kavee
Aekkachai Suttiyangyuen / Time Out Bangkok

'Elegant Wilderness' เทสติ้งเมนูใหม่ของ Kavee โดย ‘เชฟเต้-วรธน’ กับบทกวีที่ว่าด้วยแม่เป้ง กบ และนกพิราบ

ชิมเมนูใหม่ของเชฟเต้-วรธน อุดมชโลทร กับวัตถุดิบจากท้องนาแบบอาหารไทยในร่างอาหารฝรั่ง

Aekkachai Suttiyangyuen
เขียนโดย
Aekkachai Suttiyangyuen
การโฆษณา

ถึงเวลาผลัดเปลี่ยนเมนูใหม่ของ 'กวี' หลังจากเปลี่ยนไปเมื่อครั้ง เชฟเต้-วรธน อุดมชโลทร ได้กลับมาเมืองไทยปีที่แล้ว สำหรับเมนูใหม่รอบนี้ เชฟเลือกวัตถุดิบพื้นบ้านไทย เช่น หอยเชอร์รี่ แม่เป้ง กบ นกพิราบ มาเป็นตัวบอกเล่าเรื่องราวรสชาติอาหารไทยในคราบของอาหารฝรั่ง ผ่านธีม Elegant Wilderness ด้วยจุดร่วมทางวัตถุดิบที่สามารถเจอได้ ไม่ว่าจะขึ้นโต๊ะกระท่อมริมนาหรือร้านหรู ที่สร้างรสชาติคุ้นลิ้นเป็นตัวกระตุ้นต่อมความทรงจำ (ถ้าคุณมีความทรงจำเหมือนกับเชฟนะ)

เมนูความยาว 8 คอร์ส เริ่มด้วยขนมปังบริโอชอบอุ่นๆ เสิร์ฟให้ได้รองท้อง ก่อนจะเปิดลิ้นกับ Trout Roe แป้งบางกรอบชวนให้นึกถึงขนมทองม้วน สอดไส้ครีมกะทิที่น่าตาละม้ายคล้ายครีมชีส ซึ่งหน้าตาอาจดูเบสิกแต่รสชาตินั้นไปคนละทาง เพราะกัดไปทั้งคำจะเจอกับความสดชื่นจากเจลสับปะรดภูแลแทรกด้วยยูซุ และความเค็มอ่อนๆ จากไข่ปลาเทราต์สร้างความประทับใจได้ดีสำหรับคำแรก 

kavee
Aekkachai Suttiyangyuen / Time Out Bangkok

จานต่อมากับ Tiger Pawn ด้วยความที่คอนเซ็ปต์ร้านคือการเรียงร้อยแบบกวี เลยพลอยทำให้เราจินตนาการในหัวไปแล้วว่า คงจะมีการเล่นกับรสชาติแบบหนักเบา เป็นจังหวะสัมผัสคล้องจ้องระหว่างวรรค แต่เมื่อหยิบกุ้งลายเสือแช่น้ำปลา ห่อมาในใบโอบะ ด้านบนโรยด้วยข้าวพองกรอบ จึงได้รู้ว่าสิ่งที่คิดไว้นั้นสวนทางกับความเป็นจริง เพราะกุ้งลายเสือตัวนี้ชุ่มไปด้วยความจัดจ้านรสแบบแซ่บจนเกือบทำเอาเราเหงื่อตกแบบไม่ทันตั้งตัว 

kavee
Aekkachai Suttiyangyuen / Time Out Bangkok

เหมือนเชฟรู้ว่าหลังจากปล่อยให้ลิ้นทำงานหนักไปหน่อยกับสองจานแรกแล้ว จานที่สาม Apple Snail แป้งพายขนาดจิ๋วพอดีคำ เสิร์ฟมาแบบอุ่นๆ พร้อมหอยเชอร์รี่คลุกซอสเพสโต้ที่ใส่ผักโขมลงไปผสมด้วย จานนี้หอยเซอร์รี่ได้อัปเกรดตัวเองจากจานตำป่า มาทำหน้าที่แบบเอสคาโก้ไม่พอ ยังช่วยปลอมประโลมลิ้นของเราได้ดีทีเดียว 

kavee
Aekkachai Suttiyangyuen / Time Out Bangkok

ต่อเนื่องความละมุนด้วย Sun-Dried Scallop ซุปที่คล้ายกับโจ๊กเด็กไร้ผักกวนใจพร้อมไข่แดงลวก แต่เชฟได้แปลงร่างทุกอย่างออกมาในรูปแบบของเจลข้าวโพด ไข่แดงอบแห้ง ราดด้วยซุปหอยเชลล์เนื้อเนียนละเอียดแต่มีเท็กซ์เจอร์หน่อยๆ คล้ายโจ๊ก ท็อปด้วยน้ำมันงาขี้ม่อนเพิ่มความหอมอีกที 

