ร้านอาหารฝรั่งเศสติดดาว L'Atelier de Joël Robuchon ออกเมนูใหม่รับฤดูร้อน

Sopida Rodsom
เขียนโดย
Sopida Rodsom
การโฆษณา

หากให้เลือกร้านอาหารฝรั่งเศสในดวงใจ L'Atelier de Joël Robuchon บนชั้น 5 ของตึก มหานคร คิวบ์ น่าจะเป็นร้านแรกๆ ที่เรา (รวมไปถึงหลายๆ คน) นึกถึง ด้วยบรรยากาศหรูหราแบบไฟน์ไดนิ่ง แต่ไม่ทำให้รู้สึกเกร็งด้วยการจัดร้านแบบโต๊ะเคาน์เตอร์สบายๆ ที่ทำให้เราสามารถมองเห็นแอ็กชั่นในครัว (ใครที่มาหลายคนและอยากนั่งโต๊ะก็มีเหมือนกัน) วัตถุดิบคุณภาพที่มีทั้งของนำเข้า และวัตถุดิบจากโครงการหลวงฯ รวมไปถึงเมนูที่มีการเปลี่ยนใหม่ทุกฤดูกาล ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เรากลับมาที่นี่บ่อยๆ

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (22 มิถุนายน) L'Atelier de Joël Robuchon จะเริ่มเสิร์ฟ Menu d'Été หรือเมนูฤดูร้อน (ของฝั่งยุโรป ไม่ใช่ของบ้านเรานะ) ซึ่งเป็นเซ็ตเมนูอาหาร 4 คอร์สเน้นรสชาติแบบฝรั่งเศส ในราคาเพียง 2,950++ บาท โดยเริ่มจากเมนูอมูสบุชเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านซึ่งเสิร์ฟฟัวกราส์ในถ้วย ราดด้วยรีดักชั่นพอร์ไวน์ ก่อนท็อปด้านบนด้วยฟองชีสพาร์มีซาน ที่ให้รสสัมผัสนุ่มลิ้น และรสชาติกลมกล่อมของไวน์และชีสที่ตัดกับฟัวกราส์ได้อย่างดี เสิร์ฟมาพร้อมกับ ครีมคินัวคลุกด้วยผงคินัวกรอบ ซึ่งช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสกรุบๆ ให้กับจานนี้

 

L'Atelier de Joel Robuchon
Foie gras with parmesan foam and port reduction
L'Atelier de joel robuchon
Vaucluse white asparagus with Iberico ham and veal jus

 

สำหรับจานเรียกน้ำย่อยมีให้เลือก 2 อย่างระหว่าง le saumon d'ecosse เมนูไข่ดาวน้ำนำไปปรุงจนด้านนอกกรอบ แต่เมื่อหั่นไข่แดงจะไหลเป็นผสมกับครีมเปรี้ยว กลายเป็นซอสที่เข้ากับได้ดีกับแซลมอนจากสก็อตแลนด์หั่นเป็นลูกเต๋าขนาดจิ๋วที่เสริมรสเค็มให้กับจาน ส่วนอีกจานคือ l'asperge blanche หน่อไม้ฝรั่งลวก ท็อปด้านบนด้วนแฮมอิเบริโก้หั่นฝอย ก่อนราดด้วยซอสเคี่ยวจากเนื้อลูกวัว จึงได้ออกมาเป็นเนื้อสัมผัสกรุบๆ ของผัก กับรสชาติเค็มนิดๆ ของแฮมที่เข้ากันได้อย่างลงตัว

ในส่วนของเมนูจานหลักก็มีให้เลือกอีก 2 จานให้เลือกทั้ง la saint-jacques เมนูดอกกะหล่ำปรุงแบบริซอตโต้ เสิร์ฟกับหอยเชลล์จากฮอกไกโดจี่ กับซอสล็อบสเตอร์ที่ช่วยให้เมนูชุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นทะเล แต่มีความเบาและสดชื่น ส่วนอีกจานเป็น l'agneau ฟีเล่ต์เนื้อแกะห่อด้วยครัสต์พาร์สลีย์กรอบๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสมูสถั่วลันเตา ที่ช่วยเสริมรสชาติของแกะได้อย่างพอดิบพอดี ก่อนปิดท้ายด้วยเมนูของหวานที่สามารถเลือกได้จากรถเข็นภยในร้าน ไม่ว่าจะเป็น มูสช็อคโกแลตสอดไส้ด้วยซอสคาราเมลและถั่วแม็กคาเดเมีย เลม่อนทาร์ตราสพ์เบอร์รี่รสชาติเปรี้ยวๆ รวมไปถึงเค้ก มูส และของหวานอีกมากมาย

ใครอยากลองก็ต้องรีบหน่อย เพราะอีกไม่กี่เดือน ทางร้านก็จะเปลี่ยนเป็นเมนูฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ดังนั้นห้ามพลาดเมนูเซ็ตนี้เด็ดขาด...

 

L'atelier de joel robuchon bangkok
Seared Hokkaido scallop with cauliflower risotto
L'atelier de joel robuchon
L'atelier de joel robuchon dessert cart
Phavitch Theeraphong

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา