ลองจินตนาการดูว่าหากคุณจะไปประชุมอีกฝั่งเมืองตอนเช้า แต่ไม่ต้องติดอยู่บนถนนสุขุมวิทเป็นชั่วโมง เพราะคุณแค่เรียก ‘แท็กซี่ลอยฟ้า’ แล้วบินข้ามฟ้าถึงที่หมายในไม่กี่นาที เรื่องนี้อาจจะฟังดูเหมือนหนังไซไฟ แต่ตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็นจริง เมื่อบริษัทเทคโนโลยีการบินจากจีน EHang เปิดตัว โครงการแซนด์บ็อกซ์ Advanced Air Mobility Sandbox (AAM) อย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ เพื่อทดสอบอากาศยานไฟฟ้าไร้นักบิน EH216-S รุ่นล่าสุด
โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) และพันธมิตรท้องถิ่นอย่าง Bangkok Airways, Energy Absolute และ Aerial Sea Ventures โดยเริ่มบินทดสอบจริงแล้ว และมีแผนขยายไปยัง พัทยา, ภูเก็ต, เกาะสมุย และ เกาะล้าน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เครื่อง EH216-S สามารถบินอัตโนมัติแบบ ‘จุดต่อจุด’ ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน โดยไม่มีนักบิน ไม่ปล่อยคาร์บอน และใช้เวลาบินเพียงไม่กี่นาทีระหว่างจุดหมายใกล้ๆ ซึ่งถ้าโครงการนี้ผ่านการรับรองจริง ไทยอาจกลายเป็นประเทศแรกของโลกที่ให้บริการ eVTOL เชิงพาณิชย์
แต่คำถามที่แรกที่คนเมืองกรุงจะต้องนึกถึงเลยคือแล้วเราจะได้ขึ้นจริงไหม?
เทคโนโลยีอาจพร้อม แต่เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เช่น จุดขึ้น-ลง การบริหารการจราจรทางอากาศ และโดยเฉพาะ ค่าโดยสาร ที่่ยังเป็นปัจจัยใหญ่ที่ต้องจับตา เพราะแม้ EHang จะยังไม่เปิดเผยราคา แต่จากโครงการในต่างประเทศ ค่าโดยสารต่อเที่ยวของ eVTOL อาจอยู่พุ่งสูงสำหรับเส้นทางสั้นๆ ซึ่งยังถือว่าเกินเอื้อมสำหรับการเดินทางประจำวันของคนทั่วไป ถึงอย่างนั้น ภาครัฐและเอกชนก็หวังว่า การเริ่มต้นนี้จะเป็นก้าวแรกในการทำให้ระบบขนส่งทางอากาศในเมืองไทยเกิดขึ้นจริงในอนาคต ไม่ใช่แค่ของเล่นหรูของนักท่องเที่ยว แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดรถติด ลดมลพิษ และยกระดับวิถีชีวิตของคนเมือง
ใครจะไปรู้ อีกไม่กี่ปีข้างหน้า คำว่า ‘เรียกแท็กซี่ลอยฟ้า’ อาจกลายเป็นสิ่งที่เราพูดกันได้อย่างเป็นเรื่องปกติ เหมือน ‘เรียกแกร็บ’ ก็เป็นได้