ข่าว

ฝุ่นถล่มกรุงเทพฯ เช้านี้ PM2.5 เข้าสู่โซนสีส้มครอบคลุม 69 จุดทั่วเมือง เริ่มกระทบต่อสุขภาพแล้ว

ฝุ่น PM2.5 วายร้ายที่ชาวกรุงเทพฯ ต้องเผชิญทุกปี และได้กลับมาเยือนเราอีกครั้ง

Fitri Aelang
เขียนโดย
Fitri Aelang
Staff writer, Time Out Thailand
Chalinee Thirasupa
Photograph: Chalinee Thirasupa
การโฆษณา

เช้านี้หากใครตื่นมาแล้วเจออากาศเย็นของช่วงปลายปีจนแทบไม่อยากลุกจากเตียง แต่พอเหลือบมองออกไปข้างนอกทั้งเมืองถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา ไม่ต้องตกใจ นี่ไม่ใช่หมอกหน้าหนาวแต่อย่างไร แต่นี่คือฝุ่น PM2.5 วายร้ายที่ชาวกรุงเทพฯ ต้องเผชิญทุกปี และได้กลับมาเยือนเราอีกครั้ง

ล่าสุดศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ประจำวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 07.00 น. โดยระบุว่าคุณภาพอากาศเข้าระดับ ‘สีส้ม’ ที่แตะค่าเฉลี่ย 50.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว และพบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานทุกพื้นที่ของกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันยังคาดการณ์ว่าระหว่างวันที่ 2-10 ธันวาคม ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ ‘ไม่ดี/อ่อน’ และเกิดภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น

อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่ค่าฝุ่นจะลดลงช่วงวันที่ 4-6 ธันวาคม เพราะชั้นบรรยากาศใกล้พื้นดินมีลักษณะเปิดมากขึ้น และอาจมีฝนช่วยพัดพาและลดปริมาณฝุ่นได้บางส่วน

ปัจจุบันมีพื้นที่ในระดับ ‘สีส้ม’ ทั้งหมด 69 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดย 12 เขตที่มีค่าฝุ่นสูงที่สุด ได้แก่

1.สาทร - 65.8 มคก./ลบ.ม.

2.บางรัก - 61.7 มคก./ลบ.ม.

3.ลาดกระบัง - 60.1 มคก./ลบ.ม.

4.มีนบุรี - 59.5 มคก./ลบ.ม.

5.หนองแขม - 56.8 มคก./ลบ.ม.

6.ตลิ่งชัน - 56.3 มคก./ลบ.ม.

7.คลองสามวา - 56.2 มคก./ลบ.ม.

8. ราชเทวี - 56.1 มคก./ลบ.ม.

9. ปทุมวัน - 55.2 มคก./ลบ.ม.

10. ทวีวัฒนา - 55 มคก./ลบ.ม.

11. ยานนาวา - 54.8 มคก./ลบ.ม.

12. บางคอแหลม - 54.4 มคก./ลบ.ม.

ในระดับประเทศ จังหวัดสมุทรสาครครองอันดับหนึ่งของพื้นที่ค่าฝุ่นสูงสุดด้วยค่าเฉลี่ย 98.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามมาด้วยนนทบุรี นครปฐม รวมทั้งหมด 15 จังหวัดที่เข้าสู่ ‘โซนสีแดง’ ขณะที่อีก 25 จังหวัดอยู่ในระดับ ‘สีส้ม’

เรื่องสุขภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน สำหรับประชาชนทั่วไปควรใส่หน้ากาก PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน จำกัดระยะเวลาในการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง และสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก หรือระคายเคืองตา ส่วนกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ควรเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และหากมีอาการรุนแรงต้องรีบพบแพทย์ทันที พร้อมติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศจากแหล่งทางการตลอดวัน

การโฆษณา