มาถึงในส่วนของจานที่โชว์ความ Wild ของวัตถุดิบจากท้องนาบ้านเรา เริ่มต้นด้วย Wild Caught Frog เชฟเลือกใช้แต่เนื้อบริเวณน่องกบขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ไปคลุกกับครัมเบิ้ลแล้วทอดจนเหลืองทอง เชฟเล่าว่าเลือกเสิร์ฟจานนี้โดยการจำลองบ้านของกบ ทำให้เราได้เห็นผักและสมุนไพรสีเขียวจำนวนมาก ทั้งผักแพวและวอเตอร์เครสป่าแทรกในทุกคำ ช่วยชูรสและกลิ่นของจานนี้ได้ดี 

หนึ่งในวัตถุดิบที่เราตั้งตารอตั้งแต่ก่อนจะได้มาชิมคือนกพิราบเลี้ยงในฟาร์มไทย จากจังหวัดอ่างทอง แต่น่าเสียดายที่วันนั้นของอาจหมด เราเลยได้ Guinea Fowl ไก่กระต๊อกมาแทน ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่ได้ลองกินไก่ต๊อก ส่วนถ้าถามว่าเป็นอย่างไร ก็คงจะตอบว่าคล้ายกับไก่บ้าน ที่มีความเหนี่ยวสู้ฟัน ต้องออกแรงเคี่ยวสักน้อย ประกอบกับซอสที่นำกระดูกของไก่ลงไปเคี่ยวจนได้ซอสมันวาวสีเข้ม เสริมรสเปรี้ยวปลายลิ้นด้วยมะกรูดและส้ม เสิร์ฟพร้อมพูเร่กระเทียมดำ เลยทำให้จานนี้ดูจะหนักหน่วงและดุดันพอสมควร สิ่งที่เราชอบมากที่สุดในจานนี้คือตับไก่บด ยิ่งกินกับเชอร์รี่เชื่อมที่วางมาข้างๆ และปาดทุกอย่างรวมกันแล้ว อยากให้มีคำที่สองและสามตามมาเลย

พอกำลังจะเริ่มอิ่มกับไก่ เนื้อ Full-Blood Wagyu ก้อนโตก็มาเสิร์ฟทันทีพร้อมซอสโบร์เดอเลสทรัฟฟเฟิล คล้ายซอสไวน์แดงที่เสริมความเป็นเอิร์ทธี่ด้วยเห็ดตับเต่า เนื้อแน่นคล้ายตระกูลเห็ดพอร์โทเบลโล ด้วยความที่เนื้อค่อนข้างจะชิ้นใหญ่ประกอบกับจานก่อนหน้าที่ค่อนข้างแน่น ทำให้การที่เราจะไปถึงคำสุดท้าย หรือวรรคสุดท้ายของบทกลอนนี้ได้ เล่นเอาเหนื่อยพอควร 

kavee
Aekkachai Suttiyangyuen / Time Out Bangkok

รวมถึงขนมหวานจานแรก Lychee ที่มาในพอร์ชั่นใหญ่อลังการ แน่นทั้งไอศกรีมชิโสะ เจลลี่แชมเปญ ลิ้นจี่ เหมือนจะให้ล้างปากด้วยความสดชื่น แต่กลับเติมพื้นที่ในกระเพาะให้แน่นยิ่งกว่าเดิม พอมาเป็นไอศกรีมแม่เป้งไฮไลต์ของเชฟ ที่เอานางพญามดแดงไปอบแห้ง แล้วป่นจนได้รสเอกลักษณ์คล้ายกับมอลต์ เข้ากันได้ดีกับคาราเมลและถั่ว แต่น่าเสียดายที่พื้นที่สำหรับของหวานนั้นน้อยจนแทบไม่เหลือให้เอนจอยได้เต็มที่ 

บทกวีในตอนนี้สำหรับเราจึงยากที่จะหาทางลง เลยตัดจบด้วย petit four 3 คำ ทั้งช็อกโกแลตบอลมะม่วงสอดไส้น้ำเสาวรส ทอฟฟี่นัทที่ใส่น้ำปลาลงไปผสม และขนมชูไส้ครีมข้นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวหลาม ที่ถ้าอ่านแล้วยังรู้สึกเหนียวลิ้น ความรู้สึกหลังจากกินไปก็เป็นเช่นนั้นแม้ว่าอร่อยแค่ไหนก็ตาม

ตลอดทั้ง 8 คอร์สของร้านกวี เราเห็นความตั้งใจของเชฟเต้ ในการพยายามจูนสองโลกเข้าหากัน ด้วยสกิลในครัวและประสบการณ์อันโชกโชน ที่ความตั้งใจนั้นมาเหนือมากจนเราสัมผัสได้ จนทำให้เรื่องของความอร่อยและรสชาตินั้น ตกไปเป็นหน้าที่ของคนกินเอง ว่าจะตัดสินบนพื้นฐานของอะไร 

Kavee
Kenika Ruaytanapanich/Time Out Bangkok

Kavee เมนูใหม่ Elegant Wilderness  เสิร์ฟ 8 คอร์สราคา 2,990++ บาท ถ้าเพิ่มไวน์แพริ่งด้วยจะราคา 1,900++ บาท ร้านตั้งอยู่ที่ Ideo Morph 38 Condominium เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-22.30 น. โทร 08 0995 9095 หรือ  www.facebook.com/kaveerestaurant

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา