รีวิว AirPods Max หูฟัง Apple ราคาเกือบ 2 หมื่น คุ้มค่าน่าลองหรือไม่?

ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ใครเป็นสาวก Apple น่าจะมีตัวเบากันไปไม่มากก็น้อย เพราะหลังจากเปิดตัว iPhone 12 Series ได้ไม่นาน ก็เซอร์ไพรส์ต่อด้วยการเปิดตัวหูฟังไร้สายดีไซน์ครอบหูครั้งแรกภายใต้แบรนด์ Apple ในชื่อ AirPods Max ซึ่งพัฒนามาจากหูฟัง Airpods รุ่นก่อนหน้าที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก

หลังจากได้ลองใช้ Airpods Max มาหนึ่งสัปดาห์ บทความนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่กำลังมองหูฟังอันใหม่

แกะกล่อง

AirPods Max มาในดีไซน์แบบอคูสติก มีทั้งหมด 5 สี คือ สีสเปซเกรย์, สีเงิน, สีสกายบลู, สีชมพู และสีเขียว เปิดกล่องมาจะเจอกับ AirPods Max มาพร้อมสมาร์ตเคส (สีเดียวกับหูฟัง) สายชาร์จแบบ USB-C to Lightning และคู่มือ ส่วนอแดปเตอร์ต้องซื้อแยก เหมือน iPhone 12 เดาว่าคงอ้างเหตุผลเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกนั่นแหละ

วัสดุตัวหูฟังด้านนอกเป็นอลูมิเนียม ผิวเรียบ ดูแข็งแรงและให้ความรู้สึกพรีเมียม ด้านในฝั่งที่ครอบหูทำมาจากโฟมนุ่มที่ถูกออกแบบมาให้สามารถเก็บเสียงได้ดี และหุ้มด้วยผ้าทอที่ระบายอากาศได้ดีอีกชั้น

ที่คาดศีรษะจะเป็นโครงสเตนเลสสตีลทั้งหมด มีข้อดีในเรื่องของความแข็งแรง ตรงกลางมีสายคาดเป็นตาข่ายยืดได้ที่ทาง Apple เคลมว่าช่วยกระจายน้ำหนัก ลดการกดทับ ทำให้สวมใส่สบายสำหรับศรีษะหลายขนาด หลายรูปทรง ข้อนี้ถ้าใส่ไม่นานมากก็พอไหว แต่ด้วยน้ำหนักรวมของหูฟังที่ถือว่าไม่เบา ก็ต้องบอกว่ารู้สึกไม่ได้สบายขนาดนั้นสำหรับการใส่ต่อเนื่องนานๆ

 

ฟังก์ชั่น

หูฟังทั้ง 2 ข้างสามารถหมุนด้านข้างได้ประมาณ 95 องศา ขยับหน้าหลังได้นิดหน่อยเพื่อความยืดหยุ่นตอนสวมใส่ หลังจากเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของ Apple ในครั้งแรก (ซึ่งง่ายมาก) แล้ว การใช้งานครั้งต่อไป AirPods Max จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ รวดเร็วทันใจมาก และเมื่อไม่ได้ใช้งานก็จะปรับไปอยู่ในโหมดใช้พลังงานต่ำโดยอัตโนมัติเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ซึ่ง Apple เคลมเรื่องแบตเตอรี่ว่าสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และจากที่ใช้งานทุกวันมา 1 สัปดาห์ ก็เพิ่งชาร์จไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถือว่าแบตเตอรี่อึดใช้ได้

ช่อง USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่จะอยู่ด้านล่างหูฟังข้างขวา มีเพียงช่องเดียวเท่านั้นและเป็นพอร์ต Lightning หมายความว่าถ้าจะเชื่อมต่อ AirPods Max โดยไม่ใช้บลูทูธก็ต้องมีเคเบิลแบบ Lightning to 3.5 mm ซึ่ง Apple มีขายแยก

ปุ่มควบคุมมีทั้งหมด 2 ปุ่ม อยู่บนหูฟังข้างขวาทั้งหมด ได้แก่ Digital Crown ที่หน้าตาคล้ายกับปุ่มที่อยู่บน Apple Watch ปุ่มนี้มีไว้เพิ่มลดเสียง ซึ่งสามารถหมุนปรับได้หลายระดับและละเอียดมากกว่าปุ่มเพิ่มลดเสียงแบบกด รวมถึงใช้สั่งเล่น หยุด หรือข้ามแทร็ก รับสาย วางสาย และสั่งงาน Siri ได้ด้วย อีกปุ่มคือปุ่มสำหรับเปิด-ปิดโหมดตัดเสียงรบกวน (บางคนก็เรียกโหมดฟังเสียงภายนอก)

ลองฟัง

เสียงจาก AirPods Max เป็นเสียงที่ผ่านการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์มาแล้วว่านี่คือเสียงที่มีคุณภาพสูงที่สุด คุณภาพเสียงเต็มอิ่ม เบสลึก สมคำโฆษณา แต่น่าจะเหมาะกับการใช้ดูหนัง ฟังเพลง เพื่อความบันเทิง มากกว่าการใช้ในงานที่ต้องมีการตัดต่อหรือปรับแต่งเสียงซึ่งต้องอาศัยเสียงที่มีความสมจริง

ถ้าถามว่าชอบอะไรมากที่สุดใน AirPods Max ก็คงเป็นโหมดตัดเสียงรบกวน เพราะรู้สึกว่าทำได้ดีกว่าหูฟังอื่นๆ ค่อนข้างชัดเจน สมมุติฟังเพลงอยู่ เพื่อนเดินมาคุยด้วย แทนที่จะลดเสียงเพลงหรือถอดหูฟังให้เสียอรรถรส เราสามารถเปิดใช้โหมดฟังเสียงภายนอกได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียวก็ได้ยินเสียงเพื่อนชัด แต่เสียงเพลงไม่ลด

หรือถ้าอยู่ในที่สาธารณะแล้วต้องการความเงียบก็ใส่ AirPods Max แล้วเปิดโหมดตัดเสียงรบกวน แค่นี้ก็แทบไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดเข้ามารบกวนได้แล้ว ซึ่งทั้งหมดต้องยกความดีความชอบให้กับไมโครโฟนที่รับเสียงภายนอกทั้ง 6 ตัว ที่อยู่บนหูฟังแต่ละข้าง (ข้างละ 3 ตัว)

นอกจากการฟังเพลงเพราะๆ แล้ว ถ้าดูหนังด้วยอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ AirPods Max คุณยังจะได้สัมผัสประสบการณ์คล้ายกับการดูหนังในโรงหนังที่จะมีเสียงมาออกจากรอบทิศทาง เพราะ AirPods Max มาพร้อมระบบเสียงตามตำแหน่งที่จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของศีรษะแล้ววางเสียงให้ตรงตำแหน่งมากที่สุด ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของ 2 เทคโนโลยีอย่าง Gyroscope และ Accelerometer ซึ่งว่ากันว่าหูฟังในท้องตลาดยังไม่มีใครทำได้ขนาดนี้

สรุป

• ดีไซน์เรียบหรู ดูพรีเมียม
• วัสดุดี เน้นความแข็งแรง
• แบตเตอรี่อึดจริง
• ใช้งานกับอุปกรณ์ของ Apple ได้ดีมาก
• ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงมากกว่าทำงาน
• น้ำหนักค่อนข้างเยอะ
• การจัดเก็บ/พกพายังไม่ค่อยสะดวก 

AirPods Max เปิดตัวมาด้วยราคา 19,900 บาท