เป็นที่รู้กันดีว่าชาวเมืองกรุงนั้นเป็นสายดื่มตัวยง ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ที่ใส่น้ำแข็งดื่มแกล้มกับส้มตำแซ่บๆ หรือจะเป็นคราฟต์เบียร์เฟรชๆ ตามบาร์ต่างๆ วัฒนธรรมการดื่มถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่อยู่ในดีเอ็นเอของคนกรุงเทพฯ และตอนนี้ประเทศไทยไม่ได้เก่งแค่เรื่องการดื่มดริ๊งก์เพียงอย่างเดียวแล้ว เพราะไทยเรากำลังกลายเป็นผู้ผลิตตัวจริงและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฝีมือคนไทยหลายแบรนด์ได้รับการยอมรับในระดับโลก
อีกทั้งสื่อใหญ่อย่างไทยรัฐได้นำเทศกาลสุดปังนี้กลับมาอีกครั้งเป็นปีที่สอง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองฝีมือของไทยแท้ๆ แบบ Made-in-Thailand กับงาน เมรัยไทยแลนด์ 2025 (Merai Thailand 2025) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26-30 พฤศจิกายนนี้ ที่ EM Wonder & Sphere Hall ชั้น 5, Emsphere โดยงานนี้เปิดให้เข้าฟรี และมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคราฟต์เบียร์จากทั่วประเทศกว่า 50 แบรนด์
บอกเลยว่าไฮไลต์ของงานนี้เด็ดๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ‘เสวนาร่ำเมรัย’ เวทีสนทนาที่ให้คนวงในของวงการสุราไทยทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมถกอนาคตของอุตสาหกรรมเมรัยไทย
หรือจะแวะไป ‘เมรัย Moodtail Bar’ บาร์ค็อกเทลสุดครีเอทีฟ ที่พร้อมเขย่าสูตรเครื่องดื่มจากสุราไทยตามอารมณ์ของคุณ แค่กระซิบบอกบาร์เทนเดอร์ว่าวันนี้อยู่ในมูดไหน แล้วรอรับแก้วที่ใช่...ในสไตล์ที่เป็นคุณ
พอฟ้าเริ่มมืดก็เตรียมโยกได้เลย ในโซน ‘เสพดนตรีเมรัย’ ที่มีดนตรีสดทุกคืนตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน นำทีมโดย Paradise Bangkok Molam International Band, Yokee Playboy, Apartment Khunpa, H3F และอีกเพียบ
สำหรับผู้ที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมบริการ ไม่ควรพลาดกับกิจกรรมสุดพิเศษ ‘Merai Thailand Business Matching Day’ ในวันที่ 26 พฤศจิกายน เวลา 14.00-17.00 น. งานเน็ตเวิร์กสุดคูลที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตในชุมชนได้เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการในกลุ่ม HORECA (โรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่) ใครอยากคอลแลบสร้างแบรนด์หรือเพิ่มสินค้าในร้าน นี่คือจังหวะทองของคุณในการสร้างความร่วมมือและสนับสนุนระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศ
หลังจากสร้างความฮือฮาในปีแรก เมรัยไทยแลนด์ 2025 กลับมาปังยิ่งกว่าเดิม และนี่ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของวงการคราฟต์ไทย ที่เคยถูกกฎหมายเก่าๆ ฉุดไว้ไม่ให้ไปไกล แต่ตอนนี้ชุมชนผู้กลั่นไทยเริ่มมีเวทีให้โชว์ของกันแบบจริงจังแล้ว อีเวนต์นี้จึงไม่ใช่แค่เทศกาลดื่มแบบชิลๆ แต่มันคือก้าวสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกวงการแอลกอฮอล์ไทย ให้ผู้ผลิตท้องถิ่นได้เฉิดฉายอย่างที่คู่ควร

