากอัลบั้ม ‘Twilight Zone’ ที่เล่าเรื่องราวเดี่ยวกับผีในโรงแรมจังหวัดกำแพงเพชร แต่งจากเรื่องจริงในขณะที่ดาจิมไปเล่นคอนเสิร์ต 

ความโดดเด่นอยู่ที่การบรรยายและเล่าเรื่องแบบฉากต่อฉากได้แบบเห็นภาพ เสมือนว่าตัวเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ ทั้งน้ำในฝักบัวที่จู่ๆ ก็ไหลเอง ทั้งได้กลิ่นเหม็นเน่า อัปเลเวลความหลอนด้วยภาพในมิวสิกวิดิโอที่ถ่ายทอดออกมาได้หลอนติดตา และมีฉากไอคอนิกที่เรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของเพลง ฮาโลวีนนี้ ใครอยู่คนเดียวแนะนำให้ห่มผ้า เปิดเอ็มวี 704 รับรองความหลอนเต็ม 10 กะโหลกแน่นอน